บทที่ 294 – ลูกบาศก์สีดำ
“ซิลเวีย!”
เลทิเซียตกใจที่ซิลเวียสามารถใช้พลังได้ แต่พอฟังคำพูดซิลเวียถึงได้เข้าใจ ใช่แล้ว.. ในโลกเดิมซิลเวียไม่สามารถใช้พลังได้ก็จริง
แต่ว่าโลกนี้ก็ไม่แน่ ไม่สิคงกล่าวได้ว่าโลกนี้มีกฎเกณฑ์แห่งความเป็นจริงที่อ่อนแอกว่าโลกเดิมไปหลายขุม
ทำให้เธอพอที่จะฝืนใช้พลังที่ถูกผนึกได้ แต่แน่นอนว่าได้รับผลตีกลับของเวทมนตร์เช่นกัน
เพราะแบบนั้นซิลเวียถึงสามารถใช้พลังในระดับที่สามารถเปลี่ยนแปลงแนวคิดได้นั่นเอง.. จะว่าโชคดีในโชคร้ายก็ได้มั้ง
หากสู้ในโลกเดิมซิลเวียคงไม่สามารถแม้แต่จะใช้เลยแหละ.. ในขณะที่ซิลเวียกระอักเลือดจนดึงดูดความสนใจเลทิเซีย
เมย์อาก็ใช้จังหวะนี้มือสีดำที่กลายเป็นกรงเล็บมังกรจ้วงแทงไปที่หน้าอกเลทิเซียด้วยความเร็วสูง
ทำให้เลทิเซียต้องปล่อยมือออกจากคอของอีกฝ่ายก่อนที่จะพุ่งดิ่งเข้าใส่เมย์อาเพื่อเป็นการตอบโต้
เลทิเซียไม่มีเวลามามัวเอ้อระเหยแล้ว ดังนั้นเธอจึงทุ่มเต็มกำลังเรียกได้ว่าใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้เลย
เมย์อาที่ถูกหลบการโจมตีระยะประชิดถึงสองครั้งสองคาทำให้เธอรู้สึกประหลาด ทันทีที่เลทิเซียพุ่งต่อยมานั้น
เมย์อาเองก็กลายร่าง.. พริบตาเดียวทั่วทั้งร่างของเธอก็ห่อหุ้มไปด้วยเกล็ดมังกรมีปีกสีดำทมิฬงอกออกมาจากด้านหลัง
ราวกับเมย์อานั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันทีที่เธอมีร่างกึ่งมังกรที่แม้จะมีความเป็นมนุษย์อยู่แต่ก็เห็นชัดว่าอีกครึ่งหนึ่งเป็นมังกร..
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ดราโกนิวท์ (Dragonewt)
“น่าสนุกดีนี่หว่า”
เธอหัวเราะบ้าคลั่งเปลี่ยนเป็นคนละคน หมัดขวากำเป็นหมัดแล้วก็ต่อยสวนใส่เลทิเซียที่พุ่งเข้า เมื่อกำปั้นทั้งสองปะทะกันนั้นเอง
“ตู้ม”
เสียงสนั่นสะท้านปฐพีดังขึ้นโลกทั้งใบเกิดรอยแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัด หมัดขวาที่ปะทะกันนั้นก็เกิดรอยปริแตก..
ข้อต่อเกล็ดของเมย์อาก็มีเลือดพุงออกมาอย่างน่ากลัว แขนขวาเลทิเซียก็มีการฉีกขาดของหลอดเลือดที่ไหลเวียนไปทั่วแขน
แต่พริบตาต่อมานั้นเอง เมย์อาใช้มือซ้ายตวัดโจมตีจากล่างซ้ายขึ้นใส่เลทิเซียอย่างรวดเร็ว
แทบจะเวลาเดียวกันนั้น เลทิเซียแบมือออกเป็นดาบพร้อมกับตวัดลงใส่กรงเล็บอีกฝ่าย… ในความเป็นจริงหากเนื้อหนังมนุษย์ปะทะกับกรงเล็บมังกร
ที่ขาดควรจะเป็นมือมนุษย์แขนมนุษย์อยู่แล้ว..
“วิชาดาวไร้ลักษณ์ คมประณีตไร้ลักษณ์”
ถูกใช้ออกมา ผสมกับร่างมารที่ต่อให้ร่างกายเลทิเซียจะอ่อนแอขนาดไหน แต่พอปลดปล่อยร่างมารที่ผลาญพลังมหาศาลนี้
พละกำลังเธอก้เพียงพอที่จะต่อกรกับอีกฝ่ายแล้ว.. ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหาใช่แขนเลทิเซียที่ขาด.. แต่กลายเป็นแขนของเมย์อากับขาดแทน
เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากแขนซ้ายของเมย์อา แต่ทว่าเธอไม่ได้กรีดร้อง แต่เธอกลับฉีกยิ้มอย่างน่ากลัว
“เจ็บดีจริงๆ ”
กล่าวเช่นนั้นก็ยกแขนที่ขาดพร้อมกับมีเลือดไหลแทงไปใส่หน้าอกเลทิเซีย และพริบตาต่อมาเลือดก็แข็งตัวจนกลายเป็นคมดาบพุ่งทะลวงหัวใจของเลทิเซียทันที
แต่เลทิเซียก็ไม่ได้ตกใจ เพราะในพริบตาต่อมาหน้าอกอีกฝ่ายก็เป็นรูเช่นกัน เพราะแขนขวาเลทิเซียได้แทงเข้าไปแล้ว
ดวงตาทั้งสองจ้องมองกันพร้อมกับ.. ดึงหัวกลับหลังพร้อมกับฟาดใส่กันอย่างรุนแรง จนโลกทั้งใบสั่นสะเทือน
อีกฝ่ายกระเด็นออกไปและเลทิเซียก็กระเด็นถอยหลังเช่นกัน เฟรย์ย่าที่เห็นภาพนี้เธอก็กุมขมับ…
“อ่า..เอาอีกแล้ว…”
เฟรย์ย่ากล่าวพึมพำ.. อันที่จริงคนคงไม่รู้ ไม่สิ คนที่รู้คงมีแค่ไม่กี่คนที่จริงแล้วเมย์อาไม่ใช่เทพมังกรแห่งวินัย.. แต่เจ้าตัวคือ..
เทพมังกรแห่งความวินาศ ซึ่งเจ้าตัวแค่เคลมว่าตัวเองเป็นแม่มดแห่งความวินัยเฉยๆ เพราะไม่อยากให้เฟรย์ย่าเลียนแบบตัวเองเธอเลยเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แต่ก็นะเพราะเฟรย์ย่าดันสืบถอดนิสัยห่ามๆ มาแล้วเลยไม่ช่วยอะไร แต่ถึงงั้นเมย์อาผู้ย่อท้อก็ยังไม่อยากให้น้องสาวผู้น่ารักของตนเองเป็นเหมือนกับเธอ
แต่พออยู่ในร่างดราโกนิวท์ทีไรก็เป็นซะแบบนี้ ซึ่งพอได้เป็นแบบนี้แล้วต่อให้ใครมาห้ามก็เอาไม่อยู่แล้วล่ะ
ดังนั้นเฟรย์ย่าจึงได้แต่ภาวนาให้พี่สาวของเธอเมย์อาไม่ลืมความต้องการหลัก.. ใช่..
“หากฆ่าเลทิเซียไม่ได้.. ก็ผนึกไว้ซะ…”
นั่นคือสิ่งที่พวกเธอคิดจะทำ แน่นอนว่าเทพมังกรผู้ที่เหลือรอดมาจากอดีตกาลอันไกลโพ้นมีหรือจะมาเลือกทางผนึก
ทำแบบนั้นก็ไม่เท่ากับหยามเกียรติแห่งเทพมังกรตนเองหรอกหรือ แค่เด็กอายุยังไม่ถึงยี่สิบก็ฆ่าไม่ได้แบบนี้รู้ถึงไหนน่าสมเพชถึงนั่น..
ดังนั้นทางเลือกของพวกเธอจึงมีเพียงสังหารเท่านั้น และแน่นอนว่าพวกเธอมั่นใจว่าสามารถฆ่าได้แน่ๆ
ต่อให้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม.. แต่ถ้าหากทำไม่สำเร็จจริงๆ ละก็พวกเธอก็ไม่คิดว่าการผนึกจะเอาคนที่พวกเธอฆ่าไม่ตายอยู่เช่นกัน..
แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงพวกเธอก็ยังพอมีทางอยู่.. ใช่.. ยังมีทางอยู่
เฟรย์ย่ายังพอเข้าใจแต่ไม่ใช่สำหรับซิลเวียที่เธอเห็นการต่อสู้ที่บ้าคลั่งของเลทิเซีย
ที่เรียกได้ว่าเหมือนพร้อมจะตายไปกับศัตรู แน่นอนว่าทุกครั้งที่ถูกกระชากหรือแทงอก มันต้องเจ็บอยู่แล้วเจ็บเจียนตายเลยล่ะ
แต่หากมีเวลาไปร้องทรมานสู้เอาเวลาไปรีบสังหารอีกฝ่ายดีกว่า อีกอย่างทางโรงเรียนเองก็เหมือนจะตกที่นั่งลำบากอยู่
ดังนั้นพอทั้งสองกระเด็นออกไปคนละทิศนั้นเอง บาดแผลเลทิเซียฟื้นคืนมาทันทีแน่นอนว่าอีกฝ่ายก็เช่นกัน
“ในเมื่อเป็นแบบนี้…ก็ต้อง..”
ในเมื่อทำถึงขนาดนี้แล้วอีกฝ่ายยังไม่เป็นไรก็คงต้องมีแต่เจ้านั่นแล้วล่ะ.. เลทิเซียกล่าวเช่นนั้นก็สลายร่างมารออกไป..
ทันทีที่เธอกลับคืนสู่ร่างปกติในพริบตาต่อมานั้นเอง.. พลังทั้งหมดทั้งมวลต่างพากันถูกดูดไปรวมบนฝ่ามือของเลทิเซีย
ทันทีที่พลังทั้งมวลถูกดูดนั้นเอง แม้แต่เมย์อาที่กำลังอยากจะต่อยศัตรูตรงหน้าอีกครั้งก็หน้าซีดลงกะทันหัน
เธอรีบกระโดดถอยหลังไปหาเฟรย์ย่าทันที เลทิเซียไม่ได้พูดอะไรทว่าฉับพลันบนฝ่ามือของเธอก็มีของบางอย่างปรากฏขึ้น..
ในตอนแรกซิลเวียเองก็มองอย่างสับสน แต่ทว่าเมื่อสิ่งนั้นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเธอก็ค่อยๆ เบิกตากว้างขึ้น..
ลูกบาศก์สีดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นในมือของเลทิเซีย.. ทันทีที่มันปรากฏขึ้น.. โลกทั้งใบก็พลันสั่นสะเทือน กฎเกณฑ์ทุกอย่างเกิดรอยปริแตก
ราวกับวันกาลอวสานแห่งโลกมาเยือนท้องฟ้าปั่นป่วน ทุกอย่างระส่ำระสายไปจนหมด
“พวกเราไม่ได้เข้าใจผิด”
“ท่านพี่นั่นมัน…”
“ใช่… อาณาจักรอนันต์…” (Infinity Domain)
“วันนั้นพวกเราไม่ได้ดูผิดไปจริงๆ .. แต่ว่าได้ยังไง..”
เฟรย์ย่าสับสน อันที่จริงแวบแรกที่พวกเธอสัมผัสได้จากเลทิเซียยามนั้นคือความรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั้นอยู่เหนือโลกไปไกลโข
แต่มันเบาบางมาก.. พอมาเจอกันอีกทีความรู้สึกนั้นก็สลายหายไปแล้ว.. ทำให้พวกเธอเข้าใจว่าพวกเธอคิดไปเอง..
แต่พอเห็นลูกบาศก์นี้พวกเธอก็จำขึ้นมาได้ทันที… ใช่แล้วตอนนั้นเลทิเซียเองก็ใช้ท่านี้ไปเช่นกันทำให้พวกเธอสัมผัสได้..
แต่ตอนนี้พอมาเห็นตรงหน้านี้..ก็อดที่จะทำให้พวกเธอใจหายไม่ได้..
“ข้าก็ไม่รู้..”
เมย์อาส่ายหน้าตอบอย่างสับสน.. แต่ทว่าในเวลาเดียวกันซิลเวียที่ยืนมองทุกอย่างอยู่เธอนั้นอ้าปากค้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
เธอที่เห็นท่านี้ในตอนนี้.. ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในทันทีแค่โยนมันใส่สวรรค์.. บางทีทุกอย่างเกี่ยวกับเทพและสวรรค์ก็หายไปจนหมดสิ้น
นี่ไม่ใช่ว่าเธอรู้จักหรือเคยสัมผัสมาก่อน.. แต่นี่คือความรู้สึกที่มาพร้อมกับสัญชาตญาณของตัวเธอเอง..
แน่นอนว่าลูกบาศก์ที่เป็นต้นตอแห่งการสังหารหมู่เมื่อห้าปีก่อนที่อยู่ในมือเลทิเซียนี้.. มันแข็งแกร่งกว่าเก่าอย่างทาบไม่ติด..
ถึงแม้เลทิเซียจะไม่อยากใช้มันก็ตาม..