บทที่ 254 – ถูกควบคุม..?
ฉันในตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูงสุด เพราะว่าหากอยู่ที่นี่นานไม่ได้
เพราะฉันฆ่าคาร์ดินัลไปแล้วตั้งสองคน แม้ในตอนนี้จะยังไม่ถูกจับได้ แต่อีกไม่นานก็คงถูกจับได้แน่
พวกคนเหล่านี้เหมือนจะจับมารีดเค้นข้อมูลไม่ได้เลยเพราะเหมือนพวกเขาเป็นเหมือนพวกคลั่งศาสนา
แต่การที่ฉันมาเดินลัดเลาะในที่แห่งนี้ฉันก็ได้รู้เรื่องราวความเป็นมาและความสอนของศาสนานี้มาบ้างแล้ว
หลักคำสอนหลักๆ ก็เหมือนที่ผู้ชายที่ชื่อฮิสครอมเคยพูดไว้ พระเจ้าคือสรรพสิ่งที่อยู่บนโลกแห่งนี้ เมื่ออดีตทุกอย่างไม่มีอยู่ เป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไร้ขอบเขต
พระผู้เป็นเจ้าได้ปรากฏขึ้นมา ว่ากันว่าพระเจ้าผู้สร้างนั้นสร้างทุกสรรพสิ่งอย่างแท้จริงแม้แต่เหล่าเทพธิดาก็เกิดจากพระเจ้าอีกที
กล่าวโดยรวมคือพระเจ้าคือสรรพสิ่ง สรรพสิ่งคือพระเจ้านั่นเอง และสัญลักษณ์แห่งพระเจ้างูกินหางโอโรโบรอส
ก็ถือเป็นความนิรันดร์อย่างหนึ่ง เป็นความไร้จุดสิ้นสุด.. หากพูดในความหมายที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ทุกสรรพสิ่งทั้งอนันต์คือพระเจ้าสร้างขึ้น
ถ้าจะให้ฉันออกความเห็นหลักคำสอนของศาสนานี่มันค่อนข้างสุดโต่งเกินไป ทำไมน่ะเหรอ…
ก็เพราะศาสนานี้ถือว่าผู้ที่ดูหมิ่นหรือลบหลู่ศาสนานับว่าเป็นจิตโสมมของพระผู้เป็นเจ้า เนื่องด้วยทุกสรรพสิ่งทั้งปวงล้วนมีความชั่วร้าย
และเหล่าที่หมิ่นหรือเห็นต่างพวกเขาถือว่าเป็นจิตโสมมของพระผู้เป็นเจ้า.. นั่นก็คือจำเป็นต้องชำระล้างทั้ง ร่างกาย อวัยวะ จิตใจหรือดวงวิญญาณ
ถ้าจะให้อธิบายก็คือการผ่าร่างของคนทั้งเป็นแล้วก็เอาศพมาบูชายัญนั่นล่ะ.. ส่วนพลังเวทจากเบาะรองนั่งเหมือนจะเป็นพลังจากร่างของผู้เห็นต่าง
ที่พอถูกชำระจะถูกนำมาหลอมรวมผสานกับเส้นเลือดแห่งพระผู้เป็นเจ้าอย่าง.. คาร์ดินัล
ฉันยังไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของคนพวกนี้.. แต่ดูเหมือนว่าสันตะปาปาจะถูกนับว่าเป็นหัวใจแห่งพระผู้เป็นเจ้า (Heart of God)
ส่วนเหล่าคาร์ดินัลจะถูกนับว่าเป็นเส้นโลหิตแห่งพระผู้เป็นเจ้า… คำอวยพรคือการล้างสมองโดยวิธีการบางอย่าง
นี่คือข้อมูลที่ฉันหามาได้ในตอนนี้.. แต่ว่านะมันมีสิ่งหนึ่งที่ฉันแปลกใจอยู่.. โดยศาสนานี้เป็นศาสนาแรกที่มีการกล่าวถึงสิ่งที่เรียกว่า โลกไร้ที่สิ้นสุด
ถ้าจะให้อธิบายมันคือจักรวาลนั่นแหละ ในความเป็นจริงโลกนี้ไม่ได้มีวิทยาการสูงพอที่จะออกจากชั้นบรรยากาศไปสู่นอกโลกได้
ไม่สิ ขนาดออกนอกทวีปพวกเขายังออกไม่ได้เลย บางทีสำหรับพวกเขาโลกใบนี้อาจจะเป็นทั้งหมดสำหรับคนเหล่านี้
แต่ว่าศาสนานี้อ้างว่าเทพได้สร้างโลกไร้ที่สิ้นสุดขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าโลกในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ดวงดาว.. แต่หมายถึงจักรวาลแหละมั้ง
เพราะในโลกเดิมของฉัน ในแนวคิดต่างๆ ของศาสนาก็กล่าวถึงโลกไร้จุดสิ้นสุดไว้เยอะ ซึ่งหากมาเทียบกับศัพท์วิทยาในปัจจุบันมันคือจักรวาลดีๆ นี่เอง
นั่นหมายความว่าโลกที่พวกเขาหมายถึงคือจักรวาลไร้ขอบเขต.. และตรงนั้นแหละที่น่าสงสัยพวกเขารู้ถึงการดำรงอยู่ของจักรวาลได้ยังไง
เพราะขนาดทฤษฎีหลุมกาลอวกาศในโลกนี้ยังไม่รู้จักเลย นั่นหมายความว่าพวกความรู้เกี่ยวกับปริภูมิและเวลาพวกเขาน้อยนิด?
ถ้าหากหาหลักอ้างอิงไม่ได้ว่าพวกเขาหากหลักข้อมูลพวกนี้มาจากไหน ก็มีความเป็นไปได้ว่าเบื้องหลังพวกเขาอาจจะมีคนที่เป็นเหมือนพระเจ้าอยู่จริงๆ
ซึ่งถ้าหากพระเจ้านั้นเก่งกว่าเทพมันก็จะเป็นปัญหามากสำหรับฉัน.. ถ้าไม่ใช่แบบนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีคนที่..เหมือนกับฉัน
มาจากต่างโลก เพราะไอ้สัญลักษณ์โอโรโบรอสนี่มันเหมือนหลุดมาจากของฝั่งโลกฉันเลยทั้งชื่อและแนวคิดความเชื่อน่ะ.. ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ทุกอย่างจะลงตัว
ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีโลกไร้สิ้นสุดและชื่อหรือสัญลักษณ์ ยังไงก็ตามแต่ด้วยเหตุผลทั้งปวงที่ว่ามาฉันจะมามัวชักช้าอยู่ไม่ได้
ในตอนนั้นเองสายตาฉันก็หันไปเห็นคนที่อยู่ห่างออกไปซึ่งเป็นคนที่ฉันตามหา.. ใช่ ชาร์ล็อตกับฮิสครอม
“เอาล่ะ ท่านชาร์ล็อตท่านเตรียมพร้อมหรือยัง”
“…”
ชาร์ล็อตพยักหน้า แต่เธอไม่ได้ตอบกลับ คนที่ชื่อฮิสครอมฉีกยิ้มออกมา พร้อมกับพูด
“เอาล่ะ หลังจากนี้ท่านจะเข้ารับคำอวยพร”
พอเขาพูดแบบนั้นฉันก็เบิกตากว้างทันที.. ไม่ใช่ว่าคำอวยพรมันต้องรับจากโลกอีกฝั่งหรอกเหรอ.. แล้วการที่ชาร์ล็อตมารับในโลกฝั่งนี้นี่..
หรือก็คือเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครเห็น.. อีกอย่างจากท่าทางของชาร์ล็อตที่ดูเงียบๆ นั่น.. หรือว่าเธอโดนควบคุมจิตใจไปแล้ว?
ปกติมันต้องได้รับคำอวยพรก่อนไม่ใช่หรือไงกัน?! ฉันขมวดคิ้วแต่ในตอนนั้นเอง เหมือนฮิสครอมจะหันมาทางฉันพร้อมกับพูดขึ้น
“นั่นใครน่ะ!?”
น่าจะเป็นเพราะว่าฉันเผลอตัวไปเลยทำให้เขาจับได้ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้แทบทันทีว่าฉันไม่ใช่พวกเดียวกันกับพวกเขาแม้ยังไม่เห็นหน้าเพราะหมอกบังสายตาพวกเขาไว้อยู่
เพราะในทันทีที่เขาพูดขึ้น ฮิสครอมก็ยกฝ่ามือขึ้นพร้อมกับพึมพำด้วยความเร็วเหนือกว่าคาร์ดินัลสองคนที่ฉันฆ่าไป
“โปรดมอบเขตแดนกักขังแก่ผู้ไร้ศรัทธา”
คำพูดของเขาดังขึ้นในตอนนั้นเอง ใต้เท้าของฉันก็มีแสงงสีทองโผล่พุ่งออกมาเป็นเส้นสายก่อนจะถักทอเป็นโซ่
และพุ่งเข้าใส่ร่างของฉัน พยายามจะพันธนาการ โซ่นั้นปลดปล่อยพลังที่ปิดผนึกบางอย่างเอาไว้ด้วย แข็งแกร่งกว่าสองคนก่อนหน้านั้นรวมกันซะอีก
ฉันตอบสนองด้วยความเร็วสูงทันที ร่างกายหายแวบไปจากจุดเดิม โว่ฟาดพลาดไปโดนพื้นเบื้องล่างจนพื้นแตกกระจุยแต่ทว่า..
พื้นที่แตกกระจุยออกก็หยุดนิ่งกลางอากาศราวกับห้วงเวลาของตัวมันหยุดเดิน.. ผนึกเวลาเหรอ..
ฉันมองออกเพราะว่ากระแสเวลาเศษหินนั้นหยุดไหล.. อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นผืนดิน ท้องฟ้า อากาศ ต้นไม้ ทุกอย่างล้วนมีเวลาไหลผ่าน
ทุกอย่างล้วนมีเวลาอยู่ในตัวเพราะ.. นี่คือโลกสี่มิตินั่นเอง.. แต่ทว่าเศษหินเหล่านั้นราวกับไม่มีเวลาไหลอยู่เลย
นั่นทำให้ฉันตกใจเพราะมันไม่ใช่การหยุดเวลา.. แต่เป็นการช่วงชิงการไหลของเวลามาจากสิ่งที่ถูกโซ่สัมผัส
แต่จะยังไงก็ตามแต่ฉันพุ่งตรงดิ่งไปหาชาร์ล็อตด้วยความเร็วสูง เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ถึงเจตนาของฉันทันที
“ป้องกันท่านชาร์ล็อตเดี๋ยวนี้”
คนคุ้มกันสองคนนั้นก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าชาร์ล็อตราวกับภูตผีเงาพราย แต่ทว่าในชั่วพริบตาที่พวกเขาปรากฏขึ้น
ดาบสีดำในมือฉันก็ตวัดเป็นแนวขวางราวกับไม่มีระยะเวลาที่ฟันออกไป เสมือนกับว่าดาบฟันออกไปตั้งแต่ยังไม่ได้ฟัน!
“วิชาดาบไร้คม”
ปากฉันพึมพำเพียงแค่คำนั้น ร่างของคนสองคนนั้นก็ขาดออกจากกันอย่างง่ายดาย ฉันมายืนอยู่ตรงหน้าชาร์ล็อตด้วยความเร็วเพียงพริบตาเดียวคั่นระหว่างชาร์ล็อตกับผู้ชายที่ชื่อฮิสครอมไว้
“เธอคือ….”
พอเขาเห็นฉันเขาก็ขมวดคิ้ว.. ในตอนนั้นเองชาร์ล็อตด้านหลังฉันก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดขึ้น..
“เล..ทิ..เซีย…?”
สายตาของเธอดูหมองมัว.. ร่างกายผอมแห้งไร้ซึ่งแววแสงในดวงตาราวกับคนที่ตายไปแล้ว..ฉันมองเธอด้วยความสับสน
“ชาร์ล็อต..เธอ…”
“เลทิเซียเหรอ…..”
สีหน้าของเธอดูว่างเปล่า ดูไร้ซึ่งความปรารถนาที่จะมีชีวิต เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว.. ใช่ ฉันมองเห็นเธอ..
มันเหมือนกับตอนที่ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวเลย.. ฉันรู้สึกเหมือนเธอต้องการคำพูดอะไรสักอย่าง..
ไม่สิ.. ไม่ใช่เธอต้องการ. แต่ฉันต้องการจะพูดอะไรกับเธอ ใช่ฉันมีเรื่องที่อยากพูดกับเธออยู่ เธอในตอนนี้น่ะ..
“กลับกันเถอะ”
ฉันพูดออกไป.. คำพูดนั้นของฉันฉันไม่รู้ว่ามันถูกหรือเปล่า และไม่รู้ว่ามันดีไหม แต่ฉันมองชาร์ล็อตที่ราวกับคนสูญเสียปัจจัยในการมีชีวิตตอนนี้
ฉันไม่รู้ว่าสองเดือนที่ผ่านมาอะไรทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ไปได้.. แต่ว่าฉันต้องสร้างที่อยู่ให้กับเธอ.. ใช่ ฉันที่ทำผิดต่อเธอมาตลอด
ทำให้เธอรู้สึกเสียใจตลอด ในตอนนี้ฉันต้องสร้างที่ที่เธอสามารถอยู่กับอันน่าได้อย่างมีความสุข ฉันจะสร้างมันคือมาเองบ้านของเธอ..
หนึ่งในวิธีต้านทานการควบคุมจิตใจได้ดีที่สุด.. คือการกระตุ้นอารมณ์อะไรสักอย่างที่คนที่ถูกควบคุมต้องการและโหยหาที่สุด
มันจะทำให้เธอหลุดพ้นจากการควบคุมจิตใจได้ชั่วขณะ แต่นั่นก็พอแล้วเพราะแค่นั้นฉันก็จะสามารถทำให้การควบคุมจิตใจออกจากหัวของเธอได้
แน่นอนว่าสิ่งที่ฉันพูดหรือคิดคือความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ต้องการพูดให้ชาร์ล็อตฟื้นจากการควบคุมจิตใจเฉยๆ ..
แต่ทว่า.. ในตอนนั้นเอง..
“เลทิเซีย.. เจ้ามาพาข้ากลับงั้นเหรอ..? ฮ่าๆ ข้าไม่ต้องการ… และไม่ต้องการเห็นหน้าเจ้าด้วย..ไสหัวไปซะ!!”