รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 701 น่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน บนโลกนี้มีคนที่ไร้ยางอายถึงขั้นนี้อยู่ได้อย่างไร!

บทที่ 701 น่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน บนโลกนี้มีคนที่ไร้ยางอายถึงขั้นนี้อยู่ได้อย่างไร!

บท​ที่​ 701 น่าสะอิดสะเอียน​เหลือเกิน​ บน​โลก​นี้​มีคน​ที่​ไร้ยางอาย​ถึงขั้น​นี้​อยู่​ได้​อย่างไร​!

โฮก​กก​!

อสูร​สีทอง​ตัว​หนึ่ง​ปรากฏ​ออกมา​ช่วยเหลือ​จ้าว​จง

นี่​เป็น​อสูร​ระดับ​ราชัน​ตัว​หนึ่ง​ เพียงแค่​เสียงคำราม​ก็​ยัง​ทรงพลัง​มาก​

“เป็น​เพียงแค่​มด​ปลวก​ มาร้อง​หา​สิ่งใด​กัน​!”

เซี่ยเหยียน​ตะคอก​ออกมา​เสียง​เย็นชา​ ดวงตา​จับจ้อง​ไป​ทาง​อสูร​อีก​ฝ่าย​

ทันใดนั้น​เอง​ อสูร​ตน​นั้น​ก็​สูญสิ้น​ซึ่งความกล้าหาญ​ทั้งหมด​ ราวกับว่า​มัน​เสียสติ​ไป​แล้ว​ ร่างกาย​ของ​มัน​สั่นเทา​หมอบลง​ไป​กับ​พื้น​

ต่อหน้า​เซี่ยเหยียน​มัน​เป็น​เพียงแค่​ราชัน​อสูร​ตัว​น้อย​ จะโอ้อวด​พลัง​กับ​เซี่ยเหยียน​ที่​บรรลุ​ถึงขอบเขต​เซียน​แล้ว​ได้​อย่างไร​

เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​เกิดขึ้น​ภายใน​พริบตาเดียว​ จ้าว​จงและ​สวี​จิ้งคาดไม่ถึง​โดยสิ้นเชิง​ ทำให้​พวกเขา​ที่​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​อสูร​สีทอง​ถึงกับ​เกือบจะ​ล้มคว่ำ​

แต่​พวกเขา​ก็​ตอบสนอง​อย่าง​รวดเร็ว​ รีบ​ตั้งท่า​ให้​ตนเอง​มั่นคง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ทันที​

“รนหาที่​ตาย​!”

ดวงตา​ของ​จ้าว​จงเย็นเยียบ​ จิต​สังหาร​ทวีคูณ​ขึ้น​ เขา​ตบ​ฝ่ามือ​กลางอากาศ​ไป​ทาง​เซี่ยเหยียน​ มวล​แรง​ราวกับ​คลื่น​น้ำ​สูงนับ​พัน​จั้งพุ่ง​ใส่เซี่ยเหยียน​อย่าง​ดุดัน​

“อัน​ใด​กัน​ กระทั่ง​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​เจ้ายัง​ไม่กล้า​กำเริบเสิบสาน​เท่า​เจ้าเลย​!”

เซี่ยเหยียน​ลงมือ​ ตบ​ไป​ทาง​จ้าว​จงที่อยู่​กลางอากาศ​

พลัง​ของ​จ้าว​จงถูก​ทำลาย​ลง​ในทันที​ ขณะเดียวกัน​ฝ่ามือ​ของ​เซี่ยเหยียน​ก็​ตบ​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​จ้าว​จงอย่าง​แรง​!

เพียะ!​ ฟิ้ว!​

จ้าว​จงลอย​กระเด็น​ออก​ไป​ทันที​ ทั้ง​ใบหน้า​บิดเบี้ยว​จาก​การ​ถูก​ตบ​ เลือด​ออก​กลบ​เต็มปาก​ ชน​เข้ากับ​ยอดเขา​แห่ง​หนึ่ง​อย่าง​แรง​จน​พังทลาย​

ใบหน้า​ของ​เขา​ซีดเซียว​ไร้​สีเลือด​ หนึ่ง​ตบ​ของ​เซี่ยเหยีย​นรา​ว​กับ​ทำให้​ชีวิต​ของ​เขา​หาย​ไป​กว่า​ครึ่ง​

“!!!”

เมื่อ​ฉิน​หวาย​เฟิงเห็น​ฉาก​นี้​ หนัง​ศีรษะ​ของ​เขา​ก็​ถึงกับ​ชาหนึบ​ ขน​บน​ร่าง​ลุก​ชัน​ ตื่น​ตะลึง​อย่าง​ถึงที่สุด​!

เซี่ยเหยียน​ดู​แล้ว​อายุ​ยัง​น้อย​ไม่ต่าง​จาก​เขา​ ทว่า​เหตุใด​นาง​ถึงได้​น่าสะพรึงกลัว​ขนาด​นี้​!?

ภูมิหลัง​ของ​ยอด​นิกาย​ล้ำลึก​จน​ไม่อาจ​หยั่งถึง​ได้​ จ้าว​จงมาจาก​ยอด​นิกาย​ ขอบเขต​การฝึกฝน​ของ​เขา​สูงล้ำ​อย่างยิ่ง​ เป็น​ถึงกึ่ง​นักบุญ​ผู้​หนึ่ง​ ทว่า​สุดท้าย​กลับ​ดู​อ่อนแอ​เป็นอย่างมาก​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​เซี่ยเหยียน​

ขอบเขต​ของ​นาง​อยู่​ระดับ​ใด​กัน​แน่​?!

เขา​ไม่กล้า​จินตนาการ​แม้แต่น้อย​!

สีหน้า​ของ​สวี​จิ้งแปรเปลี่ยน​อย่าง​มาก​ นาง​ทรุด​ลง​กับ​พื้น​ รู้สึก​ว่า​เหมือน​พวก​นาง​จะไป​เตะ​โดด​แผ่น​เหล็ก​เข้า​แล้ว​!

สวี​จิ้งตื่น​ตกใจกลัว​ ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​เซี่ยเหยียน​จะแข็งแกร่ง​ถึงเพียงนี้​!

“อ๊ากกก!​ พวกเรา​ตระกูล​จ้าวจะ​ไม่มีทาง​ปล่อย​เจ้าไป​!”

จ้าว​จงคำราม​ออกมา​ด้วย​ความดุร้าย​เกรี้ยวกราด​อย่าง​ถึงที่สุด​ เขา​เคย​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​เวทนา​ที่ไหน​กัน​? ย่อม​ต้อง​ไม่เคย​มาก่อน​!

“งั้น​หรือ​”

ใบหน้า​ของ​เซี่ยเหยียน​สงบนิ่ง​ นาง​ก้าว​ออก​ไป​ทาง​จ้าว​จงพลาง​เอ่ย​ออกมา​เสียง​เรียบ​ “ติดต่อ​ประมุข​ตระกูล​ของ​เจ้าเสีย​ บอก​ให้​เขา​มาที่นี่​”

นี่​มัน​…อัน​ใด​กัน​!

จ้าว​จงที่​ยังคง​โกรธ​เป็นอย่างมาก​ แต่​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เซี่ยเหยียน​ก็​อด​ที่จะ​ตื่น​ตะลึง​ไม่ได้​

เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​เซี่ยเหยียน​จะกล้า​เอ่ย​วาจา​นี้​ออกมา​!

อีก​ฝ่าย​บอก​ให้​เขา​ติดต่อ​ประมุข​ตระกูล​ นี่​มัน​หมายความว่า​อย่างไร​? เซี่ยเหยียน​จงใจแสร้ง​วางท่า​ต่อหน้า​เขา​ หรือว่า​นาง​มีความมั่นใจ​จริง ๆ​ ไม่เห็น​ตระกูล​จ้าว​ของ​พวกเขา​อยู่​ใน​สายตา​

ชั่วพริบตา​นั้น​เอง​ เขา​ไม่รู้​เสีย​ด้วยซ้ำ​ว่า​ควรจะ​ต้อง​ทำ​เช่นไร​ต่อ​ การกระทำ​ของ​เซี่ยเหยียน​เหนือ​เกิน​กว่า​ความคาดหมาย​ของ​เขา​ไป​มาก​!

“ทำไม​ ไม่กล้า​แล้ว​หรือ​? กล้า​ตะโกน​ออกมา​แต่กลับ​ไม่กล้า​ทำ​?”

เซี่ยเหยียน​ปรายตา​มอง​จ้าว​จงอย่าง​ไม่แยแส​ “ข้า​ให้โอกาส​เจ้าแล้ว​ อย่า​ได้​ลังเล​ เรียก​ยอด​ฝีมือ​ทั้งหมด​ใน​ตระกูล​ของ​เจ้ามาเสีย​ จากนั้น​ก็​ดู​ข้า​จัดการ​ยอด​ฝีมือ​ทั้งหมด​ใน​ตระกูล​เจ้าเสีย​ให้​เต็มตา​”

นาง​บ้า​ไป​แล้ว​หรือ​?!

จ้าว​จงไม่เคย​พบ​สถานการณ์​เช่นนี้​มาก่อน​ นี่​ทำให้​เขา​มึนงง​ยิ่งนัก​ หัว​ใจเต้น​กระหน่ำ​ขึ้น​มา จะเป็นไปได้​หรือไม่​ที่​แม้ยอด​ฝีมือ​ตระกูล​จ้าว​ทั้งหมด​มาที่นี่​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ทำ​สิ่งใด​ได้​

ทว่า​เขา​ก็​สลัด​ความคิด​นี้​ออกจาก​หัว​อย่าง​รวดเร็ว​

หาก​เป็น​ก่อนหน้านี้​ เขา​คง​ไม่กล้า​ติดต่อ​กลับ​ตระกูล​ไป​เช่นนี้​จริง ๆ​ เกรง​ว่า​ยอด​ฝีมือ​ที่​ออกมา​จะไม่อาจ​ทำ​อัน​ใด​ได้​

แต่​ตอนนี้​เขา​ไม่มีความกังวล​แม้แต่น้อย​

ตอนนี้​ภายใน​ตระกูล​ของ​เขา​มียอด​ฝีมือ​อยู่​ท่าน​หนึ่ง​ ตามที่​คนใน​ตระกูล​บอกเล่า​มา ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ยอด​ฝีมือ​ผู้​นี้​ล้ำลึก​จน​ไม่อาจ​หยั่งถึง​ ทำให้​ตระกูล​จ้าว​ของ​พวกเขา​เหนือ​ยิ่งกว่า​ยอด​นิกาย​อื่น​ ๆ ทั้งหมด​!

“อย่า​ได้​หยิ่งผยอง​เกินไป​นัก​ บางที​อาจ​ต้อง​เป็น​เจ้าที่​ร้องไห้​!”

เขา​หยิบ​เอา​ศาสตรา​สื่อสาร​ออกมา​ติด​ต่อไป​ยัง​ตระกูล​ แจ้งให้ทราบ​ว่า​ตนเอง​กำลัง​ตกอยู่ในอันตราย​ จำเป็นต้อง​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ยอด​ฝีมือ​ของ​ตระกูล​

“เจ้าเอ่ย​บอก​ตัวตน​ของ​เจ้าแล้ว​หรือยัง​?”

มีเสียงดัง​ออก​มาจาก​ศาสตรา​สื่อสาร​

“บอก​แล้ว​ แต่​นาง​ไม่เห็น​ตระกูล​จ้าว​อยู่​ใน​สายตา​ ทั้ง​ยัง​เอ่ย​ว่า​อยาก​พบ​ยอด​ฝีมือ​ของ​ตระกูล​เรา​ด้วย​!”

จ้าว​จงตอบกลับ​

ทว่า​แม้จะสามารถ​ติดต่อ​กับ​ตระกูล​ได้​แล้ว​ แต่​เขา​ก็​ยังคง​ไม่อาจ​สงบใจ​ได้​ หัวใจ​เริ่ม​กลับมา​เต้น​กระหน่ำ​อีกครั้ง​

เซี่ยเหยียน​ดู​สงบนิ่ง​เกินไป​ สิ่งนี้​ทำให้​เขา​หวาดเกรง​เสีย​ยิ่งกว่า​การ​ที่​เซี่ยเหยียน​เข้ามา​พยายาม​ห้ามปราม​เขา​เสีย​อีก​

“บ้า​ไป​แล้ว​!”

มีเสียง​ตะโกน​ด้วย​โทสะ​ดัง​จาก​ศาสตรา​สื่อสาร​

“เจ้าอยู่​ที่ไหน​?”

“ข้า​อยู่​ชาย​เขา​เฟิ่งหวา​!”

จ้าว​จงตอบกลับ​อย่าง​รวดเร็ว​

“ตกลง​ พวกเรา​จะไป​ทันที​! ส่วน​คน​ที่อยู่​ข้าง​เจ้าตรง​นั่น​! ฮึ่ม ฟังข้า​ให้​ดี​ หาก​จ้าว​จงเสีย​ผม​ไป​แม้สัก​เส้น​ ข้า​จะทำให้​เจ้าต้อง​ชดใช้​อย่าง​ถึงที่สุด​!”

เสียง​จาก​ด้านใน​ศาสตรา​สื่อสาร​เต็มไปด้วย​ค​วา​มั่นใจ​อย่าง​เห็นได้ชัด​ ทำ​กระทั่ง​เอ่ย​ข่มขู่​เซี่ยเหยียน​

“หนวกหู​! พวก​เจ้าพูดจา​ไร้สาระ​มากเกินไป​แล้ว​ รีบ​มาเร็ว​เข้า​! หรือ​…ต้อง​ให้​ข้า​ไป​พา​พวก​เจ้ามาด้วยตัวเอง​?”

เซี่ยเหยียน​ตะคอก​เสียง​เย็นชา​

จ้าว​จงไม่นับว่า​เป็น​ข้อยกเว้น​ของ​ตระกูล​นี้​อย่าง​แน่นอน​ ทั้ง​ตระกูล​ดู​แล้ว​ล้วน​มีปัญหา​ ครั้งนี้​นาง​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะสั่งสอน​เพียง​จ้าว​จง แต่​จะลงมือ​สั่งสอน​ทั้ง​ตระกูล​

ผู้ฝึก​ตน​ฝึกฝน​ตัวเอง​ ก็​เพื่อ​ความ​แข็งแกร่ง​ ไม่ใช่เพื่อ​รังแก​ผู้​ที่​อ่อนแอ​กว่า​!

“พา​มา? เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ตนเอง​กำลัง​เอ่ย​อัน​ใด​อยู่​? อนุชน​ผู้​โง่เขลา​ไม่รู้จัก​ฟ้าสูงแผ่นดิน​ต่ำ​ กำเริบเสิบสาน​จน​เกินไป​! เช่นนั้น​ หาก​เจ้ามีความสามารถ​ก็​มาหา​พวก​ข้า​เสีย​!”

เสียง​ใน​ศาสตรา​สื่อสาร​เอ่ย​อย่าง​เย็นชา​ ฟังดู​แล้ว​เสียง​ของ​เซี่ยเหยียน​ยังคง​เยาว์วัย​อยู่​มาก​

“เหตุใด​ข้า​ต้อง​ไป​ด้วย​ พวก​เจ้าสิที่​เป็น​ฝ่าย​ต้อง​มา!”

เซี่ยเหยียน​ชี้นิ้ว​ไป​ทาง​ศาสตรา​สื่อสาร​ใน​มือ​ของ​จ้าว​จง ทันใดนั้น​ศาสตรา​สื่อสาร​พลัน​มีพลัง​เปล่งแสง​เจิดจ้า​ มัน​ลอย​ออกจาก​มือ​ของ​จ้าว​จงมาหยุด​อยู่​กลางอากาศ​

ฟุ่บ​!

ศาสตรา​สื่อสาร​เปล่ง​ลำแสง​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ออกมา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ กฎเกณฑ์​อัน​เหนือ​เกิน​กว่า​จินตนาการ​แล่น​พล่าน​ เส้นทาง​ที่​มัน​วิ่ง​ไป​ทำให้​ความว่างเปล่า​ถูก​แยก​ออก​ กลายเป็น​เส้นทาง​หนึ่ง​พุ่ง​ไป​ยัง​ส่วนลึก​ของ​ความว่างเปล่า​อย่าง​รวดเร็ว​!

สุดท้าย​เมื่อ​เส้นทาง​นี้​หยุด​ลง​ ก็​เผย​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ปลาย​ทางการ​เชื่อมต่อ​อยู่​หน​แห่งใด​

“เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​!?”

“นี่​มัน​อัน​ใด​กัน​!”

เสียง​วุ่นวาย​เซ็งแซ่ดัง​ออก​มาจาก​สถานที่​แห่ง​นั้น​ เห็นได้ชัด​ว่า​สิ่งมีชีวิต​ใน​ที่​แห่ง​นั้น​ต่าง​ตื่นตกใจ​เป็นอย่างมาก​

จะไม่ตื่นตกใจ​ได้​อย่างไร​?

อยู่ดี ๆ​ ก็​มีเส้นทาง​ปรากฏ​ขึ้น​มาจาก​ความว่าง​เปลา​ด้านใน​ตระกูล​ การป้องกัน​ทั้งหมด​นั้น​ไร้ประโยชน์​ ไม่ทำงาน​ขึ้น​มาแม้แต่น้อย​ ไม่แปลก​ที่จะ​ทำให้​ทุกคน​ตื่นตกใจ​!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​สถานที่​ที่​พวกเขา​อยู่​นั้น​ไม่ใช่สถานที่​ธรรมดา​!

“เป็นไปได้​อย่างไร​?!”

เมื่อ​จ้าว​จงเห็น​อีก​ด้าน​ของ​ปลาย​เส้นทาง​ หัวใจ​ของ​เขา​ก็​แทบจะ​หยุด​เต้น​ลง​ ร่างกาย​ของ​เขา​สั่นสะท้าน​ไม่หยุด​ แทบจะ​เป็นลม​ล้ม​ลง​ไป​เสีย​ด้วยซ้ำ​!

เซี่ยเหยียน​ทำ​จริง​อย่าง​ที่​พูด​ นาง​สร้าง​เส้น​ทางตรง​ไป​ยัง​ตระกูล​จ้าว​ของ​พวกเขา​!

สวรรค์​!

นี่​มัน​ต้อง​มีพลัง​เพียงใด​กัน​?!

สีหน้า​ของ​เขา​ไม่น่าดู​ ลำไส้​แทบ​กลายเป็น​สีเขียว​ด้วย​ความเสียใจ​ ครั้งนี้​เขา​ก่อ​ภัย​ให้​ตระกูล​จ้าว​จริง ๆ​ เสียแล้ว​!

“มาจริง​หรือ​?!”

“!!!”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เส้นทาง​ ผู้​อาว​โสตระกูล​จ้าว​ใบหน้า​ซีดเซียว​ด้วย​ความตกใจ​ พวกเขา​เตรียม​กำลังจะ​ระดม​คน​ไป​ที่นั่น​ ทว่า​ยัง​ไม่ได้​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ เซี่ยเหยียน​ก็​ลงมือทำ​ตามที่​พูด​ มารับ​พวกเขา​ถึงที่​!

“มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​มาพูดคุย​กัน​ดี ๆ​ เถิด​!”

แม้ประมุข​ตระกูล​จ้าวจะ​ตกใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ใน​ครา​แรก​ แต่​อย่างไร​เสีย​เขา​ก็​เป็น​ถึงประมุข​ตระกูล​ จึงสามารถ​สงบใจ​ลง​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ พร้อม​ส่งเสียง​หา​เซี่ยเหยียน​ผ่าน​ความว่างเปล่า​

“พวก​เจ้าก็​มาคุย​ที่นี่​เถอะ​”

เซี่ยเหยียน​กล่าว​อย่าง​เฉยชา​

นี่​คือ​พลัง​ของ​ขอบเขต​เซียน​ นาง​บรรลุ​ถึงขอบเขต​เซียน​นาน​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่ใช่เซียน​ธรรมดา​ทั่วไป​

“ตกลง​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​แย้มยิ้ม​ภายในใจ​ เซี่ยเหยียน​นั้น​พึ่งพา​ได้​จริง ๆ​ วาจา​ล้วน​น่าเชื่อถือ​ ก่อนหน้านี้​นาง​กล่าวว่า​ตนเอง​ก้าวหน้า​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ พลัง​ขอบเขต​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ ตอนนี้​เขา​ได้​เห็นด้วย​ตา​ตนเอง​ นับ​ได้​ว่า​แข็งแกร่ง​มาก​จริง ๆ​

ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​นาง​เอ่ย​ว่า​ จ้าว​จงกับ​สวี​จิ้งเป็น​เพียง​แมลง​วันตัว​จ้อย​ไร้​ความสำคัญ​ เมื่อ​จ้าว​จงและ​สวี​จิ้งยืน​อยู่​ต่อหน้า​เซี่ยเหยียน​แล้ว​ พวกเขา​ก็​ไม่อาจ​นับ​เป็น​สิ่งใด​ได้​

ทาง​ด้าน​ฉิน​หวาย​เฟิงนั้น​ยิ่ง​ตกตะลึง​มากกว่า​ เขา​ไม่เคย​เห็น​วิธีการ​เช่นนี้​มาก่อน​ อย่า​ว่าแต่​ได้​เห็น​เลย​ กระทั่ง​ได้ยิน​ก็​ยัง​ไม่เคย​!

เขา​ได้​พบพาน​กับ​ตัวตน​เช่นใด​กัน​!

“พะ​ พี่​…พี่สาว​! เรื่อง​ทั้งหมด​ข้า​ล้วน​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​แต่อย่างใด​! เป็น​จ้าว​จงที่บังคับ​ให้​ข้า​ทำ​! ใน​ตอนนั้น​เขา​ข่มขู่​ว่า​หาก​ข้า​ไม่อยู่​กับ​เขา​ ก็​จะสังหาร​ข้า​ทิ้ง​เสีย​ ทำให้​ข้า​ต้อง​มาอยู่​กับ​จ้าว​จง!”

สวี​จิ้งรีบ​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ ขอร้อง​อ้อน​วอนขอ​ความเมตตา​จาก​เซี่ยเหยียน​ให้​ปล่อย​นาง​ไป​

เดิมที​นาง​ยังคง​มีความหวัง​สาย​หนึ่ง​อยู่​ภาย​ใจใน​ คิด​ว่า​สามารถ​พึ่งพา​ตระกูล​จ้าว​ได้​ แต่​ตอนนี้​เมื่อ​ได้​เห็น​พลัง​ของ​เซี่ยเหยียน​แล้ว​ นาง​ก็​ไม่หลงเหลือ​ความหวัง​อีกต่อไป​ สิ่งใด​คือ​ตระกูล​จ้าว​กัน​ ไม่อาจ​เทียบ​ได้​กับ​เซี่ยเหยียน!​

เซี่ยเหยียน​ปรายตา​มอง​สวี​จิ้ง หลังจากนั้น​ก็​ละสายตา​ออก​ไป​ไม่ได้​สนใจ​สวี​จิ้งแต่อย่างใด​

นาง​จะเชื่อ​ใน​สิ่งที่​สวี​จิ้งพูด​ได้​อย่างไร​?

ไม่มีทาง​!

อัน​ใด​คือ​ถูก​จ้าว​จงบังคับ​ เมื่อ​ครู่​นาง​เพิ่ง​สั่งให้​ฉิน​หวาย​เฟิงเห่าหอน​เหมือน​สุนัข​ด้วย​ความคิด​ของ​ตัวนาง​เอง​ ไม่ได้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​จ้าว​จงแต่อย่างใด​ สวี​จิ้งนั้น​มีจิตใจ​เลวร้าย​ เป็น​สตรี​มีพิษ​ผู้​หนึ่ง​!

ตอนนี้​สวี​จิ้งยัง​คิด​จะผลัก​เรื่องราว​ทุกอย่าง​ลง​บน​หัว​ของ​จ้าว​จง เหอะ​ เหอะ​ สวี​จิ้งผู้​นี้​สามารถ​ทำได้​ทุกสิ่ง​จริง ๆ​…

“หวาย​เฟิง! ท่าน​เชื่อ​ข้า​เถิด​ เรื่อง​ที่​ข้า​กล่าว​ไป​ล้วน​เป็น​ความจริง​ทั้งหมด​! สิ่งที่​ข้า​เอ่ย​กับ​ท่าน​ใน​ตอนนั้น​เป็นเรื่อง​โกหก​ทั้งหมด​! ข้า​ไม่เคย​วางแผนการ​อัน​ใด​กับ​ท่าน​ ข้า​จริงใจ​กับ​ท่าน​เสมอ​! หวาย​เฟิง คน​ที่​ข้า​รัก​ก็​คือ​ท่าน​เท่านั้น​!”

เมื่อ​เห็น​ว่า​เซี่ยเหยียน​ไม่สนใจ​ นาง​จึงรีบ​หันไป​ร่ำไห้​กับ​ฉิน​หวาย​เฟิง

“อย่า​ได้​เอ่ย​คำ​ว่า​รัก​ออกมา​ น่า​คลื่นไส้​นัก​! เจ้าคิด​ว่า​ข้า​ยัง​มอง​ตัวตน​ของ​เจ้าไม่ออก​หรือ​อย่างไร​? เจ้ากำลัง​คิด​สิ่งใด​อยู่​!”

ฉิน​หวาย​เฟิงเอ่ย​ออกมา​อย่าง​เย็นชา​ ไม่ได้​หวั่นไหว​แต่อย่างใด​

หาก​เขา​เชื่อ​สิ่งที่​สวี​จิ้งเอ่ย​ออกมา​อีกครั้ง​ เช่นนั้น​เขา​คงจะ​โง่งมจน​เกิน​เยียวยา​จริง ๆ​!

“บังอาจ​!”

ขณะนั้น​เอง​ ก็​มีเสียง​ตะโกน​ออกจาก​อีก​ฝั่งของ​เส้นทาง​ พร้อมกัน​นั้น​มีคลื่น​พลัง​อัน​น่าสะพรึงกลัว​แผ่ซ่าน​ออกมา​ ทำให้​เส้นทาง​ที่​เซี่ยเหยียน​สร้าง​ขึ้น​มาพังทลาย​ลง​ใน​บัดดล​!

ทันใดนั้น​เอง​ แสงเซียน​ก็​เปล่งประกาย​เรืองรอง​ เผย​ให้​เห็น​เส้นทาง​ที่​สว่างไสว​และ​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งกว่า​มุ่งตรง​มาทาง​นี้​!

“ก่อกวน​การฝึกฝน​ รบ​กลัว​การ​หลับ​ลึก​ของ​ข้า​ เจ้าสมควร​ถูก​ลงโทษ​!”

มีเสียงดัง​ขึ้น​มาจาก​ฝั่งนั้น​อีกครั้ง​ เสียง​นี้​เต็มไปด้วย​ความกดดัน​มหาศาล​ ประหนึ่ง​การ​โจมตี​ของ​สายฟ้า​ ชวน​เกิด​ความหวาดกลัว​จน​เนื้อตัว​สั่นเทา​ไม่ได้​!

เซี่ยเหยียน​ขมวดคิ้ว​ นาง​สัมผัส​ได้​ถึงแรงกดดัน​อัน​แข็งแกร่ง​ คน​ผู้​นี้​มาจาก​ที่ใด​กัน​? เหตุใด​จึงแข็งแกร่ง​ถึงเพียงนี้​?

แรงกดดัน​นี้​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​อยู่​เหนือ​ขอบเขต​เซียน​ขึ้นไป​ นาง​เกิด​ความ​อยากรู้อยากเห็น​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ เมื่อใด​กันที่​อาณาจักร​แห่ง​นี้​มีตัวตน​ที่​ทรงพลัง​เช่นนี้​ดำรงอยู่​?

บน​ถนน​เส้น​ใหม่​มีร่าง​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ก้าวเดิน​ออกมา​อย่าง​แช่มช้า ทุกครั้งที่​ฝ่าเท้า​ย่ำ​ลง​ ฟ้าดิน​ราวกับ​จะสั่นสะเทือน​ ประหนึ่ง​เกิด​แผ่นดินไหว​ครั้ง​ใหญ่​ส่งเสียง​สะเทือน​เลือน​ลั่น​ไม่หยุด​

“ฮ่าฮ่า!”

สวี​จิ้งยิ้ม​ออกมา​ นาง​มอง​ไป​ทาง​ฉิน​หวาย​เฟิงอย่าง​เหยียดหยาม​ “ฉิน​หวาย​เฟิง เจ้าพูด​ไม่ผิด​ ข้า​ไม่เคย​เหลือบ​แล​เจ้าตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ ใน​ใจของ​ข้า​มีเพียงแต่​ท่าน​พี่​จง!”

นาง​มอง​ไป​ทาง​จ้าว​จงด้วย​ความอ่อนโยน​ “ท่าน​พี่​จง ท่าน​อย่า​ได้​ใส่ใจคำพูด​ของ​ข้า​เลย​ สิ่งที่​ข้า​พูด​ล้วน​เป็น​คำ​โกหก​ ต้องการ​สร้าง​ความ​สับสน​ให้​พวกเขา​ จากนั้น​ก็​เตรียม​ใช่ประโยชน์​จาก​ช่องว่าง​ที่​พวกเขา​ไม่ทัน​ตั้งตัว​! ตัว​ข้า​นั้น​เป็น​คน​ของ​ท่าน​พี่​จงตลอดไป​!”

คน​ที่มา​นั้น​จะต้อง​น่ากลัว​กว่า​เซี่ยเหยียน​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ นาง​จึงเปลี่ยนท่าที​ภายใน​พริบตา​ รีบ​ลุก​ไป​อยู่​ด้าน​ข้าง​จ้าว​จง

น่าสะอิดสะเอียน​เหลือเกิน​!

ฉิน​หวาย​เฟิงขมวดคิ้ว​ บน​โลก​นี้​มีคน​ที่​ไร้ยางอาย​ถึงขั้น​นี้​อยู่​ได้​อย่างไร​

เขา​รู้สึก​สะอิดสะเอียน​จน​อยาก​จะอาเจียน​ออกมา​จริง ๆ​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท