บทที่ 309 – ไม่มีใครผิด
ร่างของซิลเวียกับเลทิเซียปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าอันไกลโพ้นไม่มีสิ่งใดรอบด้าน ซิลเวียมองเห็นสภาพปางตายของเลทิเซียก็กล่าวขึ้น
“ข้าขอโทษ”
ซิลเวียรู้ดีว่าความเจ็บปวดที่ได้รับหากอยู่ในสถานที่ที่ไม่สามารถฟื้นฟูหรือย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมได้อย่าความว่างเปล่าแห่งนี้
ความเจ็บปวดที่แสนจะทรมานจะคงอยู่เหมือนเดิมตลอดเวลา ซึ่งนั่นเพียงพอที่จะทำให้คนสติแตกได้แล้ว
เลทิเซียที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้น แน่นอนว่าทั้งสองไม่ได้เปิดปากคุยกัน
“เธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอโทษ.. กลับกัน.. ฉันน่ะ..”
เลทิเซียก้มหน้าลงพร้อมกับพูดเสียงเบาลงไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ยิน ทำให้ซิลเวียเอียงคอด้วยความสงสัย
“เจ้าว่าอะไรนะเมื่อกี้?”
“ฉัน.. ขอโทษ..”
เลทิเซียพูดออกมาแบบนั้น ทำให้ซิลเวียอึ้งเธอไม่รู้ว่าทำไมเลทิเซียต้องกล่าวขอโทษเธอด้วย
แน่นอนว่าเพราะเลทิเซียพาเธอมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าจะกลับได้ไหม หากไม่ใช่เพราะว่าซิลเวียบังเอิญอยู่ใกล้ๆ ตอนที่ถูกโจมตีละก็…
บางทีเธอก็คงได้กลับสวรรค์ไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเลทิเซียนั้นรู้ดีกว่าใครว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนของจักรวรรดิมังกรมาลอบโจมตี
เพราะดูจากลูเซียที่มีพลังของสองผู้กล้าที่เลทิเซียเคยสังหารไปละก็.. บางทีลูเซียคงเป็นคนที่ทำลายอาณาจักรเวทมนตร์มิราลิสแน่ๆ
ซึ่งหากพิจารณาถึงพลังแปลกประหลาดที่กลืนกินเลทิเซียบางทีมันคงเหนือกว่าพลังทุกอย่างที่เลทิเซียเคยเจอมา
อาจจะพอกับเจ้าหมึกยักษ์ที่หลอมรวมกับความว่างเปล่าไปแล้วก็ได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นไม่แปลกที่จะทำลายอาณาจักรมิราลิสได้
แน่นอนว่าพูดถึงจักรวรรดิมังกร เลทิเซียก็รู้ว่าไอ้จักรวรรดิบัดซบนี่มันเป็นต้นตอของทุกๆ อย่างที่จะเกิดหลังจากนี้
กล่าวเป้าหมายของพวกมันคือเลทิเซียตั้งแต่แรก แต่ซิลเวียดันโชคร้ายมาอยู่ด้วยเฉยๆ เพียงเท่านั้นเอง..
เลทิเซียไม่เคยเห็นซิลเวียกรีดร้องด้วยความทรมานมาก่อน.. เธอปกติจะยิ้มและร่าเริงอยู่เสมอจนบางครั้งก็ทำเลทิเซียนึกถึงพี่สาวได้เลยล่ะ
แต่เมื่อเห็นเสียงกรีดร้องของซิลเวียเลทิเซียก็รู้สึกผิดและตระหนักว่า บางทีหากตนเองไม่อยู่กับซิลเวียตอนนั้นละก็…
“ฉันขอโทษจริงๆ .. เป็นเพราะฉันเธอถึงได้มาอยู่ในที่แบบนี้..ไม่พอ ยังทำให้เธอต้องเจ็บปวด..”
เลทิเซียมองแผลที่มือและที่หน้าอกซิลเวีย ไม่ใช่แค่เมื่อกี้ แต่ยังรวมถึงก่อนหน้านี้ด้วย… ทั้งที่ซิลเวียไม่เกี่ยวด้วยกลับต้องมาพัวพันกับเลทิเซีย
เลทิเซียไม่ไกล้าที่จะมองหน้าซิลเวียด้วยซ้ำ พอซิลเวียได้ยินแบบนั้นเธอก็อึ้งก่อนที่จะใช้มือสองข้างยกหน้าเลทิเซียขึ้นมามอง
พร้อมกับจ้องเข้าไปในตาเลทิเซีย ทั้งสองจ้องเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ซิลเวียก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม
“เลทิเซียก่อนหน้าเจ้ารู้สึกยังไงกับข้า.. ช่วงที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรอาเดฟด้วยกันน่ะ”
“ฉัน……”
ซิลเวียกล่าวถามด้วยความเคร่งขรึมสีหน้าเธอจริงจังมาก เลทิเซียอึ้งแต่ก็เปิดปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ออก..
จะให้พูดยังไง รู้สึกรำคาญ? แบบนั้นมันอาจจะทำให้ซิลเวียเข้าใจผิดได้.. อีกทั้งมันอาจจะทำให้เธอเสียใจ
ไม่สิ.. เธอก็น่าจะรู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้ว.. แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะพูดไปตรงๆ อยู่ดี เลทิเซียรู้สึกแบบนั้น.. ทว่าเธอก็ไม่อยากจะโกหก
ในตอนที่เลทิเซียลังเล ซิลเวียเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน เธอก็พูดขึ้นเช่นกัน
“ห้ามโกหกด้วย”
“..ฉัน..รู้สึก..ไม่ค่อยชอบเธอ”
“อืม แล้วตอนนี้ล่ะ?”
“แน่นอนว่าต้องชอบเธออยู่แล้ว เพราะเธอน่ะก็เป็นคนสำคัญของฉันเหมือนกัน”
เลทิเซียพูดด้วยความเร็วสูง ซิลเวียที่ได้ยินก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่จะถามขึ้นมาอีกด้วยความสงสัยว่า
“เหตุผลที่เจ้าชอบข้าคืออะไรงั้นเหรอ?”
“เพราะว่า….”
เลทิเซียที่กำลังจะพูดออกไปก็หยุดเงียบลงไปสักพัก เลทิเซียทำไมถึงชอบซิลเวียล่ะ.. เพราะว่าเธอเหมือนพี่สาวในชาติก่อนในบางครั้ง?
หรือเป็นเพราะว่ารู้สึกผิดที่ในอดีตเคยมีทัศนคติแย่ๆ ต่อเธอคนนี้? หรืออาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ด้วยกันมานาน?
ไม่.. มันไม่ใช่แบบนั้น.. ภาพระยะเวลาตลอดห้าปีที่ผ่านมาลอยขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อนก็ดี ในฐานะครูก็ดี..
ภาพในอดีตมากมายลอยขึ้นมาในหัว..
“เลทิเซีย ข้าเจอผีอีกแล้ว ขอนอนด้วยได้ไหม?”
ในคืนหนึ่งซิลเวียมาปลุกเลทิเซียกลางดึกด้วยความกลัวเธอพยายามดันตัวเข้าไปบนเตียงเลทิเซียทั้งที่ถูกชาร์ล็อตขวางเอาไว้
“เลทิเซีย เลทิเซีย ข้าหิวอ่ะ มีอาหารไหม?”
เสียงเคาะหน้าต่างดังขึ้นทั้งๆ ที่นี่เป็นชั้นสอง บางทีมีคนมามองซิลเวียที่เกาะหน้าต่างจากด้านนอกคงคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในเจ็ดเรื่องลึกลับแน่ๆ
“เลทิเซียวันนี้ข้าได้มาดูแลชั้นเจ้าไปฝึกนอกสถานที่ล่ะ”
บางครั้งจะมีการฝึกนอกสถานที่โดยการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไป ซึ่งสถานที่ที่ซิลเวียไปดูแลคือแดนน้ำแข็ง
“เลทิเซียข้าหน้าอ่ะ.. มีผ้าห่มไหม พอดีข้าลืมเอาผ้าห่มมาอ่ะ”
เธอทั้งที่เป็นครูที่ควรจะเตรียมพร้อมทุกอย่างมากกว่าใคร แต่กลับกอดตัวเดินมาขอผ้าห่มจากนักเรียน.. ทำให้ไม่มีกลิ่นอายของนักเรียนเลยสักนิด
ภาพตลอดความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามา ทั้งความเซ่อซ่า ทั้งความขี้ลืม.. ทุกอย่างมันทำให้เลทิเซียมองไปแล้วยิ้มที่มุมปาก..
เธอไม่เหมือนพี่เอลน่าสักนิด.. พี่เอลน่าไม่มีทางลืมแบบนั้น.. พี่เอลน่ามีนิสัยที่มั่นคงเสมอ.. ใช่ เธอไม่เหมือนพี่เลยสักนิด
เพราะซิลเวียก็คือซิลเวีย.. ไม่ว่าจะท่าทางที่เหมือนจะเป็นผู้ดูแลเลทิเซียแต่กลับต้องให้เลทิเซียดูแลอยู่ตลอด
อ่า.. ไม่ว่าจะห้าปีที่ผ่านมาหรือก่อนห้าปีก่อน.. ซิลเวียก็ยังเป็นคนที่เลทิเซียต้องดูแลอยู่ ไม่ใช่เธอที่ดูแลเลทิเซีย
ขืนไม่มีเลทิเซียอยู่บางทีซิลเวียคงอดตายไปตั้งนานแล้ว.. และถึงแม้เลทิเซียจะบอกว่ารำคาญแต่กลับไม่เคยจะปฏิเสธเลย
“ฉันชอบ..เธอที่เป็นเธอ.. ซิลเวียที่ฉันรู้จักมักจะเซ่อซ่า.. มักจะให้ฉันต้องดูแลอยู่เสมอ.. ให้ตายสิ เธอนี่มันไม่สมอายุเลยนะ”
ภาพทุกอย่างราวกับเป็นเพียงมายาในอดีตดวงตาเลทิเซียจดจ้องไปที่เบื้องหน้าพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
พอซิลเวียได้ยินเช่นนั้นเธอก็ยิ้มเล็กน้อย..
“ข้าเองก็ชอบเจ้าเหมือนกัน.. ตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน ตลอดมามีแต่คนยอมรับข้าอยู่เสมอ.. ไม่สิ.. ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านแม่”
“เส้นทางที่ข้าเดินถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบที่ท่านแม่และคนอื่นจัดสรรไว้ให้ ทุกคนมักนินทาข้าว่าหากเกิดเป็นข้า หากได้วาสนาแบบข้า”
“จนท้ายที่สุดข้าก็ไม่มีใครเคียงข้างเลย.. แต่เจ้า.. มีเจ้าที่มองข้าด้วยสายตาปกติ มันอาจจะไม่ใช่สายตาที่มองเพื่อน แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งสายตานับถือหรืออิจฉา”
“มันเป็นสายตาที่มองคนในระดับเดียวกัน.. ข้าคิดว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะเจ้าไม่รู้จักข้า … แต่ทว่ามันดีสำหรับข้าแล้ว”
“เพราะงั้นข้าถึงอยากสนิทกับเจ้ามากขึ้นอีก.. มากขึ้นอีก.. สักวันข้าจะต้องเป็นเพื่อนเจ้าให้ได้.. เพื่อนคนแรกของข้า”
“จนเมื่อห้าปีก่อน.. เจ้าได้ยอมรับข้า ข้าไม่รู้แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเปลี่ยนไปมาก บางทีคงเกี่ยวกับอะไรหลายๆ อย่างในช่วงปีนั้น”
“ข้าในตอนนั้นไม่อาจถามเจ้าได้ ไม่อาจรู้ว่าทำไมเจ้าถึงเปลี่ยนไปขนาดนั้น แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ เพราะตอนนี้ข้าได้พบเจอปัญหาพร้อมกับเจ้า”
“และข้าคิดว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าเพื่อน.. พวกเราน่ะเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหมเลทิเซีย”
ซิลเวียกล่าวถามขึ้น.. เลทิเซียที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าตอบ ซิลเวียจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เพราะงั้น เจ้าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องขอโทษ.. เพราะเพื่อนน่ะ.. ต่อให้ต้องเจ็บปวดไปด้วยกันขนาดไหนก็จะไม่โทษซึ่งกันและกัน..”
ซิลเวียกล่าวแบบนั้นก็ทำให้เลทิเซียไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้.. อ่า… เพื่อนจะไม่โทษซึ่งกันและกันงั้นเหรอ..
เลทิเซียพูดขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเครือ..
“ขอบคุณนะ”