ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม – ตอนที่ 127 จุดจบอันน่าอนาถในทางตัน

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม ตอนที่ 127 จุดจบอันน่าอนาถในทางตัน

ตอนที่ 127 จุดจบอันน่าอนาถในทางตัน

ทุกคนนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยากบนพื้นราวกับปลาเค็ม

“ชั่วชีวิตของข้า ยังไม่ทันได้เฉิดฉาย จะต้องมาหิวตายอยู่ที่นี่หรือ” ลั่วจื่อผิงสอดส่ายสายตามองทั่วบริเวณ พูดอย่างไม่เต็มใจ

“ข้าก็ยังไม่เจอต้นแบบของข้าเลย” เจ้าอัปลักษณ์พูดอย่างเสียดาย

“เฮ้อ ข้ายังอ่านหนังสือไม่พอเลย” จงหย่งเหยียนทำหน้าห่อเหี่ยว

“ข้ายังไม่เคยมีความรักเลย” เหมียวเถียนน้ำตาคลอ

“ข้าเพิ่งได้รับการสืบทอด ดีใจเสียเปล่า…โบราณสถานแห่งนี้หลอกลวงกันอย่างเลือดเย็น!” ซุนเซิ่งเหลียนโมโหจนหน้าอกกระเพื่อม ไฟโทสะคุกรุ่น

อันหลินนวดหัวคิ้ว “พวกเจ้าถอดใจกันไวปานนี้เชียวหรือ”

“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ” เหมียวเถียนมองอันหลิน

สมาชิกทุกคนก็พากันจับจ้องไปที่อันหลินเช่นกัน

ในหัวอันหลินก็มึนงง คิดหาทางออกไม่ได้เลยสักนิด

เขาตบหน้าผากแล้วนอนแผ่กับพื้น พรูลมหายใจออกมายาวเหยียด ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว

“เฮ้อ ลูกบอลสีขาวเป็นวัตถุบ้าบออะไรกันแน่ ถึงสามารถโจมตีอย่างไม่จำกัด แถมอานุภาพยังรุนแรงถึงปานนี้อีก ใช้มันเป็นอาวุธคงจะไร้พ่ายเป็นแน่” ผ่านไปนาน ลั่วจื่อผิงถึงได้บ่นกระปอดประแปดออกมา

อาวุธ?

โจมตีอย่างไม่จำกัด?

นัยน์ตาของอันหลินลุกวาว ลุกพรวดขึ้นมา “ข้าขอทดสอบอะไรหน่อย!”

จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นมา ทำเอาสมาชิกทุกคนสะดุ้งโหยง

อันหลินหยิบก้อนอิฐสีดำออกจากแหวนมิติ

ใช่แล้ว ก้อนอัลลอยแรกกำเนิดก้อนนั้นนั่นแหละ!

“ทนทานที่สุดในโลก…ฝากหน่อยนะ” เขามองก้อนอิฐสีดำในมือด้วยความปวดใจ

ทุกคนทำหน้างุนงง หัวหน้าหยิบก้อนอิฐออกมาหมายความว่าอย่างไร

อันหลินกังวลเป็นอย่างยิ่ง หากว่าไร้ซึ่งก้อนอิฐ เขาก็จะสูญเสียท้องฟ้าสีคราม

แต่ทว่า…เพื่อความอยู่รอด ก็จำต้องลองดูสักตั้ง…

“เจ้าก้อนอิฐ…ไปเลย!”

อันหลินแข็งใจโยนก้อนอิฐไปทางสะพานไม้

ลูกบอลสีขาวตอบสนองทันใด ปล่อยสำแสงสีขาวออกมาทันที

ตูม!

พื้นที่แห่งนี้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นครั้งแรก ก้อนอิฐสีดำถูกลำแสงสีขาวโจมตีเข้าอย่างจัง ระเบิดคลื่นพลังอย่างรุนแรง

จากนั้น…

ก้อนอิฐสีดำไร้รอยขีดข่วน!

ทุกคนตะลึงงัน

แต่อันหลินกลับระเบิดเสียงหัวเราะ

ต่อมา ลูกบอลสีขาวก็ปล่อยลำแสงออกมาอย่างต่อเนื่อง

ตูมๆ ๆ…

ก้อนอิฐสีดำถูกโจมตีไม่หยุด แต่กลับต้านทานได้!

“ให้มรสุมโหมกระหน่ำมาแรงกว่านี้หน่อย!”

อันหลินมองเห็นความหวัง ตะโกนดังลั่นว่า “ใหญ่ขึ้น! ใหญ่ขึ้น!…”

ก้อนอิฐขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นก้อนอิฐสีดำขนาดสามจั้ง

ราวกับลูกบอลสีขาวถูกท้าทาย ปล่อยลำแสงสีขาวออกมาถี่ยิ่งกว่าเดิม

เสียงดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งพื้นที่ ทว่าก้อนอัลลอยแรกกำเนิดทั้งดำและทนทาน ยังคงอยู่ในสภาพที่ไร้รอยขีดข่วนจากการโจมตีของลำแสงสีขาว

“สุด…สุดยอด ก้อนอิฐพี่อันได้แต่ใดมา ถึงต่อกรการโจมตีของลำแสงสีขาวได้ล่ะ!” ลั่วจื่อผิงอึ้ง

จงหย่งเหยียนทำท่าครุ่นคิด หยิบหินวิญญาณออกจากแหวนมิติแล้วโยนไปด้านหลังก้อนอิฐสีดำ

“ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรกันดี” เจ้าอัปลักษณ์มองอันหลินแล้วเอ่ยถาม

แม้ก้อนอิฐสีดำจะเมินเฉยกับการโจมตีของลูกบอลสีขาว แต่ทุกคนก็ยังข้ามสะพาน ไปถ่ายเทพลังปราณใส่ลูกบอลสีขาวไม่ได้

อันหลินนั่งลงบนพื้นอย่างนิ่งเฉย พูดยิ้มๆ ว่า “รอ”

รอ?

เจ้าอัปลักษณ์เกาหัวด้วยความฉงน สมาชิกที่เหลือก็มองอันหลินอย่างสงสัยเช่นกัน

อันหลินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลูกบอลสีขาวคืออะไรข้าไม่รู้ แต่ข้าเชื่อว่ามันไม่มีทางมีพลังไม่สิ้นสุด ต่อให้เป็นคนที่แข็งแกร่งปานใด เมื่อใช้พลังมากก็ต้องมีพักหายใจกันบ้าง มิหนำซ้ำมันเป็นแค่อาวุธ”

จงหย่งเหยียนก็เข้าใจแล้ว “เจ้าหมายความว่ารอให้พลังของมันหมดงั้นหรือ”

“เช่นนี้แหละ” อันหลินพยักหน้า

เหล่าสมาชิกล้วนเข้าใจแล้ว พวกเขาเกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดที่โจมตีได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่พักหายใจ

ไม่ใช่เครื่องจักรนิรันดร์เสียหน่อย คงต้องเก็บพลังงานไว้หน่อยสิ

“แต่ว่า…นานแค่ไหนกว่าพลังของมันจะหมดล่ะ” ซุนเซิ่งเหลียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม

ทุกคนได้ฟังก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

คำถามนี้สำคัญยิ่งนัก!

เกิดลูกบอลสีขาวสามารถปล่อยพลังได้หนึ่งหมื่นปีจะทำอย่างไร

เมื่อถึงตอนนั้น ที่นี่จะเหลือเพียงโครงกระดูก รวมถึงก้อนอิฐสีดำที่ยังถูกโจมตีไม่หยุด…

กับเรื่องนี้ อันหลินเองก็อับจนหนทาง

เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “อย่างไรเสียก็เหลือแค่ทางนี้ทางเดียวแล้ว พวกเราก็รอก่อนเถอะ”

การรอคอยเวลาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อยิ่งนัก จำต้องหาอะไรทำฆ่าเวลาสักหน่อย

อันหลินหยิบบอร์ดเกมออกจากแหวนมิติ

“พวกเรามาเล่นเกมฆ่าหมาป่ากันเถอะ!” เขาเสนอ

ทุกคนได้ฟังก็ชะงัก มันคืออะไร

ทว่าไม่นานหลังอันหลินอธิบายกติกาเสร็จ ทุกคนก็เกิดความสนอกสนใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

เพราะคนน้อยเกินไป อันหลินจึงปลุกเสี่ยวหง ให้มันแปลงร่างมาเล่นด้วยกัน

เสี่ยวหงแปลงร่างตามคำสั่ง

มันสวมชุดกระโปรงสีแดงที่สวีเสี่ยวหลานให้ สวมชุดแดงฉูดฉาดดุจเปลวเพลิง งดงามดั่งดอกท้อในพริบตา

จงหย่งเหยียนกับลั่วจื่อผิงเห็นท่าทางงดงามเย้ายวนของเสี่ยวหง วิญญาณก็หลุดออกจากร่าง ยืนนิ่งกับที่

ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าพวกเขาจะได้สติ จ้องอันหลินด้วยสายตาอิจฉา

เพราะมีเพียงแค่เจ็ดคน ดังนั้นอันหลินจึงแบ่งผู้เล่นตามนี้

มนุษย์หมาป่าสองคน ชาวบ้านสามคน แม่มดหนึ่งคนและผู้ดำเนินเกมหนึ่งคน

เกมแบ่งออกเป็นสองฝั่งใหญ่ๆ คือ มนุษย์หมาป่าและชาวบ้าน

ใช้การโหวตของฝั่งชาวบ้านเป็นวิธีตัดสิน หากโหวตฆ่ามนุษย์หมาป่าทั้งหมดได้ก็จะถือว่าชนะ

ฝ่ายมนุษย์หมาป่าจะซ่อนตัวอยู่ในหมู่ชาวบ้าน เอาชนะด้วยวิธีการฆ่าคนและโหวตสังหารสมาชิกฝั่งชาวบ้านในเวลากลางคืน

ผู้ดำเนินเกมเป็นผู้ตัดสิน

แม่มดสามารถฆ่าคนและช่วยชีวิตคนได้ อยู่ฝ่ายเดียวกับชาวบ้าน

นอกจากผู้ดำเนินเกมแล้ว แต่ละฝ่ายจะไม่รู้ตัวตนของกันและกัน

แม้จะเป็นมนุษย์หมาป่า ก็จะรู้แค่ตัวตนของพวกเดียวกัน ฉะนั้นเกมนี้ล้วนต้องอาศัยการสันนิษฐานและเล่นละคร

อันหลินเป็นผู้ดำเนินเกมก่อน ทุกคนเล่นไม่กี่ตาก็เริ่มคล่องแล้ว

จากนั้น พวกเขาก็เริ่มเล่นกันอย่างสบายอกสบายใจ

“ปังๆ ๆ…”

ดนตรีประกอบเป็นเสียงที่ลูกบอลสีขาวปล่อยลำแสงใส่ก้อนอิฐสีดำ ฟังดูเหมือนเพลงแดนซ์ สนุกไม่เบาเลย

ปกติเสี่ยวหงเป็นดอกไม้ที่ว่าง่าย ยามนี้เพราะเล่นเกมฆ่าหมาป่า จึงกลายเป็นนักแสดงชั้นหนึ่ง แสดงอะไรก็สมจริงไปเสียหมด ทำเอาแยกแยะได้ยาก เป็นฝันร้ายของฝ่ายศัตรูชัดๆ

แม้แต่อันหลินก็ตกใจ ราวกับได้รู้จักเสี่ยวหงใหม่อย่างไรอย่างนั้น

มันควบคุมสีหน้าท่าทางของตัวเอง รวมถึงการวิเคราะห์สีหน้าท่าทางของคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม!

ในด้านนี้ เสี่ยวหงเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง

ผ่านไปครู่ใหญ่ จู่ๆ ร่างที่สวมชุดขาวพลิ้วไหวก็ปรากฏตัวข้างๆ อันหลิน ทำเอาเขาตกใจจนสะดุ้งโหยง

“มนุษย์หมาป่าสองคน ชาวบ้านสามคน แม่มดหนึ่งคน…แบ่งแบบนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย จากการคำนวณของข้า ในสถานการณ์แบบนี้ ความเป็นไปได้ที่ชาวบ้านจะชนะคือ สี่สิบหกจุดเจ็ดหกสี่เก้าเปอร์เซ็นต์…”

ทุกคนมองไป๋หลิงอึ้งๆ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ นางถึงโผล่มาแล้วพูดแบบนี้ หมายความว่าอย่างไรกัน

ไป๋หลิงไม่สนใจสายตาของทุกคน แววตาเจือความตื่นเต้น “หากว่ามีมนุษย์หมาป่าสองคน ชาวบ้านสี่คน แม่มดหนึ่งคน ความสมดุลของเกมจะเพิ่มขึ้นมากทีเดียว”

อันหลินได้ฟังก็กระตุกมุมปาก พยายามทำใจให้สงบ “แล้วความหมายของเจ้าคือ”

“ขอข้าเล่นด้วย” ไป๋หลิงพูด

“ข้าขอปฏิเสธ!” อันหลินพูดอย่างไม่ลังเล

ไป๋หลิง “…”

“พี่อัน! เจ้าลืมที่ข้าพูดไปแล้วหรือ” ลั่วจื่อผิงเตือนสติ

ดวงตาของทุกคนเป็นประกาย ได้สติทันใด ความฮึกเหิมต่างก็พุ่งทะยาน

“หมัดสะเทือนขุนเขา!”

“ค่ายกลวายุพิฆาต!”

“เอากระบองของข้าไปกิน!”

“กระบี่อสนีบาต!”

“กงจักรขาวบริสุทธิ์!”

“หมัดปีศาจสีชาด!”

ไป๋หลิงถอนหายใจ ใบหน้างามแช่มช้อยมีแต่ความระอาใจ

ปึกๆ…ปักๆ…ตึก…ผลัวะ…

นอกจากเสี่ยวหงที่ไม่ได้ลงมือเพราะไม่เข้าใจแล้ว ทุกคนที่เหลือล้วนนอนแอ้งแม้งบนพื้นด้วยใบหน้าที่บวมปูด…

สามนาทีต่อมา

ทุกคนหลับตา

ไป๋หลิงกับเสี่ยวหงลืมตา ชี้ไปที่จงหย่งเหยียนพร้อมกันแล้วยิ้มอย่างรู้ใจกัน

อันหลินทำหน้าไร้อารมณ์ “ฟ้าสว่างแล้ว ทุกคนลืมตาได้”

เมื่อทุกคนลืมตาแล้ว เขาก็พูดต่อว่า “จงหย่งเหยียนเจ้าถูกฆ่าแล้ว กล่าวความรู้สึกหน่อยสิ”

จงหย่งเหยียนโบกพัด วิเคราะห์เรื่องราวอย่างจริงจัง

ทั้งแปดคนเล่นเกมฆ่าหมาป่ากันภายใต้บรรยากาศที่เริงร่าต่อไปด้วยประการฉะนี้…

………………….

Related

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

Status: Ongoing
ในโลกมนุษย์ อันหลินดูเหมือนจะถูกพระเจ้าทอดทิ้งเมื่อจู่ๆ พ่อของเขาก็หายตัวไปพร้อมทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ ทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตรายหลังจากถูกเจ้าหนี้บีบจนต้องขึ้นไปถึงดาดฟ้าตึก อันหลินกลับถูกลมประหลาดพัดออกจากดาดฟ้าและดิ่งลงพื้นแต่เขากลับไม่ตาย แถมยังรอดพ้นจากเจ้าหนี้ จากนั้นจึงพบว่าผู้ที่ช่วยตนไว้คือท่านเซียนคนหนึ่งท่านเซียนยังได้มอบของขวัญที่ดูเหมือนมาจากความเมตตาอันบริสุทธิ์ให้กับเขานั่นคือ ‘ระบบเทพสงคราม’ พร้อมกับจดหมายรับรองเพื่อมุ่งหน้าไปบำเพ็ญเพียรบนสวรรค์!?มาร่วมเดินทางในโลกอันเป็นตำนานใบใหม่ไปพร้อมกับอันหลินพบปะเพื่อนใหม่มากมาย ได้รับอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือในตำนานและเริ่มต้นเส้นทางการกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด…ชีวิตใหม่ของอันหลินพร้อมกับระบบที่ ‘ยอดเยี่ยม’ ของเขาจะไม่มีช่วงเวลาให้เงียบเหงาอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท