เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 47 ก็ข้าไม่ชอบมันไม่อร่อย

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

หลังจากที่เฟยหลงได้ทะลวงขั้นพลังเสร็จแล้วก็ได้ลุกขึ้นยืนแล้วลองกำหมัดดูก็ได้ยินเสียงกระดูกดังออกมา

‘ กร็อบ​ ‘​

เฟยหลงในตอนยี้รู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งมากที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายของตนจึงอยากจะลองทดสอบพลังดูก็ได้เดินไปยังลานหลังบ้านที่เฟยหลงใช้ฝึกบ่อยครั้ง

และได้เห็นว่าใต้ต้นไม้นั้นมีซูซ่านท่กำลังบ่มเพาะพลังอยู่ซึ่งเมื่อเฟยหลงสัมผัสได้ก็รู้สึกแปลกใจที่ซูซ่านสามารถมาถึงระดับก่อกำเนิดขั้นที่สี่ได้

เฟยหลงจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดว่า

‘ นี่สินะพรสวรรค์​แตกต่างจากข้าที่ได้ใช้ทั้งประสบการณ์​ของตอนที่เคยเป็นเซียนในชีวิตที่แล้วรวมกับทักษะบ่มเพาะเทพจักรพรรดิ​สงคราม’​

ซูซ่านที่สัมผัสได้ว่ามีคนยืนอยู่ไม่ห่างจากนางจึงลืมตาขึ้นและพบกับเฟยหลงแล้วกล่าวถามว่า

” ท่านจัดการธุระ​ของท่านเสร็จแล้วหรือ​ ”

เฟยหลงจึงได้ตอบกลับไปว่า

” อืม​ ”

เเละเฟยหลงได้จ้องมองซูซ่านอยู่อย่างนั้นจดซูซ่านรู้สึกประหม่าอย่างมากและถามเฟยหลงว่า

” ท่านมองข้าทำไม​ ”

เฟยหลงก็ได้ตอบกลับไปว่า

” เจ้าบ่มเพาะทักษะเทพเเห่งชีวิตแล้วรู้สึกไงบ้าง​”

ซูซ่านได้ตอบกลับไปว่า

” ข้ารู้สึกสดชื่นมากเหมือนได้อยู่ท่ามกลางต้นไม้ดอกไม้ต่างที่ให้ความรู้สึกสงบและร่างกายของข้าก็มีความเเข็งแกร่งเพื่อขึ้นอย่างมากเลย ”

เมื่อซูซ่านเห็นว่าเฟยหลงยังคงมองนางอยู่จึงถามว่า

” หรือว่าท่านจะบอกว่าข้าไม่มีพรสวรรค์​พอและบ่มเพาะได้้ช้ามากใช่ไหม​ ”

เฟยหลงถึงเกือบที่จะสะดุด​และกล่าวกับซูซ่านว่า

” ข้าว่าทางที่ดีเจ้าควรที่จะรู้สึกดีใจด้วยซ้ำเพราะว่าการบ่มเพาะของเจ้าถือว่ารวดเร็วเกอนเหล่าอัฉริยะมากเลยทีเดียวและข้าขอเตือนเจ้าไว้สัหน่อยว่าอย่าไปกล่าวแบบนี้ให้เหล่าคนที่มีพรสวรรค์​นั้นรู้ก็แล้วกันไม่งั้นเจ้าคงต้องรับความโกรธของพวกเขา​ ”

ซูซ่านไม่ได้สอบถามต่อว่าทำไมและพยักหน้าอย่างว่าง่ายเฟยหลงที่ได้เห็นดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และกล่าวกับซูซ่านว่า

” เจ้าเห็นเสี่ยวไป๋ไหมข้าไม่รู่มันไปอยู่ไหนอีกแล้ว​ ”

ซูซ่านได้ตอบว่า

” ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปไห… ”

เมื่อซูซ่านกำลังจะหล้าวจบก็ได้ยินเสียงของเสี้ยวไป๋ดังขึ้น

” อ๋าว​ ”

ทั้งสองคนจึงได้หันไปหาต้นเสียงและพบว่าเสี่ยวไป๋กำลังเล่นอยู่บนต้นไป

เฟนหลงได้กล่าวเรียกเสี่ยวไป๋ว่า

” นี่เสี่ยวไป๋เจ้าลงมาเร็วเข้า​ ”

” ตอนนี้มันถึงเวลาที่เจ้าต้องเพิ่มระดับพลังให้สูงขึ้น​ ”

เมื่อกล่าวจบเฟยหลงได้หนิบสมุนไพรออกมาและให้เสี่ยวไป๋กินเข้าไป

อสี่ยวไป๋ได้ดมเหล่าสมุนไพรด้วยความอยากรู้อยากเห็นและมันก็ได้รู้สึกว่าจิตใจในส่วนลึกของมันต้องการสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างมาก

เมื่อเสี่ยวไป๋ได้ลองดมได้ชั่วครู่​จึงเริ่มเลียดูเพื่อทดสอบรสชาติ

ผลที่ได้ก็คือรสชาติจืดชืด​เหมือนน้ำปล่าวและเริ่มเลียสมุนไพรต่างๆที่ได้จนไปเจอกับผลลมปราณและรู้สึกว่ารสชาติของมันหวานและบางชนิดที่รสชาติก็พอใช้ได้

และเสี่ยวไป๋ก็เริ่มกินของที่ตนรู้สึกว่าอร่อย​และรสชาติดี

เฟยหลงที่เฝ้ามองเสี่ยวไป๋อยู่ถึงกับกล่าวอะไรไม่​ออกแล้วหัวเราะและกล่าวกับเสี่ยวไป๋ว่า

” นี่เสี่ยวไปถ้าเจ้าจะเลือกกอนแบบนี้มันไม่ดีเลยนะสมุนไพรพวกนี้จะช่วยทำให้เจ้าเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเจ้าได้มากเลย​ ”

เสี่ยวไป๋ได้มองเฟยหลงเหมือนจะบอกว่า

” ก็ข้าไม่ชอบมันไม่อร่อย​เลย​ ”

” ข้าชอบของอร่อย​มากกว่า ”

หนึ่งสัตว์​อสูรและหนึ่งมนุษย์​ได้จ้องมองตากันเหมือนจะสื่อสารอะไรบางอย่างกันอยู่และสุดท้ายแล้วเฟยหลงก็ได้เเต่ปล่อยให้เสี่ยวไป๋ทำตามที่ตนต้องการ

” ชั้งมันเถอะจะกินอะไรในนั้นก็แล้วแต่เจ้าเลย​ ”

เมื่อเสี่ยวไปได้ยินดังนั้นจึงกระโดดโลดเต้น​อย่างมีความสุข

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท