รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 702 นี่มันสง่างามเสียยิ่งกว่ากระบี่เหิน!

บทที่ 702 นี่มันสง่างามเสียยิ่งกว่ากระบี่เหิน!

บท​ที่​ 702 นี่​มัน​สง่างามเสีย​ยิ่งกว่า​กระบี่​เหิน​!

เซี่ยเหยียน​ขมวดคิ้ว​ รู้สึก​รังเกียจ​ไม่ต่างกัน​ เมื่อ​ครู่​สวี​จิ้งเพิ่งจะ​ขอร้อง​อ้อนวอน​นาง​กับ​ฉิน​หวาย​เฟิงอย่าง​ ‘จริงใจ​’ แต่​เมื่อ​สถานการณ์​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ ก็​เปลี่ยนท่าที​ตาม​ภายใน​พริบตา​ คน​ผู้​นี้​…ช่างสุดยอด​จริง ๆ​

ใบหน้า​ของ​นาง​คง​หนา​เสีย​ยิ่งกว่า​กำแพงเมือง​

แต่​น่าเสียดาย​ ที่​สถานการณ์​ที่​แปร​เปลี่ยนไป​นั้น​เป็น​แค่​ความคิด​ของ​สวี​จิ้งเท่านั้น​ สำหรับ​เซี่ยเหยียน​แล้ว​ สถาการณ์​ไม่ได้​มีการเปลี่ยนแปลง​แม้แต่น้อย​

คน​ที่มา​น่าสะพรึงกลัว​แล้ว​อย่างไร​?

คุณชาย​นั่ง​อยู่​ตรงนี้​แล้ว​ ผู้ใด​มาก็​ล้วน​ไม่อาจ​ทำ​สิ่งใด​ได้​!

“…”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ไร้​คำ​จะเอ่ย​ คน​อย่าง​สวี​จิ้งนั้น​ไม่มียางอาย​เลย​แม้แต่น้อย​

แต่​ด้วย​วาจา​เมื่อ​ครู่​ของ​สวี​จิ้งเพิ่งจะ​โยนความผิด​ทุกอย่าง​ใส่หัว​จ้าว​จง ดังนั้น​แล้ว​จ้าว​จงยัง​จะสามารถ​ยอมรับ​สวี​จิ้งได้​อีก​หรือ​?

เขา​รู้สึก​ว่า​สวี​จิ้งกำลัง​ทำตัว​เป็น​นกสองหัว​

ทว่า​เขา​ก็​ถูก​ ‘ตบหน้า​’ อย่าง​รวดเร็ว​ จ้าว​จงไม่ได้​ถือสา​สวี​จิ้งแม้แต่น้อย​!

“ที่รัก​ของ​ข้า​ เจ้ากำลัง​พูด​สิ่งใด​กัน​ ข้า​ไม่เคย​สงสัย​ใน​ตัว​เจ้าเลย​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ ข้า​รู้​ว่า​ภายในใจ​ของ​เจ้ามีเพียงแต่​ข้า​”

จ้าว​จงมอง​สวี​จิ้งพลาง​เอ่ย​ออกมา​

เขา​ไม่ได้​ถือสา​เลย​จริง ๆ​ สำหรับ​เขา​แล้ว​สวี​จิ้งเป็น​เพียงแค่​ ‘ของเล่น​’ ชิ้น​หนึ่ง​ ไม่สำคัญ​ว่า​จะจริงใจ​หรือไม่​ ขอ​เพียงแค่​เล่น​ด้วย​ได้​ก็​พอ​

“ขอบคุณ​ท่าน​พี่​จง! ท่าน​พี่​จงดี​ที่สุด​เลย​!”

สวี​จิ้งกล่าว​ออกมา​ด้วย​รอยยิ้ม​

กล่าว​ตามตรง​แล้ว​ นาง​เอง​ก็​รู้ดี​ว่า​จ้าว​จงไม่ได้​จริงใจ​กับ​นาง​ แต่​นาง​ก็​ไม่ได้​ใส่ใจอัน​ใด​เช่นเดียวกัน​

เพราะ​นาง​เอง​ก็​ไม่ได้​จริงใจ​ต่อ​จ้าว​จงแต่อย่างใด​ เพียงแค่​ต้อง​การใช้งาน​อีก​ฝ่าย​ พวกเขา​ทั้งคู่​ต่าง​ก็ได้​สิ่งที่​ต้องการ​ เท่านี้​ก็​นับว่า​ลุล่วง​ดีแล้ว​

‘ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​พวกเขา​สอง​คน​จะอยู่​ด้วยกัน​ได้​ ช่างสมกับ​เป็น​ผี​เน่า​โลง​ผุ​เสีย​จริง​…’

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คิดในใจ​

จ้าว​จงและ​สวี​จิ้งต่าง​ก็​จอมปลอม​ทั้งคู่​ ทั้งสอง​ต่าง​ไม่ถือสา​สิ่งใด​ นับว่า​ไม่ต่างกัน​มาก​นัก​!

ไม่ต้อง​กล่าว​เลย​ว่า​ ภายในใจ​ของ​ฉิน​หวาย​เฟิงมีหลากหลาย​อารมณ์​มาก​เพียงใด​

เขา​ใน​ยาม​นั้น​ตาบอด​ถึงเพียงนั้น​ได้​อย่างไร​กัน​ ถึงกับ​มอง​สิ่งใด​ไม่ออก​สักนิด​ ไม่ต้อง​กล่าวถึง​เรื่อง​ยอม​ช่วยเหลือ​สวี​จิ้งใน​ทุก​เรื่อง​ เขา​กระทั่ง​ตกหลุมรัก​สวี​จิ้งจาก​ใจจริง​!

เมื่อ​มาย้อน​คิด​ตอนนี้​แล้ว​ ก็​อยาก​จะตี​ตัวเอง​ยาม​นั้น​ให้​ตาย​จริง ๆ​

ตา​มืด​บอด​เกินไป​แล้ว​!

“ท่าน​พี่​ หาก​ท่าน​เลือก​คน​เช่นนี้​มาเป็น​พี่สะใภ้​ในอนาคต​ของ​ข้า​ ข้า​…ข้า​จะตัดความสัมพันธ์​กับ​ท่าน​!”

เสี่ยว​ห​ยา​เอ่ย​กับ​พี่ชาย​ของ​นาง​ด้วย​ความโกรธ​

นาง​เอง​ก็​รังเกียจ​สวี​จิ้งเช่นเดียวกัน​

“เจ้าวางใจ​ได้​ หาก​ข้า​ได้​สตรี​เช่นนี้​จริง​ เจ้าไม่จำเป็นต้อง​ตัดความสัมพันธ์​ เพราะ​ข้า​จะแทง​ตัวเอง​ให้​ตาย​ไป​ก่อน​เลย​!”

พี่ชาย​เสี่ยว​ห​ยา​รู้สึก​รังเกียจ​ไม่ต่างกัน​ นับว่า​ได้​เปิดหูเปิดตา​แล้ว​ เพิ่ง​รู้​ว่า​ยังมี​สตรี​เช่น​สวี​จิ้งอยู่​ใน​ใต้​หล้า​นี้​

ฟิ้ววว!​

แสงสว่าง​เจิดจ้า​พุ่ง​ออก​มาจาก​เส้นทาง​ท่ามกลาง​ความว่างเปล่า​ ร่าง​อัน​น่าสะพรึงกลัว​นั้น​ใกล้​เข้ามา​เรื่อย ๆ​ ด้านหลัง​ของ​คน​ผู้​นั้น​มีประมุข​ตระกูล​จ้าว​และ​ยอด​ฝีมือ​คนอื่น​ ๆ ตามมา​ด้วย​

แรงกดดัน​อัน​น่าสะพรึงกลัว​แผ่​ปกคลุม​ ฟ้าดิน​สั่นสะเทือน​รุนแรง​เสีย​ยิ่งกว่า​เดิม​ เพียงแค่​ได้​เห็น​ หัวใจ​ของ​ฉิน​หวาย​เฟิงก็​ถึงกับ​เต้น​ระรัว​ แต่​ก็​มีสิ่งที่​ทำให้​เขา​ประหลาดใจ​ นั่น​คือ​เขา​เพียงแค่​เกิด​ความรู้สึก​หวาดกลัว​ภายในใจ​ ไม่ได้​เผชิญ​กับ​แรงกดดัน​แต่อย่างใด​

นี่​มัน​เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​?

โดยปกติ​แล้ว​ ด้วย​ขอบเขต​ของ​เขา​ แรงกดดัน​ถึงเพียงนี้​ เขา​ไม่อาจ​ทน​รับได้​เลย​ จิตวิญญาณ​จะต้อง​พังทลาย​ในทันที​

ทว่า​เขา​กลับ​ไม่รู้สึก​ถึงแรงกดดัน​เลย​แม้แต่น้อย​ ราวกับว่า​แรงกดดัน​นั้น​ไม่มีอยู่​จริง​!

เขา​มอง​ไป​ทาง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ก็​พบ​ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​นั้น​ดู​สบายดี​เป็น​อย่างยิ่ง​ สีหน้าท่าทาง​ยังคง​สงบนิ่ง​ ก่อนหน้านี้​ที่​ได้​สนทนา​กัน​ระหว่างทาง​ เขา​เห็น​ว่า​เซี่ยเหยียน​และ​คนอื่น​ ๆ ต่าง​เคารพ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เป็นอย่างมาก​ นี่​ทำให้​เขา​ค่อย ๆ​ เข้าใจ​เรื่องราว​บางอย่าง​ขึ้น​มา ดูเหมือนว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​จะเป็น​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​!

เหตุผล​ที่​ไม่มีแรงกดดัน​ตก​ใส่เขา​ เกรง​ว่า​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​อยู่​ด้าน​ข้าง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​!

เมื่อ​คิดถึง​ตรงนี้​แล้ว​ หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ค่อย ๆ​ สงบ​ลง​

สามารถ​ทำให้​แรงกดดัน​ขนาด​นี้​เสมือน​ไม่มีอยู่​จริง​ได้​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​จะต้อง​ไม่ธรรมดา​สามัญ อย่าง​น้อย​ก็​ไม่แย่​ไป​กว่า​สิ่งมีชีวิต​ที่​กำลัง​มา

ใช้เวลา​เพียง​ไม่นาน​ ร่าง​อัน​น่า​พรั่นพรึง​ก็​ก้าว​ออก​มาจาก​เส้นทาง​ ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ขน​สีทอง​เรืองรอง​ ประหนึ่ง​มีเปลวเพลิง​ลุกโชติช่วง​ มัน​คือ​กิเลน​เพลิง​ตัว​หนึ่ง​ หัว​เป็น​มังกร​ ร่าง​เป็น​กวาง​ หาง​เป็น​วัว​ มีขา​เหมือน​ม้า ขา​ทั้ง​สี่ข้าง​และ​หาง​เต็มไปด้วย​เปลวเพลิง​สีทอง​โหมกระหน่ำ​ ดู​ดุร้าย​และ​น่าเกรงขาม​เป็น​อย่างยิ่ง​!

เพียงแค่​มัน​ลืมตา​ขึ้น​มา ก็​ราวกับ​สามารถ​เห็น​เปลวเพลิง​กอง​มหึมา​กำลัง​ขยับ​ไหว​อยู่​ภายใน​ น่า​หวาดหวั่น​จน​ไม่อาจ​จินตนาการ​ถึง ประหนึ่ง​สามารถ​เผา​ดาว​บน​จักรวาล​หมื่น​ดารา​ทิ้ง​ไป​ทีละ​ดวง​ทีละ​ดวง​ได้​!

“สง่างามนัก​!”

เมื่อ​เห็น​กิเลน​ไฟตน​นี้​ ดวงตา​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​พลัน​เปล่งประกาย​ขึ้น​มาทันที​ ร้อง​อุทาน​ออกมา​ใน​ใจ

หาก​นำมา​เป็น​สัตว์​ขี่​ได้​ น่าจะ​สง่างามเสีย​ยิ่งกว่า​กระบี่​เหิน​ซะอีก​!

เขา​เปลี่ยนความคิด​ในทันที​ ไม่คิด​จะใช้กระบี่​เหิน​อีกต่อไป​ แต่​อยาก​นั่ง​กิเลน​เพลิง​โบยบิน​ไป​ทั่ว​ท้อง​นภา​!

ทว่า​ไม่รู้​ว่า​กิเลน​เพลิง​ตน​นี้​จะจัดการ​ได้​ง่าย​หรือไม่​!

เขา​ต้องการ​ที่จะ​ลงมือ​ด้วย​ตนเอง​!

อย่างไร​เสีย​ตน​ก็​เป็น​ผู้​อยากได้​กิเลน​เพลิง​มาเป็น​สัตว์​ขี่​ หาก​ไม่สามารถ​สยบ​กิเลน​เพลิง​ได้​ด้วย​ตนเอง​ เขา​ก็​คง​ไม่อาจจะ​ขี่​มัน​อย่าง​มั่นคง​ได้​

‘ไม่เป็นไร​ ข้า​แค่​ขอ​ลอง​ดูก่อน​ อย่างไร​เสีย​เซี่ยเหยียน​ก็​อยู่​ที่นี่​’

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คิด​ขึ้น​มาใน​ใจ มีเซี่ยเหยียน​อยู่​เบื้องหลัง​ เขา​ไม่จำเป็นต้อง​กังวล​หรือ​หวาดเกรง​สิ่งใด​

แม้กิเลน​เพลิง​จะดู​ดุร้าย​เป็น​อย่างยิ่ง​ แต่​เห็น​สีหน้า​ของ​เซี่ยเหยียน​ที่​ไม่แปรเปลี่ยน​เลย​สักนิด​ ยังคง​สงบ​และ​ผ่อนคลาย​เช่นเดียวกัน​ แสดงว่า​นาง​จะต้อง​มีวิธี​จัดการ​กับ​กิเลน​เพลิง​ตัว​นี้​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ เขา​ก็​ไม่ลังเล​อีก​ หันไป​เอ่ย​กับ​เซี่ยเหยียน​ว่า​ “เซี่ยเหยียน​ เจ้ากลับมา​ ข้า​จะไป​เอง​”

คุณชาย​จะลงมือ​เอง​อย่างนั้น​หรือ​?

เซี่ยเหยียน​ตกตะลึง​ระคน​ประหลาดใจ​ นาง​ไม่คิด​ว่า​กิเลน​เพลิง​จะมีพลัง​มาก​พอที่จะ​เป็น​คู่มือ​ของ​คุณชาย​ แม้ว่า​มัน​จะสามารถ​สร้าง​แรงกดดัน​อย่าง​มาก​ให้​นาง​ได้​ก็ตาม​

หาก​ใช้พลัง​ทั้งหมด​ออกมา​ รวมทั้ง​เรียก​คันศร​ที่​คุณชาย​มอบให้​ นาง​ก็​มั่นใจ​ว่า​ตนเอง​จะสามารถ​จัดการ​กิเลน​เพลิง​ลง​ได้​อย่าง​แน่นอน​

นอกจากนี้​ ต่อให้​ล้มเหลว​ขึ้น​มา นาง​ก็​ย่อม​ไม่เป็นอัน​ใด​ ใน​เมื่อ​ตรงนี้​ยังมี​ลั่วสุ่ย​ยืน​อยู่​อีก​คน​

ขอ​เพียง​ลั่วสุ่ย​ร่าย​มวย​ไทเก๊ก​จบ​ชุด​หนึ่ง​ แม้กิเลน​เพลิง​จะแข็งแกร่ง​แค่​ไหน​ก็​ต้อง​ถูก​สยบ​ลง​ในที่สุด​

แรงกดดัน​ของ​กิเลน​เพลิง​นั้น​ยัง​ด้อย​กว่า​ลู่​อู๋​ ซ้ำยังมี​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​ ลั่วสุ่ย​สามารถ​ลงมือ​สยบ​กิเลน​เพลิง​ได้​โดย​ไม่มีปัญหา​แม้แต่น้อย​

การ​ที่​คุณชาย​ต้องการ​ลงมือ​เอง​ก็​คง​เพราะ​ถูกใจ​กิเลน​เพลิง​ตัว​นี้​

นาง​แย้มยิ้ม​แล้ว​ตอบกลับ​ทันที​ว่า​ “รับทราบ​แล้ว​คุณชาย​”

หลังจากนั้น​นาง​ก็​ถอยกลับ​ไป​

เมื่อ​เห็น​รอยยิ้ม​เจิดจ้า​บน​ใบหน้า​เซี่ยเหยียน​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ก็​รู้สึก​มั่นใจ​มากยิ่งขึ้น​

นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​กิเลน​เพลิง​ไม่อาจ​ทำ​สิ่งใด​ได้​ แม้กระทั่ง​ตัว​เขา​ก็​สามารถ​ปราบปราม​มัน​ลง​ได้​ ไม่เช่นนั้น​เซี่ยเหยียน​จะยิ้ม​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​

เซี่ยเหยียน​ไม่มีทาง​ขุด​หลุม​ใส่เขา​แน่นอน​

ชายหนุ่ม​เดิน​ไป​เบื้องหน้า​พร้อมกับ​รอยยิ้ม​ เอ่ย​ออกมา​ระหว่าง​มอง​ไป​ทาง​กิเลน​เพลิง​ “มาเถิด​ คู่ต่อสู้​ของ​เจ้าคือ​ข้า​ ข้า​จะบอก​ไว้​ก่อน​เลย​ว่า​ข้า​ถูกใจ​เจ้า หาก​เจ้าแพ้​ ก็​จงมาเป็น​สัตว์​ขี่​ให้​ข้า​อย่าง​ว่าง่าย​เสียเถิด​ วางใจ​ได้​ หาก​เป็น​สัตว์​ขี่​ของ​ข้า​แล้ว​ ข้า​ย่อม​ไม่ปฏิบัติ​กับ​เจ้าอย่าง​ไม่เลวร้าย​ จะดี​กับ​เจ้าเป็นอย่างมาก​”

หลังจากที่​กิเลน​เพลิง​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​แล้ว​ ดวงตา​ทั้งสอง​ข้าง​พลัน​เต็มไปด้วย​โทสะ​เดือด​พล่าน​ จิต​สังหาร​ล้น​ทะลัก​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​มัน​ ฟ้าดิน​ถึงกับ​เปลี่ยนสี​กลายเป็น​ดำ​สนิท​อย่าง​ถึงที่สุด​!

พูด​บ้า​อัน​ใด​!?

มัน​เพิ่ง​ได้ยิน​สิ่งใด​กัน​?

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​บอ​กว่า​ต้องการ​มัน​ไป​เป็น​สัตว์​ขี่​!

ตัวตน​ของ​มัน​คือ​อะไร​ กระทั่ง​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ยัง​ไม่มีผู้ใด​กล้า​พูด​กับ​มัน​เช่นนี้​

แน่นอน​ว่า​ ตัว​มัน​นั้น​ไม่ได้​แข็งแกร่ง​อัน​ใด​มากมาย​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​

ทว่า​เบื้องหลัง​ของ​มัน​น่าสะพรึงกลัว​เป็น​อย่างยิ่ง​ กระทั่ง​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ยัง​ไม่มีผู้ใด​กล้า​ยั่วยุ​มัน​โดยง่าย​!

มัน​มาจาก​เผ่า​กิเลน​ หนึ่ง​ใน​เผ่า​ที่​เก่าแก่​ที่สุด​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ยืน​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​มาโดยตลอด​ แข็งแกร่ง​จน​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​!

สายเลือด​ของ​มัน​สะท้าน​ฟ้าอย่าง​ถึงที่สุด​ เพียงแต่​มัน​ยัง​ไม่โต​เต็ม​วัย​ ไม่เช่นนั้น​คง​ไม่อ่อนแอ​ถึงเพียงนี้​

เมื่อ​โต​เต็ม​วัย​แล้ว​ มัน​จะต้อง​กลาย​เป็นยอด​ฝีมือ​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ได้​อย่าง​แน่นอน​ มีสิ่งมีชีวิต​จำนวน​น้อย​นิด​ที่​สามารถ​ต่อกร​กับ​มัน​ได้​!

ใช่แล้ว​ มัน​เอง​ก็​ร่วงหล่น​ออก​มาจาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​

เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​ ดินแดน​บรรพ​โกลาหล​ไม่เสถียร​เป็น​อย่างยิ่ง​ ทำให้​รอยร้าว​มักจะ​ปรากฏ​ขึ้น​มาอย่าง​ไร้​สัญญาณบอก​ มัน​จึงเผลอ​ตกลง​มายัง​อาณาจักร​แห่ง​นี้​ผ่าน​รอยร้าว​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​

หลังจาก​ตกลง​มายัง​อาณาจักร​แห่ง​นี้​แล้ว​ มัน​ก็​ต้องการ​จะกลับ​ไป​ ทว่า​กลับ​หา​รอยร้าว​เหล่านั้น​ไม่พบ​เสียแล้ว​ จึงไม่มีทางเลือก​นอกจาก​ต้อง​อยู่​ต่อ​

มัน​ได้​พบ​กับ​ดินแดน​ของ​ตระกูล​จ้าว​โดยบังเอิญ​ และ​สัมผัส​ได้​ว่า​ดินแดน​ของ​ตระกูล​จ้าว​นั้น​ไม่เลว​เลย​ แข็งแกร่ง​ยิ่งกว่า​สถานที่​แห่ง​อื่น​ที่​มัน​ผ่าน​มา ดังนั้น​มัน​จึงลงหลักปักฐาน​ใน​ตระกูล​จ้าว​

หาก​เซี่ยเหยียน​ไม่ได้​เปิด​เส้นทาง​เข้าไป​ยัง​ดินแดน​ของ​ตระกูล​จ้าว​ มัน​ก็​คง​ไม่ออกมา​เช่นนี้​ แต่​ยังคง​ฝึกฝน​ต่อไป​ด้านใน​ดินแดน​ตระกูล​จ้าว​

“เห็น​เช่นนี้​แล้ว​ ความจริง​ข้า​เอง​ก็​แข็งแกร่ง​มาก​นะ​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เห็น​กิเลน​เพลิง​ไม่พูดไม่จา​อัน​ใด​ แต่​บน​ร่าง​เปี่ยม​ด้วย​จิต​สังหาร​มากกว่า​เดิม​ ทำให้​เขา​คิด​ว่า​กิเลน​เพลิง​กำลัง​ดูหมิ่น​เขา​ เพราะ​เห็น​เขา​เป็น​เพียงแค่​ปุถุชน​ทั่วไป​

ก็​จริง​ที่​เขา​เป็น​ปุถุชน​

แต่​ใน​มือ​ของ​เขา​ยังมี​สมบัติ​อยู่​หลาย​ชิ้น​ เขา​เคย​ใช้งาน​สมบัติ​เหล่านี้​มาแล้ว​หลายครั้ง​ สมบัติ​เหล่านี้​ล้วนแล้วแต่​ทรงพลัง​จริง ๆ​ กระทั่ง​เขา​ที่​เป็น​ปุถุชน​ยัง​สามารถ​สำแดง​พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ออกมา​ได้​

“แข็งแกร่ง​มาก​? แข็งแกร่ง​มาก​เพียงใด​กัน​!?”

กิเลน​เพลิง​หัวเราะ​ออกมา​ สิ่งมีชีวิต​นอก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ถึงกับ​กล้า​บอ​กว่า​ตัวเอง​แข็งแกร่ง​มาก​เชียว​หรือ​?

น่าขัน​นัก​!

แดน​บรรพ​โกลาหล​เป็น​แกนกลาง​โกลาหล​ นับ​เป็น​สถานที่​ที่​ทรงพลัง​มาก​ที่สุด​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ภายนอก​ กระทั่ง​อาณาจักร​นับ​หมื่น​ ชีวิต​นับไม่ถ้วน​ ล้วน​วิวัฒน์​ขึ้น​จาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​!

ความต่าง​ชั้น​ที่​มีนั้น​ห่างไกล​จน​ไม่อาจ​กล่าวถึง​!

มีเพียงแค่​สิ่งมีชีวิต​จาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​เท่านั้น​ที่​สามารถ​นับว่า​แข็งแกร่ง​ต่อหน้า​มัน​ได้​ ส่วน​สิ่งมีชีวิต​ใน​อาณาจักร​ภายนอก​เหล่านี้​ แม้จะแข็งแกร่ง​เท่าไหร่​ก็​ไม่มีคุณสมบัติ​ที่จะ​เอ่ย​ว่า​ตนเอง​แข็งแกร่ง​ต่อหน้า​มัน​!

“แข็งแกร่ง​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​!”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มอง​ไป​ทาง​กิเลน​เพลิง​ด้วย​สายตา​จริงจัง​ “อย่า​มองว่า​ข้า​เป็น​เพียง​ปุถุชน​ ตัว​ข้า​นั้น​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​!”

ปุถุชน​?

นี่​มัน​บ้า​อัน​ใด​กัน​!

หา​กห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เป็น​ปุถุชน​อะไร​นั่น​ตามที่​พูด​จริง​ จะมายืน​กำเริบเสิบสาน​เพียงนี้​ต่อหน้า​มัน​ได้​อย่างไร​?

หาก​เป็น​ปุถุชน​จริง​ เกรง​ว่า​คงจะ​ตื่นตกใจ​จน​วิญญาณ​พังทลาย​ไป​นาน​แล้ว​!

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​กำลัง​แสร้ง​ทำตัว​เป็น​หมาป่า​หาง​โต​ต่อหน้า​มัน​?

มัน​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน​อีกครั้ง​ จิต​สังหาร​พุ่ง​ทะยาน​ฟ้า ไม่มีสิ่งมีชีวิต​ใด​กล้า​มาล้อเล่น​กับ​มัน​เช่นนี้​ ถึงกับ​กล้า​แสร้ง​วางท่า​ต่อหน้า​มัน​!

ปุถุชน​?

คุณชาย​ห​ลี่​ผู้​นี้​ช่างมีอารมณ์ขัน​เสีย​จริง​!

ฉิน​หวาย​เฟิงยิ้มเจื่อน​ เขา​เอง​ก็​ไม่เคย​คิด​ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เป็น​ปุถุชน​

“เจ้าไม่เชื่อ​หรือว่า​ข้า​แข็งแกร่ง​มาก​?”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มอง​ไป​ทาง​กิเลน​เพลิง​ “ปุถุชน​เอง​ก็​สามารถ​แข็งแกร่ง​ได้​!”

“ข้า​ยัง​ไม่ลงมือ​ก็​เพราะ​อยาก​จะดู​ว่า​กบ​ใน​บ่อน้ำ​อย่าง​เจ้าจะสามารถ​กระโดด​ได้​สูงสัก​เท่าไหร่​ ช่างน่าสมเพช​ กบ​ใน​บ่อ​อย่างไร​เสีย​ก็​เป็น​เพียงแค่​กบ​ใน​บ่อ​ ถึงกับ​อวด​โอ้​ได้​มากกว่า​ที่​ข้า​คิด​!”

กิเลน​เพลิง​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​เห​ยี​ด​หยาม​ “แข็งแกร่ง​มาก​อย่างนั้น​หรือ​? เช่นนั้น​ก็​ให้​ข้า​ดู​เสีย​ว่า​เจ้าแข็งแกร่ง​แค่​ไหน​กัน​เชียว​! หาก​ข้า​จามเพียงแค่​ครั้ง​เดียว​เจ้าก็​ตาย​เรียบร้อย​ ข้า​คงจะ​เบื่อ​เป็นอย่างมาก​!”

แม้ว่า​มัน​จะยัง​โต​ไม่เต็ม​วัย​ ความ​แข็งแกร่ง​เอง​ก็​อยู่​ระดับปานกลาง​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ทว่า​มัน​ก็​มั่นใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​จะสามารถ​กำราบ​ศัตรู​ทั้งหมด​ที่อยู่​ภายนอก​ได้​!

พลัง​ที่อยู่​ใน​แกนกลาง​โกลาหล​และ​ภาย​นอกนั้น​แตก​ต่างกัน​เป็นอย่างมาก​ เกรง​ว่า​ถึงแม้มัน​จะต้องสู้​ข้ามขั้น​ก็​ย่อม​ไม่มีปัญหา​แต่อย่างใด​ ไม่กดดัน​แม้แต่น้อย​!

“รักษา​ท่าทาง​เอาไว้​ให้​ดี​ ให้​ข้า​ได้​เล่น​สนุก​เสีย​!”

มัน​มอง​ไป​ทาง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ด้วย​ความ​เหยียดหยาม​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท