ข้างในหม้อปรุงยาหยูหงได้มีเม็ดยาเม็ดหนึ่งสีของมันเป็นฟ้าเเต่เเตกต่างจากเม็ดยาที่เฟยหลงปรุงครั้งก่อนเพราะเม็ดยาเม็ดนี้นั้นมีไอเย็นเเผ่ออกมา
จนทำให้ห้องปรุงยานี้นเริ่มจะมีอากาศที่เย็นขึ้นมาเรื่อยๆโดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่เม็ดยาเม็ดนั้น
ชายชราชางฟู่ที่เห็นดังนี้นจึงรู้สึกตกตะลึงเเละมองสำรวจเม็ดยานั้นอย่างจริงจังเเล้วกล่าวถามเฟยหลงกลับไปว่า
” เจ้าสามารถปรุงเม็ดยาได้อย่างน่าอัศจรรย์จริงๆเเม้เเต่ข้าก็มองไม่ออกว่ามันคือเม็ดยาอะไร”
เจียงหงที่เห็นเฟยหลงได้ปรุงเม็ดยาขึ้นมาจนสำเร็จก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยความตกตะลึง
” เป็นไปได้ยังไงกันที่คนอย่างเจ้าจะสามารถปรุงเม็ดยาเหล่านี้ขึ้นมาได้ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันลึกล้ำ
” ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางของการบ่มเพาะ การหลอมอาวุธ การปรุงยา การวางค่ายกล ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกเหล่าผู้คนในอดีตค้นคว้าเเละพัฒนาเรื่อยมา ”
” ไม่ว่าจะผ่านมาเเล้วกี่ยุคกี่สมัยล้วนมีเรื่องราวต่างๆที่ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกบรรพกาลเเห่งนี้ ”
เจียหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเช่นนี้ก็ได้ยืนหยุดอยู่กับที่ราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดของตน
ชายชราชางฟู่ที่ได้ยินคำกล่าวของเฟนหลงนั้นเหมือนกับว่าเป็นการเปิดโลกใบใหม่เเก่ตัวเขาเเละหลานสาวของเขา
” ข้าไม่คิดเลสว่าสักวันหนึ่งชายชราเช่นข้าจะต้องมาคนรุ่นหลังเช่นเจ้าสั่งสอน…………. เหมือนดังที่คลื่นลูกใหญ่ย่อมเเรงกว่าคลื่นลูกใหม่………… ชายชราเช่นข้านั้นอยู่มานาน ”
เเล้วเฟยหลงมี่ได้ยินคำกล่าวของทั้งสองนั้นก็ได้ได้กล่าวบอกเรื่องราวต่อจากนี้มากนักเเต่ตอนนี้เฟยหลงได้มีเรื่องหนึ่งที่ต้องจัดกรอยู่
” เเม่นางเจียงท่านคิดว่าข้านั้นมีความสามารถพอหรือปล่าวละ ”
เจียงหงที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงเช่นั้นจึงได้คิดว่า
” ถ้าเจ้าไม่มีความสามารถมากพอเเล้วใครในเมืองหลวงจะมีความสามารถอีกงั้นเหรอ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นั้นก็ได้กล่าวอย่างถ่อมตัวเเต่ใบหน้าของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มเเห่งชัยชนะ
” อ่า……………… ไม่ต้องหรอกข้าเเค่นักปรุงยาที่อ่อนเเอเเละไร้ความสามารถอยู่ในตอนนี้ ”
เจียงหงที่ได้ยินคำกล่าวของเฟยหลงนั้นนางรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาทุบอกของนางเเละทำให้รู้สึกหายใจลำบาก
เเต่ทางด้านชายชรางชางฟู่นั้นกลับมีรอยยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อหันกลับมามองเฟยหลงเเล้วก็ได้กล่าวประโยึหนึ่งออกมาซึ่งทำให้เฟยหลงเเละเจียงหงต่างก็รู้สึกแปลกใจ
” คุณชายเฟยหลงท่านพอที่จะ…………. เอ่อรับข้าเป็นศิษย์ของท่านหน่อยได้หรือไม่ ”
เฟยหลงก็ได้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
” ข้าไม่อาจรับท่านเป็นศิษย์ของข้าได้เพราะว่าท่านนั้นก็คงรู้ตัวเองดีว่าได้ผ่านช่วงเเห่งการเติบโตที่ดีที่สุดมาเเล้ว ”
” อีกอย่างเเม้ในเมืองหลวงนี้ท่านจะมีความสามารถเเละพรสวรรค์อย่างมากเเต่ในโลกภายนอกเหนือจากอาณาจักรเเห่งนี้นั้นกลับไม่อาจนำไปเปรียบเทียบ ”
ชายชราชางฟู่ที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเช่นนั้นก็ได้เเต่ถอนหายใจเพราะว่าร่างกายของตัวเขานั้นรู้ดีมี่สุด
ชายชราชางฟู่ได้ครุ่นคิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้เเละกล่าวออกมาว่า
” ถ้าข้าไม่มีสามารถพอที่คุณชายจะรับเป็นศิษย์ได้เช่นนั้นข้าอยากให้ท่านรับเจียงหงหลานสาวของข้าเป็นศิษย์ได้หรือไม่ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นั้นก็ได้มองไปทางด้านเจียงหงที่กำลังกล่าวพูดคุยกับชายชราชางฟู่อยู่
” ท่านปู่ทำไมจ้าต้องไปเป็นศิษย์ของเขาด้วยละข้าไม่อยากไป ”
ชายชรางชางฟู่ก็ได้กล่าวตอบกลับไปว่า
” เจ้าต้องไป ”
เเละหันกลับไปกล่าวกับเฟนหลงต่อ
” คงได้ใช่ไหม ”
เฟยหลงนั้นตอนเเรกไม่ได้คิดว่าชายชราจะขอให้ตัวเฟยหลงรับเจียงหงเป็นศิษย์เเทน
ตัวชายชรา
” สำหรับตัวนางนั้นพรสวรรค์ถือว่าดีมากไม่ได้เเย่หรือเลวร้ายเลยเเม้เเต่น้อย……….. ข้าสามารถรับนางเป็นศิษย์ได้ส่วนนางนั้นจะยอมรับข้าหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวนางเเล้ว ”
ชายชราชางฟู่ก็ได้กล่าวกับเจียงหงว่า
” เจ้าจงไปกับคุณชายเฟยหลงซะเถอะชายชราอย่างข้านั้นไม่มีความสามารถที่จะสอนเจ้าได้ดีเท่าเขาหรอกหงเอ๋อ ”
เเต่เจียงหงยังคงกล่าวตอบกลับมาด้วยความไม่ยินยอม
” ก็ข้าไม่อยากไปข้าอน่กอยู่กับท่านปู่ ”
ชายชราชางฟู่ก็ได้กล่าวออกมาประโยคหนึ่ง
” เจ้าไปซะเถอะถือว่าเป็นการตอบเเทนบุญคุณข้า……………..จะได้ไหม ”
เจียงหงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้เงียบไป