บทที่ 272 – รอยแผลเหล่านั้น..
ชาร์ล็อตที่หลับตาอยู่บนรถม้า.. เธอพยายามจนค้นหาอันน่า.. แต่ทว่าคราวนี้กลับไม่เหมือนครั้งก่อนเพราะ..
ก่อนหน้าแม้อันน่าจะไม่ตอบสนองแต่ชาร์ล็อตก็ยังคงรู้สึกถึงอันน่าได้อยู่เนื่องจากพวกเธอนั้นอยู่ด้วยกันตลอดมา..
เมื่อสูญเสียเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกถึงได้ถึงการหายไป.. การสัมผัสว่าอีกคนที่อยู่ในตัวได้หายไปแล้ว.. เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับอันน่าก่อนหน้านี้เช่นกัน
เพียงแต่เธอแค่ไม่อยากจะเชื่อ ไม่อยากจะคิดว่าตัวเธอที่เป็นส่วนหนึ่งของชาร์ล็อตจะมาแทนที่ชาร์ล็อตได้..
แน่นอนว่า ชาร์ล็อตไม่รู้.. เธอไม่รู้ว่าทำไมอันน่าถึงได้หายไป.. เธอไม่เข้าใจว่าทำไม.. แต่ที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้น..
เธอนึกถึงเรื่องราวเมื่อหลายเดือนก่อน ตั้งแต่ตอนที่เลทิเซียทำแบบนั้นกับพวกเธอ.. อันน่าก็ไม่เคยโผล่หน้ามาอีกเลย..
บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเมื่อตอนนั้น.. ไม่สิ มันต้องเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ชาร์ล็อตมั่นใจแบบนั้น
ความลับเกี่ยวกับตัวชาร์ล็อตทุกอย่างล้วนถูกเก็บไว้ในความทรงจำของอันน่า.. เนื่องจากความเจ็บปวดที่ชาร์ล็อตเคยปฏิเสธนั้น
มันทำให้เกิดเงาร่างของอันน่าขึ้นมา จนกลายเป็นสองภายในหนึ่งเดียว ด้วยเหตุนี้ชาร์ล็อตจึงแทบจะรู้เรื่องของตัวเองน้อยมาก
มีเพียงอันน่าเท่านั้นที่รู้เรื่องทุกอย่าง จึงไม่แปลกที่เธอจะไม่เข้าใจเรื่องราวต่างๆ เหมือนอันน่าที่เข้าใจได้ในเวลาอันสั้น
ภายใต้ความกดดันจากภายในและภายนอกที่ทำให้เธอได้เห็นถึงความโสมมของโลกมันจึงทำให้เธอถูกบีบบังคับ..
บีบบังคับให้เติบโตขึ้น.. อีกทั้งความแปรปรวนทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น.. เพราะความรู้สึกด้านลบของอันน่าที่เธอไม่เคยสัมผัสได้หลั่งไหลเข้ามา
มันจึงเริ่มที่จะทำให้ตัวตนของเธอบิดเบี้ยว..และเมื่อผู้คนอยู่ในสภาวะตึงเครียดที่สุดของชีวิต.. สิ่งที่จะตามมาคืออารมณ์ที่รุนแรง
นั่นหมายความว่าความโกรธทั้งหมดจึงถูกทิ้งลงใส่พวกสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เธอต้องมาเจอแบบนี้.. และพรากคนสำคัญในชีวิตของเธอไปอย่าง…
เลทิเซีย.. สิ่งมีชีวิต.. ทุกอย่างถูกเธอโกรธและเกลียดชัง เพราะเลทิเซียเป็นต้นเหตุให้อันน่าหายไป..
เธอเกลียด.. เพราะพวกมนุษย์เหล่านั้น.. ไม่เคยสนใจคำพูดมีเพียงความเห็นแก่ตัวเพื่อตัวเอง.. เพื่อตัวเองเพียงเท่านั้น..
เธอโกรธ.. โกรธ.. โกรธ..
และ.. พอเธอได้รับคำชักจูงของฮิสครอม.. ดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่มืดมัวมันจึงพาเธอก้าวสู่โลกใบใหม่..
แต่แน่นอนว่า ถึงแม้เธอจะได้รับบุคลิกมาจากอันน่า ด้านลบที่เธอไม่เคยมีอยู่กลับคืนมาก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะสูญเสียความใจดีดังเดิมไป..
ดังนั้น.. ในตอนนั้นที่เธอเห็นเลทิเซียมาอยู่ต่อหน้าเธอ ต่อให้เป้นเธอที่ตัดสินใจไปแล้ว เธอที่เลือกทางเดินไปแล้ว..
เธอที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนแทบเสียสติกลายเป็นเพียงความเกลียดชังสิ่งมีชีวิตสุดหยั่ง ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเธอศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับศาสนา..
ตามคำแนะนำของฮิสครอมยิ่งอ่าน.. เธอก็ยิ่งดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ สู่ความมืดมัวของสรรพชีวิต..ที่น่ารังเกียจ
เป็นที่ที่ตอบโจทย์เธอยิ่งกว่าที่ใดๆ เพื่อที่จะกำจัดคนชั่วร้าย เพื่อกลับคืนสู่รากเหง้า เพื่อความสงบสุขของโลก..
ทว่าเมื่อเลทิเซียบุคคลที่ทั้งด้านบวกและด้านลบ รู้สึกดีด้วย.. ต่อให้เป็นชาร์ล็อตในตอนนี้ก็ยังหวั่นไหว เธอเงยหน้าขึ้นมองเห็นเลทิเซีย..
ฉับพลันภาพความทรงจำมากมายที่ยากจะบรรยายนั้นลอยกลับคืนสู่โสตประสาท.. ช่วงเวลาที่เธออยู่ด้วย.
ช่วงเวลาที่มีความสุข..ความทรงจำเหล่านั้นไหลผ่าน..และแม้แต่ด้านลบที่กัดกินหัวใจของเธอยังคงสั่นไหว..
แม้จะไม่ได้รับความทรงงงจำของอันน่า..แต่ความรู้สึกที่อันน่าเคยมีที่อันน่าเคยรู้สึกมันก็กลับมาหา..เหมือนกลับกลายเป็นว่า..
ความรู้สึกที่ชาร์ล็อตในยามนี้มีให้เลทิเซียมันใหญ่หลวงยิ่งนัก.. มันมากมาย..มากมายจนแม้แต่เธอก้ยังไม่เข้าใจ
คนตรงหน้าเป็นต้นเหตุให้อันน่าหายไป.. ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้นความรู้สึกที่ไม่เข้าใจของเธอนี้มันคืออะไรกัน..
ริมฝีปากของเธอถูกกัด.. กอดแขนทั้งสองข้างตัวเอง.. แต่ร่างกายของเธอในยามนี้นั้นยังคงเหลือรอยแผลเป็นที่รักษายังไม่หายดี
พอแขนสัมผัสรอยแผลเหล่านั้น ภาพวันแล้ววันเล่าที่ถูกทรมาน.. วันแล้ววันเล่าที่ถูกทำร้าย.. เทียนที่มอดดับลงและถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
ในห้องใต้ดินไร้ความช่วยเหลือไร้ความหวัง.. เล็บที่ถูกถอนออกมา.. ผิวหนังที่ถูกดึงออก.. ความร้อนที่แสบทะลวงไปด้านในราวกับถูกย่างทั้งเป็น..
ความรู้สึกเหล่านั้นถาโถมเข้ามาราวกับพยายามเตือนเธอว่า.. นั่นคือสิ่งที่เธอเคยได้รับ คือสิ่งที่เธอเคยสัมผัส..
เพราะงั้นเธอจึงปฏิเสธเลทิเซียอย่างเย็นชา.. แต่ทว่า..คำพูดต่อมาของเลทิเซียนั้นทำให้เธอที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกมากมายระเบิดออกมา..
“ยังมีอันน่า.. ยังมีอันน่า..”
เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งหลุดออกจากริมฝีปากที่เคยสั่นเครือของเธอ เธอก้าวขาเข้าไปพร้อมกับตะโกนตอกหน้าเลทิเซียอย่างดุร้ายว่า
“อันน่างั้นเหรอ.. ฉันมีอันน่าสินะ.. ฮ่าๆ .. อันน่าน่ะหายไปแล้ว เธอน่ะหายไปแล้ว ทุกอย่างน่ะมันเป็นเพราะเจ้านั่นแหละเลทิเซีย”
ใช่แล้ว พอมาคิดๆ ดูแล้วทุกอย่างมันเริ่มต้นที่คนตรงหน้าที่พล่ามว่าเธอไม่ควรทำแบบนี้.. ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันเป็นเพราะตัวคนตรงหน้านี้เองน่ะเหรอ..
เพราะแบบนั้นชาร์ล็อตถึงได้หัวเราะ ราวกับอีกฝ่ายแดงตลกต่อหน้าตนเองอยู่อย่างไรอย่างนั้น.. พอเลทิเซียได้ยินแบบนั้นเธอก็ตกใจ..
“หมายความว่าไงน่ะ..”
“ทุกอย่างมันเป็นเพราะเจ้านั่นแหละ.. ตั้งแต่วันนั้น.. วันนั้นที่เจ้าทำร้ายพวกเรา.. ไม่สิ.. วันที่เจ้าทำร้ายอันน่าเธอก้ไม่เคยออกมาอีกเลย… จนกระทั่งเธอหายไป!!!”
ชาร์ล็อตกัดริมฝีปากพร้อมกับตะโกนด่าเลทิเซียสุดเสียง วินาทีที่คำพูดนั้นของชาร์ล็อตดังขึ้นร่างกายของเลทิเซียก็นิ่งอึ้งไป..
ภาพวันนั้นลอยเข้ามาในหัวของเธอ.. ใช่ เธอจำวันนั้นได้ดี.. วันที่เธอทำเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาในโลกนี้..
พอนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุกครั้งเลทิเซียจะรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก.. แน่นอนว่ามันต้องผิด.. ต่อให้เป็นเลทิเซียก่อนหน้าหรือตอนนี้
เธอล้วนแล้วแต่มีความต้องการที่อยากจะขอโทษอันน่า ขอโทษชาร์ล็อต..ใช่ หากวันนั้นวันที่เธอเจอกับชาร์ล็อตตอนนั้น..
เธอเลือกที่จะพูดออกไปตั้งแต่ตอนนั้น.. บางทีทุกอย่างก็คงไม่สายเกินแก้แบบนี้.. อีกแล้วอย่างงั้นเหรอ..
มันเป็นเพราะเธออีกแล้วอย่างงั้นเหรอ.. คราวนี้ไม่ใช่แค่การก้าวไม่ทันแต่ยัง..เลือกทางผิดอีก..
เป็นเพราะกลัว.. หลีกเลี่ยงและความขลาดเขลาของตัวเองไม่กล้าที่จะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิด..มันถึงกลายเป็นแบบนี้งั้นเหรอ..
“นี่คือ..บาปกรรม..ของฉันงั้นเหรอ..มัน..”
เธอพึมพำพลางก้มหน้าลง.. ทุกอย่าง ทุกการสูญเสีย.. มันเกิดขึ้นจากตัวเธอเองทั้งนั้น.. อ่า ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ
ราวกับหน้าอกของเธอกลวงโบ๋.. ร่างกายที่โซซัดโซเซถอยหลังด้วยความสับสน.. เธอ..มีชีวิตอยู่ไปเพื่อทำให้ชีวิตคนอื่นย่ำแย่อย่างงั้นเหรอ..
“เป็นเพราะเจ้า.. อันน่า.. เพื่อนคนเดียวของข้า..พี่สาวเพียงคนเดียวของข้า….ครอบครัว เพียงคนเดียวของข้า”
เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวด.. สิ่งที่เธออ่อนไหวบนโลกใบนี้คงเหลือเพียงแค่เรื่องของอันน่าเท่านั้น..
เพราะงั้นเมื่อนึกถึงอันน่า.. เธอหายไปโดยไม่มีใครรู้ว่าทำไม.. ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร หายไปเงียบๆ
เหมือนกับตอนที่เธอเกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ .. ไม่มีใครรู้จักนอกจากคนที่รู้จักอยู่แล้ว ไม่เป็นที่รู้จักการตายของเธอมันยิ่งเสียกว่าการโยนหินลงผิวน้ำที่เกิดการสั่นไหวเพียงเล็กน้อยสงบลง
การจากไปของเธอ..นั้นราวกับเม็ดทรายที่ร่วงโรยลงผิวน้ำ ไม่มีใครรับรู้ถึงเรื่องที่เธอนั้นต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนในการตัดสินใจ..
ร่างของชาร์ล็อตที่ทรุดลงกับพื้น ผ้าที่คลุมร่างกายอยู่ค่อยๆ เปิดออก.. ภายใต้ผ้านั้นมันมีรอยแผลเป็นมากมายสลักบนร่างของเธอ..
ทั้งรอยเข็ม.. ทั้งรอยหนังที่ถูกถลกอย่างเลือดเย็น…
แผลเป็นมากมายเหล่านี้มันอยู่บนร่างของเด็กสาวที่อายุเพียงสิบสองสิบสามปีเพียงเท่านั้น.. ผิวพรรณที่เคยขาวเนียนไร้เดียงสา..
บัดนี้ราวกับกลายเป็นรอยสลักแห่งความโหดร้ายที่เธอเคยพบ..
ดวงตาของเลทิเซียหดเล็กลง………..