เมื่อเเสงสว่างได้หายไปข้างในหม้อปรุงยาได้มีเม็ดยาเม็ดหนึ่งซึ่งกำลังตั้งอยู่ในหม้อปรุงยามีสีเขียวเมื่อสูดดมกลิ่นหอมของเม็ดยาให้ความรู้สึก
เหมือนจะทำให้วิญญาณปลอดโปร่งรู้สึกสดชื่น
ชายชราหนานกงได้พูดอย่างมีความสุขว่า
” อ่าในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จแล้วในที่สุด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
เมื่อชายชราหนานกงหัวเราะอย่างมีความสุขและกำลังพุ่งปหาเฟยหลงที่ยืนรออย่างสบายใจอยู่แต่เมื่อจังหวะที่ชายชราหนานกงได้พุ่งเข้ามาจะถึงตัวเฟยหลงจึงได้หลบโดยการเอียงตัวไปด้านข้าง
ชายชราหนานกงที่กำลังพุ่งเข้ามากอดเฟยหลงแต่เฟยหลงหลบออกไปด้านข้างจึงทำให้ชายชราหนานกงที่กำลังเข้ามากอดด้วยความสุขและด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ชายชราที่กำลังพุ่งเข้ามากอดได้หยุดตัวเองไม่ได้และชนเข้ากลับผนังห้องอย่างเเรง
ทำให้สิ่งของต่างที่อยู่ในบริเวณนั้นซึ่งทำให้ของเหล่านั้นหล่นลงมาทับถมชายชราหนานกง
เฟยหลงได้ยืนรออีกด้านอย่างสงบซึ่งผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขยับออกมาจากกองสิ่งของซึ่งไม่ใช่ใครนอกจากชายชราหนานกงนั้นเอง
เมื่อเห็นว่าชายชราหนานกงได้ลุกขึ้นมาจากกองสิ่งของที่ทับถมตัวเองแล้วนั้นเฟยหลงก็ได้พูดขึ้นมาว่า
” ท่านไม่ต้องมากอดข้าเลยข้าไม่ชอบเข้าใจไหม ”
เมื่อชายชราหนานกงได้ยินเฟยหลงพูดว่าไม่ชอบการโดนกอดก็ได้พูดออกมาว่า
” ข้าว่าเจ้าต้องร่าเริงหน่อยอย่าทำตัวเย็นชาขนาดนั้นเดี๋ยวก็ไม่มีคนอยากเป็นสหายกับเจ้าใช่แล้วเจ้าถอดชุดคลุมออกให้ข้าดูหน่อยได้ไหมข้าอยากเห็นหน้าเจ้าว่าเป็นยังไง ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินว่าชายชราหนานกงบอกว่าให้เฟยหลงถอดชุดคลุมออกออกจึงพูดกลับไปว่า
” ข้าสามารถถอดชุดคลุมออกได้แต่ว่าท่านต้องห้ามบอกเรื่องข้ากับใครทั้งนั้น ”
เหตุที่เฟยหลงยอมถอดชุดคลุมออกเพราะว่าชายชราหนานกงดูน่าเชื่อถือและเป็นคนตรงไปตรงมาส่วนอีกเหตุผลก็คือเฟยหลงต้องการสมุนไพรในสวนของชายชราหนานกง
เมื่อชายชราหนานกงได้ยินว่าเฟยหลงยอมตอบตกลงจึงตกใจและพูดว่า
” อะไรนะเจ้ายอมตกลงเหรอ ”
เมื่อชายชราหนานกงได้ยินว่าเฟยหลงตอบตกลงจึงแปลกใจและคิดว่า
‘ ตอนแรกข้าแค่ต้องการพูดเล่นก็แค่นั้นแต่เ้จาเด็กนี่กลับยอมถอดชุดคลุมออก ‘
เมื่อเฟยหลงเห็นว่าชายชราหนานกงยืนนิ่งเงียบโดยไม่ได้พูดอะไรต่อจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า
” ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ ”
เมื่อชายชราหนานกงได้ยินเสียงของเฟยหลงจึงได้หลุดออกจากห้วงความคิดของตนเองชายชราหนานกงจึงตอบว่า
” งั้นเจ้าถอดชุดคลุมออกให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อย ”
เฟยหลงได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าตอบตกลงและถอดชุดคลุมออกเเผยให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหล่าคมคายสีผิวขาวออกซีดเซียว
เมื่อชายชราหนานกงเห็นหน้าเฟยหลงจึงได้พูดขึ้นว่า
” ถึงเจ้าจะหน้าตาหล่อเหลาแต่เทียบกับข้าไม่ได้ตอนข้ายังเป็นเด็ก ”
เมื่อชายชราหนานกงได้พูดจบจึงนึกได้อีกเรื่องจึงพูดกับเฟยหลงต่ออีกว่า
” จริงสิข้าลืมเม็ดยาจิตวิญญาณไปได้ยังไง ”
เมื่อพูดจบก็ได้ยื่นมือลงไปในหม้อปรุงยาและเมื่อกำลังจะหยิบขึ้นมาก็ได้มีมือของเฟยหลงได้ม่หยิบก่อนที่มือชายชราจะถึงเม็ดยาจิตวิญญาณที่อยู่ในหม้อปรุงยา
เมื่อชายชราหนานกงหยิบได้เพียงอากาศว่างเปล่าจึงได้เเต่เก็บมือของตนเองกลับมาอย่างกระอักกระอ่วน
ด้านเฟยหลงที่หยิบเม็ดยามาพิจารณาดูและพบว่า
” เม็ดยาจิตวิญญาณนี้เเม้ว่าจะไม่ดีที่สุดแต่ก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายพอที่จะใช้ได้ก็เท่านั้นเพราะว่าคุณภาพระดับปานกลางความบริสุทธิ์เจ็ดเต็มสิบถึงจะไม่ได้ดีเลิศก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ”
เฟยหลงได้โยนเม็ดยาจิตวิญญาณให้ชายชราหนานกงแล้วพูดว่า
” ท่านรับไปเมื่อท่านปรุงยาได้แล้วข้าไม่มีอะไรต้องทำแล้วข้าจะกลับไปเมืองฟ้ากระจ่างถ้ามีเวลาว่างเดี๋ยวข้าเเสะมาอีก ”
เมื่อชายชราหนานกงเห็นว่าเฟยหลงกำลังจะจากไปจึงหยิบตั๋วใบหนึ่งให้เฟยหลงแล้วพูดว่า
” เจ้าเอาไปเลยสองล้านห้าแสนเหรียญทองที่ได้ตกลงกันไว้และตั๋วใบนี้สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ส่วนสมุนไพรเจ้าจะมาเอาตอนไหนก็ได้ถ้าเจ้ามีเวลาว่างมาพบกับข้าอีกครั้งแล้วก็รางวัลภารกิจสามารถไปเอาได้จากศาลาโอสถ ”
เฟยหลงได้สวมชุดคลุมและรับตั๋วใบนั้นและเดินต่อไปซึ่งจุดมุ่งหมายคือเมืองฟ้ากระจ่าง