การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 162

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 162 – ศาสนา

เพื่อที่จะตามหาคนคนนั้นชาร์ล็อตและอันน่าจึงได้เดินทางมายังโรงเรียนแห่งนี้เพราะได้ยินว่าโรงเรียนนี้มีคนแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอยู่ด้วย

แต่ถึงจะน่าเสียดายที่ผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเธอตามหาอยู่แต่ ชาร์ล็อตกับอันน่าก็ได้เจอเพื่อนคนหนึ่ง

ก่อนที่เธอจะมอบของสำคัญของตัวเองให้ ชาร์ล็อตคิดว่าเธอคนนั้นเชื่อใจได้แน่นอนอันน่าก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

บางทีอาจจะสัมผัสได้ว่าเลทิเซียนั้นเหมือนตัวเองในอดีตที่เคยถูกรังแกและกลั่นแกล้ง ทำให้เกิดความเชื่อใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

“ข้าควรจะทำยังไงดี…”

ชาร์ล็อตยืนอยู่เงียบๆ คนเดียวที่ด้านนอกโรงเรียนเงียบๆ อันน่าไม่ตอบรับเธอมาหลายวันแล้ว แถมเธอยังสับสน

สับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่าง… ชาร์ล็อตไม่รู้จะทำยังไง ไม่มีคนให้ปรึกษาอย่างอันน่า ทั้งที่ตลอดมาทุกอย่างเธอจะพึ่งอันน่า

อันน่า.. เธอหายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น

“เฮ้อ..”

ชาร์ล็อตถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมือง เธอหันไปเห็นทางเดินเมื่อหลายเดือนก่อนเธอก็เคยเดินอยู่ที่นี่กับเพื่อนเธอ

ไม่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกว่าเคยเป็นมากกว่าหรือเปล่านะ ชาร์ล็อตเดินไม่รู้ว่าจะไปไหนแต่ก็เดินเพราะเหมือนการเดินจะทำให้เครียดถูกบรรเทาลงบ้าง

ชาร์ล็อตที่ไร้อันน่านั้นก็เป็นเหมือนเด็กสาวบริสุทธิ์ที่มีเพียงด้านเดียวไม่มีด้านลบอยู่ในใจเลยก็ว่าได้

แน่นอนมันคือสิ่งที่เรียกว่าอ่อนต่อโลก.. ชาร์ล็อตยังคงนิ่งเงียบจนกระทั่งมีชายแก่คนหนึ่งเดินมาชนเธอ

“โอ้ย!”

ทั้งสองล้มลงกับพื้น แต่ผู้คนในเมืองไม่มีคนสนใจทั้งสองคนราวกับว่าพวกเจขาก็เร่งรีบเกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง ไม่มีเวลามาสนเรื่องคนอื่นหรอก

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

“ข้าไม่เป็นไร..”

ชายแก่คนนั้นพูดขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ ลุก ชายแก่มีหลังค่อมงอจนแทบเหมือนจะเดินไม่ได้คนนี้ก็ค่อยๆ ลุกขึ้น

ชาร์ล็อตรีบช่วยพยุงชายแก่ขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เธอก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมชายที่ดูแก่ชราสุดๆ คนนี้ถึงเดินได้

ก็หลังค่อมซะขนาดนี้เนี่ย.. ชายชราที่ได้รับการช่วยเหลือจากชาร์ล็อตเขาก็รู้สึกขอบคุณชาร์ล็อต

“ขอบคุณนะ แม่หนูน้อย..”

“ข้าเป็นคนผิดเองที่มัวแต่เหม่อ! ข้าต้องขอโทษท่านจริงๆ!”

ชาร์ล็อตก้มหัวขอโทษ ชายแก่ชราจึงหัวเราะร่า เหมือนเขาจะรู้สึกว่าชาร์ล็อตเป็นเด็กที่ดีมาก ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา

ชายชราคิดสักพักหนึ่งก่อนจะหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับตั๋วใบหนึ่งที่วางอยู่บนหนังสือ

“นี่ถือเป็นคำขอบคุณจากข้าแล้วกัน”

“เอ๋ ไม่ได้หรอก แบบนั้นมัน.. ข้าเป็นคนผิดนะ!”

ชาร์ล็อตปฏิเสธที่จะรับมัน เธอจะไปกล้ารับของจากคนคนนี้ได้ยังไงในเมื่อเธอเป็นคนทำให้เขาล้ม แต่ชายชราก็พูดเหมือนกับเป็นนักเจรจาทางการทูต

“อันที่จริงข้าก็อยู่มานานแล้ว คงจะตายในเร็ววัน หนังสือเล่มนั้นข้าเองก็คงไม่ได้อ่านแล้ว ส่วนตั๋วรับฟังการบรรยายนั่นข้าคงเดินไปไม่ถึงสถานที่บรรยายหรอก”

“แต่ว่า…”

“เจ้ารับไปเถอะ ถือว่าเป็นคำขอก่อนตายของข้าแล้วกัน”

“…”

ชาร์ล็อตถอนหายใจได้แต่รับมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอยกตั๋วขึ้นมาดูเหมือนจะเป็นการบรรยายพิเศษที่กำลังโด่งดังมาในช่วงนี้

ก่อนที่ชาร์ล็อตจะหันไปมองหนังสืออีกเล่มที่อยู่ในมือ หนังสือนี้แปลกตามากเพราะมันมีปกเป็นรูปดวงตา …

หนังสือทำมาจากวัสดุชั้นดี ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก แต่มันคือหนังสือธรรมดาเล่มหนึ่ง ชาร์ล็อตเก็บมันไว้ก่อนจะถือตั๋วเดินไปสถานที่บรรยาย

จริงๆ ช่วงนี้เธอก็ได้ยินข่าวมาบ้างว่ามีสิ่งที่เรียกว่า ‘ศาสนา’ ถือกำเนิดขึ้นมา ศาสนาคือสิ่งที่จะช่วยทำให้จิตใจคนเป็นคนดี

เข้าใจตัวของตัวเองได้มากขึ้น ชาร์ล็อตเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมากแต่ว่าเธอก็ไม่รู้จักว่าคนดีคืออะไร คนชั่วคืออะไรเพราะไม่ว่าจะดีหรือจะชั่วก็ถูกกำหนดโดยสิ่งที่เรียกว่ากฎเกณฑ์

บางทีคำว่าศาสนาอาจจะอยู่นอกกรอบของกฎเกณฑ์ที่พวกผู้ใหญ่บัญญัติกันขึ้นมาตามใจชอบหรือเปล่า

ยังไงก็ตามแต่ ในเมื่อเธอได้รับมาแล้วจะทิ้งก็กลัวเสียเปล่า เป็นของที่ได้รัแทนคำขอโทษซะด้วย

อีกทั้งเธอยังว่างอยู่แล้วจึงตัดสินใจไปฟังบรรยายศาสนาซะเลย คิดแบบนั้นเธอก็เดินไปเขตจัดแสดงพิเศษ

ที่นั่นมีผู้คนอยู่เยอะพลุกพล่าน เห็นชัดว่าใกล้ได้เวลาแล้ว เธอมองไปที่ตั๋วก่อนจะหันไปมองหาที่นั่งที่ว่างอยู่

เพราะคนมาก่อนเยอะมาก บางทีอาจจะเป็นเพราะผู้คนกำลังให้ความสนใจสิ่งแปลกใหม่อย่าง ‘ศาสนา’ และศาสนจักรแอยู่นั่นแหละ

แม้ชาร์ล็อตจะไม่เคยมาฟังด้วยตัวเอง แต่เธอก็พอได้ยินมาบ้างว่าศาสนานี่เกี่ยวข้องกับพระผู้เป็นเจ้า

พระผู้เป็นเจ้าหาใช่เทพหรือเทพธิดาแต่อย่างใด ตามความเชื่อของเขาเหล่านี้พระผู้เป็นเจ้าเป็นเพียงแค่นามที่ไว้เรียกขาน

แต่ตัวของพระผู้เป็นเจ้านั้นแพร่อยู่ในทุกสรรพสิ่งอะไรแบบนี้… ชาร์ล็อตก็ไม่รู้ลึกกว่านี้ซะด้วยสิ เธอมองซ้ายและขวาก่อนจะเห็นที่ว่างอยู่

ที่นั่งฟังมันเป็นที่นั่งต่างระดับโดยเรียงจากต่ำไปสูง ซึ่งด้านหน้านั้นอยู่ต่ำสุดค่อยๆ เรียงสูงขึ้นตามระยะห่างต่อเวที

แน่นอนว่าคนมันเยอะชาร์ล็อตจึงต้องเบียดเข้าไปในที่นั่ง ที่นั่งที่เธอเลือกนั้นไม่ใกล้เวทีและไม่ห่างเวทีจนเกินไป

เธอที่พยายามเดินแทรกเข้าไปที่นั่งว่าง แต่เพราะด้านข้างที่นั่งนั้นมีคนนั่งอยู่เต็มไปหมดกว่าจะเดินไปถึงเลยต้องใช้เวลา

ยังดีที่คนเห็นว่าชาร์ล็อตยังเป็นเด็กพวกเขาเลยไม่ได้ให้ความสนใจหรือคิดจะไปโวยวายใส่เด็ก เพราะเขตนี้ยังไงก็เป็นเขตของโรงเรียน

ชาร์ล็อตเดินไปถึงที่นั่งได้ในที่สุด แต่ว่าขาเธอก็ดันไปสะดุดล้มจนหน้าคะมำไปข้างหน้า ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายมีคนรับเธอเอาไว้พอดี

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“ขะ ข้าขอโทษ..”

เธอรีบพูดขึ้นมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา พอสายตาเห็นคนที่รับตัวเองไว้เธอก็ตกใจทันที ไม่ใช่แค่ชาร์ล็อตที่ตกใจ อีกฝ่ายเหมือนจะตกใจเหมือนกัน

“ชาร์ล็อต?”

“เลทิเซีย?”

ทั้งสองคนแสดงสีหน้าตกใจ เหมือนมาเจอผีในตอนกลางวันแสกๆ แน่นอนว่าชาร์ล็อตก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเลทิเซียที่นี่

ส่วนเลทิเซียเองก็ไม่คิดว่าจะเจอชาร์ล็อตที่นี่เหมือนกัน ภาพมนอดีตหวนกลับมาทั้งคู่ก็ต่างพากันอึดอัด ยืนแข็งทื่อไม่รู้จะพูดอะไร

โชคยังดีที่เวลาต่อมา ไฟแถวนี้ก็ดับลงก่อนจะมีไฟโฟกัสแค่บนเวที และคนที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มบ่นให้เลทิเซียกับชาร์ล็อตเพราะยืนบัง

ทั้งคู่พูดไม่ออกแต่ก็ได้แต่นั่งลง แถมเพราะนี่มันที่นั่งเดียวที่เหลืออยู่ แม้ที่นั่งมันจะใหญ่พอที่จะให้คนอ้วนนั่งได้สบายๆ แต่ทว่ายังไงซะชาร์ล็อตกับเลทิเซียก็ไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้น

“เอ่อ.. คือ.. ข้าออกไปก็ได้”

ชาร์ล็อตที่ถูกคนรอบข้างบีบให้นั่งลงที่เดียวกับเลทิเซียรีบพูดออกมา เธอคิดว่าถ้าแย่งที่กันแบบนี้มันจะไปกวนเลทิเซียเข้า

เธอไปหาที่อื่นก็ได้เธอคิดแบบนั้น แต่เลทิเซียเหมือนจะลังเลอะไรสักอย่างอยู่แต่เธอก็จับแขนชาร์ล็อตเอาไว้

“ฉันจะไปเอง..”

“แต่ว่า…”

“พวกเธอน่ะ เงียบๆ หน่อยสิ!”

คุณลุงที่อยู่ด้านหลังก็พูดขัดขึ้นจนทำให้ชาร์ล็อตและเลทิเซียต้องเงียบลงอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่ทั้งสองตัวติดกันพยายามจะแย่งกันออกไปจากที่นั่ง

ชายคนหนึ่งก็ขึ้นมาบนเวที..

…….

[บทมันอวยอ่ะ ไรท์มันอวยอ่ะ! – ใครสักคน]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท