เมื่อหม้อปรุงยาหยูหงได้ยินคำกล่าวยกย่องจากเฟยหลงจึงกล่าวตอบเฟยหลง
” บรรพบุรุษผู้นี้ทำได้อยู่แล้ว ”
เฟยหลงที่ได้ยินคำกล่าวของหม้อปรุงยาหยูหง จึงบอกจุดประสงค์ที่นำหม้อปรุงยาหยูหงออกมาใช้
” ข้านั้นต้องการปรุงเม็ดยาบางชนิดให้เสี่ยวไป๋เเต่เพื่อเพิ่มระดับพลังของมันให้มากขึ้นซึ่งชื่อของเม็ดยานั้นคือเม็ดยาสิบอสูร ”
หม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวอย่างหยิ่งยโส
” ไม่ว่าเม็ดยาแบบไหนบรรพบุรุษผู้นี้ก็ปรุงได้แม้แต่ท้องนภาและผืนปฐพีข้าก็สามารถนำมันมาสร้างเป็นเม็ดยาได้ ”
เฟยหลงได้มองมันอย่างเหยียดหยามแล้วคิดว่า
‘ ไอหม้อปรุงยาบัดซบจอมขี้โม้ยังไงตอนนี้แกก็ได้แต่เป็นหม้อปรุงยาเก่าๆใบหนึ่ง ‘
เฟยหลงได้นำวัตถุดิบปรุงยาทีาได้ซื้อมาจากโรงประมูลหวังเปาโยใช้วัตถุดิบเช่นแก่นสัตว์อสูรระดับเก้าสิบชิ้นทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรสายพันธุ์พยัคฆ์
ผลวายุครามที่เฟยหลงได้มาจากพยัคฆ์เมฆาซึ่งเป็นเเม่ของเสี่ยวไป๋ใบของต้นวารีกระจ่างซึ่งได้มาจากโรงประมูลหวังเปา
เมื่อเฟยหลงได้เตรียมวัสดุทั้งหมดแล้วจึงสูดหายใจเพื่อเตรียมพร้อมให้มากที่สุดเท่าเพื่อปรุงเม็ดยาสิบอสูรขึ้นมา
หม้อปรุงยาหยูหงได้เปิดออกด้วยพลังปราณของเฟยหลงเเละการปรุงเม็ดยาสิบอสูรก็ได้เริ่มขึ้น
” ข้ามั่นใจว่าพลังปราณและพลังวิญญาณที่มีอยู่ของข้าตอนนี้นั้นน่าจะเพียงพอที่จะปรุงเม็ดยาสิบอสูรออกมาแค่สองเม็ดเท่านั้น ”
” และคุณภาพคงได้ประมาณแปดหรือเก้าก็ต้องรอดูกัน ”
เฟยหลงได้ใช้พลังปราณทำให้แก่นสัตว์อสูรสายพันธุ์พยัคฆ์ทั้งสิบลงไปและเมื่อแก่นสัตว์อสูรทั้งสิบโดนกลั่นโดยเพลิงของเฟยหลง
จิตวิญญาณที่อยู่ข้างในก็ได้ต่อต้านเพลิงทีกำลังชำระล้างพวกมันอยู่
” โฮก ”
ด้านในหม้อนั้นเหมือนมีสัตว์อสูรที่กำลังดิ้นรนหาทางหนีเฟยหลงก็ได้ตะโกนออกมา
” บังอาจต่อต้านข้าหรือพวกเจ้าทั้งที่เหลือแค่จิตวิญญาณอันเล็กน้อยจากตอนที่มีชิวิตเวลาของพวกเจ้าหมดแล้วทั้งหมดจงหายไปซะ ”
เฟยหลงได้ควบคุมเพลิงของตนให้เพิ่มความร้อนขึ้นเพื่อชำระล้างแก่นสัตว์อสูรทั้งสิบให้เหลือแต่เพียงพลังปราณบริสุทธิ์เท่านั้น
เฟยหลงที่เห็นว่าตนนั้นทำสำเร็จแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก
” ไม่คิดว่าจิตวิญญาณที่เหลือเพียงเเค่เศษเสี้ยวเเต่ด้ใยจำนวนของมันก็มีความสามารถพอตัวเลย ”
หลังจากการชำระล้างแก่นสัตว์อสูรทั้งสิบเฟยหลงได้ใช้พลังปราณทำให้สมุนไพรลอยลงไปยังหม้อปรุงยา
โดยที่เฟยหลงได้เริ่มขำระล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในสมุนไพรให้บริสุทธิ์
เฟยหลได้ปรุงยาเรื่อยๆจนเวลาได้ผ่านไปหนึ่งชั่วยามก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น
” ตู้ม ”
ซูซ่านที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับเสี้ยวไป๋ก็ได้วิ่งมายังต้นตอจองการระเบิด
ซึ่งก็คือหน้าห้องของเฟยหลงนั้นเองและเห็นกลุ่มควันลอยออกมาจากชองว่างของประตูซูซ่านจึงตะโกนเรียกเฟยหลง
” ท่านพี่เฟยหลงท่านอยู่ไหนตอบข้าหน่อย ”
หลังจากที่ซูซ่านมาหน้าประตูของเฟยหลงไม่นานเสี่ยวไป๋ก็ได้วิ่งตามมาด้วยขาสั้นๆของมันและเหมือนจะร้องเรียกเฟยหลง
” อ๋าว ”
เเม้ว่าจะผ่านไปซักพักปต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับซูซ่านจึงกระวนกระวายใจอย่างมาก
เสี่ยวไป๋ก็ได้นั่งเฝ้ามองประตูอยู่ดังนั้นซูซ่านจึงหันหน้ามาถามเสี่ยวไป๋
” เจ้าคิดว่าท่านพี่เฟยหลงจะเป็นอะไรไหม ”
เสี่ยวไป๋ก็ได้ร้องตอบซูซ่านเหมือนจะบอกว่า
” คงไม่เป็นอะไรหรอก ”
แล้วตอนนั้นเองประตูห้องของเฟยหลงที่ได้ปิดอยู่ก็ได้เปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ
พร้อมกับมีเสียงเหมืินกับว่ามีคนเดินออกมา
” ตึก ตึก ตึก ”
คนที่อยู่ในควันก็ได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับกล่าวบ่นว่า
” ไอหม้อปรุงยาเวรไหนแกบอกว่าเป็นหม้อที่ดีที่สุดไงพอข้าใช้ปรุงยาแล้วมันระเบิดแบบนี้ ”
” เดี๋ยวบิดาทุบทิ้งซะเลย “