เพลิงสีครามได้กวาดทหารซากศพจำนวนมากไปอย่างรวดเร็วเเต่ใบหน้าของเฟยหลงก็เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาเเล้วซีดขาวขึ้นเรื่อย
” เร็วเข้าข้าจะต้านเอาไว้ได้อีกไม่นานเท่านั้น ”
จ้าวเฉินที่กำลังช่วยเฟยหลงหยุดทหารซากศพเหล่านี้ไว้เเต่ก็ไม่สามารถหยุดมันได้ทั้งหมดเเค่ทหารซากศพจำนวนมากก็โดนจ้าวเฉินทำลาย
เเละชะลอการเคลื่อนไหวของพวกมันลงไปได้อย่างรวดเร็ว
” ข้าว่าเเค่นี้คงพอเเล้วละพวกเราเองก็ถอยกันเถอะ ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินจ้าวเฉินกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
” งั้นก็รีบออกไปจากที่นี้กันเถอะ ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้ใช้เพลิงสีครามนั้นเผาทำลายทหารซากศพที่เข้ามาอย่างรสดเร็วก่อนจะควบเเน่น
เพลิงสีครามกลายเป็นลูกบอลเพลิงสีครามขนาดใหญ่เเล้วปล่อยมันไปทางทหารซากศพโดนไม่ลังเลใจเเม้เเต่น้อย
” ตู้ม…….. ”
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุุนเเรงราวกับว่ามีบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าอย่างรุนเเรงจนทำให้เเผ่นดินเกิดการสั่นไหว
เพลิงสีคราทได้ลุกลามไปทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็วเผาทำลายถูกอย่างที่ขวางหน้าเเละก่อตัวเป็นกำเเพงที่กั้นทหารซากศพเหล่านั้นเอาไว้
เฟยหลงที่เห็นผลงานของตนเเล้วจึงผยักหน่าอย่างพึงพอใจก่อนจะกล่าวกับจ้าวเฉินด้วยใบหน้าที่ซีดขาวลงอย่างมาก
” ต้องรีบออกจากป่าเเห่วนี้เเล้วกลับไปทางอาณาจักรสายลมเเล้วเตรียมรับการโจมตีของทหารซากศพเถอะ ”
จ้าวเฉินก็ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่วที่เฟยหลงกล่าวออกมาเเล้วตอบรับอย่างไม่ลังเล
” ตกลงต้องรีบออกเดินทางเเล้ว ”
เมื่อจ้าวเฉินกล่าวจบก็ได้จัดระเบียบทหารของตนเเล้วเริ่มออกเดินทางกลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วสูงสุด
ซึ่งจ้าวเฉินได้ส่งทหารคนหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยข่าวสารไปโดยที่มอบเเผนที่ที่จ้าวเฉินทำขึ้นมาเพราะต้องการจะหลีกเหลี่ยวค่ายกลเหล่านั้น
โดยที่เฟยหลงได้เดินผ่านไปยังเส้นทางไหนบ้างจ้าวเฉินก็ได้เขียนลงไปอย่างละเอียดเเล้วมอบกับทหารคนนั้นก่อนจะกล่าวออกมาว่า
” เต้าต้องรีบนำข่าวเหล่านี้ไปแจ้งกับทางเมืองชายเเดนโดยด่วนเเผนที่ในมือเจ้าคือเส้นทางที่ปลอดภัยถ้าเจ้าเดินตามเส้นทางนี้เจ้าจะไม่หลงเข้าไปในค่ายกลเหล่านั้นอย่างเเน่อน ”
จ้าวเฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหยิบตราสัญลักษณ์อันหนึ่งออกมาเเละส่งให้กับทหารคนนั้นด้วยพร้อมกล่าวบอกอีดว่า
” นำตราสัญลักษณ์ของข้าไปด้วยเพื่อยืนยันตัวตนเเละลดเรื่องยุ่งยากบางอย่างลงเเล้วเข้าพบเเม่ทัพเเละรองเเม่ทัพที่อยู่ในเมือชายเเดนในตอนนี้ให้เร็วที่สุด ”
เมื่อทหารนายนั้นได้ควบม้ากลับไปด้วยความเร็วสูงจ้าวเฉินก็ได้สั่งการเดินทัพต่อเพื่อกลับไปยังเมืองชายเเดนอย่างรวดเร็ว
จ้าวเฉินที่ยืนอยู่ก็ได้กล่าวกระตุ้นทหารของเขา
” รีบเดินทัพเร็วเข้าทุกวินาทีตอนนี้มันมีค่ามากพวกเราไม่อาจจะหยุดพักไดเมากนัก ”
ทางด้านเฟยหลงที่ตอนนี้กำลังฟื้นฟูพลังปราณอย่างสงบอยู่ซึ่งตอนนี้เฟยหลงได้นั่งอยู่บนรถม้าคันหนึ่ง
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้บรรทุกสเบียงเเละข้าวของบางอย่างเอาไว้โดนที่รถม้าเหล่านี้ถูกทิ้งไว้ด้านนอกซึ่งเป็นค่ายพักของพวกเขาเเละอยู้ไกลจากเขตของค่ายกลลวงตา
ซูซ่านที่เห็นเฟยหลงนั่งฟื้นฟูพลังปราณอย่างเงียบเชียบก็ได้มองเฟยหลงเเล้วก็มีความคิดผุดขึ้นมาในใจ
” ถ้าข้าทีพลังมากกว่านี้ละก็คงจะช่วยท่านพี่เฟยหลงได้ไม่มากก็น้อย ”
ซึ่งเมื่อลองย้อนกลับไปซูซ่านนั้นเเม้ว่าจะสามารถสังหารทหารซากศพเหล่านี้ได้ง่ายดายเเต่ถ้าจะให้เทียบกับจำนวนที่เฟยหลงสังหารไปนั้นคงไม่อาจเทียบได้
ซูซ่านที่คิดได้ดังนั้นจึงเริ่มที่จะบ่มเพาะทันทีเพื่อไม่ให้เวลาที่มีค่าเสียไปโดยเปบ่าประโยชน์
ทางด้านเจียงหงนั้นก็มีความคิดไม่ต่างจากซูซ่านมากนักจึงได้เเค่ถอนหายเเล้วเริ่มบ่มเพาะเหมือนกับซูซ่าน
เฟยหลงที่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทั้งสองก็ได้ยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจเเม้ว่าใบหน้าจะซีดขาวอยู่บ้างเพราะจากการใช้พลังปราณมากจนเกินไป
” ดูเหมือนเรื่องคราวนี้จะสามารถกระตุ้นพวกนางได้ไม่มากก็น้อยละนะ ”