กองทัพของจ้าวเฉินเเละพวกเฟยหลงได้เดินทางมาจนถึงหน้าประตูเมืองชายเเดนอย่างรวดเร็ว
เมื่อทหารที่เฝ้าประตูเมืองชายเเดนได้เห็นกองทัพของจ้าวเฉินเเละเร่งรีบเปิดประตูให้อย่างรวดเร็ว
” เปิดประตูเร็วเข้ากองทัพของท่านเเม่ทัพจ้าวกลับมาเเล้ว ”
เมื่อกองทัพของจ้าวเฉินได้เข้าเมืองไปก็พบกับเหล่าเเม่ทัพเเละรองเเม่ทัพทั้งหลายได้มายืนต้อนรับกันอย่างเป็นระเบียบ
หนึ่งในเเม่ทัพคนหนึ่งได้กล่าวถามจ้าวเฉินออกมา
” เรื่องที่ผู้ส่งสารคนนั้นที่ท่านส่งมานั้นเป็นความจริงเหรอ ”
จ้าวเฉินได้ตอบเเม่ทัพคนกงนั้นกลับไปด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
” ใช่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างเเน่นอน ”
เมื่อเหล่าเเม่ทัพ เเละรองเเม่ทัพทั้งหลายได้ยินดังนั้นจึงกล่าวถามออกมาว่า
” งั้นพวกเราควรทำอย่างไรดี ”
จ้าวเฉินกำลังจะกล่าวตอบเเต่เหฌนรอบด้านคอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่เป็นเพียงประชาชนกำลังมองมาที่พวกเขา
จ้าวเฉินจึงเลือกที่จะไม่กล่าวเล่าออกมาก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงเตือนสติพวกเขาเเล้วกล่าวออกมาว่า
” ที่เเห่งนี้ไม่เหมาะที่จะกล่าวออกมาไม่งั้นถ้าประชาชนรู้เรื่องในตอนนี้จะทำให้เเตกตื่นกันอย่างเปล่าประโยชน์ ”
เมื่อเหล่าเเม่ทัพเเลรองเเม่ทัพทั้งหลายได้มองชาวเมืองชายเเดนที่กำลังมองมาทางด้านกุ่ทของพวกเขาด้วยความสงสัยดังนั้นทั้งหมดจึงตัดสินใจว่า
” งั้นไปกันเถอะที่เเห่งนี้ไม่ปลอดภัย ”
จ้าวเฉินจึงได้เเยกตัวออกไปออกคำสั่งกับทหารทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
” เรื่องในวันนี้พวกเจ้าอย่าได้พูดออกมาก่อนจนกว่าทางพวกข้าจะสามารถรับมือสถานะการณ์ตรงนั้นได้……………. ”
เมื่อจ้าวเฉินกล่าวถึงตรงนี้ก็ได้กวาดสายตามองเเล้วกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
” จะได้รับทงบทลงโทษอย่างเเน่นอน ”
ทหารที่ได้ยินเเม่ทัพของตนกล่าวออกมาเเบบนั้นจึงกล่าวตอบกลับไปว่า
” รับทราบขอรับท่านเเม่ทัพ ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องประชุมที่อยู่บนป้อมปราการของเมืองชายเเดนอย่างรวดเร็ว
เมื่อจ้าวเฉิยได้เปิดไปก็พบกับสายตาหลากหลายคู่ที่มองมาด้วยคำถามเเละต้องการให้จ้าวเฉินกล่าวอะไรบางอย่างออกมา
จ้าวเฉินที่เห็นดังนั้จึงเริ่ทเล่าเรื่องราวตั้งเเต่เริ่มต้นจนจบเหล่าเเม่ทัพเเละรองเเม่ทัพทั้งหลายได้เเต่มองหน้ากัน
ก่อนจะมีรองเเม่ทัพคนหนึ่งกล่าวถามจ้าวเฉินออกมา
” ท่านอกว่ามี้เด็กหนุ่มคนหนึ่งเป็นนำทางท่านอย่างนั้นเหรอท่านเเม่ทัพจ้าว ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” ใช่เเล้ว ”
รองเเม่ทัพคนนั้นยังคงถามต่อไปอีกว่า
” งั้นตอนนี้เขาอยู่ไหนละขอรับท่านเเม่ทัพจ้าว ”
จ้าวเฉินได้ตอบกลับไปว่า
” ยังอยู่ในเมืองเเห่งนี้ ”
รองเเม่ทัพลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าวสิ่งที่ตนคิดออกมา
” งั้นท่านเเม่ทัพจ้าวข้ามีความเห็นเรื่อวหนึ่ง ”
จ้าวเฉินได้มองรองเเม่ทัพคนนั้นเเล้วกบ่าวออกมาว่า
” ความเห็นอะไรก็ว่ามา ”
รองเเม่ทัพที่ได้รับอนุญาตจากจ้าวเฉินให้ก่าวออกมานั้นจึงรีบบอกออกมาทันที
” คือ……………… ถ้าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนที่ช่วยท่านเเม่ทัพให้เขาเข้าร่วมการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านเผ่าปีศาจเเละทหารซากศพเหล่านั้น ”
” ดีกว่าไหมขอรับเพราะจากที่ท่านเล่าออกมาเเล้วนั้นเด็กหนุ่มคนนั้นเหมือนจะรู้จักเรื่องของเผ่าปีศาจดี ”
จ้าเฉินที่ได้ฟังความเห็นดังนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวดับว่าพึ่งจะนึกเรื่องนี้อออกมาได้
” ใช่เเล้วทำไมข้าลืมไปได้คิดละว่ายังมีวิธีการอย่างนี้อยูด้วย ”
เมื่อจ้าวเฉินกล่าวออกมาอย่างนั้นเเล้วก็ได้เรียกทหารนายหนึ่งเข้ามา
” เจ้าไปเรียกเด็กหนุ่มที่ชื่อเฟยหลงมาส่วนที่อยู่ก็อยู่ในกระดาษเเผ่นนี้เเล้ว ”
ทหารนายนั้นเมื่อได้ยินคำสั่งเเล้วก็ได้รีบไปทำตามอย่างรวดเร็ว