ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 737 หวังดี (ปลาย)

ตอนที่ 737 หวังดี (ปลาย)

สวี​ลิ่ง​อี๋​มีสี​หน้า​ชื่นชม​ ​“​เจ้า​กับ​เจี​้ย​เกอ​ไป​จัดการ​เรื่อง​นี้​ด้วยกัน​เถิด​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ขานรับ​ด้วย​ความเคารพ​“​ขอรับ​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​ผู้ใหญ่​พูดคุย​กัน​เสร็จ​แล้ว​ ​ถิง​เกอ​ก็​วิ่ง​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​อา​หก​จะ​กลับมา​เมื่อไร​ขอรับ​”

เมื่อ​ได้ยิน​เขา​พูดถึง​จิ​่น​เกอ​ ​แววตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หม่นหมอง​ ​ฝืน​ทำท่า​ทาง​มีชีวิตชีวา​ ​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ถิง​เกอ​คิดถึง​ท่าน​อา​หก​หรือ​”

ถิง​เกอ​พยักหน้า​ ​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​ท่าน​อา​เจ็ด​บอกว่า​หาก​ท่าน​อา​หก​อยู่​ที่​เรือน​ก็​คงดี​ ​พวกเขา​จะ​ได้​ไป​ต้าถ​งด​้ว​ยกัน​”​ ​พูด​พลาง​ดีด​ตัว​ขึ้น​มา​อย่าง​มีความสุข​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ย่า​ ​เมื่อ​ข้า​โต​แล้ว​จะ​ตาม​ท่าน​อา​หก​กับ​ท่าน​อา​เจ็ด​ไป​ต้าถ​งด​้วย​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กอด​ถิง​เกอ​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​ถิง​เกอ​ของ​พวกเรา​ช่าง​เป็น​เด็กดี​จริงๆ​ ​!​”

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกั​บอิง​เหนียง​ก็​พา​จวง​เกอ​มา​พอดี

จวง​เกอ​มอง​ถิง​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความอิจฉา

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​กวักมือ​เรียก​เขา

จวง​เกอ​วิ่ง​ไปหา​นาง​ทันที​ ​พี่น้อง​สอง​คน​ยิ้ม​พลาง​จับมือ​กัน​

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำชับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกั​บส​วี​ซื่อ​จุน​ให้​ไป​ปิด​ร้าน​ข้าว​ด้วยกัน​ ​ซ้ำ​ยัง​กำชับ​ทั้งสอง​คน​อีกว่า​ ​“​…​ส่ง​องครักษ์​ไป​ด้วย​สัก​สอง​สาม​คน​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​จะ​เกิด​การปล้น​เสบียงอาหาร​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​พูด​อย่าง​ครุ่นคิด​ว่า​ ​“​ติดประกาศ​ดี​หรือไม่​ขอรับ​ ​บอกว่า​เนื่องจาก​ปิด​เมือง​ทำให้​ไม่​สามารถ​ขนย้าย​ข้าว​เข้ามา​ได้​ ​ร้าน​ข้าว​ไม่มี​ข้าว​ให้​ขาย​ ​เมื่อ​คนอื่น​รู้​ว่า​ร้าน​ข้าว​ปิด​ด้วย​เหตุผล​นี้​ก็​จะ​ไม่มี​การปล้น​ ​เช่นนี้​พวกเรา​ก็​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ส่ง​องครักษ์​ไป​แล้ว​…​”​ ​เขา​พูด​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ข้า​เกรง​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​มี​กำลังคน​ใน​เรือน​ไม่​เพียงพอ​…​”

“​ไม่ได้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​คัดค้าน​ทันที​ ​“​เช่นนี้​จะ​ทำให้​คน​ตื่นตระหนก​ได้​ง่าย​ ​ส่ง​คน​ไป​จะ​ดีกว่า​!​ ​ส่วน​เรื่อง​องครักษ์​ใน​เรือน​ ​ข้า​จะ​ไป​ปรึกษา​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​”

สอง​พ่อ​ลูก​กำลัง​ปรึกษา​เรื่อง​ใน​เรือน​ ​ส่วน​บรรดา​สตรี​ก็​นั่ง​ฟัง​เงียบๆ​ ​อยู่​ข้างๆ​ ​หลังจาก​จัดการ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ลุกขึ้น​ ​ทุกคน​ตาม​เขา​ไป​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน

ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ที่​ห้อง​พระ​ ​ตอนที่​ออกมา​บน​ตัวนาง​ยัง​มีกลิ่น​ไม้จันทน์​จางๆ​

“​ท่าน​ไป​กราบไหว้​พระ​ตั้งแต่​เช้า​เช่นนี้​เลย​หรือ​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม

“​ข้างนอก​วุ่นวาย​ ​แล้วก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เผ่า​ตาด​มองโกล​จะ​ถูก​กำจัด​หมดสิ้น​เมื่อไร​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​มีฮู​หยิน​สอง​ช่วย​พยุง​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ด้วย​ท่าทาง​เหนื่อยล้า​ ​“​ข้า​ไป​จุด​ธูปบูชา​พระโพธิสัตว์​ ​ขอให้​พระโพธิสัตว์​อวยพร​ให้​แม่ทัพ​โอว​หยาง​หมิง​ได้รับ​ชัยชนะ​กลับมา​โดยเร็ว​ ​ใต้​หล้า​ก็​จะ​สงบสุข​!​”

เมื่อ​รู้​ว่า​เมือง​เซ​วี​ยนถง​ถูก​ตี​แตก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไปรับ​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับมา​จาก​ซี​ซาน​ทันที

“​ท่าน​แม่​อย่า​กังวล​จน​เกินไป​เลย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​รับ​ถ้วย​ชา​ที่​สาวใช้​ยก​มา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยตัวเอง​ ​พูด​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​เรา​มีท​หาร​สี่​แสนนาย​!​ ​จะ​ได้รับ​ข่าวดี​จาก​ต้าถง​เร็ว​ๆ​ ​นี้​แน่นอน​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ ​เล่า​ความคิดเห็น​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่จะ​ปิด​ร้าน​ข้าว​ทั้งสอง​แห่ง​ของ​ตระกูล​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

ไท่ฮู​หยิน​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​ความ​เอ็นดู​ ​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​“​นี่​ถึง​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​ซื่อ​จื่อ​ควร​มี​”​ ​จากนั้น​ก็​เหลือบมอง​คนอื่นๆ​ ​ใน​ห้อง​ ​พูด​กำชับ​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ต้อง​จำไว้​ว่า​อย่า​แก่งแย่ง​ผลประโยชน์​กับ​ราษฎร​เด็ดขาด​ ​จะ​ทำให้​ถูก​คน​เกลียดชัง​!​”

ทุกคน​ขานรับ​อย่าง​เชื่อฟัง

สวี​ลิ่ง​ควน​กับฮู​หยิน​ห้า​พา​เซิน​เกอ​กับ​เฉิง​เกอ​มาหา

หลังจาก​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ทุกคน​ก็​ทักทาย​ซึ่งกันและกัน​ ​เมื่อ​หันกลับ​มา​อีกครั้ง​พบ​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​นั่ง​งีบหลับ​อยู่​ตรงนั้น​แล้ว​ ​ทุกคน​รีบ​หยุด​บทสนทนา

ฮู​หยิน​สอง​เขย่าตัว​ไท่ฮู​หยิน​อย่างเบามือ​ ​“​ท่าน​แม่​ ​หาก​ท่าน​เหนื่อย​แล้วก็​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​ห้อง​ก่อน​เถิด​!​”

ไท่ฮู​หยิน​เงยหน้า​ขึ้น​ ​มอง​ทุกคน​ด้วย​สีหน้า​มึนงง​เล็กน้อย​ ​“​เหตุใด​พวก​เจ้า​ถึง​ไม่​คุย​กัน​เสีย​แล้ว​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่งสายตา​ให้​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรือน​นอก​ยัง​มีเรื่อง​ให้​ต้อง​จัดการ​ ​พวกเรา​กำลังจะ​ขอตัว​กลับ​แล้ว​ขอรับ​!​”

“​อ้อ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​“​เช่นนั้น​พวก​เจ้า​ก็​รีบ​ไป​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับฮู​หยิน​สอง​ว่า​ ​“​ไป​เอา​วัชร​ปรัชญา​ปา​รมิตา​สูตร​ออกมา​ ​พวกเรา​มาคั​ดล​อก​ต่อ​จาก​เมื่อวาน​กัน​เถิด​”

ฮู​หยิน​สอง​ตอบรับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​ส่วน​คนอื่นๆ​ ​ก็​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

ยัง​ไม่ทัน​เดิน​ออกจาก​ลาน​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ก็​ดึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ ​“​พี่​สี่​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​ปรึกษา​ท่าน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​พวกเรา​ไป​ห้อง​หนังสือ​กัน​เถิด​!​”

สวี​ลิ่ง​ควน​พยักหน้า​ ​เดิน​เคียง​ไหล่​ไป​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สือ​อี​เหนียง​กับฮู​หยิน​ห้า​พูดคุย​กัน​สอง​สาม​ประโยค​แล้วก็​แยกย้าย​กัน​ไป

เจียง​ซื่อ​พยุง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​สีหน้า​ท่าน​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​ให้​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ดูดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

อิง​เหนียง​พา​เด็ก​ทั้งสอง​คน​เดิน​นำหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หันกลับ​มาม​อง​สำรวจ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​ใช่​หรือไม่​ ​พี่สะใภ้​สี่​พูด​ถูก​แล้ว​ ​ไป​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​จะ​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”

“​ไม่ต้อง​หรอก​!​”​ ​ไม่ได้​หลับสนิท​มาติด​ต่อกัน​สอง​คืน​ ​ทั้ง​ยัง​เป็นห่วง​จิ​่น​เกอ​ ​สีหน้า​จะ​ดูดี​ได้​อย่างไร​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​พักผ่อน​สักหน่อย​ก็ดี​ขึ้น​แล้ว​!​”​ ​แล้ว​พูด​กับ​เจียง​ซื่อ​ว่า​ ​“​ทาง​ด้าน​ห้องโถง​บุปผา​ ​เจ้า​ไป​จัดการ​เถิด​!​หาก​มี​อะไร​ที่​ตัดสินใจ​ไม่ได้​ค่อย​มาถาม​ข้า​!​”

เมื่อ​ทั้งสอง​คน​เห็นท่า​ที​ที่​แน่วแน่​ของ​นาง​ก็​ไม่​อาจ​พูด​อะไร​มาก​ได้​ ​ปรนนิบัติ​สือ​อี​เหนียง​พักผ่อน​ ​จากนั้น​เจียง​ซื่อ​ก็​ไป​จัดการ​เรื่อง​ใน​เรือน​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ ​ส่วน​อิง​เหนียง​ก็​พา​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ไป​เล่น​ที่​ลาน​หลัก​ ​หาก​สือ​อี​เหนียง​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​จะ​ไปหา​ได้​ในทันที

ทันทีที่​สือ​อี​เหนียง​หลับตา​ลง​ก็​ไม่ได้​ยิน​เสียง​ใดๆ​ ​เลย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​อ่อนเพลีย​เป็นอย่างมาก​ ​แต่กลับ​นอนไม่หลับ​ ​ใน​สมอง​เต็มไปด้วย​ภาพ​ของ​จิ​่น​เกอ

ถ้าหาก​ไป​ถึงขั้น​นั้น​จริงๆ​ ​กง​ตง​หนิง​จะ​มอบหมาย​ตำแหน่ง​อะไร​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​อยู่​ใน​สถานที่​ที่​ปลอดภัย​เพื่อ​รักษา​ชีวิต​ของ​เขา​ ​หรือ​จะ​เหมือนกับ​ยง​อ๋อง​ที่​คิด​ว่านี​่​เป็น​โอกาส​สำหรับ​จิ​่น​เกอ​ที่จะ​นำ​ทัพ​ทำ​ผลงาน​ทางทหาร​และ​ได้รับ​ยศ​ถา​บรรดาศักดิ์

แม้ว่า​จะ​ไม่เคย​เห็น​กง​ตง​หนิง​ ​แต่​จาก​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​บรรยาย​ถึง​กง​ตง​หนิง​ ​เกรง​ว่า​กง​ตง​หนิง​จะ​เป็น​คนที​่​ทำศึก​สงคราม​ด้วย​ความ​อาจหาญ​…​เช่นนั้น​ก็​แย่​แล้ว​…​เป็นไปได้​ว่า​เขา​จะ​จัดการ​ให้​จิ​่น​เกอ​ออกศึก​ฆ่า​ศัตรู​…

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​จะ​หลับ​ลง​ได้​อย่างไร

นาง​รีบ​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​นั่ง

หัน​เซี่ยว​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ข้าง​กาย​รีบ​เข้ามา​พลาง​ถาม​เสียง​เบา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ต้องการ​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

นาง​ต้องการ​ให้​บุตรชาย​ปลอดภัย

สือ​อี​เหนียง​พูด​ใน​ใจ​ ​นาง​ไม่เคย​อยาก​ให้​โอว​หยาง​หมิง​เอาชนะ​เผ่า​ตาด​มองโกล​เหล่านั้น​ได้มาก​ขนาด​นี้​มาก​่อน

นาง​อด​พนมมือ​ไม่ได้​แล้ว​เอ่ยปาก​ขอพร​ ​“​พระโพธิสัตว์​โปรด​คุ้มครอง​ด้วย​เถิด​”

สีหน้า​ของ​หัน​เซี่ยว​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​…​ท่าน​เป็น​อะไร​เจ้า​คะ​”

นาง​ปรนนิบัติ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ยัง​ไม่นาน​ ​แต่​ก็​พอดู​ออก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​ชอบ​บูชา​พระโพธิสัตว์​ ​อย่างน้อย​ใน​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่มี​ห้อง​พระ​หรือ​ศาลเจ้า​เหมือนกับ​สตรี​คนอื่น​ใน​ตระกูล​ที่​มั่งคั่ง​ ​ยิ่ง​ไม่มีเวลา​ว่าง​ไป​เรียก​ไต้​ซือ​มา​เทศนา​พระ​คัมภีร์​หรือ​สนทนา​ที่​เรือน

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เอา​ผ้าห่ม​ออก​ ​“​หัน​เซี่ยว​ ​เจ้า​ไป​เรียก​หู่​พั่ว​เข้ามา​!​”

หัน​เซี่ยว​ไม่กล้า​รอช​้า​รีบ​ไป​เรียก​หู่​พั่ว​มาทัน​ที

“​หู่​พั่ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​อยาก​ไป​จุด​ธูปบูชา​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​เจ้า​ไป​พูด​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​สักหน่อย​เถิด​ ​ดู​ว่า​สะดวก​หรือไม่​!​”

มี​ความ​สับสน​ปรากฏ​ใน​แววตา​ของ​หู่​พั่ว​อยู่​ชั่วขณะหนึ่ง​ ​แต่​ไม่นาน​ก็​กลับมา​สงบ​ลง​เช่น​เดิม​ ​นาง​ขานรับ​อย่างนอบน้อม​แล้ว​รีบรุด​ไปหา​พ่อบ้าน​ไป๋

บรรยากาศ​ด้านนอก​พลัน​ตึงเครียด​เล็กน้อย​ ​เนื่องจาก​เป็นความ​ตั้งใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​จึง​พยายาม​เตรียมการ​ให้​ดีที​่​สุด

เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ได้​ส่ง​องครักษ์​ติดตาม​สือ​อี​เหนียง​ไป​วัด​ฉือ​หยวน​ด้วยตัวเอง

วัด​ฉือ​หยวน​คละคลุ้ง​ไป​ด้วย​ควัน​ธูป​ ​บรรดา​สตรี​หลาย​คน​นั่งคุกเข่า​บน​ฟูก​พลาง​สวด​ภาวนา​เป็นเวลา​นาน​ไม่ยอม​ลุก​ ​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​ผู้ดูแล​วัด​ฉือ​หยวน​จะ​หา​โอกาส​ต้อนรับ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​ตำหนัก​ต้าสย​่ง​เป่า​ได้

“​ขอ​ท่าน​คุ้มครอง​จิ​่น​เกอ​ให้​ปลอดภัย​ ​ขอ​เพียงแค่​เขา​ปลอดภัย​กลับมา​ ​ข้า​ยินดี​ที่จะ​เป็น​ผู้​ศรัทธา​ของ​ท่าน​นับตั้งแต่​นี้​เป็นต้นไป​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หลับตา​ลง​พลาง​สวด​อ้อนวอน​ด้วย​ความศรัทธา

แต่​สิ่ง​ต่างๆ​ ​ยังคง​ดำเนิน​ไป​ใน​ทิศทาง​ที่​ไม่น่า​พอใจ

ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​รายงาน​สงคราม​ก็​มาถึง​ ​กองทหาร​ของ​โอว​หยาง​หมิง​แบ่ง​ออก​เป็น​สาม​เส้นทาง​ ​เส้นทาง​หนึ่ง​เพื่อ​สนับสนุน​ต้าถง​ ​อีก​เส้นทาง​หนึ่ง​เพื่อ​ล้อม​จับ​เผ่า​ตาด​มองโกล​ที่​ยึดครอง​เซ​วี​ยนถง​ ​ส่วน​อีก​เส้นทาง​หนึ่ง​ประจำการ​อยู่​ใน​พื้นที่​ที่​ห่าง​จาก​เยี​่​ยน​จิง​สี่​ร้อย​ลี้​ ​แต่​อย่างไรก็ตาม​ ​ไม่​สามารถ​ล้อม​เซ​วี​ยนถง​ไว้​ได้​นาน​ ​กองทัพ​ต้าถง​ถูก​โจมตี​จน​ต้อง​ถอยกลับ​ ​สูญเสีย​กองกำลัง​ไป​สาม​ใน​สิบ​ส่วน

ฮ่องเต้​เรียก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้า​วัง

ยัง​ไม่​ถึง​ตอนเที่ยง​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​รับ​ข่าว

กรม​กลาโหม​ได้​แต่งตั้ง​กง​ตง​หนิง​เป็น​ผู้นำ​กองทัพ​ฝ่ายขวา​แห่ง​กองทัพ​ภาค​ ​ติง​จื้อ​ได้รับแต่งตั้ง​ให้​เป็นรอง​เจ้ากรม​กลาโหม​ ​กง​ตง​หนิง​ไม่จำเป็น​ต้อง​เข้า​วัง​มา​แสดง​ความ​ขอบ​พระทัย​ ​ให้​นำ​กองทัพ​ทหาร​ฝ่ายขวา​แห่ง​กองทัพ​ภาค​ไป​ประจำการ​เมือง​กาน​โจว​ทันที​ ​ส่วน​ติง​จื้อ​ให้​เข้า​เมืองหลวง​มารับ​ตำแหน่ง​โดยฉับพลัน

สือ​อี​เหนียง​ยืน​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​ ​พูดไม่ออก​อยู่​ครู่ใหญ่

ตอนกลางวัน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา

หู่​พั่ว​ออกมา​ต้อนรับ

“​ท่าน​โหว​”​ ​เสียง​ของ​นาง​เบา​กว่า​ปกติ​เล็กน้อย​ ​“ฮู​หยิน​ไม่สบาย​ ​กำลัง​นอน​อยู่​ที่​ห้อง​ชั้นใน​…​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ ​เสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ดัง​มาจาก​ห้อง​ชั้นใน​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”​ ​หู่​พั่ว​มีสี​หน้า​ลังเล

สวี​ลิ่ง​อี๋​เปิดม่าน​แล้ว​เดิน​เข้ามา

“​ข้า​กลับมา​แล้ว​!​”​

สือ​อี​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​ให้​สาวใช้​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ข้างๆ​ ​ถอย​ออก​ไป

“​คนที​่​ท่าน​ส่ง​ไป​ยังอยู่​รอบตัว​จิ​่น​เกอ​หรือไม่​”​ ​แสง​ใน​มุ้ง​สลัว​ ​แต่​ยิ่ง​ขับ​ให้​เห็น​ผิวขาว​ราว​หิมะ​ของ​นาง​อย่างชัดเจน​ ​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​อ่อนแรง​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่งลง​ข้าง​เตียง​ ​จับมือ​นาง​ไว้​ ​“​อยู่​รอบตัว​เขา​เสมอ​”​ ​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​“​ ​ข้า​ได้​ให้​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ให้​พวกเขา​แล้ว​ ​ให้​พวกเขา​ใส่ใจ​ความปลอดภัย​ของ​จิ​่น​เกอ​ให้​มาก​…​”

“​อาจารย์​ผัง​ไม่ใช่​ทหาร​ ​เขา​จะ​สามารถ​ติดตาม​ไป​ด้วย​ได้​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตัดบท​สนทนา​ของ​เขา​ ​ทำให้​ประโยค​ที่​เขา​ต้องการ​เอ่ย​ปลอบ​นาง​ว่า​ ​‘​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​’​ ​ถูก​กลืน​ลง​ไป​ ​ซ้ำ​ยัง​ทำให้​เขา​ประหลาดใจ​จน​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​เล็กน้อย​ ​ใช้เวลา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​ได้​ให้​คน​ช่วย​ให้​อาจารย์​ผัง​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​ ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ได้รับ​สถานะ​ทางทหาร​แล้ว​ ​มีพ​วก​เขา​อยู่​ข้าง​กาย​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​จะ​ได้​มี​คนใน​มือ​เอาไว้​ใช้​”

“​รู้​หรือยัง​ว่า​กง​ตง​หนิง​จัดการ​ให้​จิ​่น​เกอ​ทำหน้าที่​อะไร​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​กง​ตง​หนิง​เป็น​ถึง​ผู้นำ​สาม​กองทัพ​ ​บางอย่าง​ข้า​ก็​ไม่​อาจ​ถาม​มากเกินไป​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ไม่ได้​ถาม​อะไร​อีก​ ​จากนั้น​ก็​นอนลง​ ​“​ข้า​เหนื่อย​แล้ว​อยาก​พัก​สักหน่อย​ ​หาก​ท่าน​โหว​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​เรียก​หู่​พั่ว​เถิด​!​”​ ​พูด​พลาง​หลับตา​ลง

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ใบหน้า​งดงาม​ที่​กำลัง​ขมวดคิ้ว​ของ​นาง​อยู่นาน​ก่อน​จะ​ถอนหายใจ​ยาว​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ออกจาก​ห้อง​ชั้นใน​อย่างเบามือ​เบา​เท้า

มี​หยาดน้ำ​ตา​ใส​รื้น​อยู่​ที่​หาง​ตาของ​สือ​อี​เหนียง

******

บ้าง​ก็​ว่า​เป็น​กลยุทธ์​ศึก​ ​บ้าง​ก็​ว่า​แหวก​หญ้า​ให้​งู​ตื่น​ ​ยี่สิบ​วัน​ต่อมา​มี​ข่าว​จาก​กาน​โจว​ ​กองทัพ​ฝ่ายขวา​ของ​กง​ตง​หนิง​ถูก​เผ่า​ตาด​มองโกล​ซุ่ม​โจมตี​ที่​บริเวณ​ใกล้เคียง​ป้อม​เหลียง​โจว​ซึ่ง​ห่าง​จาก​กาน​โจว​ห้า​ร้อย​ลี้​ ​กองทัพ​ฝ่ายขวา​ถูก​ฆ่า​และ​ได้รับ​บาด​เจ็ด​มากกว่า​หนึ่ง​พัน​คน​ ​ฆ่า​ศัตรู​ไป​ได้มา​กก​ว่า​ห้า​ร้อย​คน​ ​จับ​เฉลย​เผ่า​ตาด​มองโกล​ได้​หนึ่งร้อย​กว่า​คน​ ​และ​ยึด​ม้า​ศึก​มา​ได้​สาม​ร้อย​กว่า​ตัว

เมื่อ​ข่าว​มาถึง​ ​ทุกคน​ก็​เพิกเฉย​ต่อ​การ​บาดเจ็บ​ล้มตาย​ของกอง​ทัพ​ฝ่ายขวา​ ​มุ่งเน้น​ไป​ที่​ ​‘​สังหาร​ศัตรู​มากกว่า​ห้า​ร้อย​คน​ ​จับ​เฉลย​เผ่า​ตาด​มองโกล​ได้​หนึ่งร้อย​กว่า​คน​ ​และ​ยึด​ม้า​ศึก​ได้​สาม​ร้อย​กว่า​ตัว​’​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​เปรียบเทียบ​กับ​การ​ที่​สูญเสีย​การคุ​้​มกัน​ต้าถง​ ​ยิ่ง​ทำให้​เรื่อง​นี้​ยิ่งใหญ่

ฮ่องเต้​เรียก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้า​วัง​อยู่​บ่อยครั้ง

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ก็​มี​ข่าวดี​จาก​กาน​โจว

กองทัพ​ฝ่ายขวา​สังหาร​ศัตรู​สาม​พัน​คน​ ​จับ​เฉลย​เผ่า​ตาด​มองโกล​ได้​สอง​พัน​กว่า​คน​ ​และ​ยึด​ม้า​ศึก​ได้​หนึ่ง​พัน​กว่า​ตัว

จิตวิญญาณ​ของ​ทั้ง​เยี​่​ยน​จิง​ถูก​กระตุ้น​ ​ทุก​ถนน​และ​ตรอก​ซอกซอย​ต่าง​ก็​พูดถึง​กง​ตง​หนิง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ่ง​ยุ่ง​มากกว่า​เดิม​ ​บางครั้ง​ก็​ถูก​รั้ง​ตัว​เอาไว้​ใน​วัง​ ​สามีภรรยา​ได้​เจอกัน​เป็นครั้งคราว​ ​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​ถาม​เขา​ว่า​ ​“​มี​ข่าว​จิ​่น​เกอ​หรือไม่​”

“​เขา​สบายดี​”​ ​รอยยิ้ม​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​ปลอบโยน​ ​“​กง​ตง​หนิง​ให้​จิ​่น​เกอ​อยู่​ข้าง​กาย​ ​ตอนนี้​จิ​่น​เกอ​กลายเป็น​องครักษ์​ประจำตัว​ของ​กง​ตง​หนิง​ไป​แล้ว​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท