บทที่ 347 – วันประหาร
ผู้หญิงคนนั้นเห็นเลทิเซียตะโกนขึ้นมาแทนเวโรเน่เธอก็ตกใจ ต้องเข้าใจก่อนว่าตอนนี้เลทิเซียไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีขนาดนั้น
แม้เธอจะเติบโตขึ้นมากแล้ว แต่ทว่าความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกับเธอไปนั้น
เธอไม่เคยชินชากับมันได้เลย.. ไม่สิ หากเมื่อเธอชินชากับมัน มันก็หมายความว่าจิตใจของเธอได้พังลงไปแล้วนั่นเออง
แต่เพียงแค่นั้นคงไม่ทำให้เลทิเซียผู้ที่สงบเรียบร้อยมาตลอดห้าปีหลุดจากการควบคุม ปล่อยตนเองไปตามอารมณ์ได้แน่นอน
เพราะว่าเธอรู้ดีกว่าใคร เรื่องของการใช้อารมณ์นำความคิดไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ถูกต้องเลยแม้แต่น้อย
แต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ ซิลเวียก็ตายไปแล้ว.. ไวท์ก็ตายตามไปอีก.. ตอนนี้ที่พึ่งสุดท้ายทางจิตใจของเธอเหลือเพียงไม่กี่อย่างบนโลก
ความเสียใจนี้นั้น.. มันมีรุนแรงเสียจนเธอแทบจะลืมไปแล้วว่าน้องสาวของเธอนั้นอยู่ที่โลกนี้..
น้องสาวที่เลทิเซียให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด… แต่ทว่าการสูญเสียของคนทั้งสองที่ว่าไปมันสร้างความสะท้านสะเทือนให้เลทิเซียมากถึงขั้นนั้น
สำหรับเลทิเซียแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อนก็ดีหรือครอบครัวก็ช่างทุกอย่างล้วนมีคุณค่าในตัวเอง… และในขณะที่เธอลุกขึ้นยืนด้วยขาสองข้างตัวเองนั้น
ในวินาทีที่เธอได้ตัดสินใจที่จะก้าวไปต่อเพื่อไขวว่คว้าความหวังของตนเอง.. หรือแม้แต่ถ้าไม่มีมันเธอก็จะสร้างมันขึ้นมา
ด้วยมือทั้งสองข้าง.. ใช่ เธอตัดสินใจแบบนั้นแท้ๆ .. แต่เมื่อมาถึงโรงเรียนกลับไม่เจอรอยยิ้มอันสดใสของทสึรุ..
สิ่งที่รอเธออยู่มีเพียงป้ายหลุมศพอันอ้างว้างโดดเดี่ยว.. คำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกันมันคืออะไรกัน..
ทุกอย่างตรงหน้าของเธอมันช่างพร่าเลือน.. ใบหน้าสุดท้ายที่เธอได้เห็นมันคือเมื่อตอนไหน
ยังไม่ทันได้บอกลากันด้วยซ้ำ… ไม่สิ.. เธอ ทสึรุยังไม่ได้เจอบิดาหรือมารดาของตัวเองเลยด้วยซ้ำ..
ป้ายหลุมศพตรงหน้านี้มันมีมากมายกว่าที่คนอื่นเห็นในสายตาของเลทิเซีย มันไม่ได้มีเพียงเรือนร่างที่เปรียบดั่งวีรสตรีของทสึรุ
แต่ว่ามีทั้งความคาดหวัง และความหวัง.. รวมถึงความสิ้นหวังต่างๆ ล้วนอยู่ในป้ายหลุมศพนี้
เธอคนนั้นที่เคยสู้อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเลทิเซีย ปกป้องเลทิเซียจากความตายเพราะเพียงแค่คำว่าเพื่อน
สำหรับเลทิเซียในยามนั้นไม่เคยเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้พูดอะไรอยู่กันแน่.. คำว่าเพื่อนสำหรับเธอนั้นเธอยังไม่เข้าใจมันด้วยซ้ำในตอนนั้น
ความฝันอันเลือนรางที่จะได้กลับไปเอบิดามารดา.. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวของเธอมันอัดแน่นอยู่ที่ป้ายหลุมศพตรงหน้าเลทิเซีย
มันจบแล้ว.. เลทิเซียไม่ได้เห็นช่วงสุดท้ายของชีวิตเธอด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันช่างพร่ามัวเหลือเกิน..
อนาคตของเธอที่วาดฝันมันคืออะไร โลกใบนี้สำหรับเธอมันคืออะไร.. แต่ทว่าเมื่อที่เธอกำลังร่วงดิ่งลงสู่ความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด
โลกที่ควรจะส่องสว่างและเต็มไปด้วยชีวิตชีวายิ่งกว่าด้านนอกนั่น.. ที่ความว่างเปล่าแห่งนั้นแท้ๆ ..
แต่เมื่อเธอเหยียบย่างลงบนโลกนี้อีกครั้ง ทุกอย่างกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าไม่เหลืออะไรเลย..
ในเวลานั้นความรู้สึกสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามาจากทุกมุมทำให้เลทิเซียไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป..
ทำไม คนที่ตายถึงต้องเป็นทสึรุ? เด็กคนนี้ไม่เคยทำอะไรผิดแท้ๆ เธอเพียงแค่เป็นเด็กที่แสวงหาแสงสว่างเป็นของตัวเอง..
ทำไมคนที่ตายถึงเป็นทสึรุ.. ไอ้พวกบัดซบที่มีชีวิตรอดอยู่ยังคงยิ้มหน้าชื่นตาบานภายใต้ความตายของทสึรุงั้นเหรอ..
ทำไมพวกมันถึงไม่ช่วยเธอ.. ไม่ว่ามนุษย์ก็ดี ปีศาจก็ช่างๆ ..
“ไปเที่ยวในเมืองกันเถอะ”
“ไปสิๆ ”
“โรงเรียนนี่มันน่าเบื่อชะมัด”
เสียงมากมายจากผู้คนหลากหลายหน้าตาต่างลอยเข้ามาในหูของเลทิเซียจากทั่วทุกมุมในโรงเรียน..
ทำไมไอ้พวกคนที่ไม่ได้เรื่องพวกนี้ถึงไม่ตายไปแทนทสึรุ.. ทสึรุที่มีเพียงคนเดียวบนโลก ทสึรุที่แบกรับความเจ็บปวดมามากมาย..
ซิลเวียกับไวท์เองก็เหมือนกัน.. ถ้าหากไม่ถูกดึงเข้าไปในโลกแห่งความว่างเปล่าด้วยฝีมือของไอ้จักรวรรดิมังกรบัดซบอะไรนั่น
พวกเธอก้ไม่ต้องตาย.. ทำไม.. ทำไมคนที่ตายถึงไม่ใช่คนที่ไร้ค่าพวกนี้ ทำไมถึงเป็นพวกเธอ…
พวกเธอที่แสนล้ำค่า.. ความโกรธเลทิเซียที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่คลุ้มคลั่งนั้นแทบจะระเบิดออกมา
แต่แล้วเมื่อเวโรเน่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเลทิเซียและเลทิเซียที่เกลียดชังเกือบจะฆ่าเธอด้วยมือคู่นั้นแท้ๆ ..
แต่เมื่อเลทิเซียมองไปที่สายตาที่รู้สึกผิดของเวโรเน่นั้น..มันทำให้เธอถูกปลุกขึ้นมาจากความคลุ้มคลั่งของตัวเอง..
ใช่แล้ว คนพวกนี้ไม่ได้ผิดอะไร กลับกันเพราะตัวเธอเองต่างหาก.. เพราะเธอคิดจะใช้คนพวกนี้เป็นเครื่องมือในการต่อกรกับประเทศอื่น
ถึงได้บอกให้ทสึรุปกป้องที่แห่งนี้เอาไว้.. ใช่.. หากเลทิเซียไม่บอกแบบนั้นบางทีทสึรุอาจจะไม่ต้องตายก็ได้..
เพราะเธออีกแล้วคนสำคัญถึงต้องตาย เพราะเธอซิลเวียถึงต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเธอ เพราะเธอไวท์ถึงต้องฆ่าฟันกับพี่น้องของตัวเองอย่างเอาเปนเอาตาย
เพราะคำพูดที่เห็นแก่ตัวของเธอทสึรุที่แสนสำคัญคนนั้นถึงต้องเสียชีวิตลง.. ไม่ใช่คนอื่นเลยเป็นเพราะริมฝีปากพล่อยๆ ของเธอทั้งนั้น
เลทิเซียก้มมองลงที่มือตัวเอง มือสองข้างนี้ไม่เพียงแค่ฆ่าคนอื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่.. ไม่เพียงแค่ฆ่าคนที่ตนเองเกลียดชัง..
แต่ยังพรากเอาชีวิตของคนสำคัญของตนเองไป ไม่ใช่เพียงแค่สามคนนี้แต่ยังรวมถึงเมื่อห้าปีก่อนด้วย
ทุกๆ คนล้วนตายเพราะการกระทำของเธอ..
ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อห้าปีก่อนเลย แม้จะพยายามไม่คิดลบแล้ว..สุดท้ายการกระทำของเธอก็ยังฆ่าเอาชีวิตคนสำคัญไปอีกครั้งแล้วก็อีกครั้ง
หากไม่มีเธออยู่มาตั้งแต่แรก..
หากไม่มีเลทิเซียอยู่บนโลกนี้ตั้งแต่แรก…
หัวใจสีแดงของเธอเกิดรอยแตกร้าวขึ้นอีกครั้งราวกับว่า.. จิตใจของเธอเริ่มจะพังทลายลงไปอีกครั้ง
จมลงสู่ก้นทะเลอันมืดมิด.. แม้แต่ตัวตนของอามาเระที่เป็นภูตแห่งความรักยังเลือนราง… เพราะความรู้สึกด้านลบในตัวเลทิเซียนั้นมีมากเกินไป..
มันมีมากเกินกว่าความรักที่มอบให้คนอื่น.. มันคือ.. ความเกลียดชังที่มอบให้กับตัวเธอเอง
แต่ทว่านั่นยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ทั้งโลกราวกับพยายามจะตอกย้ำความเจ็บปวดของเลทิเซียด้วยคำพูดอันแสนเย็นชาว่า..
“วันประหารของชาร์ล็อต..”
ชาร์ล็อต..เพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่..เพื่อนคนสุดท้ายของเธอกำลังจะถูกประหาร? นั่นไม่ใช่เรื่องตลกอะไรเลย
จริงอยู่ที่เลทิเซียไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรเกี่ยวกับชาร์ล็อตได้เลย ตั้งแต่มาที่โรงเรียนลิเบอร์ แต่ถูกประหารนี่มันหมายความว่าไง..
เลทิเซียตะโกนด้วยเสียงที่สั่นเครือของตัวเอง
มือทั้งสองข้างนั้นคว้าไปจับไหล่ของผู้หญิงคนนั้น แม้แต่เธอยังสัมผัสได้ว่ามือสองข้างเล็กๆ ของเลทิเซียนั้นมีพลังมากแค่ไหน
ราวกับว่าร่างกายที่อ่อนแอของเลทิเซียนั้นไม่มีมาตั้งแต่แรก.. แต่อย่างไรก็ตามที่หญิงสาวสามารถสัมผัสได้ชัดเจนยิ่งกว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพเลทิเซียคือ…
มือทั้งสองข้างเธอกำลังสั่นอยู่.. ราวกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่..
“คือว่า….”
หญิงสาวคนนั้นจึงไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอย่างไรดี.. เธอหันไปมองเวโรเน่ที่อยู่ด้านข้าง.. ทุกคนในโรงเรียนนี้ล้วนรู้จักเลทิเซีย
ผู้ที่ทั้งฉลาดและแข็งแกร่งมากด้วยพรสวรรค์และเมื่อรู้จักเลทิเซียย่อมต้องรู้จักรูมเมจของเลทิเซียเป็นอย่างดี..
ชาร์ล็อต เพียงแค่นี้ก็พอเดากันได้แล้วว่าทั้งสองคนนี้คงเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก.. นั่นเพราะอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันมาตลอดห้าปีเลยนะ..
แต่ว่าหลังจากที่เลทิเซียมีข่าวว่าหายตัวไปนั้น.. ชาร์ล็อตก็เปลี่ยนไปแม้จะยังดุร้ายเหมือนเดิม.. แต่ยังมีความก้าวร้าวและความบ้าบิ่นมาด้วย..
เธอหายตัวไปหลังจากที่ทสึรุตาย.. ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหนนับตั้งแต่นั้น.. จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ละนะ..
ทว่าเลทิเซียไม่ได้มีเวลามาฟังคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น..กำลังจะถูกประหาร?
บางทีข่าวนี้คงแพร่กระจายออกมานานแล้ว.. แต่เพราะการกระจายข่าวของโลกใบนี้ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น
ทำให้ข่าวพึ่งมาถึง..แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ก็เป็นวันประหารเสียแล้ว..
ความกระวนกระวายของเลทิเซียนั้นมีมากเกินไปเธอไม่ได้สนใจอะไรเลยมือที่จับแขนของหญิงสาวค่อยๆ แน่นขึ้นจนเธอรู้สึกเจ็บ
หญิงสาวจึงไม่ลังเลที่จะบอกออกไป..
“ที่อดีตอาณาจักรมิราลิส…”
ดวงตาเลทิเซียหดเล็กลงก่อนที่จะหยิบจี้สีแดงขึ้นมาและหายวับไปแทบจะทันที ไม่ฟังด้วยซ้ำว่าอยู่จุดไหนของอาณาจักร..
“ชาร์ล็อต…”