การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 347

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 347 – วันประหาร

ผู้หญิงคนนั้นเห็นเลทิเซียตะโกนขึ้นมาแทนเวโรเน่เธอก็ตกใจ ต้องเข้าใจก่อนว่าตอนนี้เลทิเซียไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีขนาดนั้น

แม้เธอจะเติบโตขึ้นมากแล้ว แต่ทว่าความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกับเธอไปนั้น

เธอไม่เคยชินชากับมันได้เลย.. ไม่สิ หากเมื่อเธอชินชากับมัน มันก็หมายความว่าจิตใจของเธอได้พังลงไปแล้วนั่นเออง

แต่เพียงแค่นั้นคงไม่ทำให้เลทิเซียผู้ที่สงบเรียบร้อยมาตลอดห้าปีหลุดจากการควบคุม ปล่อยตนเองไปตามอารมณ์ได้แน่นอน

เพราะว่าเธอรู้ดีกว่าใคร เรื่องของการใช้อารมณ์นำความคิดไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ถูกต้องเลยแม้แต่น้อย

แต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ ซิลเวียก็ตายไปแล้ว.. ไวท์ก็ตายตามไปอีก.. ตอนนี้ที่พึ่งสุดท้ายทางจิตใจของเธอเหลือเพียงไม่กี่อย่างบนโลก

ความเสียใจนี้นั้น.. มันมีรุนแรงเสียจนเธอแทบจะลืมไปแล้วว่าน้องสาวของเธอนั้นอยู่ที่โลกนี้..

น้องสาวที่เลทิเซียให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด… แต่ทว่าการสูญเสียของคนทั้งสองที่ว่าไปมันสร้างความสะท้านสะเทือนให้เลทิเซียมากถึงขั้นนั้น

สำหรับเลทิเซียแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อนก็ดีหรือครอบครัวก็ช่างทุกอย่างล้วนมีคุณค่าในตัวเอง… และในขณะที่เธอลุกขึ้นยืนด้วยขาสองข้างตัวเองนั้น

ในวินาทีที่เธอได้ตัดสินใจที่จะก้าวไปต่อเพื่อไขวว่คว้าความหวังของตนเอง.. หรือแม้แต่ถ้าไม่มีมันเธอก็จะสร้างมันขึ้นมา

ด้วยมือทั้งสองข้าง.. ใช่ เธอตัดสินใจแบบนั้นแท้ๆ .. แต่เมื่อมาถึงโรงเรียนกลับไม่เจอรอยยิ้มอันสดใสของทสึรุ..

สิ่งที่รอเธออยู่มีเพียงป้ายหลุมศพอันอ้างว้างโดดเดี่ยว.. คำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกันมันคืออะไรกัน..

ทุกอย่างตรงหน้าของเธอมันช่างพร่าเลือน.. ใบหน้าสุดท้ายที่เธอได้เห็นมันคือเมื่อตอนไหน

ยังไม่ทันได้บอกลากันด้วยซ้ำ… ไม่สิ.. เธอ ทสึรุยังไม่ได้เจอบิดาหรือมารดาของตัวเองเลยด้วยซ้ำ..

ป้ายหลุมศพตรงหน้านี้มันมีมากมายกว่าที่คนอื่นเห็นในสายตาของเลทิเซีย มันไม่ได้มีเพียงเรือนร่างที่เปรียบดั่งวีรสตรีของทสึรุ

แต่ว่ามีทั้งความคาดหวัง และความหวัง.. รวมถึงความสิ้นหวังต่างๆ ล้วนอยู่ในป้ายหลุมศพนี้

เธอคนนั้นที่เคยสู้อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเลทิเซีย ปกป้องเลทิเซียจากความตายเพราะเพียงแค่คำว่าเพื่อน

สำหรับเลทิเซียในยามนั้นไม่เคยเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้พูดอะไรอยู่กันแน่.. คำว่าเพื่อนสำหรับเธอนั้นเธอยังไม่เข้าใจมันด้วยซ้ำในตอนนั้น

ความฝันอันเลือนรางที่จะได้กลับไปเอบิดามารดา.. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวของเธอมันอัดแน่นอยู่ที่ป้ายหลุมศพตรงหน้าเลทิเซีย

มันจบแล้ว.. เลทิเซียไม่ได้เห็นช่วงสุดท้ายของชีวิตเธอด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันช่างพร่ามัวเหลือเกิน..

อนาคตของเธอที่วาดฝันมันคืออะไร โลกใบนี้สำหรับเธอมันคืออะไร.. แต่ทว่าเมื่อที่เธอกำลังร่วงดิ่งลงสู่ความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด

โลกที่ควรจะส่องสว่างและเต็มไปด้วยชีวิตชีวายิ่งกว่าด้านนอกนั่น.. ที่ความว่างเปล่าแห่งนั้นแท้ๆ ..

แต่เมื่อเธอเหยียบย่างลงบนโลกนี้อีกครั้ง ทุกอย่างกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าไม่เหลืออะไรเลย..

ในเวลานั้นความรู้สึกสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามาจากทุกมุมทำให้เลทิเซียไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป..

ทำไม คนที่ตายถึงต้องเป็นทสึรุ? เด็กคนนี้ไม่เคยทำอะไรผิดแท้ๆ เธอเพียงแค่เป็นเด็กที่แสวงหาแสงสว่างเป็นของตัวเอง..

ทำไมคนที่ตายถึงเป็นทสึรุ.. ไอ้พวกบัดซบที่มีชีวิตรอดอยู่ยังคงยิ้มหน้าชื่นตาบานภายใต้ความตายของทสึรุงั้นเหรอ..

ทำไมพวกมันถึงไม่ช่วยเธอ.. ไม่ว่ามนุษย์ก็ดี ปีศาจก็ช่างๆ ..

“ไปเที่ยวในเมืองกันเถอะ”

“ไปสิๆ ”

“โรงเรียนนี่มันน่าเบื่อชะมัด”

เสียงมากมายจากผู้คนหลากหลายหน้าตาต่างลอยเข้ามาในหูของเลทิเซียจากทั่วทุกมุมในโรงเรียน..

ทำไมไอ้พวกคนที่ไม่ได้เรื่องพวกนี้ถึงไม่ตายไปแทนทสึรุ.. ทสึรุที่มีเพียงคนเดียวบนโลก ทสึรุที่แบกรับความเจ็บปวดมามากมาย..

ซิลเวียกับไวท์เองก็เหมือนกัน.. ถ้าหากไม่ถูกดึงเข้าไปในโลกแห่งความว่างเปล่าด้วยฝีมือของไอ้จักรวรรดิมังกรบัดซบอะไรนั่น

พวกเธอก้ไม่ต้องตาย.. ทำไม.. ทำไมคนที่ตายถึงไม่ใช่คนที่ไร้ค่าพวกนี้ ทำไมถึงเป็นพวกเธอ…

พวกเธอที่แสนล้ำค่า.. ความโกรธเลทิเซียที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่คลุ้มคลั่งนั้นแทบจะระเบิดออกมา

แต่แล้วเมื่อเวโรเน่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเลทิเซียและเลทิเซียที่เกลียดชังเกือบจะฆ่าเธอด้วยมือคู่นั้นแท้ๆ ..

แต่เมื่อเลทิเซียมองไปที่สายตาที่รู้สึกผิดของเวโรเน่นั้น..มันทำให้เธอถูกปลุกขึ้นมาจากความคลุ้มคลั่งของตัวเอง..

ใช่แล้ว คนพวกนี้ไม่ได้ผิดอะไร กลับกันเพราะตัวเธอเองต่างหาก.. เพราะเธอคิดจะใช้คนพวกนี้เป็นเครื่องมือในการต่อกรกับประเทศอื่น

ถึงได้บอกให้ทสึรุปกป้องที่แห่งนี้เอาไว้.. ใช่.. หากเลทิเซียไม่บอกแบบนั้นบางทีทสึรุอาจจะไม่ต้องตายก็ได้..

เพราะเธออีกแล้วคนสำคัญถึงต้องตาย เพราะเธอซิลเวียถึงต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเธอ เพราะเธอไวท์ถึงต้องฆ่าฟันกับพี่น้องของตัวเองอย่างเอาเปนเอาตาย

เพราะคำพูดที่เห็นแก่ตัวของเธอทสึรุที่แสนสำคัญคนนั้นถึงต้องเสียชีวิตลง.. ไม่ใช่คนอื่นเลยเป็นเพราะริมฝีปากพล่อยๆ ของเธอทั้งนั้น

เลทิเซียก้มมองลงที่มือตัวเอง มือสองข้างนี้ไม่เพียงแค่ฆ่าคนอื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่.. ไม่เพียงแค่ฆ่าคนที่ตนเองเกลียดชัง..

แต่ยังพรากเอาชีวิตของคนสำคัญของตนเองไป ไม่ใช่เพียงแค่สามคนนี้แต่ยังรวมถึงเมื่อห้าปีก่อนด้วย

ทุกๆ คนล้วนตายเพราะการกระทำของเธอ..

ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อห้าปีก่อนเลย แม้จะพยายามไม่คิดลบแล้ว..สุดท้ายการกระทำของเธอก็ยังฆ่าเอาชีวิตคนสำคัญไปอีกครั้งแล้วก็อีกครั้ง

หากไม่มีเธออยู่มาตั้งแต่แรก..

หากไม่มีเลทิเซียอยู่บนโลกนี้ตั้งแต่แรก…

หัวใจสีแดงของเธอเกิดรอยแตกร้าวขึ้นอีกครั้งราวกับว่า.. จิตใจของเธอเริ่มจะพังทลายลงไปอีกครั้ง

จมลงสู่ก้นทะเลอันมืดมิด.. แม้แต่ตัวตนของอามาเระที่เป็นภูตแห่งความรักยังเลือนราง… เพราะความรู้สึกด้านลบในตัวเลทิเซียนั้นมีมากเกินไป..

มันมีมากเกินกว่าความรักที่มอบให้คนอื่น.. มันคือ.. ความเกลียดชังที่มอบให้กับตัวเธอเอง

แต่ทว่านั่นยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ทั้งโลกราวกับพยายามจะตอกย้ำความเจ็บปวดของเลทิเซียด้วยคำพูดอันแสนเย็นชาว่า..

“วันประหารของชาร์ล็อต..”

ชาร์ล็อต..เพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่..เพื่อนคนสุดท้ายของเธอกำลังจะถูกประหาร? นั่นไม่ใช่เรื่องตลกอะไรเลย

จริงอยู่ที่เลทิเซียไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรเกี่ยวกับชาร์ล็อตได้เลย ตั้งแต่มาที่โรงเรียนลิเบอร์ แต่ถูกประหารนี่มันหมายความว่าไง..

เลทิเซียตะโกนด้วยเสียงที่สั่นเครือของตัวเอง

มือทั้งสองข้างนั้นคว้าไปจับไหล่ของผู้หญิงคนนั้น แม้แต่เธอยังสัมผัสได้ว่ามือสองข้างเล็กๆ ของเลทิเซียนั้นมีพลังมากแค่ไหน

ราวกับว่าร่างกายที่อ่อนแอของเลทิเซียนั้นไม่มีมาตั้งแต่แรก.. แต่อย่างไรก็ตามที่หญิงสาวสามารถสัมผัสได้ชัดเจนยิ่งกว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพเลทิเซียคือ…

มือทั้งสองข้างเธอกำลังสั่นอยู่.. ราวกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่..

“คือว่า….”

หญิงสาวคนนั้นจึงไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอย่างไรดี.. เธอหันไปมองเวโรเน่ที่อยู่ด้านข้าง.. ทุกคนในโรงเรียนนี้ล้วนรู้จักเลทิเซีย

ผู้ที่ทั้งฉลาดและแข็งแกร่งมากด้วยพรสวรรค์และเมื่อรู้จักเลทิเซียย่อมต้องรู้จักรูมเมจของเลทิเซียเป็นอย่างดี..

ชาร์ล็อต เพียงแค่นี้ก็พอเดากันได้แล้วว่าทั้งสองคนนี้คงเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก.. นั่นเพราะอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันมาตลอดห้าปีเลยนะ..

แต่ว่าหลังจากที่เลทิเซียมีข่าวว่าหายตัวไปนั้น.. ชาร์ล็อตก็เปลี่ยนไปแม้จะยังดุร้ายเหมือนเดิม.. แต่ยังมีความก้าวร้าวและความบ้าบิ่นมาด้วย..

เธอหายตัวไปหลังจากที่ทสึรุตาย.. ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหนนับตั้งแต่นั้น.. จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ละนะ..

ทว่าเลทิเซียไม่ได้มีเวลามาฟังคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น..กำลังจะถูกประหาร?

บางทีข่าวนี้คงแพร่กระจายออกมานานแล้ว.. แต่เพราะการกระจายข่าวของโลกใบนี้ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น

ทำให้ข่าวพึ่งมาถึง..แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ก็เป็นวันประหารเสียแล้ว..

ความกระวนกระวายของเลทิเซียนั้นมีมากเกินไปเธอไม่ได้สนใจอะไรเลยมือที่จับแขนของหญิงสาวค่อยๆ แน่นขึ้นจนเธอรู้สึกเจ็บ

หญิงสาวจึงไม่ลังเลที่จะบอกออกไป..

“ที่อดีตอาณาจักรมิราลิส…”

ดวงตาเลทิเซียหดเล็กลงก่อนที่จะหยิบจี้สีแดงขึ้นมาและหายวับไปแทบจะทันที ไม่ฟังด้วยซ้ำว่าอยู่จุดไหนของอาณาจักร..

“ชาร์ล็อต…”

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท