เฟยหลงที่ได้เห็นหม้อปรุงยาใบนั้นและรู้สึกแปลกใจจึงได้กล่าวกับเฉินเหมียวว่า
” นี่เถ้าแก่เฉินท่านช่วยบอกข้าหน่อยเกี่ยวกับเรื่องหม้อปรุงยาใบนั้น ”
เมื่อเฟยหลงได้กล่าวจบก็ได้ชี้นิ้วขอตนไปที่หม้อปรุงยาใบนั้นซึ่งตั้งอยู่บนชั้นวางแต่ที่เฟยหลงไม่หยิบออกมาตรวจสอบเพราะรู้ว่ามีค่ายกลติดตั้งไว้อยู่ซึ่งถ้าไม่มีป้ายที่เฉินเหมียวมีอยู่ก็ไม่สามารถเข้าไปหยิบได้นอกจากทำลายค่ายกลนั้นทิ้ง
เฉินเหมียวได้หันไปมองยังหม้อปรุงยาที่เฟยหลงชี้นิ้วและกล่าว่า
” อ่า…หม้อปรุงยาใบนั้นหรือเดี๋ยวข้าขอคิดดูก่อนว่ามันมาจากไหนใช้อะไรสร้าง ”
เมื่อเวลาได้ผ่านไปหนึ่งก้านธูปเฉินเหมียวได้กล่่าวว่า
” อ่าข้าขอโทษด้วยที่ข้าใช้เวลาคิดนานหน่อยเพราะว่าหม้อปรุงยานี้อยู่มานานแล้วซึ่งข้าก็เกือบลืมมันแล้ว ”
เฟยหลงได้กล่าวอย่างไม่สนใจไรมากว่า
” ไม่เป็นไรหรอกท่านยังจำได้ถึงเเม้จะใช้เวลาคิดหน่อยแต่ก็ดีกว่าจำเกี่ยวกับหม้อปรุงยาใบนั้นไม่ได้ ”
เฉินเหมียวได้เริ่มต้นเล่าเรื่องราวและประวัติของหม้อปรุงยาว่า
” ข้าต้องขอโทษด้วยที่ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าหม้อปรุงยานี้ทำมาจากอะไรแต่ข้าสามารถบอกเล่าประวัติความเป็นมาได้หม้อปรุงยาใบนี้ข้าได้มาจากสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีสัตว์อสูรมากมายระหว่างการเข้าไปยังที่แห่งนั้นข้าได้พบเจอสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งตัวหนึ่งและรีบหลบหนีไปโดยการกระโดน้ำซึ่งตอนนั้นข้าได้อยู่บนหน้าผา ”
” แต่ความซวยของข้ายังไม่จบแค่นั้นเพราะว่าเมื่อข้าโดลงไปในน้ำข้าได้เจอกับสัตว์อสูรที่เป็นเหมือนจระเข้ไล่ตามข้าจึงรีบว่ายน้ำสุดชีวิตและขึ้นฝั่งหนีสัตว์อสูรที่เป็นเหมือนจระเข้นี่ได้แต่กลับไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างซึ่งจ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรในตอนแรกและขุดขึ้นมาปรากฏว่าเป็นหม้อปรุงยาเก่าๆใบหนึ่งเมื่อข้ากลับมายังที่เมืองข้าได้ใส่หม้อปรุงยานี้ไว้ในคลังเก็บของจนข้าเกือบลืมมันไปเเล้วว่ายังมีหม้อปรุงยาเก่าๆใบนี้อยู่ ”
เฟยหลงที่ได้ฟังเฉินเหมียวอธิบายเรื่องราวแบบยาวเหยียดจึงถามว่า
” ทำไมท่านต้องเล่าตั้งเเต่เเรกด้วยละทำไมท่านไม่บอกข้าแค่ว่าบังเอิญไปสะดุดของบางอย่างและขุดขึ้นมาก็พบว่าเป็นหม้อปรุงยาละ ”
เฉินเหมียวที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า
” เฮ้อ… ที่ข้าเล่าเรื่องนี้ให้กับเจ้าเพราะว่าเจ้าอาจจะสามารถใช้เป็นประสบการณ์เพื่อหนีจากอันตรายที่เจ้าพบเจอซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่ข้าแนะนำ ”
เมื่อดฟยหลงได้ยินสิ่งที่เฉินเหมียวกล่าวออกมาอย่างกับว่าเป็นอาจารย์ที่กำลังให้ความรู้บางอย่างแก่เฟยหลง
แต่เฟยหลงกับคิดว่า
‘ เรื่องที่เจ้าได้บอกข้าคิดว่าแม้เเต่เด็กยังสามารถคิดออกเลยว่าจะเลือกทางไหนถ้าเจอกับสถานการณ์เดียวกันเหมือนเจ้า ‘
เฟยหลงไม่อยากรอช้าเพราะต้องการตรวจสอบหม้อปรุงยาจึงกล่าวว่า
” เถ้าแก่เฉินท่านช่วยเอาหม้อปรุงยาใบนั้นมาให้ข้าดูหน่อยได้ไหม ”
เฉินเหมียวได้มองอย่างสงสัยมาที่เฟยหลงว่าต้องการดูหม้อปรุงยาเก่าๆที่ตนเก็บได้ยังไงแต่ก็ไม่ถามและหยิบมันออกมาจากชั้นวางและยื่นให้เฟยหลงดู
เฟยหลงได้รับหม้อปรุงยานั้นมาตรวจสอบดูก็ต้องพบว่า
‘ แม้แต่ข้าไม่สามารถระบุได้เลยว่าหม้อปรุงยานี่มันมาจากไหนกันและทำด้วยวัสดุอะไรที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ‘
เมื่อเฟยหลงไม่สามารถตรวจสอบหม้อปนุงยานี้ได้จึงมีความรู้สึกว่าหม้อปรุงยานี้ไม่ธรรมดาอย่างที่ตาเห็นและมันไปอยู่บนพื้นดินแบบนั้นได้อย่างไรเมื่อเฟยหลงคิดเรื่องราวต่างๆมากเหบ่านี้ได้จึงกล่าวกับเฉินเหมียวว่า
” ข้าซื้อหม้อปรุงยาใบนี้บอกราคามาเลยเพราะข้าคิดว่ามันดูเก่าแก่ดีและข้าชอบสะสมของพวกนี้มาก ”
แต่ที่จริงแล้วเฟยหลงก็แค่พูดไปเพราะจะขจัดความสงสัยของเฉินเหมียวที่มีต่อหม้อปรุงยาใบนั้น