บทที่ 239 – ความผิดของฉัน..
ฉันกลับไปที่ห้องพยาบาลด้วยความกระวนกระวายใจ.. ฉันควรจะทำยังไงดี.. ไปตามหาเธองั้นเหรอ… ไม่สิ
เธอบอกเองนี่น่าว่าเธอต้องการจะหาคนสำคัญคนหนึ่งของเธอ ถ้าฉันเข้าไปขัดขวางไม่ใช่ว่าเรื่องมันจะแย่กว่าเดิมงั้นเหรอ
ฉันเดินไปที่ห้องพยาบาลด้วยความรู้สึกที่หลากหลายดังนี้ พอกลับไปถึงลาน่าก็ถามฉันว่า
“เมื่อกี้องค์หญิงรีบไปไหนงั้นเหรอ?”
“เปล่า.. ฉันไปตามหาชาร์ล็อตน่ะ..แต่เหมือนเธอจะจากไปแล้วนะ”
ฉันตอบกลับไปแบบนั้นแล้วก้เดินไปนั่งข้างๆ เซเรส ฉันจับมือเธอแล้วก็พึมพำเบาๆ .. “ฉันควรทำยังไงดีเซเรส สเตฟานี่”
ทั้งสองคนคือเพื่อนของฉัน ฉันอยากรู้ว่าถ้าเพื่อนหายตัวไปแถมทิ้งจดหมายลาจากไว้แบบนี้ฉันจะทำยังไงต่อไป
แถมบนกระดาษฉันยังรู้สึกว่าเธอใช้คำแปลกๆ ดูไม่เหมือนเป็นเธอเลย แถมยังดูไม่เหมือนตอนเป็นอันน่าอีกด้วย
ถ้าหากเธอไม่ได้เต็มใจจะไปจริงๆ ล่ะ แต่คงไม่ใช่เพราะเธอถูกบังคับหรอก มันอาจจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกว่านั้น
ใช่.. มันอาจจะเป็นเพราะฉัน ถึงจะมีจดหมายลาก็เถอะ แต่สำหรับชาร์ล็อตคงไม่อยากคุยกับคนที่พยายามจะฆ่าตัวเองหรอก..
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอันน่าที่มีนิสัยค่อนข้างจะรุนแรงด้วย.. ฉันในตอนนี้ไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงดี.. สเตฟานี่ เซเรส..
“เอ่อ…”
ดูเหมือนว่าลาน่าจะมีบางอย่างอยากจะพูดแต่เธอก็ไม่พูดออกมา เธอมองฉันที่จับมือเซเรสแล้วก็เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอดูลังเลและสับสรไม่มั่นใจ อันที่จริงมันเป็นมาตั้งแต่ที่ฉันมาที่ห้องพยาบาลนี้แล้วล่ะ
แต่ฉันแค่ไม่ถามเธออกไปเท่านั้น.. แต่ฉันในตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่ควรเพิกเฉยต่อความกระวนกระวายใจของคนรู้จัก
จะว่าไปลาน่าก็เติบโตมาด้วยกันกับฉันเป็นระยะเวลาสิบกว่าปี เรื่องเวทมนตร์ปีศาจก็เป็นเธอที่คอยสอนให้ฉันอย่างละเอียด
ดังนั้น..บางทีสำหรับฉัน เธอเองก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน.. หากเสียเธอไปอีกคนละก็บางทีฉันอาจจะมีความรู้สึกแย่กว่าเดิม..
“มีอะไรจะพูดเหรอ?”
“อ้ะ.. ปะ เปล่าค่ะ”
เธอตกใจแต่ก็เหมือนจะรีบปฏิเสธ ลาน่าในความทรงจำฉันเป็นคนสุขุมและเรียบร้อยจัดการงานทุกอย่างด้วยความประณีตและว่องไว
การที่เห็นเธอลนลานมันแปลกเกินไป..
“มีอะไรอยากจะพูดก็พูดมาเถอะ!”
ฉันพูดแบบนั้น ลาน่าก็หันหน้ามามองหน้าฉันสายตาพวกเราสบตากันอยู่นานสองนาน.. เธอนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะถามขึ้น
คำถามนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกัน.. เธอน่ะถามฉันว่า..
“องค์หญิงน่ะ.. อยากจะให้เธอคนนี้ฟื้นขึ้นมาจริงๆ เหรอคะ?”
คำถามสั้นๆ นั้นมันเป็นคำพูดที่เลือดเย็น เป็นครั้งแรกที่ฉันสัมผัสได้ถึงความเย็นชาจากน้ำเสียงของเธอ ไม่ได้มีไว้ให้ฉัน
แต่มีไว้ให้เซเรส.. สายตาเธอมองไปที่เซเรสและมองกลับมาที่ฉันอีกรอบหนึ่ง.. ทำไมเธอถึงถามแบบนั้น..?
“เธอหมายถึงอะไร…”
คิ้วของฉันกระตุกเล็กน้อย ลาน่าก็จ้องมองมาที่ดวงตาของฉัน
“ก็เธอคนนี้น่ะเป็นศัตรูขององค์หญิงไม่ใช่เหรอคะ”
“…?”
ศัตรู? ฉันกับเซเรสเนี่ยนะ.. ทำไมถึงเป็นงั้นไปได้ โดยไม่ทันให้ฉันได้ตั้งคำถาม.. เธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“เธอเป็นคนที่ท่านลบความทรงจำไปไม่ใช่เหรอคะ”
“…..”
ทันทีที่คำพูดนั้นดังขึ้น ในหัวฉันก็เหมือนมีคลื่นถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง.. ดวงตาสั่นเครือ ภาพในอดีตหวนคืนกลับมา
“ถ้าหากโจรนี้ฟื้นขึ้นมาต้องแค้นฉันแน่”
คำพูดในตอนนั้นของตัวเองลอยขึ้นมาในหัว.. ใช่ มันเป็นเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อนตอนที่ฉันเดินทางมาที่โรงเรียนแห่งนี้
“ฉันจะลบความทรงจำเธอ เพื่อให้เธอมาแค้นฉันในภายหลัง”
มือทั้งสองข้างฉันสั่น ฉันปล่อยมือออกจากมือของเซเรส.. อ่า.. อ่า.. ไม่นะ.. ไม่นะ.. ทุกอย่าง.. ทุกอย่าง..
“เซเรส.. สักวันเธอจะสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมดและกลายเป็นคนไร้สติค่ะ”
คำพูดเมื่อยามนั้นของสเตฟานี่ดังขึ้นมาในหัวของฉัน ..
“เซเรสน่ะเป็นโรคประหลาด”
ไม่ใช่.. ไม่ใช่โรคประหลาดอะไรทั้งนั้น.. ทุกอย่าง.. ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน.. ภาพที่เซเรสกรีดร้องทรมาน
ข่วนแขน ข่วนขากัดฟัน..ตอนหลับสมองค่อยๆ ตายตัวไปอย่างช้า..และในสักวันเธอก็จะตาย..
“เลทิเซีย.. ทำไมคนที่มาเจออะไรแบบนี้ถึงต้องเป็นเซเรสด้วย”
“เซเรสเธอทำอะไรผิด เธอทำอะไรให้ใครโกรธแค้นกัน”
“เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่งเท่านั้น”
“ทำไมพระเจ้าถึงได้ทำกับเธอแบบนี้…?”
ไม่… ไม่! ไม่!! พระจงพระเจ้าอะไรกัน โกรธเกลียดอะไรกัน ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน.. ฉันที่คิดไปเอง ฉันที่ตัดสินใจกลัวไปเอง
ทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้.. มันรักษาไม่หายแล้ว มันสายเกินไปแล้ว.. อ่า.. อ่าาาา อ้ากกก ฉัน.. ฉัน..เป็นคนทำลายชีวิตของเธอ..
“อ้ากกกกก”
ไม่.. ไม่ใช่แค่เซเรส… แต่ฉันเป็นคนที่ทำให้สเตฟานี่ต้องตาย.. เพราะเซเรสที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย..
ทุกอย่างมันเป็นความผิดของฉัน.. ทำไมกันล่ะ ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้..
นี่น่ะเหรอคือ ‘บาป’ ของฉัน..ทำไมทุกอย่างมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้.. ดวงตาของฉันพร่ามัวและโอนเอนไปมา..
มือสองข้างสั่นสะท้านไม่หยุด ฉันก้มลงมองมือตัวเอง..มือที่ขาวสะอาดในตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีเลือด..
“ไม่.. มันต้องไม่ใช่แบบนี้.. ทำไม..”
“อ้ากกกก”
ฉันถอยหลังไปด้วยความกลัวแต่ก็สะดุดขาเตียงจนล้มลงไปด้านหลัง.. ทุกอย่างในสายตาของฉันทำไมมันกลายเป็นสีแดง
ทุกอย่างเต็มไปด้วยสีแดงของโลหิต..มือของฉัน..ฆ่าทุกคน.. ฆ่าคนอื่น.. ฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้อง.. ฆ่าเพื่อน..
“อ่า อ่า”
“องค์หญิง”
เสียงบางอย่างดังแว่วผ่านมาในหูของฉันแต่มันกลับไปชัดเจน ทุกอย่างรงหน้าของฉันพร่ามัวและแดงฉาน เสียงกรีดร้อง เสียงด่าทอ สาปแช่งมันชัดเจนยิ่งขึ้น
และ.. ตรงหน้าฉันมีสเตฟานี่ปรากฏขึ้นมา..
“สเตฟานี่.. ฉัน..”
“เธอมันฆาตกร.. เธอทำให้พวกเราต้องเข่นฆ่ากันเอง.. ถ้าไม่มีเธอสักคน.. ถ้าไม่มีเธอสักคนพวกเราคงยังใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนอย่างสบายใจ”
“อ่า.. อ่า..”
มือของเธอยืนมาบีบคอฉัน.. ไม่.. ทำไม.. ทุกอย่างมันผิดไปหมด ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้..
ใครก็ได้.. ช่วยฉันที.. ไม่..เซเรส..สเตฟานี่..
“อย่างเธอ.. ฆาตกรอย่างเธอน่ะ.. มันสมควรตาย.. เธอจะดิ้นรนไปทำไมขืนเธอยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้.. ทุกคนจะต้องเจ็บปวด ทุกคนจะต้องทรมาน.. เพราะงั้นตายซะเถอะ”
“อ่า.. ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน…”
น้ำตาไหลบ่าออกมาจากดวงตรา ฉันเริ่มหายใจไม่ออกและ….หมดสติไป.. ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน..
…….
“องค์หญิง! องค์หญิง!”
ลาน่าพยายามเรียกเลทิเซีย แต่เธอก็ไม่ตื่นสีหน้าเธอแสดงความสับสนออกมา.. เมื่อกี้นี้จู่ๆ เลทิเซียก็มีท่าทางลนลานเหมือนคนบ้า
เธอกลายเป็นเหมือนคนขาดสติก่อนที่จะบีบคอตัวเอง.. ลาน่าพยายามจะห้ามแต่ว่าเลทิเซียเหมือนจะใช้เวทมนตร์เสริมพลังด้วย
ทำให้เธอขาดอากาศหายใจ.. จนสลบไป.. ทำไม.. ถึงเป็นแบบนั้นกันนะ.. ลาน่าเธอสับสนก่อนที่สายตาจะหันไปมองเซเรส..