บทที่ 258 – ชอบท่านพี่งั้นเหรอ
วันเวลาผ่านไป..ความสัมพันธ์ของทั้งสามก็พัฒนาขึ้น.. โดยเฉพาะอันน่า.. เธอชอบที่จะแอบขึ้นเตียงเลทิเซียบ่อยกว่าเดิม
โดยที่เธอคิดว่านี่ก็เพื่อตัวชาร์ล็อตเอง ดังนั้นเลทิเซียในแต่ละวันจึงแทบไม่ได้นอนเพราะอันน่า อย่างไรก็ตามในแต่ละวันก็ผ่านพ้นไปด้วยประการเช่นนี้..
และมีบ่อยครั้งที่หัวใจอันน่าเต้นตึกตักเพราะเลทิเซีย
“ไม่หรอกน่า.. ข้าน่ะ..”
อันน่าส่ายหน้าพลางปฏิเสธความคิดของตัวเอง แต่ก็ยังวกกลับไปคิดถึงเรื่องความรู้สึกตัวเอง..
ทุกครั้งที่เลทิเซียรู้ว่าเธอคือเธอ การที่ได้อยู่กับเลทิเซียการที่ได้คุยกับเลทิเซีย มันทำให้เธอมีความสุข
เหมือนกับการได้ปกป้องชาร์ล็อต ความรู้สึกนี้ไม่ได้ก่อขึ้นเพียงชั่วพริบตา แต่มันค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“อันน่า.. อันน่า.. อันน่าได้ยินไหมเนี่ย!!!”
“อะ.. อะไรเหรอ”
อันน่าตกใจเพราะเสียงของชาร์ล็อตดังขึ้นมาในหัวของเธอ พอชาร์ล็อตเห็นอันน่าที่ดูท่าจะไม่ได้ฟังเลย เธอก็ถอนหายใจออกมา
“ข้าบอกว่าเจ้าชอบหรือไม่?”
“ห๊า.. ข้าจะไปชอบคนพิลึกแบบนั้นได้ยังไงล่ะ”
เพราะคำพูดที่ดูไม่จบในประโยคเดียวของชาร์ล็อต ทำให้อันน่าสะดุ้งรีบปฏิเสธพร้อมกับความร้อนรน
ชาร์ล็อตเองก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา เพราะเธอไม่เคยเห็นอันน่าเป็นแบบนี้มาก่อน… แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอันน่าเป็นอะไร
“เจ้าพูดเรื่องอะไร ข้าหมายถึงอาหารที่จะทานเย็นนี้ต่างหาก เพราะเห็นว่าเจ้าอยากเป้นคนชิมอาหารบ้างข้าเลยจะให้เจ้าชิม”
“อ้ะ.. อ้อ.. เรื่องนั้นเองหรอกเหรอ”
“นี่เจ้าคิดว่าข้าหมายถึงอะไร”
ชาร์ล็อตมองอันน่าด้วยความสับสน แต่อันน่าได้ตัวหัวเราะกลบเกลื่อนพร้อมกับเปลี่ยนเรื่อง
“ช่างมันเถอะ ข้าอยากลองทานอาหารที่เลทิเซี— ข้าหมายถึงอาหารที่เจ้าทานบ่อยๆ น่ะ?”
“อื้ม.. พักนี้ข้าทานสตูเนื้อบ่อยๆ น่ะ มันอร่อยมากเลยนะ”
พอเห็นชาร์ล็อตไม่ได้เอะใจคำชื่อที่เธอเผลอพูดออกมา เพราะชื่อนี้มันลอยอยู่เต็มหัวไปหมด
เธอบ่นอุบอิบว่า “ข้าเป็นอะไรไปเนี่ย” เธอพยายามจะสลัดความคิดออกให้หมดแล้วก็เข้าควบคุมร่างและเดินไปโรงอาหาร
“อ่าว นั่นมันรูมเมจของท่านพี่ ชาร์ล็อตนี่น่า”
ในตอนนั้นเองเธอเดินไปปะหน้ากับเลวิเนียที่กำลังเดินไปโรงอาหารคนเดียว อันน่าเห็นเลวิเนียก็แปลกใจว่าทำไมไม่อยู่กับเลทิเซีย
เธอไม่ได้ต้องการหาเลทิเซียหรอกนะ!! แค่ปกติสองคนนี้อยู่ด้วยกันตลอดต่างหาก ซึ่งพักนี้ไม่ค่อยเห็นอยู่ด้วยกันเลยแปลกใจเท่านั้นแหละ
เธอปฏิเสธแบบนั้น.. พร้อมกับถามออกไป พยายามเลียนแบบชาร์ล็อต
“เอ่อ… ท่านเลวิเนียไม่ได้อยู่กบเลทิเซียเหรอ”
“อ้อ ท่านพี่มัววุ่นอยู่กับการศึกษาวิชาใหม่น่ะ ข้าเลยมาทานก่อน.. แต่ว่านะเจ้าดูแปลกๆ นะ”
เลวิเนียกล่าวตอบถึงอันที่จริงพักนี้เธอจะไม่ได้เจอเลทิเซียเลยก็ตามเพราะเรื่องในคราวนั้น คำตอบที่ว่าแค่ข้ออ้างหลีกหนีของเลวิเนีย
อันที่จริงชาร์ล็อตยังอยู่กับเลวิเนียบ่อยกว่าเลทิเซียอยู่กับเลวิเนีย และถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ได้สนิทกันมาก
แต่แน่นอนว่าตั้งแต่เปิดโรงเรียนมาพวกเธออยู่ด้วยกันบ่อยเพราะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันนั่นเอง
ดังนั้นสำหรับเลวิเนียชาร์ล็อตคือเพื่อนสำคัญคนหนึ่งเลยแหละ แต่ว่าพอเห็นเพื่อนเหมือนต่างจากปกติเธอเลยสงสัย อันน่าเหงื่อตกพร้อมกับยิ้ม
“อ้ะ.. เปล่าหรอก”
“อืม.. งั้นเหรอ”
เลวิเนียเหมือนมีอะไรคาใจ แต่ก็ตัดสินใจเดินไปโรงอาหารด้วยกัน อันที่จริงอันน่าควรจะเลียนแบบชาร์ล็อตได้เปะกว่านี้มาก
แต่เพราะก่อนหน้านี้คิดเรื่องเลทิเซียที่เป็นพี่ของเลวิเนียนี่… พอเจอเลวิเนียเข้าเลยรู้สึกอับอายกับตัวเองนั่นแหละ
ก็ประมาณว่าอาจจะได้เป็นพี่เขยเลวิเนีย.. ต่อจากนี้ก็จะเรียกเธอว่าเลวี่เหมือนเลทิเซีย พอคิดแบบนั้นอันน่าก็หน้าแดงฉ่าส่ายหน้า
“ไม่ๆ พวกเราเป็นผู้หญิงทั้งคู่นะ อ่า.. ไม่สิ ข้าไม่มีร่างกายด้วยซ้ำ .. เอะ อ่า ไม่ควรเป็นแบบนี้สิ”
อันน่าสับสนกับตัวเอง… จนเลวิเนียสังเกตเห็นเธอก็เหมือนมีบางอย่างปิ้งเข้าในหัวของตัวเองราวกับสายฟ้าแลบ
“ชอบท่านพี่งั้นเหรอคะ”
“อะเอ๊ะ.. พูดอะไรน่ะ”
นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่าสัญชาตญาณผู้หญิง.. ไม่สิ สัญชาตญาณซิสค่อนมากกว่า เธอถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา
ในใจเลวิเนียบ่นด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“ข้าลืมไปได้ไง.. ความสุดยอดของท่านพี่น่ะ.. ต่อให้เป็นผู้หญิงก็ทำให้หลงไหลได้อยู่ดีนะ”
แม้จะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ทว่าเธอปล่อยปละละเลยเกินไปสินะ.. เลวิเนียรู้สึกว่าตัวเองไม่ระวังเกินไปแล้ว
อาจจะเป็นเพราะชาร์ล็อตกับอันน่าในด้านนี้ไม่ต่างกันคือไร้ประสบการณ์ดังนั้นพอได้ยินคำถาของเลวิเนียเธอเลยสับสนพร้อมกับหน้าแดง
เลวิเนียฟันธงยิ่งกว่าอะไร.. แหงแหละ อยู่ด้วยกันกับคนที่มีเสน่ห์มากที่สุดในโลกแบบนั้น.. ถ้าเป็นเลวิเนียเธอคงกำเดาไหลจนตายตั้งแต่สิบคืนแรก
แต่เลวิเนียก้ไม่ได้ทำตัวเป็นหมาหวงก้างขนาดนั้นเพราะก่อนที่มาจะมาโรงเรียนนี้ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา
พวกเธอนอนด้วยกันบ่อยครั้ง พอคิดแบบนั้นเลวิเนียก็รู้สึกภูมิใจอยู่ไม่มากก็น้อย เธอยืดอกแล้วเดินปล่อยให้อันน่าหน้าแดง
“ว่าแต่ชอบท่านพี่ตรงไหนน่ะ”
“พูดอะไรน่ะข้าไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นสักหน่อยนะ อีกอย่างเราเป็นผู้หญิงด้วยกันนะ.. บะ.. แบบว่าเรื่องแบบนั้นมันเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
อันน่าพูดอย่างสับสนและลังเลใจ ทำให้เลวิเนียถึงกับผงะหันหน้ามาหาอันน่าพร้อมกับพูด
“ชาร์ล็อตเจ้า.. มองไกลถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ อย่าบอกนะว่าจินตนาการถึงขั้นที่ข้าเรียกเจ้าว่าท่านพี่แล้วดด้วยนะ”
“อ้ะ.. อ่าาา ไม่ใช่แบบนั้นนะ ข้าหมายถึงว่า.. ไม่สิ อ่าาาา”
หน้าของอันน่าร้อนผ่าวจนมีควันสีขาวผุดออกมาจากบนหัวในขณะที่เลวิเนียเท้าค้างตัวเองพลางคิด
“ดูเหมือนว่า.. ข้าจะเป็นคนเดียวที่อยู่ไกลเส้นชัยที่สุดสินะ..”
“อ้ะ.. ไม่สิ ถึงในประเทศของท่านพ่อจะแต่งงานแบบภรรยามากกว่าสองไม่ได้แล้วก็เถอะนะ..”
“แต่ว่าพวกเราเป็นผู้หญิงทั้งสามคนนี่น่า หมายความว่ากฎหมายอาจจะไม่มีผลหรือเปล่า..? ต่อให้มีผลก็แค่พาท่านพี่ไปแต่งงานในประเทศที่ยอมรับได้นี่น่า”
“ยังมีเรื่องที่พวกเราเป็นพี่น้องกันอีกนะ.. อืม เข้าใจแล้วแค่ให้ข้าไม่ก็ท่านพี่ขึ้นเป็นราชินีปกครองประเทศแล้วร่างกฎหมายใหม่มันซะเลยก็สิ้นเรื่องนี่น่า”
“ข้านี่มันฉลาดจริงๆ”
เลวิเนียที่คิดไว้เสร็จสรรพแล้วว่าท่านพี่ไม่ควรมีภรรยา.. ไม่สิ เลทิเซียก็เป็นผู้หญิง งั้นคงต้องใช้คำว่าคู่รักแทนสินะ เพราะถ้าเป็นภรรยากันทั้งคู่คงจะแปลกๆ
ในขณะที่เลวิเนียวางแผนอยู่ในหัว สติอันน่าก็หลุดออกจากร่างเพราะความเขินอาย ส่วนชาร์ล็อตที่หลับอยู่ภายในก็ถูกปลุกมาแทนที่พร้อมกับเห็นเลวิเนียกำลังพึมพำเสียงเบาเหมือนท่องคาถา
อันน่าที่จู่ๆ ก็หลับสนิทไปทั้งอย่างนั้น เรียกไปก็ไม่ตอบ.. เธอได้แต่มองสถานการณ์อย่างสับสน
เรียกเลวิเนียก็ไม่ตอบ อันน่าก็ไม่ได้สติ..
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะเนี่ย?!”
ก่อนที่ท้องจะร้องออกมา..
“หิว!! อันน่าเธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยไม่ใช่หรือไงเนี่ย..”