ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง – ตอนที่ 98 ของขวัญ ของขวัญอะไร

ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง

อู่อ๋องได้ยินว่าเซียวเถี่ยเฟิงมาก็ดีใจมาก เขารีบให้คนไปเชิญเซียวเถี่ยเฟิงเข้ามาทันที

เขาเป็นเจ้าบ่าวหมาดๆ กำลังอารมณ์ดี ได้ยินว่าเซียวเถี่ยเฟิงมาก็คิดว่าอีกฝ่ายมาอวยพรและนำของขวัญมามอบให้ เพราะเมื่อวานเขาแต่งงาน แต่เซียวเถี่ยเฟิงไม่ได้นำของขวัญมามอบให้ แถมอยู่ร่วมงานแค่ครึ่งเดียวก็เผ่นหนีไปเสียอีก

เห็นเซียวเถี่ยเฟิงเข้ามา เขาก็รีบเอ่ยว่า “ล้วนเป็นพี่น้อง ไม่ต้องเกรงใจไป ไม่นำของขวัญมามอบให้ก็ไม่เป็นไร ใช่แล้ว เมื่อวานทำไมจู่ๆ ท่านก็วิ่งออกไปเล่า…”

ถึงตอนนี้ อู่อ๋องค่อยสังเกตเห็นกู้จิ้งที่ยืนอยู่ด้านข้าง เขาอดสงสัยไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นหรือ? ทำไมท่านกับท่านหมอเฉินถึงกลับมาพร้อมกันได้?”

แต่เซียวเถี่ยเฟิงไม่สนใจเรื่องนี้ เขาย้อนถามกลับไปตรงๆ ว่า “ของขวัญ? ของขวัญอะไร?”

อู่อ๋องรีบกล่าว “ท่านไม่ได้เอาของขวัญมาให้ข้าหรอกหรือ?”

เซียวเถี่ยเฟิงเลิกคิ้ว แต่ก็จำต้องให้เกียรติอู่อ๋องบ้าง “เรื่องนี้หรือ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนนำมามอบให้ วันนี้ข้ามาหาท่านเพราะเรื่องอื่นต่างหาก”

“เรื่องอะไรหรือ?”

“ข้าจะแต่งงาน”

อู่อ๋องทั้งตกใจทั้งไม่อยากเชื่อ “ท่านจะแต่งงาน?”

คนอย่างเซียวเถี่ยเฟิงไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ไหนมาก่อน สมัยที่อนุสุดที่รักของเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเซียวเถี่ยเฟิงยังเคยถูกอีกฝ่ายฝึกซ้อมจนสะบักสะบอม เรียกได้ว่าเขาเห็นผู้หญิงเป็นผู้ชาย เห็นผู้ชายเป็นหมา

อู่อ๋องเป็นคนรักหยกถนอมบุปผา ความสัมพันธ์ของเขากับลวี่หลัวจึงใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาเคยสงสัยเสียด้วยซ้ำว่าจะมีวันไหนที่ผู้ชายแบบนี้นึกชอบผู้หญิงคนไหนขึ้นมาบ้างไหม แถมเมื่อวานอีกฝ่ายยังถามเขาเต็มปากเต็มคำว่า ‘ท่านกับลวี่หลัวอยู่ด้วยกันแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมต้องแต่งงานด้วย?’

เจ้าโง่นี่ คิดว่าผู้หญิงกับผู้ชายนอนด้วยกันก็ถือว่าอยู่ด้วยกันแล้วงั้นหรือ?

แต่จู่ๆ วันนี้อีกฝ่ายกลับมาบอกเขาว่าจะแต่งงาน

“ท่าน…ท่านจะแต่งงานกับใคร?” อู่อ๋องประหลาดใจสุดขีด

“กับเมียของข้าน่ะสิ” เซียวเถี่ยเฟิงกล่าวพลางกุมมือหญิงสาวข้างกายเอาไว้

“เมียของท่าน?” อู่อ๋องยิ่งประหลาดใจกว่าเดิม ตามองกู้จิ้งด้วยความงุนงง

“ใช่” เซียวเถี่ยเฟิงรู้สึกว่าอู่อ๋องทำตัวเหมือนกระต่ายตื่นตูม “ข้ากับเมียของข้าอยู่ด้วยกันมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำพิธีแต่งงาน เราก็เลยมาขอคำชี้แนะเรื่องพิธีแต่งงานจากท่าน”

“อยู่ด้วยกันมานานแล้ว?” อู่อ๋องแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง เขามองกู้จิ้งพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่อยากเชื่อ “นี่คือเมียของท่าน?”

เซียวเถี่ยเฟิงเห็นอู่อ๋องทำท่าประหลาดใจก็นึกถึงคำพูดของกู้จิ้งที่ว่าอู่อ๋องดุร้ายขึ้นมา

อู่อ๋องข่มขู่นาง

นึกถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเซียวเถี่ยเฟิงก็ไม่ค่อยดีนัก

“ใช่ นี่คือเมียของข้า ดูเหมือนนางจะเคยรักษาอาการป่วยให้ลวี่ฮูหยินมาก่อน?”

“แค็กๆๆ ใช่”

“ข้าได้ยินมาว่าหมอทั้งกลุ่มเกือบจะถูกประหารเพราะรักษาลวี่ฮูหยินไม่ได้?” ในจำนวนนี้รวมถึงเสี่ยวจิ้งเอ๋อของเขาด้วยสินะ?

หมายความว่า อู่อ๋องเคยข่มเหงเสี่ยวจิ้งเอ๋อของเขา?

อู่อ๋องยิ้มแห้งๆ

“ไม่จริง ไม่จริง ตอนนั้นข้าแค่เห็นท่านหมอเฉินก็รู้แล้วว่าท่านหมอเฉินมีวิชาแพทย์สูงส่ง สูงส่งกว่าหมอไม่เอาไหนพวกนั้นนับร้อยเท่า ข้าก็เลยเชิญท่านหมอเฉินไปรักษาลวี่หลัว เห็นไหม นางรักษาลวี่หลัวจนหาย ลวี่หลัวชอบนางมาก ตอนนี้พวกนางสนิทสนมกันมากเลยทีเดียว”

“ท่านอ๋อง ภรรยาของข้าแซ่กู้”

“หา? แซ่กู้ ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็เป็นท่านหมอกู้ ท่านหมอกู้มีวิชาแพทย์สูงส่งมาก! สูงส่ง! ข้านับถือท่านหมอมาก!”

กู้จิ้งเห็นเช่นนี้ก็กุมมือเซียวเถี่ยเฟิงเอาไว้พลางกล่าวเบาๆ ว่า “พี่ล่ำ ท่านอ๋องชื่นชมฉันมาก”

อู่อ๋องรีบกล่าวว่า “ใช่ ท่านหมอกู้กับลวี่หลัวสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง เมื่อคืนวานลวี่หลัวยังบ่นถึงท่านหมอกู้อยู่เลย”

แต่กู้จิ้งกลับกล่าวว่า “ท่านอ๋องยังบอกด้วยว่าฉันจะอยู่เป็นอนุของท่านที่จวนก็ได้”

สิ้นเสียงของเธอ สีหน้าของอู่อ๋องก็เปลี่ยนไปทันที ปากที่เผยอจะเอ่ยคำพูดได้แต่อ้าค้างอยู่อย่างนั้น หุบก็หุบไม่ลง

เซียวเถี่ยเฟิงขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันขวับไปจ้องอู่อ๋องตาเขม็ง “อนุ?”

อู่อ๋องรีบส่ายหน้า “เปล่านะ ไม่มีเรื่องแบบนี้! ข้ามีลวี่หลัวแค่คนเดียวเท่านั้น จะรับอนุคนอื่นอีกได้ยังไง นางต้องฟังผิดแน่!”

กู้จิ้งยักไหล่ “ก็ได้ บางทีฉันอาจจะฟังผิดไปเอง”

แต่เซียวเถี่ยเฟิงกลับจ้องอู่อ๋องไม่เลิก สีหน้าบอกชัดว่าสงสัยเต็มที่

ตั้งแต่สมัยที่ทำงานรับใช้เว่ยอ๋อง เขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงของอู่อ๋องมาก่อน รู้ว่าเขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ไม่ชอบทำการทำงาน ครั้งนั้นอีกฝ่ายเพิ่งไปอยู่ที่จวนเว่ยอ๋องได้ไม่กี่วันก็หลอกล่อเอาลวี่หลัวลูกน้องคนสำคัญของเขาไปได้สำเร็จ

ตอนแรกเขายังคิดว่าอีกฝ่ายคิดจะหลอกล่อลวี่หลัวไปเป็นองครักษ์ คิดไม่ถึงเลยว่าจะพาไปเป็นอนุ

อู่อ๋องยิ้มแห้งๆ “ชูอวิ๋น ท่านวางใจเถอะ ในเมื่อท่านจะแต่งงานกับท่านหมอกู้ ข้าย่อมช่วยเหลือเต็มที่ รับรองว่าจะจัดงานแต่งงานให้ใหญ่โตกว่างานแต่งงานของข้ากับลวี่หลัวเสียอีก”

เซียวเถี่ยเฟิงเห็นเช่นนี้ก็เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแต่โดยดี

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นนาย เขาเป็นบ่าว แต่ถึงแม้จะยอมปล่อยอีกฝ่ายไป เขาก็แอบบอกตัวเองในใจว่า ต่อไปจะต้องให้กู้จิ้งอยู่ห่างๆ จากอู่อ๋องเอาไว้

กู้จิ้งสวยขนาดนี้ สวยกว่าลวี่หลัวไม่รู้กี่เท่า คนอย่างอู่อ๋องย่อมต้องหมายปองอยู่แล้ว

ต่อจากนั้น เซียวเถี่ยเฟิงกับอู่อ๋องก็เริ่มปรึกษาหารือกัน

ตอนแรกทั้งสองปรึกษากันเรื่องงานแต่งงาน กู้จิ้งยังพอจะนั่งฟังอยู่ด้วยได้ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดถึงสถานการณ์ทางฝั่งฮ่องเต้ กู้จิ้งยิ่งฟังก็ยิ่งปวดหัว ยิ่งพวกเขาพูดถึงกำลังพลกับเสบียง เธอก็ถึงกับมึนงง

หลังจากสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างครู่หนึ่ง เธอก็ค้นพบว่า แม้อู่อ๋องผู้นี้จะดูหยาบกร้านเหมือนโจรไม่ต่างจากเซียวเถี่ยเฟิงในตอนแรกที่ได้พบกัน แต่พอพูดเรื่องเป็นการเป็นงาน คนผู้นี้ก็มีสติปัญญาฉลาดหลักแหลม ความคิดเฉียบไว นับได้ว่าเป็นยอดคนผู้หนึ่ง

คิดถึงตรงนี้ เธอก็หันไปมองผู้ชายของตัวเองอีกรอบ

แน่นอน ต่อให้อู่อ๋องเก่งกาจแค่ไหนก็เทียบกับพี่ล่ำของเธอไม่ได้!

พี่ล่ำของเธอเป็นยอดคนที่ยากพบพาน ทำไมในตำราประวัติศาสตร์ถึงไม่ได้บันทึกเอาไว้นะ? ทำไมในพงศาวดารของตระกูลถึงไม่ได้กล่าวถึง?

กำลังคิดอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านนอก จากนั้นคนรับใช้ของอู่อ๋องก็เข้ามารายงาน

“ท่านอ๋อง คุณชายลั่วย้อนกลับมา บอกว่ามีเรื่องอยากขอพบท่านอ๋องขอรับ”

“เขาไปแล้วไม่ใช่หรือ ย้อนกลับมาทำอะไรอีก?” อู่อ๋องเองก็ประหลาดใจ

“นี่…นี่…” คนรับใช้ผู้นั้นลำบากใจ

“พูด” อู่อ๋องสั่ง

“เขาโวยวายว่าท่านแม่ทัพเซียวฉุดคร่าหญิงชาวบ้าน ฉุดคร่าภรรยาของเขา…” คนรับใช้กล่าวคำพูดนี้ด้วยอาการอกสั่นขวัญแขวนแกมปวดหัว ทำไมต้องเกิดเรื่องขึ้นในตอนที่ท่านแม่ทัพเซียวอยู่ด้วยนะ!

“อะไรนะ?” อู่อ๋องงงหนักกว่าเดิม เขาหันไปมองเซียวเถี่ยเฟิงด้วยความงุนงง

เซียวเถี่ยเฟิงได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาหันไปมองคนรับใช้ผู้นั้นพลางกล่าวเสียงเย็นชา “เหลวไหล! ใครไปฉุดคร่าเมียของเขากัน?”

คนรับใช้ตกใจจนตัวสั่น “คุณชายลั่วคนนั้นเป็นคนพูด ไม่ใช่ข้าน้อยขอรับ”

เซียวเถี่ยเฟิงหันไปมองหญิงสาวข้างกายด้วยสีหน้าดำทะมึน กู้จิ้งรีบส่ายหน้าด้วยความงุนงง “ไม่จริง ฉันไม่เคยพูดแบบนี้”

เซียวเถี่ยเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็กุมมือกู้จิ้งเอาไว้แน่นแล้วหันไปพูดกับคนรับใช้ว่า “เชิญคุณชายลั่วเข้ามา”

ผ่านไปครู่หนึ่ง คุณชายลั่วก็เดินเข้ามา พอเห็นเซียวเถี่ยเฟิงกุมมือกู้จิ้งเอาไว้ แววชิงชังที่มีต่อคนชั่วช้า ไม่หวาดหวั่นต่อความตายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

“แม่นางเฉินไม่ต้องกลัว ข้าจะหาทางช่วยท่านเอง!”

พูดจบก็หันไปมองเซียวเถี่ยเฟิงพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ ทั้งสิ้น “แม่ทัพเซียว นี่คือฮูหยินของข้า รบกวนท่านช่วยปล่อยนางด้วย! หรือเซียวชูอวิ๋นผู้มีชื่อเสียงสะท้านแผ่นดินจะเป็นแค่ชนชั้นต่ำช้าฉุดคร่าสตรี? หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ท่านจะไม่อับอายเลยหรือ!”

อู่อ๋องได้ยินเช่นนี้ก็ถึงกับตาค้าง ใจคิดว่าเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วัน ท่านหมอเฉินก็แต่งงานกับคุณชายลั่วแล้วงั้นรึ?

คุณชายลั่วเห็นอู่อ๋องมีสีหน้างุนงงก็ยกมือขึ้นประสานกันแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องคงจะไม่ทราบ เมื่อครู่ตอนที่ข้าน้อยพาแม่นางเฉินจากไป ข้าได้สัญญาว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับแม่นางเฉินแล้ว แม่นางเฉินเป็นคู่หมั้นของข้า เป็นสะใภ้ของตระกูลลั่วแห่งเหอหนาน ขอท่านอ๋องโปรดให้ความเป็นธรรมแก่ข้าน้อยด้วย!”

อู่อ๋องยกมือขึ้นลูบคางพลางหันไปมองเซียวเถี่ยเฟิง ความหมายในดวงตาคือเรื่องนี้เจ้าจะเอายังไง?

กู้จิ้งได้ยินเช่นนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก ทำไมคุณชายลั่วผู้นี้ถึงได้โกหกคล่องเหมือนกินน้ำแบบนี้นะ แม้แต่ตายังไม่กะพริบแม้แต่ครั้งเดียว

เธอไปเป็นคู่หมั้นของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่? ไปสัญญาจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“นี่…เขาพูดเหลวไหลทั้งเพ ไม่เป็นความจริงสักนิด!” กู้จิ้งว่า เธอจะไม่ยอมแบกหม้อก้นดำนี่เด็ดขาด ต้องรีบอธิบายให้ชัดแจ้ง อยู่ดีๆ มาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาแบบนี้ได้ยังไง

เธอกับเซียวเถี่ยเฟิงข้ามเวลาพันปีมาพบกัน พลัดพรากจากกันสี่ปีถึงได้มีวาสนากลับมาเป็นสามีภรรยากันอีกครั้ง คิดว่าง่ายนักหรือ?

ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง

ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง

Status: Ongoing
ในถุงหนังนั่นมีอะไร? เขาคิดจะเปิด แต่จู่ ๆ ปากถุงก็คลี่ออกเองเสียอย่างนั้น จากนั้นศีรษะของใครบางคนก็โผล่ขึ้นมา ถึงตอนนี้ เซียวเถี่ยเฟิงถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วบนโลกนี้มีปีศาจอยู่จริง ที่แท้ปีศาจก็ไม่จำเป็นต้องงามหยาดเยิ้มเหมือนชุนเถาเอ๋อผู้งามล้ำในหมู่บ้าน ไม่จำเป็นต้องมากรักเหมือนแม่ม่ายซิ่วเฟิน นางเพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้น แล้วมองมาด้วยสายตาเรียบเฉยก็สามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงได้แล้ว เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียการควบคุม ตรงหน้าคือหุบเหวลึก หากยังคงก้าวเดินต่อคงไม่เหลือแม้แต่ซาก ดังนั้นเขาจะต้องควบคุมตัวเองให้ได้ ทว่าจู่ ๆ นางก็เลียริมฝีปาก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท