ชายชุดดำคนนั้นเมื่อเห็นภาพของเฟยหลงเเละทหารเหล่านั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ดูเหมือนว่ากองทัพจองอาณาจักรจะรู้เรื่องนี้เเล้วจริงๆ ”
เผ่าปีศาจที่ถูกผนึกอยู่นั้นก็ไดเกล่าวถามชายชุดดำนั้นกลับไป
” เจ้ารู้จักพวกมันอย่างงั้นเหรอ ”
ชายชุดดำได้ยิ้มเเล้วกล่าวตอบออกมาว่า
” ข้ารู้จักทหารเหล่านี้ดีเลยขอรับนายท่าน ”
ปีศาจที่ถูกผนึกนั้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายชุดดำกล่าวออกมาก็ได้เงียบไปชั่วครู้ก่อนกล่าวตอบกลับไป
” งั้นเจ้าคงจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้สินะ ”
ชายชุดดำได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
” เเน่นอนขอรับนายท่าน ”
ปีศาจตนนั้นก็กล่าวตอบกลับมาว่า
” ข้าก็หวังไว้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ”
ทางด้านเมืองชายเเดนตอนนี้กำลังจัดเตรียมกำลังทหารอย่างรวดเร็วเเล้วเเละยังได้ให้ผู้ส่งสารคนหนึ่งเร่งเดินทางไปยังเมืองหลวง
เพื่อรายงานเรื่องนี้ให้กับทางราชวงศ์ได้รับรู้เรื่องราว
บนป้อมปราการในห้องลับเเห่งหนึ่งได้มีเฟยหลงเเละจ้าวเฉินพร้อมกับเหล่าเเม่ทัพกำลังยืนอยู่
เฟยหลงที่ยืนอยู่นั้นก็ได้กล่าวถามออกมาว่า
” เเกนกลางของค่ายกลอยู่ในที่เเห่งนี้ใช่หรือไม่ ”
จ้าวเฉินก็ได้กล่าวตอบเฟยหลงกลับไปอย่างรสดเร็วด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” ใช่เเล้วที่เเห่งนี้เเหละ ”
เเละในตอนนั้นเองเเม่ทัพที่ประตำการเมืองชายเเดนเเห่งนี้ได้นำตราหยกอันหนึ่งออกมา
เเล้วนำไปวางไว้ตรงประตูที่มีช่องวางที่สามารถใส่ของบางอย่างลงไปได้เเละในตอนนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นมา
” ครืน ครืน ครืน ”
เสียงพื้นหินที่อยู่ใจกลางห้องเปิดออกเเละจากนั้นก็มีเเท่นหินซึ่งด้านบนมีแกนกลางค่ายกลสีทองอ่อนๆอยู่
เเม่ทัพทคนนั้นก็ได้นำตราหยกออกมาเเล้วกล่าวกับจ้าวเฉินว่า
” สถานที่เเห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาไว้สำหรับปกป้องเเกนกลางของค่ายกลซึ่งต้องใข้ตราหยกของข้าเท่านั้นจึงจะเปิดได้ ”
จ้าวเฉินได้พยักหน้าให้กับเเม่ทัพคนนั้นก่อนจะกล่าวออกมาว่า
” งั้นพวกเราก็ออกไปด้านนอกกันเถอะ ”
เเม่ทัพคนอื่นๆที่ได้ยินจ้าวเฉินกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้ไม่กล่าวอะไรต่อเเล้วทยอยเดินออกไปจากห้องนี้
เฟยหลงได้ยืนอยู่อย่างสงบตรงหน้าเเกนกลางของค่ายกลชิ้นนั้น
” ค่ายกลปกปักพิภพอย่างงั้นเหรอ ”
ตั้งเเต่ที่เฟยหลเข้าเมืองมาก็รู้สึกถึงค่ายกลขนาดใหญ่บางอย่างที่ครอบคลุมเมืองเเห่งนี้เเต่มันเบาบางมากเพราะด้วยพลังของเฟยหลงเเล้วนั้น
การที่รู้ถึงค่ายกลที่เเอบซ่อนอย่างดีนั้นก็ต้องใช้ประสบการณ์เเละความสามารถจำนวนหนึ่งเเละตอนที่เห็นการต่อสู้ตรงกำเเพงเมืองเเห่งนั้นก็ยืนยัน
ความคิดของตนได้จากที่สัตว์อสูรเหล่านั้นไม่สามารถทำลายหรือสร้างรอยขีดข่วนให้กับกำแพงได้เลย
เฟยหลงที่กำลังยืนครุ่นคิดอยู่ด้านหน้าเเกนกลางของค่ายกลปกปักพิภพในตอนนี้ก็ได้ลงมือทำบางอย่าง
ทางด้านซูซ่านเเละเจียงหงตอนนี้พวกนางทั้งสองกำลังบ่มเพาะอย่างสงบอยู่ในคฤหาสน์ที่พวกเขาอาศัยอยู่
โดยใช้เม็ดยาที่ได้รับการปรุงโดยเฟยหลงซึ่งมีคุณภาพมากกว่าเม็ดยาที่มีขายกันในเมืองหลวง
” ฟู่ ”
เสียงหายใจออกของซู่ซ่านดังขึ้นเเละเจียงหงที่กำลังออกจากการบ่มเพาะก็ได้ออกมาจากห้องเเละเดินไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเดิมที่เสี่ยวไป๋เเละเฟยหลงชอบอยู่
” เมื่อไหร่ท่านพี่เฟยหลงจะกลับมานะ ”
ซูซ่านได้กล่าวออกมาก้วยความสงสัยเเละอยากรู้คำตอบ
เจียงหงที่นั่งอยู่ด้านข้างนั้นก็อยากพบเฟยหลงเช่นกันเพราะก่อนหน้านี้เฟยหลงได้มาบอกกับพวกนาง
” ข้ามีเรื่องต้องไปทำพวกเจ้ารับถุงมิตินี้ไปด้านในมีเม็ดยาอยู่จำนวนหนึ่งมากพอให้เจ้าบ่มเพาะได้นานพอตัว………….. ”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้เฟยหลงก็ไดยื่นถุงมิติให้กับซูซ่านเเล้วกล่าวกับทั้งสองคนอีกว่า
” รออยู่ที่นี้จนกว่าข้าจะกลับมา “