บทที่ 151 การต่อสู้อย่างถูกกฎหมาย
ในโลกด้านนอกเกม ห้องครัวสุขสัน ได้กลายเป็นสาเหตุให้เกิดการพูดถึงที่ร้อนแรงหลายครั้งในสวนสนุกโจวหยูเองก็พยายามใช้วิธีการใดๆที่เขาคิดได้เพื่อหลีกเลี่ยงทีมงานทีวีเช่นกันแม้ว่าพวกเขาจะตกลงที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกันและกันแต่ก็ยังมีคนแปลกหน้าบางคนเข้ามาหาเขาพร้อมชื่อแปลกๆมากมายมันแตกต่างจากพวกนักข่าวเพียงแค่พวกเขาไม่มีอกปกรณ์สื่อสารเท่านั้น
มันไม่ใช่การสัมภาษณ์จริงๆ มันเป็นเพียงแค่การพูดคุยกันธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถือว่าผิดกฎที่ตกลงกันไว้
แต่สิ่งที่ทําให้โจวหยูรู้สึกกระวนกระวายที่สุดก็น่าจะเป็นโปรดิวเซอร์มู่ซี อีกฝ่ายมีอายุประมาณห้าสิบปีแล้วแต่เขาก็ยังคงปฏิบัติต่อโจวหยูเป็นคนสนิทและต้องการพูดคุยกับเขาเสมอ โดยไม่สนใจตัวตนของเขาตัวเองที่สามารถนับเป็นลุงของโจวหยุได้ ถ้าไม่นับว่าอีกฝ่ายเป็นโปรดิวเซอร์จัดรายการทีวีละก็โจวหยูเองก็ยังสามารถนับให้เขาเป็นลุงข้างบ้านที่อารมณ์ดีได้คนหนึ่ง
โจวหยูเองก็มีนิสัยแบบเดียวกับโปรดิวเซอร์มู่ซีเช่นกัน ในตอนแรกเขาจะให้ความรู้สึกแก่ผู้คนที่เข้ามาหาและเมื่อระยะเวลาผ่านไปตราบใดที่ไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ใครๆก็สามารถเข้ากันได้ดีกับเขาโดยเฉพาะถ้าทุกคนมีความสนใจร่วมกันกระบวนการนี้จะยิ่งสันลง
ในตอนแรกมู่ซีจู่โจมโจวหยูด้วยวัตถุประสงค์บางอย่าง แต่ยิ่งเขารู้จักอีกฝ่ายมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าวิถีชีวิตของชายหนุ่มคนนี้เรียบง่ายเพียงใด อีกฝ่ายใช้ชีวิตเช่นเดียวกับชายชราที่เกษียณแล้วเขาแค่อยากคิดถึงการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวันและไม่ชอบจังหวะชีวิตที่เร่งรีบตลอดเวลามันเป็นอะไรที่เรียบง่ายขและไม่คิดฝันว่าชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตแบบนี้จะเป็นผู้นําในอุตสาหกรรมอนิเมชั่นได้
โจวฟูเองก็ได้เตือนหลายครั้งว่าพวกเขาจําเป็นต้องทําตามข้อตกลง ไม่มีใครรู้ว่าโจวหยูจะเปลี่ยนคําสั่งหรือไม่ถ้าเขารู้สึกไม่ดี แต่หลังจากที่มู่ซีได้ใช้เวลาซักระยะหนึ่งกับโจวหยูเขาก็รู้ว่า ตราบใดที่คุณไม่มีความตั้งใจเป็ นอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคุยกับเขา
คนที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ดังนั้นการเข้าหาอีกฝ่ายจึงต้องเป็นอะไรที่ค่อนข้างเรียบง่ายเช่นกัน
หลังจากคิดออกแล้วมุ่ซีก็ได้ปรับวิธีการของเขาอย่างรวดเร็วและเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายเหมือนลุงที่ใจดีที่อยู่ข้างบ้าน อย่างที่คาดไว้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประหลาดใจอย่างมาก เพราะในที่สุดเขาก็สามารถเข้าสู่ชีวิตประจําวันของโจวหยูได้มากขึ้นในปัจจุบัน
เขารู้มาว่าวันนี้โจวหยูต้องไปโรงเรียนประถมลู่หัวเพื่อทําบางสิ่ง
หลังจากที่จัดการอะไรต่อมิอะไรเรียบร้อยแล้ว เขาได้ปล่อยให้ทีมงานออกมาข้างนอกได้เป็นครั้งแรกละพวกเขาได้เตรียมตัวที่จะติดตามอีกฝ่ายไปด้วย
เธอจะไปโรงเรียนประถมล่หัวทําไมเหรอ?
มันเกือบจะถึงวันหยุดฤดูร้อนแล้ว ผมจะต้องมอบอะไรบางอย่างให้กับอาจารย์หูและพวกเด็กๆบ้าง
ความร่วมมือกับโรงเรียนประถมลู่หัวได้กลายเป็นนิสัยของโจวหยุไปแล้ว ในวันหยุดฤดูร้อนนี้เองก็ไม่มีข้อยกเว้น ถึงแม้ว่าเมืองล่าขุมทรัพย์จะถูกสร้างเสร็จไปแล้ว และได้ถูกเตรียมไว้สําหรับจัดรายการทีวีแต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าพวกเด็กๆจะไม่สามารถเข้าไปเล่นภายในได้ เนื่องจากโครงการเพิ่งจะก่อสร้างเสร็จแน่นอนว่าเขาต้องการให้เด็กเหล่านี้เป็นกลุ่มแรกที่ได้ลองมัน
นอกจากนี้หลังจากการสอบครั้งสุดท้ายนี้ เด็กที่เรียนอยู่ชั้นสูงที่สุดเองก็จะจบการศึกษาจากโรงเรียนประถมไป ก่อนที่จะมีเด็กรุ่นต่อไปของหมู่บ้านลู่หัวเข้ามาแทน ซึ่งเด็กที่จบไปก็มีบางคนที่จะย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนใกล้เคียงหรืออาจจะไปเรียนในโรงเรียนตัวจังหวัดในระยะสั้นๆนี้พวกเด็กๆก็จะเริ่มแยกจากกัน
ดังนั้นช่วงเวลานี้ของปีจึงเป็นอะไรที่สําคัญมาก โจวหยูต้องการให้พิธีสําเร็จการศึกษาที่ดีแก่พวกเขาและทําให้พวกเขารู้ว่าในหมู่บ้านนี้ยังมีพี่ชายคนนี้ดูพวกเขาอยู่
ตามปกติแล้วเรื่องพวกนี้น่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เขาสามารถขอให้คนอื่นมาทําเรื่องพวกนี้แทนเขาได้แต่โจวหยูต้องการไปที่นั่นเป็นการส่วนตัว ซึ่งทําให้มู่ซีสับสนมาก แต่ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจมัน แม้ว่าโจวหยูอาจจะดูเหมือนเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนอื่น แต่เขาก็ยังห่วงใยคนที่อยู่รอบตัวเขาดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะทําสิ่งเหล่านี้
เธอปล่อยให้ฉันจัดการพิธีสําเร็จการศึกษาในครั้งนี้ได้ไหม? ฉันรับรองว่ามันต้องออกมาดีอย่างแน่นอน
คําพูดของมู่ซีทําให้โจวหยูรู้สึกประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่ใหญ่มากแล้วทําไมเขาถึงต้องการมาเป็นคนจัดงานในพิธีรับปริญญาของนักเรียนชั้นประถมกัน? นี่มันไม่เกินความเป็นจริงไปหน่อยเหรอ? อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายได้ตัดสินใจไปแล้วและเขารีบกลับไปเตรียมงานทันทีทิ้งให้โจวหยูยืนอยู่ทางเข้าสวนสนุกด้วยความสับสน
นอกเหนือจากรายการทีวีแล้วพวกม่ซีไม่มีส่วนทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจําวันของโจวหยูยกเว้นว่าเครื่องกาชาปองและชามสุมสมบัติของเจ้าชายมังกรอ้วนที่อาจจะมีไอเท็มแปลกๆปรากฏขึ้นมา
ในครั้งนี้เขาได้เมล็ดของต้นไม้แห่งความคิดสร้างสรรค์มา ซึ่งเจ้าต้นไม้นี้สามารถผลิตใบไม้แห่งความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีความสําคัญต่อศิลปินมังงะได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโจวหยูมีเจ้าสิ่งนี้เขาจะสามารถอัพเกรดสตูดิโอการ์ตูนได้
ในการสุ่มครั้งแรกของวันเขาก็ได้รับของดีทันที วันนี้อาจจะพูดได้ว่าโชคของเขาดีมาก แต่ระหว่างที่เขากําลังดื่มดํากับความสุขอยู่นั้น วังฟาสต์ ก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างมีความสุขพร้อมกับน้ําลายไหลไม่หยุด โอ้ลูกรัก! ฉัน คิดถึงมากเลยรู้ไหม!
อย่าเข้าใจผิด วังฟาสต์ ไม่ใช่เกย์ เขาหมายถึงเจ้าเมล็ดต้นไม้ที่สร้างสรรค์ หลังจากที่เขาได้เอาชนะสัตว์ในตํานานมานั้น ความสามารถของเขาก็ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว หากเขาต้องการปรับปรุงมันขึ้นไปอีกระดับ เขาสามารถทําได้พึ่งพาสมบัติต่างๆเท่านั้น และหนึ่งในสมบัติที่สําคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือต้นไม้แห่งความคิดสร้างสรรค์
เมื่อศิลปินมังงะในโลก ACG ได้รับมัน พวกเขาจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้เดินบนเส้นทางของการเป็นสุดยอดศิลปินแน่นอนว่าจะเป็นแบบนั้นได้ต้องปลูกมันเสียก่อน
นอกเหนือจากการใช้ยกระดับสตูดิโอการ์ตูนแล้ว ต้นไม้แห่งความคิดสร้างสรรค์ยังมีจุดประสงค์อื่นๆเช่นกันหมู่บ้านมินิลู่หัวได้ขาดสคริปต์ของตัวเองมาตลอด และวัตถุดิบหลักสําหรับสคริปต์คือใบไม้จากต้นต้นไม้แห่งความคิดสร้างสรรค์ บวกกับกรงเล็บของความสามารถทางวรรณกรรมและหัวใจแห่งความสันโดษเมื่อนําพวกมันมาสังเคราะห์ก็จออกมาเป็นสคริปต์
กรงเล็บของความสามารถทางวรรณกรรมเป็นพืชชนิดหนึ่งและหัวใจแห่งความสันโดษเองก็เป็นพืชเช่นกันซึ่งพวกมันนั้นสามารถหาซื้อได้ในเครื่องขายส่งเมล็ด แม้ว่าพวกมันจะมีราคาแพงกว่าผักตามฤดูกาลไปก็ตาม
และตราบใดที่โจวหยูมีอาชีพ – นักเล่นแร่แปรธาตุ เขาก็สามารถนําวัสดุทั้งสามอย่างมาสังเคราะห์เป็นสคริปต์ได้อย่างไรก็ตามระดับสคริปต์นั้นไม่ได้มีการกําหนดตายตัว แต่มันจะเป็นการสุมขึ้นมาอาจจะได้ระดับ S หรือระดับต่ําสุดอย่างระดับ G ความน่าจะเป็นของมันมีไม่สิ้นสุด
สคริปต์เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก เขาสามารถใช้มันสร้างภาพยนตร์อนิเมชั่น สร้างเกม หรือแม้แต่ปล่อยให้วังฟาสต์ตัวมือฉกาจวาดมันลงเป็นการ์ตูนได้ และที่สําคัญกว่านั้นเมืองสตาร์ไลท์และเมืองแบล็กสตาร์จะซื้อสคริปต์เหล่านั้นด้วยราคาที่สูงซึ่งนี้อาจจะเป็นวิธีสําคัญที่เขาจะใช้หารายได้จํามากในอนาคต
ในกรณีที่ไม่มีนักเขียนบทภาพยนตร์ นักเล่นแร่แปรธาตุจึงกลายเป็นแหล่งเดียวที่สามารถหาสคริปต์บทได้
เมื่อโจวหยูกําลังยุ่งกับการวางแผนว่าจะใช้ต้นไม้แห่งความคิดสร้างสรรค์เพื่อสังเคราะห์สคริปต์อย่างไรเจ้าชายมังกรอ้วนก็ได้บินมาทางเข้าพร้อมกับพูดไม่หยุดว่า โจวหยู! เกิดเรื่องที่หมู่บ้าน!พ่อฉันจึงบอกให้ฉันรีบมาหานายให้เร็วที่สุด! พวกพันธมิตรไอดอลกําลังต่อสู้กัน!
โจวหยูรู้สึกแปลกใจที่ได้ฟังแบบนี้ ถึงทั้งสองสํานักงานจะไม่ชอบกันมากนัก แต่ตามปกติแล้วพวกเขาต่างก็อยู่กันอย่างสบถอยู่ตลอดเวลาแล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทําไมพวกนั้นถึงเริ่มต่อสู้กันเองและแม้แต่ราชามังกรเฒ่าก็ไม่สามารถยับยั้งการต่อสู้ครั้งนี้ได้?
เขารีบวิ่งมายังหมู่บ้านมินิลู่หัวอย่างรวดเร็ว แต่ก็มาช้าเกินไปตอนที่เขามาถึงการต่อสู้ของทั้งสองฝั่งก็รุนแรงขึ้นมากแล้ว มีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว
ราชามังกรเฒ่า หุงห้อย และคนอื่นเองก็อยู่ที่นั่น แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดการต่อสู้ของกลุ่มนี้ได้
หยุด! พวกนายทุกคนต้องหยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าพวกนายไม่หยุดฉันสาบานเลยว่าจะทําลายสํานักงานของพวกนาย!
ด้วยเสียงคํารามของโจวหยุนี้เอง ในที่สุดทั้งสองกลุ่มก็หยุด ก่อนที่พวกเขาจะมองมาทางโจวหยูอย่างประหลาดใจราวกับว่าพวกเขาต้องการถามว่าทําไมเขาถึงอยากหยุดพวกเขากัน?
พวกนายเป็นบ้าอะไรกัน?! มาต่อสู้ในดินแดนของฉันแล้วยังมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วย?
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งก็มีคนจากสํานักงานของพันธมิตรสตาร์ไลท์เดินออกมาและพูดว่า คุณโจว! คุณ เข้าใจเราผิดไปแล้ว นี่ไม่ใช่การต่อสู้เพราะการเข้าใจผิดหรืออะไรแบบนั้นแต่นี้เป็นการต่อสู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
อะไรกันเนี่ย!พวกนายต้องล้อเล่นแน่นอน!