SGS บทที่ 162 – ปฏิกิริยาของอเลสเตอร์ล่ะ!
เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต7 ณ ตึกที่ไม่มีหน้าต่างและประตู…….
ที่นี่มีบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา ที่นี่มีบุคคลที่บ้าคลั่งที่สุด ที่นี่มีบุคคลที่มีเหตุมีผลมากที่สุด และที่นี่มีบุคคลที่เป็นนักถ้ำมองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ด้วย!
นอนลอยอยู่ในของเหลวลึกลับ ด้านหน้า อเลสเตอร์ ภาพโปรเจคเตอร์หลายอันแสดงภาพไม่หยุด มีตั้งแต่สถาบันวิจัยที่ถูกทำลายเมื่อคืนไปจนถึงฉากที่สาวๆกลายเป็นโป๊เปลือย!
มองดูร่างขาวเนียนในภาพ อเลสเตอร์ก็เงียบ เดิมที่เขาก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ถ้าเกิดเขาไม่เจอใครเลยบางทีอาจจะเงียบแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยก็ได้……..
ผ่านไปพักใหญ่ๆ ภาพก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเป็นภาพสองสาวตัวเล็ก หนึ่งสาวขนาดกลาง กับหนึ่งสาวขนาดใหญ่ พวกเธอคือ คินุฮาตะ เฟรนด้า ทาคิสึโบะ และ มุกิโนะ!
ในภาพ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ ต่างพากันไปแอบในมุม ส่วนมุกิโนะมีสีหน้าเกรี้ยวกราดสุดๆ ยิง เมลท์ดาวน์เนอร์ ในมือออกไปไม่หยุด ทำลายสิ่งของรอบตัวทุกอย่างจนเรียบ
แต่ว่าเพียงเพราะของสลายหายหมดก็ใช่ว่าเธอต้องหยุด มุกิโนะกราดยิงลำแสงขึ้นฟ้าไปทั่วทิศ ราวกับว่าอยากหาที่ระบายอารมณ์หรืออะไรบางอย่าง แต่ที่แน่ๆคือเธอกำลังโกรธอย่างถึงที่สุด
อเลสเตอร์สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ จากนั้นภาพก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง จากนั้นข้อความรายงานจำนวนมากก็โผล่ออกมา แต่ผลสรุปสุดท้ายที่ได้มันน่าประหลาดใจมาก……
‘ผู้บุกรุกหนีออกจากตึกสถาบันวิจัยได้ หลบหนีการติดตามของITEM และที่อยู่ของผู้รุกนั้นไม่ทราบ รูปลักษณ์และเป้าหมายของผู้บุกรุกนั้นไม่ทราบ!’
มองรายงาน สีหน้าอเลสเตอร์ไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนยังกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ผ่านไปพักหนึ่ง หน้าจอก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเป็นอีกรายงานหนึ่ง……
‘โคลนทางการทหารหมายเลข3ถูกขโมยไปทั้งสิ้น 1,053ตน โคลนที่อยู่ในองค์กรซึ่งมีหน้าที่ตามเก็บกวาดหลังจากทดลองแผนเลเวล6ก็ถูกขโมยเช่นกัน โคลนที่ตายทั้งหมดถูกขโมยเป็นจำนวน…….’
ดูเหมือนอเลสเตอร์จะหมดความสนใจกับรายงานแล้ว เขาปิดพวกมันลงแล้วหลับตาราวกับเขาอยากจะหลับ โดยไม่สอดส่องต่ออีกแล้ว
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ อเลสเตอร์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกันนั้น ภาพโปรเจคเตอร์ก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง เป็นรายงานอันใหม่…..
‘เพื่อเป็นรับประกันแผนการเลเวล6 เหล่านักวิจัยได้ดำเนินการร้องขอดีเอ็นเอของร่างต้น เพื่อนำมาผลิตโคลนทำการวิจัย!’
‘สุดท้าย ร่างต้นกลับต่อต้านขัดขืนอย่างผิดปกติ ไม่เพียงแต่จะไม่ให้ดีเอ็นเอ แต่ยังประกาศว่าถ้ายังคิดเอาดีเอ็นเอเธออีก เธอจะลาออกจากทุกสถาบันวิจัยในเมืองแห่งการศึกษา และไม่ลังเลที่จะถอนตัวจากเมืองแห่งการศึกษา! ’
ของเหลวในหลอดที่อเลสเตอร์อยู่เกิดฟองขึ้นราวกับกำลังเดือด ฟองนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นจนฝังตัวอเลสเตอร์ไปจนหมด!
เสียงน้ำเดือดดังก้องเป็นพิเศษในสถานที่นี้ เพราะเดิมทีที่นี่ก็เงียบมากอยู่แล้ว เสียงที่ปรากฏจึงยิ่งเด่นชัด
ถ้าใครที่คุ้นเคยกับที่นี่เห็นเขาคงประหลาดใจมากแน่ เพราะของเหลวในหลอดแก้วขนาดใหญ่นั้นไม่เคยแสดงปฏิกิริยารุนแรงรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่มันถูกกระตุ้นอย่างมากซะจนกลายเป็นน้ำเดือดปุดๆแบบนี้!
นาน นานมาก ของเหลวก็ค่อยๆสงบลง ฟองสบู่ก็ลดลงอย่างช้าๆ และร่างของอเลสเตอร์ก็ค่อยๆปรากฏออกมาในหลอดอีกครั้ง……
บนใบหน้าเฉยเมยพันปีของอเลสเตอร์ เขาค่อยๆหลับตาลง จากนั้นที่นี่ก็กลับมาเงียบสงบอย่างเดิม……..
………….
อีกด้านหนึ่ง ที่บ้านวู่หยาน
“รุ่นพี่อิคารอส ขอร้องล่ะบอกฉันหน่อยว่าเมื่อวานมาสเตอร์ไปไหนมา แล้วทำไมรุ่นพี่ถึงได้กลับมาพร้อมมาสเตอร์ได้ล่ะ?”
“แต่มาสเตอร์บอกห้ามพูด……”
“รุ่นพี่อิคารอส บอกมาเถอะ ฉันจะไม่เอาไปบอกใครแน่นอน บอกหน่อยนะ!”
“แต่มาสเตอร์…..”
“โว้ว! รุ่นพี่อิคารอสขี้โกงง่า! แอบไปอยู่กับมาสเตอร์แล้วไม่บอกฉัน นี่ต้องไปทำไม่ดีกันมาแน่! ฮือ ฮือ……”
“ไม่ใช่…ไม่มี….”
“เอ๊ะ? ว้าว! รุ่นพี่อิคารอสหน้าแดงล่ะ! รุ่นพี่เขินได้จริงๆด้วยล่ะ!”
“………”
วู่หยานมองบทสนาของอิคารอสกับแอสเทรียด้วยความละเหี่ยใจ ยกมือลูบหน้าผากด้วยสีหน้าประมาณ ตูทนดูต่อไม่ไหวแล้ว
อิคารอสที่บริสุทธิ์มาเจอกับคนที่บริสุทธิ์เหมือนกันแต่พ่วงท้ายความโง่อย่างแอสเทรีย ไม่คิดเลยว่าผลมันจะกลายเป็นการอิคารอสโดนไล่บี้แบบนี้ ทำเขาพูดไม่ออก
บางทีแอสเทรียอาจจะแค่อิจฉาอิคารอสที่ได้อยู่ข้างตน ไม่งั้นเธอคงไม่มาสอบสวนแบบนี้ ยังไงซะเธอก็ไม่ใช่เด็กไม่ดีนี่นะ……
แต่ แอสเทรีย ก็ไม่มีทางได้คำตอบแน่ๆอ่ะต่อให้ไล่ถามแบบนี้ต่อไปก็เถอะ อิคารอสเป็นประเภทเอื่อยเฉื่อยไม่ค่อยพูด ยกเว้นแค่ตอนวู่หยานบอกเธอหรือสั่งเธอ อิคารอสถึงจะมีชีวิตชีวาทำตามคำพูดเขาอย่างแน่นอน นี่ทำให้วู่หยานทั้งรักและเหนื่อยใจ……
แน่นอนว่า เห็นอิคารอสเข้าใจการเขินได้ วู่หยานมีความสุขมาก อิคารอสไม่ว่าอะไรก็ดีหมดจะเสียก็แค่เธอไม่ค่อยแสดงอารมณ์
แต่เธอตอนนี้ ได้เข้าใกล้ตัวเองในเนื้อเรื่องช่วงหลังแล้ว เป็นตอนที่เธอเริ่มรู้จักความรู้สึกของตัวเองจริงๆ นี่เป็นพัฒนาการที่ดีมากและเขาอยากให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป มันคงจะค่อนข้างมีปัญหาไม่งั้นตอนที่เขาใช้เวลาร่วมกับอิคารอส มันจะมีอะไรหลายๆอย่างที่ทำไม่ได้…….
ทำอะไรน่ะเหรอ? มันเป็นแรงปรารถนาที่ค่อนข้างกำกวมอยู่นะ ผมเชื่อว่าพวกคุณรู้ดี……
มองดูอิคารอสที่ดื้นรนที่จะป้องกันตัวจาก ‘การโจมตีที่ดุดัน’ ของแอสเทรีย นี่ทำให้วู่หยานไม่เข้าใจจริงๆ ว่าอย่างที่อิคารอสนี่ไปทำอีท่าไหนถึงไปอยู่กับพวกITEMได้
จากที่อิคารอสเล่ามา ตอนเธอมาถึงโลกนี้เธอก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในพื้นที่ของITEM
ระบบให้สถานะของเธอคล้ายๆวู่หยานเลย ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน แต่จุดที่แตกต่างคือเธอได้เป็นผู้ใช้พลังจิตเลเวล4 พลังของเธอเป็นของหนึ่งในอุปกรณ์ของเธอ ‘แอบโซลูทดีเฟนซ์สเฟียร์’
แนะนำสถานะจองเธอคือ : อิคารอสที่โดดเดี่ยวในเมืองแห่งการศึกษา บังเอิญได้พบกับเลเวล5 เมลท์ดาวน์เนอร์ มุกิโนะ หลังจากที่เธอรับ เมลท์ดาวน์เนอร์ ไปหนึ่งนัดของมุกิโนะเข้าไปแล้วกลับไร้รอยขีดข่วน นี่ทำให้มุกิโนะถูกใจพลังป้องกันของเธอ ดังนั้นเลยจับเธอเข้าITEM!
เป็นเพราะยังเป็นเด็กใหม่ มุกิโนะเลยยังไม่บรรจุเธอเป็นสมาชิคITEMอย่างเป็นทางการ มีเพียงแค่หลังจากเธอทำภารกิจสำเร็จ มุกิโนะถึงจะรับเธอเป็นสมาชิกจริงๆ!
และภารกิจนี้ก็คือบททดสอบของอิคารอส!
แต่เพราะในใจอิคารอสเป็นห่วงแต่มาสเตอร์ตัวเอง ดังนั้นหลังจากรับภารกิจแล้ว เธอก็เอาแต่หาที่อยู่วู่หยาน จนสุดท้ายถึงได้มาที่นี่สาย……
แต่นี่กลับทำให้วู่หยานโล่งอก ถ้าเกิดเธอเข้าเป็นสมาชิกITEMจริงๆ งั้นหลังจากนี้คงเข้าไปอยู่ในสายตาของพวกเบื้องบนแน่
แต่ เข้าไปอยู่ในสายตาของพวกเบื้องบน ก็เท่ากับเข้าไปอยุ่ในสายตาของ อเลสเตอร์!
ถ้าถึงตอนนั้น อเลสเตอร์อาจเกิดสนใจเข้าแล้วตัดสินใจ ‘ถ้ำมอง’ อิคารอส ทว่ากลับโดนรบกวนโดยเกราะป้องกันEM ถึงตอนนั้นจริงๆล่ะก็ยุ่งแน่ อเลสเตอร์เป็นพวกชอบความเพอร์เฟค มันต้องไม่ปล่อยให้เกมกระดานของตัวเองเสียการควบคุมแน่ จากนั้นก็คงโดนจับตามอง……
แต่โชคดีจริงๆ ที่ITEMดันได้รับภารกิจมาให้กำจัดตัวเขาพอดี อิคารอสถึงได้รอดตัวไป ดังนั้นตอนนี้จึงเรียกได้ว่ายังโอเคอยู่!
แผนของวู่หยาน จึงยังคงดำเนินการต่อไปได้……