เเต่สิ่งที่เสี่ยวไป๋คิดว่าจบลงไปแล้วนั้นกลับเป็นหายนะที่เริ่มต้นขึ้นเพราะโครงกระดูกนั้นกำลังก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยในจังหวะที่เสี่ยวไป๋กำลังหันหลังกลัลเเล้วกำลังจะเดินจากไปเสี่ยวไป๋กลับได้ยินเสียงคำรามเเบบเดิมเหมือนโครงกระดูกก่อนหน้านี้ดังขึ้น
” อ๊ากกกกกกกกกกกกกก ”
เสี่ยวไป๋ได้หันกลับไปแล้วพบกับโครงกระดูกที่กำลังก่อร่างขึ้มาใหม่ค่อยประกอบกลับกลายเป็นโครงกระดูกเหมือนตัวก่อนหน้านี้ไม่มีผิด
โดยเเสงสีดำสีดำเหล่านั้นเหมือนกับเป็นสิ่งที่ช่วยฟื้นฟูมันจนในที่สุดมันก็สามารถกลับมาเป็นโครงกระดูกตัวเดิมที่เสี่ยวไป๋เจอ
” ไอโครงกระดูกบ้านี้มันยังไม่ตายอีกงั้นเหรอ ”
เสี่นวไป๋กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเเปลกใจก่อนที่จะลงมืออีกครั้งด้วยความเร็วสูงสุด
” สรึบ ”
โครงกระดูกที่กำลังพุ่งเข้าฟาเสี่ยวไป๋ได้กลายเป็นกองกระดูกอีกครั้งเเต่เเล้วสิ่งที่น่ากลัวก็เกิดขี้นอีกครั้งเพราะมันกลับไปเป็นโครงกระดูกตัวเก่า
” อ๊ากกกกกกกกกกก ”
เสี่ยวไป๋ที่เห็นดังนั้นจึงลงมืออีกครั้งเเต่ครั้งนี้นั้นการโจมตีเพียงครั้งดดียวของเสี่ยวไป๋ไม่อาจที่จะทำลายมันได้ทำให้เสี่ยวไป๋ต้องโจมตีสองครั้งโครงกระดูกนั้นจึงกลายเป็นกองกระดูกเหมือนเดิม
เสี่ยวไป๋ที่เห็นดัวนั้นยังคงไม่ไปไหนเเล้วเฝ้ามองกองกระดูกเหล่านั้นกำลังถูกเเสงสีดำกชายเป็นโครงกระดูกตัวก่อนหน้านี้เหมือนเดิมไม่ผิดเพื้อนเเต่อย่างใดเเต่ที่เเตกต่างกันคือ
โครงกระดูกนั้นเเผ่เเรงกดดันออกมามากกว่าเดิมมันสามารถต้านรับการโจมตีของเสี่ยวไป๋ได้ถึงสามครั้งก่อนที่จะถูกทำลายลง
เป็นเเบบนี้ซ้ำเเล้วซ้ำเล่าเสี่ยวไป๋ที่โจมตีอยู่นั้นได้กล่าวออกมาว่า
” ข้าไม่เขื่อว่าข้าไม่สามารถทำลายเจ้าโครงกระดูกบ้านี้ลงได้ ”
เเต่เมื่อเวลาผ่านไปกี่ครั้งกี่ครั้งโครงกระดูกนั้นมันก็ยังคงลุกขึ้นมาใหม่ได้จนเสี่ยวไป๋ต้องกล่าวออกมาด้วยความโกรธ
” ไอโครงกระดูกบ้าเเกรีบกลับลงหลุมเเกไปเลยอย่ามาทำให้ข้าเสียเวลาอยู่ที่นี้ ”
เเต่เเน่นอนว่าโครงกระดูนั้นไม่ได้ฟังสิ่งที่เสี่ยวไป๋กล่าวออกมาเเม้เเต่น้อยเเล้วเริ่มโจมตีต่อไปเสี่ยวไป๋ที่เห็นดัวนั้นจึงใช้สิ่งที่มันภาคภูมิใจที่สุด
” ในเมื่อเเกตามข้าไม่เลิกงั้นข้าคงต้องใช้สิ่งนี้เเล้วละ ”
เมื่อตัวเสี่ยวไป๋กล่าวจบก็ได้หันหลังกลับเเล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงเเค่เงาสีขาวที่กระพริบเเล้วระยะห่างระหว่างโครงกระดูกกับเสี่ยวไป๋ก็ห่างกันขึ้นเรื่อยๆ
” ในเรื่องความเร็วนั้นข้าไม่เป็นรองใครอยู่เเล้วเจ้าโครงกระดูกบ้า ”
เสี่ยวไป๋ที่เห็นส่าระยะห่างระหว่างตัวมันกับโครงกระดูกได้ไกลพอควรจึงกล่าวออกมาเเบบนี้เเต่ไม่ว่าจะหนีไปไหนเสี่ยวไป๋ก็ไม่เจอกับทางออกเเล้วโครงกระดูกนั้นยังคงตามเสี่ยวไป๋อย่างไม่ละความพยายาม
พลังปราณเเละพลังกายของเสี่ยวไป๋ถูกมข้ไปเรื่อยๆจนทำมห้ความเร็วลดลงเมื่อสิ่งมาเป็นเวลาลในานระยะห่างระหว่างโครงกระดูกกับตัวมันนั้นยังลดลงมาเรื่อยๆ
” เป็นเเบบนี้ไม่ดีเเน่ข้าต้องหาทางทำอะไรสักอย่างไม่งั้นไแโคนงกระดูกบ้านั้นมันไล่ตามข้าทันอย่่างเเน่อน ”
เสี่ยวไป๋สิ่งไปด้วยเเล้วคิดหาวิธีไปด้วยจนตอนนั้นเองที่เสี่ยวไป๋เห็นอุโมงค์ที่เหมือนกับจะเขื่อมต่อไปด้านบนจึงรีบวิ่งเข้าไปโดยโครงกระดูกนั้นก็ยังตามมาไม่เลิกเส้นทางคดเคี้ยวเเตกออกเป็นหลายเส้นทาง
เเต่เสี่ยวไป๋จึงวิ่งหนีไปเรื่อยๆ
ตัดกลับมาตรงปัจจุบันเสี่นวไป๋ที่วิ่งผ่านอุโมงค์ใต้ดินนั้นเพื่อหาทางขึ้นไปด้านบนได้วิ่งมาจนพบเจอกับทางตันเเล้วข้างหลังนั้นเป็นโครงกระดูกที่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้
” ดูเหมือนจะต้องสู้อีกเเล้วซินะ……… เพราะตอนนี้ข้าวิ่งต่อไม่ได้เเล้ว”
โครงกระดูกที่วิ่งมาใกล้เสี่ยวไป๋ได้หยุดลงไม่ห่างจากตัวเสี่ยวไป๋มากนักทั้งสองได้จ้องมองกันก่อนที่จะ…….