เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 88 ระหว่างเดินทาง

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

หลังจากได้ออกเดินทางผ่านไปหนึ่งเดือนในเนินเขาเเห่งหนึ้งได้มีสัตว์​อสูรคล้ายกับหมีตัวหนึ่งได้ต่อสู้กับเด็กสาวคนหนึ่งและลูกพยัคฆ์​สีขาว

โดยที่ด้านข้างไม่ไกลจากที่ตรงนั้นได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนดูอยู่

การต่อสู้ได้ดำเนินต่อไปจนกระทั้งการต่อสู้ได้จบลงและสัตว์อสูร​หมีตนนั้นได้ล้มลงเด็กสาวกับลูกพยัคฆ์​สีขาวก็ได้เดินกลับมาทางเด็กหนุ่ม

ซึ่งก็คือเฟยหลงไดกล่าวกับทั้งสองคนว่า

” ซูซ่านกับเสี่ยวไป๋พวกเจ้าทั้งสองทำได้ดีมาก ”

เมื่อซูซ่าานกับเสี่ยวไป๋ที่ได้คำชมก็รู้สึกภาคภูมิใจ​ที่เฟยหลงกช่าวชื่นชมโดยที่ซูซ่านก็ได้กล่าวว่า

” ท่านพี่เฟยหลงฝีมือ​กับการตอบสนองในการต่อสู้ตอนนนี้ของข้าดีขึ้นหรือยัง ”

เมื่อเฟยฟลงได้ยินคำถามของซูซ่านก็ได้ย้อนคิดไปถึงจอนเเรกที่เฟยหลงให้ซูซ่านลงมือสังหารสัตว์​อสูร​กระต่ายตัวหนึ่ง

เเต่ซูซ่านที่เห็นกลับไม่กล้าลงมือสังหารเพราะรู้สึกว่ามันน่ารักเฟยหลงจึงได้เเต่บอกกับซูซ่านว่า

” ถ้าวันหนึ่งเจ้าตามข้าไปความใจอ่อนในบางครั้งอาจนำพามาซึ่งความพินาศ​เช่นในอนาคต​เจ้าอาจจะเจอกับสัตว์​อสูร​แปลกประหลาดที่สามารถแปลงกายได้ ”

” และตอนนั้นถ้ามันแปลงกายเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเจ้าโดยที่เจ้าไม่รู้ตัวและถึงเเม้จะรู้แต่เจ้าจะลงมือสังหารมันได้ไหม ”

เมื่อนั้นซูซ่านก็คิดได้ว่าต้องทำอย่างไร

ตอนนี้เฟยหลงที่ได้ยินคำถามของซูซ่านในปัจจุบั​นก็ได้กล่าวตอบว่า

” เจ้าทำได้ดีมากแล้วละเเต่…………… ”

ซูซ่านก็ได้ถามเฟยหลงว่า

” เเต่อะไรหรือท่านพี่เฟยหลง ”

เฟยหลงที่ไแ้ยินคำถามต่อมาของซูซ่านก็ได้กล่าวตอบตามจริงทุกประการ

” เเต่การต่อสู้กับสัตว์​อสูรจอนนี้ที่ไม่มีสติปัญญา​มากมายก็ไม่มีปัญหา​ซึ่งถ้าเจอกับสัตว์​อสูร​ที่มีสติปัญญาและอยู่มานาน​หรือมนุษย์​ด้วยกันเเล้ว ”

” ตามความเห็นข้าแล้วเจ้าจะพลาดท่าให้ซึ่งอนาคตข้าจะหาวิธีช่วยเจ้าในเรื่องนี้อีกไม่นานหรอก ”

ซูซ่านที่ได้ยินจึงกล่าวว่า

” คะท่านพี่เฟยหลง ”

เฟยหลงก็ได้กล่าวกับทั้งสองว่า

” เอาละในเมื่อพวกเจ้าทั้งสองล้มสัตว์​อสูรหมีตัวนี้ได้งั้นวันนี้ำวกเรามากินเนื้อหมีย่างตัวนี้ดีกว่า ”

” เเละวันนี้ข้าจะเป็นคนปรุงอาหารเอง ”

เมื่อซูซ่านกับเสี่ยวไป๋นั้นได้ยินว่าเฟยหลงจะเป็นคนปรุงอาหารทั้งสองก็ได้รู้สึกดีใจมากเพราะว่าเฟยหลงที่ผ่านมาหนึ่งเดือน

บางครั้งได้เป็นคนปรุงอาหารซึ่งรสชาตินั้นอร่อยมากซึ่งในอดีตของเฟยหลงได้ฝึกใช้ฝีมือในการทำอาหาร

เพราะเฟยหลงนั้นอยู่ตัวคนเดียวและออกเดินทางตามสถานที่ต่างๆมากมายจนเป็นเซียนทำให้ฝีมือการทำอาหารที่สะสมมานานก็ได้พัฒนามากขึ้น

และนี่เป็นเหตุผลที่ซูซ่านเเละเสี่ยวไป๋รู้สึกดีใจที่เฟยหลงเป็นคนปรุงอาหารขึ้นมา

เสี่ยวไป๋ได้ร้องขึ้นอย่างดีใจและกระโดดไปมา

” อ๋าว………….. ”

ซูซ่านก็ได้เรียกเสี่ยวไป๋

” เสี่ยวไป๋เจ้ายู่นิ่งๆหน่อยอย่าไปรบกวนท่านพี่เฟยหลง ”

เสี่ยวไป๋ได้หยุดกระโดดไปมาแล้วเดินมาหาซูซ่านโดยที่ซูซ่านก็ได้อุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมากอดเหมือนทุกครั้งซึ่งตอนนี้ซูซ่านก็ได้ทำจนติดเป็นนิสัยแล้ว

…………………….

หลังจากนั้นไม่นานเฟยหลงก็ได้ปรุงอาหารมาให้ซูซ่านและเสี่ยวไป๋ทีืนั่งมองอย่างรอคอยโดยเฉพาะเสี่ยวไป๋ที่จ้องมองเฟยหลงด้วยดวงตาที่เปร่งประกาย

กลิ่นอาหารอันหอมหวนได้ดึงดูดทั้งสองคนที่นั่งอยู่หลังจากที่ทั้งสามได้ทานอาหารอย่างเรียบร้อยแล้ว

จู่ๆก็ได้มีเสียงเหมือนมีอะไรเคลื่อนที่จากพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกล

‘ สวบ สวบ สวบ ‘​

ทั้งสามที่กำลังผ่อนคลายอยู่เเต่ก็ไม่ได้ลดความระวังตัวลงเลยแล้วตั้งท่าเตรียมพร้อมรับการโจมตีอย่างเฉียบพลัน​และตอนนั้นสิ่งที่อยู่ในพุ่มไม้ก็ได้กระโดดออกมา

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท