อันหลิน ต้าไป๋กับเจ้าอัปลักษณ์มองแหวนมิติในมือ ความลุ้นระทึกฉายบนใบหน้า
ราวกับทุกคนมีหวยขูดที่ถูกรางวัลหลายใบ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ขูดออกมาจะเป็นอะไร
“ใครเริ่มก่อน” อันหลินมองเจ้าอัปลักษณ์กับต้าไป๋
เจ้าอัปลักษณ์กับต้าไป๋กลับจดจ้องมาที่อันหลิน
อันหลินยักไหล่ “เอาเถอะ ข้าเริ่มก่อนแล้วกัน”
เขาปล่อยให้แหวนมิติสิบวงลอยกลางอากาศ ขัดเกลาทีละวง จากนั้นก็เลือกแหวนมิติที่ได้จากนักพรตเก่งฉกาจของหอเจ็ดสังหารแปดวงก่อน ของดีย่อมต้องเก็บไว้ทีหลังสิ
เขาล้วงของทั้งหมดภายในแหวนวงแรกออกมาก่อน
โครม…
ของกองหนึ่งถูกเขาเทออกมากองรวมเป็นเนินเขา ทำให้ทุกคนตาลุกวาว
สามหมื่นห้าพันหินวิญญาณ ศาตราวุธขั้นกลางสามชิ้น ขั้นสูงหนึ่งชิ้น ยาวิเศษห้าต้น และมียาอายุวัฒนะประปราย รวมถึงแร่หลอมศาสตราอีกบางส่วน
แหวนมิติวงหนึ่งมีของมากมายปานนี้ นับว่าน่าประหลาดใจมากแล้ว!
นักพรตหอเจ็ดสังหาร…มั่งคั่งจริงๆ ด้วย!
จากนั้นอันหลินก็เปิดแหวนมิติอีกเจ็ดวงที่เหลือทั้งหมด ของดีข้างในใกล้เคียงกับแหวนมิติวงแรก ถึงขั้นว่าวงหนึ่งมีอาวุธวิเศษขั้นต้นด้วย มันน่าแปลกใจมากทีเดียว
เปิดแหวนมิติทั้งแปดวงเสร็จแล้ว ลำดับต่อไปก็เป็นการแสดงสำคัญ แหวนมิติของสวีถงกับสวีหย่งหนาน!
อันหลินเปิดแหวนมิติของสวีหย่งหนานก่อน หลังขัดเกลาแหวนมิติแล้วก็เทของภายในแหวนออกมาทันที
ครืน…
ทุกคนเห็นดังนั้นต่างก็อ้าปากสูดหายใจดังเฮือก ของล้ำค่ากองเป็นภูเขา!
อันหลินยิ้ม “ช่างเป็นนายทุนที่ชั่วร้ายจริงๆ แตกต่างกับผู้อาวุโสและลูกศิษย์ขนาดนี้ ขูดรีดหนักน่าดู…”
สามแสนหนึ่งหมื่นหินวิญญาณ อาวุธวิเศษขั้นต้นสองชิ้น ขั้นกลางหนึ่งชิ้น ยาวิเศษสิบกว่าเม็ด แร่ธรรมชาติล้นเหลือ…
แค่มูลค่าวัตถุภายในแหวนมิติวงนี้ ก็เทียบเท่ามูลค่ารวมของแหวนมิติทั้งแปดวงก่อนหน้านี้แล้ว…
ฉากนี้ทำเอาเจ้าอัปลักษณ์กับต้าไป๋ตาแดงก่ำ พับผ่าสิ ความแตกต่างแบบนี้จะฆ่าคนตายให้ได้เลยสินะ!
ต่อมาเป็นแหวนมิติของสวีถง มันน่าตะลึงเช่นเดียวกัน
สามแสนห้าหมื่นหินวิญญาณ อาวุธวิเศษขั้นกลางสองชิ้น ยาวิเศษและแร่ธรรมชาติก่ายกอง และมียาตะวันคราม ยาเซียนขั้นเก้าอีกหนึ่งเม็ด! อันหลินใช้วิชาญาณทิพย์วินิจฉัยออกมา ใช้ยามบาดเจ็บสาหัส ทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ มีสรรพคุณเลิศล้ำ ถือเป็นยาครอบจักรวาลใช้สำหรับรักษา
ศึกนี้อันหลินได้ทั้งสิ้นเก้าแสนห้าหมื่นหินวิญญาณ อาวุธวิเศษขั้นต้นสามชิ้น ขั้นกลางสามชิ้น ยาวิเศษหลายสิบเม็ด แร่หลอมศาสตรานับไม่ถ้วน ซ้ำยังมียาเซียนขั้นเก้าอีกหนึ่งเม็ด
อันหลินคลายกังวล มอบเม็ดบำรุงสมรรถภาพทั้งหมดให้ต้าไป๋ แบ่งปันความสุข
ต้าไป๋รับไปด้วยน้ำตาอาบหน้า หนึ่งเพราะสะเทือนใจจากเซี่ยเหนี่ยว สองคือหากไม่ต้องการยังนำไปขายได้ เหมือนว่าจะมีราคาหมื่นสองหมื่นหินวิญญาณ
ลำดับต่อไปเป็นแหวนมิติเจ็ดวงของเจ้าอัปลักษณ์ ได้รับสองแสนกว่าหินวิญญาณ แร่ธรรมชาติ ยาวิเศษอีกนับไม่ถ้วน ได้เป็นกอบเป็นกำ
ต้าไป๋ก็เปิดแหวนมิติทั้งห้าวงอย่างอดใจไม่ไหว มีร่วมสองแสนหินวิญญาณ และมีแร่ธรรมชาติราคาสูงอีกมากมายเช่นกัน แถมยังได้ยาบำรุงสมรรถภาพอีกเป็นตั้ง ตอนนี้อารมณ์สงบแล้ว
“ของกำนัลทั้งหมดจากสงครามในครั้งนี้ ได้ปลอบประโลมหัวใจที่เจ็บปวดของพวกเราแล้ว” อันหลินแหงนหน้ามองฟ้า ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข
ต้าไป๋กับเจ้าอัปลักษณ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ของที่ได้เหล่านี้มันน่าดีใจมากแล้ว
“นี่ พวกเจ้ามีแหวนมิติให้เปิดเล่น ข้าก็จะเปิดด้วย!”
“แหวนมิติที่พี่เสิ่นอิงให้ข้า ข้ายังไม่ได้ตั้งใจดูให้ละเอียดเลย…”
เห็นได้ชัดว่าสวีเสี่ยวหลานถูกกิจกรรมเปิดสมบัติของพวกอันหลินกระตุ้นอารมณ์ ลูบแหวนมิติที่งดงามประณีตบนเรียวนิ้วเบาๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
พวกอันหลินได้ฟังกลับสะดุ้งผวา ยกมือขึ้นห้าม ตะโกนลั่นว่า ‘อย่านะ!’
แต่ทว่า พวกเขาตะโกนช้าไปเสียแล้ว
ชั่ววินาทีที่แหวนมิติสว่างวาบ สมบัติทั้งหมดก็ถูกโยนออกมา
จากนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือน…
ครืน!
ผิวดินโยกไหว ทุกคนมองวัตถุที่กองเป็นภูเขาตรงหน้า ต่างก็อ้าปากค้าง
“โอ้โฮ…เยอะปานนี้เลยหรือ!”
อันหลินตะลึงงัน วัตถุตรงหน้ากองสุมประหนึ่งเค้กหลายชั้น แบ่งชั้นกันอย่างชัดเจน
หินวิญญาณเขียวผ่องเป็นฐานของภูเขา กะด้วยสายตามีราวๆ หลายล้านก้อน ชั้นกลางเป็นแร่หลอมศาสตรานานาชนิดที่แผ่คลื่นพลังงานอันยิ่งใหญ่ เห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดา เหนือขึ้นไปเป็นสมุนไพรหายาก ผลวิเศษ ผลเซียนทั้งหลายแหล่ ส่วนยอดเป็นยาวิเศษ ยาเซียน และยังมีอาวุธไม่ทราบชื่ออีกก่ายกอง… ‘ก้อนเค้ก’ ส่องประกายระยิบระยับภายใต้แสงอาทิตย์ เย้ายวนใจ ตระการตาเป็นล้นพ้น!
สวีเสี่ยวหลานแลบลิ้นสีอ่อนเรื่อออกมาพลางเดาะปาก พูดอย่างเก้อเขินว่า “ดูเหมือนจะเยอะไปหน่อย พวกเจ้าช่วยข้านับทีสิ…”
มุมปากของอันหลินกระตุก ความรู้สึกที่ช่วยผู้อื่นนับเงินเช่นนี้มันช่างเจ็บปวดใจยิ่งนัก โดยเฉพาะเงินที่กองเป็นภูเขา ทั้งเหนื่อยและปวดใจ…
อย่างที่เรียกกันว่า ไม่เปรียบเทียบก็ไม่เจ็บปวด ความสบายใจและศักดิ์ศรีเพียงน้อยนิดที่ต้าไป๋กับเจ้าอัปลักษณ์เรียกกลับมาอย่างยากเย็น ถูกสมบัติที่กองเป็นภูเขาโจมตีให้ทลายในพริบตา แถมยังรู้สึกหายใจไม่ค่อยออกด้วย
สวีเสี่ยวหลานต่างหากเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้!
หินวิญญาณยังพอทำเนา หน้าตาเหมือนกันหมด ใช้ญาณทิพย์กวาดดูสักหน่อย ก็รู้แล้วว่ามีประมาณเท่าใด
อืม…ห้าล้านเจ็ดแสนหินวิญญาณ…
ส่วนแร่หลอมศาสตรากับสมุนไพรหายาก อันหลินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะนับอย่างไร ใช้ญาณทิพย์ประเมินค่า มักจะบอกเพียงชื่อและคุณลักษณะที่ไม่ค่อยเข้าใจ ล้วนเป็นวัตถุบรรพกาล ไม่รู้เช่นกันว่ามีมูลค่าเท่าใด คำนวณตามน้ำหนักแล้วกัน ราวๆ ห้าแสนหกหมื่นชั่ง…
ผลวิเศษสามสิบแปดลูก ผลเซียนสิบลูก ยาวิเศษสองร้อยยี่สิบเม็ด ยาเซียนเจ็ดเม็ด อาวุธวิเศษสามสิบเก้าชิ้น อาวุธเซียนหนึ่งชิ้น…
สิ่งที่ควรค่าให้เอ่ยถึงคือ ประคำเพลิงเก้าสวรรค์ ท่าทางจะเป็นของตงฟางหมิง…
หลังนับสมบัติเหล่านี้คร่าวๆ แล้ว อันหลินรู้สึกหัวใจของตนรับไม่ค่อยไหว
ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองเป็นเศรษฐีใหม่คนหนึ่ง แต่ดูจากตอนนี้แล้ว สวีเสี่ยวหลานต่างหากที่เป็นตำนานรวยข้ามคืนที่แท้จริง…
อันหลินอดเบนสายตามองหญิงสาวรูปโฉมงดงามตรงหน้าไม่ได้ ดูเหมือนนางจะมีความสุขมาก ยิ้มจนตาหยีเป็นจันทร์เสี้ยว หยาดเยิ้มเย้ายวนเป็นพิเศษ นางคงรู้ดีว่า ตัวเองมั่งคั่งร่ำรวยแล้ว…
อืม หากใครได้แต่งงานกับนาง เกาะนางกินก็ท้องแตกตายได้
สวีเสี่ยวหลานมองสมบัติที่แบ่งประเภทเสร็จแล้ว ปรบมือพูดเสียงไพเราะว่า “เอาละ ตอนนี้ได้เวลาแบ่งสมบัติแล้ว!”
อันหลิน ต้าไป๋และเจ้าอัปลักษณ์ต่างก็มองสวีเสี่ยวหลานอย่างงุนงง “อะไรนะ”
“หากไม่ได้พวกเจ้าช่วย ข้าจะได้มรดก ได้สมบัติเหล่านี้มาได้อย่างไร”
“ฉะนั้น ตอนนี้เป็นกิจกรรมตอบแทนคุณของเสี่ยวหลานแล้ว!” สวีเสี่ยวหลานยิ้มอย่างจริงใจ แต่สีหน้ากลับเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่ง ราวกับว่าตั้งใจไว้นานแล้ว
อันหลิน ต้าไป๋และเจ้าอัปลักษณ์ต่างก็สะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าจู่ๆ สวีเสี่ยวหลานจะมาไม้นี้
นางมองหินวิญญาณที่กองเป็นภูเขาก่อน ลูบคางขาวผุดผ่องพลางพึมพำว่า “อืม…ข้าไม่ได้ร้อนหินวิญญาณ อันหลิน เจ้ายังติดหนี้บุญคุณฉางเอ๋อมหาศาล ห้าล้านเจ็ดแสนหินวิญญาณนี่ให้เจ้าแล้วกัน”
เมื่อสวีเสี่ยวหลานเอ่ยประโยคนี้เสร็จ พวกอันหลินก็ตะลึงงันอยู่ที่เดิมประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาด
“ให้…ให้ข้าหมดเลยหรือ เจ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” ต่อให้เป็นคนที่หน้าด้านอย่างอันหลิน ก็อดตกใจพูดติดอ่างไม่ได้
มันไม่ใช่แค่กี่ร้อยหรือกี่หมื่นหินวิญญาณ แต่เป็นห้าล้านเจ็ดแสนหินวิญญาณเชียวนะ! นี่เป็นความมั่งคั่งที่เทียบเท่าสำนักเซียนขนาดใหญ่ แต่สวีเสี่ยวหลานกลับยกให้เขาเช่นนี้ แถมยังยกให้เขาทั้งหมดด้วย…
“ไม่ได้…หินวิญญาณนี่เจ้าให้ข้าทั้งหมดไม่ได้…” สวีเสี่ยวหลานยังไม่ทันตอบ อันหลินก็ส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน สมบัติในแหวนมิตินี้ เสิ่นอิงยกให้สวีเสี่ยวหลานแต่แรกอยู่แล้ว ต่อให้เขาหน้าด้าน ก็ไม่มีหน้ารับหินวิญญาณทั้งหมดไว้
ใบหน้าของสวีเสี่ยวหลานเย็นเยือก “ข้าไม่อยากให้เจ้าติดหนี้บุญคุณฉางเอ๋อนานปานนี้ ให้เจ้ารับไว้ก็รับไว้สิ ข้าไม่ร้อนเงิน เจ้าเอาหินวิญญาณของข้าไปใช้หนี้ มันจะทำไม! หากเจ้าไม่รับ เท่ากับไม่เห็นข้าเป็นเพื่อน!”
อันหลินสะดุ้งทันทีที่ได้ยิน “ได้! ข้ารับ ข้ารับไว้!”
เขาเก็บห้าล้านเจ็ดแสนหินวิญญาณใส่แหวนมิติ ซาบซึ้งจนแทบจะร้องไห้ออกมา เวลาแบบนี้ยังคิดจะใช้หนี้แทนเขา ทำไมเขาถึงได้มีเพื่อนที่ดีขนาดนี้…
รวมกับหินวิญญาณของสวีเสี่ยวหลาน ในแหวนมิติของเขามีทั้งสิ้นสิบสี่ล้านหินวิญญาณแล้ว พอจะจ่ายค่ายาเซียนของฉางเอ๋อได้แล้ว
สวีเสี่ยวหลานเห็นอันหลินรับหินวิญญาณแล้ว สีหน้าถึงได้ผ่อนคลาย เบนสายตามองต้าไป๋
“ต้าไป๋ เจ้ามีสายเลือดของหมาป่าสวรรค์ บำเพ็ญมรรคแห่งสายลม เช่นนั้นผลเซียนเนตรวายุสองลูกนี้ให้เจ้าแล้วกัน ยาเซียนบำรุงปราณไม่เพียงแต่ทำให้ทะเลปราณของสายพันธุ์หมาป่ามีมหาศาลเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เจ้าบรรลุระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายได้ด้วย ยกให้เจ้าด้วยแล้วกัน” สวีเสี่ยวหลานแค่เอ่ยปากก็ยกผลเซียนและยาเซียนที่มีมูลค่าสูงสุดในบรรดาสมบัติของนางให้ ไม่ตระหนี่เลยสักนิด
หลังต้าไป๋รับยาเซียนมาแล้ว มันก็แสดงเจตจำนงด้วยเสียงสะอื้นว่าจะติดตามสวีเสี่ยวหลาน พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่อยากอยู่กับอันหลินแล้ว จะหักหลัง อยากเป็นสัตว์เลี้ยงของสวีเสี่ยวหลาน! เพราะอันหลินให้มันกินแค่ยาเสริมสร้างสมรรถภาพ แต่สวีเสี่ยวหลานกลับมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้มัน…
แน่นอนว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะพันธะสัญญาจำต้องยินยอมทั้งฝ่ายจึงจะหย่าร้างได้ ต้าไป๋จึงถูกอันหลินทุบตีไปอีกฉาดใหญ่
สุดท้ายก็ถึงตาเจ้าอัปลักษณ์
สวีเสี่ยวหลานมองเจ้าอัปลักษณ์อย่างลำบากใจ จะมอบอะไรให้มันดีล่ะ…
เจ้าอัปลักษณ์อยู่ในระดับกึ่งแปลงจิตแล้ว ซ้ำยังฝึกกายและพลังธาตุไฟเป็นหลัก ผลเซียนในแหวนมิติของนางไม่มีอย่างไหนที่เหมาะสมกับมัน ยกประคำเพลิงเก้าสวรรค์ให้มันดีไหม
สวีเสี่ยวหลานหยิบประคำเพลิงเก้าสวรรค์ออกมา คิดไม่ถึงว่าให้ตายอย่างไรมันก็ไม่ยอมรับไว้
มันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในแหวนมิติ ไม่มีหน้ารับไว้จริงๆ!
สวีเสี่ยวหลานเก็บประคำเพลิงเก้าสวรรค์หน้าเศร้าแล้วลังเลต่อ