บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! – ตอนที่ 319 รวย! รวย! รวย!!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

SGS บทที่ 319 – รวย! รวย! รวย!!

บนท้องฟ้าได้มีคลื่นความร้อนแผ่ลงมาอย่างไม่เกรงใจใคร ทำให้ทุกอย่างที่โดนแสงส่องถึงต่างก็มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น และนี่ทำให้ทุกคนรู้ว่าวันนี้จะเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวอีกวัน………..

ภายใต้สภาพอากาศแบบนี้ ตัวเลือกที่ฉลาดที่สุดคือหลบอยู่ในบ้านพร้อมกับกินไอศกรีมไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง คงไม่มีใครคิดอยากจะออกมาตากแดดให้ผิวตัวเองเสียหรอกกระมั้ง?

ทว่าวันนี้ Silvaria World Academy กลับคึกคักกว่าเมื่อวาน หลายคนที่เดิมทีอยู่แต่ในที่พักในเวลานี้ได้พร้อมใจกันก้าวเท้าฉับๆรีบเดินไปในทิศทางนึง

ซึ่งปลายทางนั้นก็คือ หอคอยแห่งการทดสอบ!

ข่าวคราวที่เมื่อวานเด็กใหม่คนนึงได้ประกาศท้าทายขุมกำลังใหญ่ทั้งเก้าได้แพร่กระจายไปยังนักเรียนทุกคนแล้ว แน่นอนว่าเสียงส่วนใหญ่หลังได้ยินก็คือคำด่าต่างๆนานา โอหังบ้างล่ะ ไม่เจียมตัวบ้างล่ะ มีส่วนน้อยที่พูดในทางที่ดี แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงความจริงก็คือทุกคนได้รับรู้ข่าวนี้กันหมดแล้ว!

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดีหรือเลวยังไง ตอนนี้วู่หยานเราก็ได้กลายเป็นที่จับตามองของปวงชนไปเรียบร้อยแล้ว นักเรียนมากมายต่างมุ่งหน้าไปยังหอคอยแห่งการทดสอบด้วยเป้าหมายที่แตกต่างกันไม่ว่าจะอยากเห็นสภาพอนาถของวู่หยานหรือไปชมฆ่าเวลา

แน่นอนว่าข่าวนี้ย่อมดังไปถึงหูเหล่าคนระดับสูงด้วย พวกเขาจึงได้อนุญาตให้ลูกแก้วคริสตัลของชั้นที่ต่ำกว่าสามารถฉายภาพการประลองบนชั้นห้าได้เป็นกรณีพิเศษเพื่อให้นักเรียนที่ยังขึ้นไปไม่ถึงได้ชมด้วย

ในเวลานี้บนชั้นที่ห้า ผู้คนของทั้งเก้าขุมกำลังได้ยืนล้อมรอบลานประลองขนาดใหญ่ แน่นอนว่าในหมู่คนเหล่านี้ย่อมมี เฟยเฟยที่นำป่าแห่งความตายมา และบิงเมียนกับบิวท์ที่นำ ธารเหมันต์ และ ปฐพีสีชาด!

ส่วนนักเรียนพิเศษคนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกของหนึ่งในเก้าขุมกำลังใหญ่ก็ได้นั่งที่ห้องรับชม…… (@นอกจากยืนชมแบบติดขอบสนามมันก็ยังมีห้องแยกออกมาซึ่งในห้องก็จมะภาพฉายบนลานประลองให้ดู)

ชั้นที่ต่ำกว่าลงมาต่างก็มีนักเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนได้เงยหน้าขึ้นมองไปยังภาพฉาย ที่แตกต่างออกไปคือที่ชั้นหนึ่งพวกเขาไม่ได้เงยหน้ามองจอ แต่หันไปมองยังทางเข้าหอคอย………

ชั่วขณะนึง คนที่ดวงตาเฉียบแหลมก็ได้เบิกตากว้างชี้นิ้วไปยังทางเข้าแล้วตะโกนว่า

“เขามาแล้ว!!!”

สิ้นเสียง ทุกคนในชั้นหนึ่งก็พร้อมใจกันชะโงกหัวมองไปยังทางเข้า ซึ่งตอนนี้กำลังมีร่างคนสามคนเดินเข้ามาอย่างช้าๆ…….

เป็น วู่หยาน ฮินางิคุ และ มิโคโตะ ล่ะ!!!

ถึงแม้เมื่อวานนี้ ฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส ได้พากันมาไล่เคลียร์หอคอยไปจนถึงชั้นห้าเพื่อที่วันนี้จะได้มาชมเขาสู้ได้ ทว่าเป็นเพราะฟรานถูกผนึกพลังไว้อยู่เธอจึงไม่สามารถมาเคลียร์ชั้นหอคอยได้ ดังนั้นฟรานจึงไม่ได้ตามมาด้วย

ที่วู่หยานยังไม่คลายผนึกก็เพราะยังกลัวและไม่แน่ใจว่าหลังจากปลดแล้วสภาพจิตของฟรานจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมรึเปล่า เขากลัวว่าเธอจะเผลอเล่นเกินเหตุจน Floor Masterพากัน ‘พัง’หมด………

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้แค่ทิ้งให้อิคารอสเป็นคนดูแลฟรานไปแล้วเดินมาหอคอยด้วยหัวใจที่หนักอึ้งด้วยความกังวล แต่เป็นเพราะอิคารอสยืนยันหนักแน่นที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของวู่หยาน ทั้งสามจึงได้แค่เชื่อใจในความสามารถของอิคารอส…….

แทบจะทันทีที่เท้าของทั้งสามเหยียบเข้ามาในหอคอย ทุกคนในชั้นหนึ่งต่างก็พากันเงียบกริบ ภายใต้สายตามากมายทั้งสามก็ได้เดินไปยังวงเวทย์เคลื่อนย้ายอย่างไม่เร่งรีบ…….

เมื่อทั้งสามไปปรากฏที่ชั้นห้า คนในชั้นนี้ไม่ได้แสดงท่าทางระแวดระวัง เกรงใจ หวาดกลัว หรืออะไรทำนองนั้นเหมือนชั้นหนึ่ง อย่าลืมว่าคนที่มาชั้นห้าได้ล้วนเป็นนักเรียนพิเศษทั้งนั้น

“หยาน……”

เห็นวู่หยาน เฟยเฟยก็เดินนำคนของตัวเองมาหาทันทีอย่างไม่แคร์สายตาใคร

เธอยืนอยู่ข้างวู่หยาน!

มองเข้าไปในนัยน์ตาเขา เฟยเฟยพูดเสียงค่อย “นาย…มั่นใจมั้ย?”

ถึงแม้เธอจะมั่นใจในพลังของเขามาก แต่ที่ทำเธอสงสัยคือเขาจะยืนหยัดสู้ไปได้ถึงที่สุดมั้ย คู่ต่อสู้ไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองคน อย่างน้อยๆตัวเธอถ้าไม่ได้ใช้ยาฟื้นฟูหรือสมบัติบางอย่างก็ไม่มีทางทำได้แน่………

วู่หยานไม่พูด ใกล้กันฮินางิคุก็ยิ้มออกมา “พี่เฟยเฟยไม่จำเป็นต้องห่วงตานี่หรอก ดีเสียอีกถ้าเขาได้รับบทเรียนบ้างน่ะ”

ได้ยินวู่หยานที่กำลังเก็กทำหน้านิ่งๆอยู่ปากก็บิดเบี้ยวกรอกตามองบนใส่ฮินางิคุ ใกล้กันมิโคโตะก็พูดเสริมด้วยเสียงไม่พอใจ “ฮินางิคุพูดถูกแล้ว หมอนี่สมควรโดนอัดหนักๆเลย ไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะไม่ให้ฉันลงไปสู้น่ะ!”

มุมปากวู่หยานกระตุก “…..นี่เป็นความในใจจริงๆของเธอสินะ?”

มิโคโตะหันหน้าไปทางอื่น บ่งบอกเป็นนัยๆว่าใช่แล้ว……

เห็นทั้งสามอย่างคุยกันไปมาอย่างสบายๆ เฟยเฟยเองก็ผ่อนคลายไปด้วย อย่างน้อยที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือใบหน้าเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจของเขา

ไม่ไกลออกไป คนของอีกแปดขุมกำลังใหญ่ก็กำลังมองมาทางวู่หยานกับเฟยเฟย ไม่นานนัก บิงเมียนก็เดินตรงมาหาวู่หยานด้วยสีหน้าเรียบๆ

“เฮ้ ถ้ามาแล้วก็ไปบนลานประลองสักที!รู้ไว้ด้วยว่าเวลาของใครหลายคนในที่นี่น่ะล้ำค่ามาก! พวกเราไม่มีเวลามากพอให้มาเสียกับเด็กใหม่หรอกนะ!”

วู่หยานเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นเดินขึ้นลานประลอง ระหว่างทางไปคนที่ยืนบังทางของเขาต่างก็พร้อมใจกันหลีกให้

ยืนบนเวที วู่หยานมองดูสีหน้าของคนรอบๆ ก่อนที่จะไปหยุดยังบิงเมียน มุมปากเขาก็โค้งขึ้น “ในเมื่อเวลาของนายมันล้ำค่ามากนักงั้นก็มาเป็นคนแรกเลยสิ ไม่ต้องห่วงฉันเข้าใจดีแล้วว่าเวลานายมันมีค่าม้ากมาก~ ~ ~ สบายใจได้มันใช้เวลาไม่นานหรอก!”

“โอหัง!!!”

สีหน้า บิงเมียน ดำคล้ำภายในแววตาเย็นเชียบคู่นั้นได้มีจิตสังหารก่อตัวขึ้นแล้ว  ความหมายของวู่หยานมีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจ? อีกฝ่ายกำลังบอกว่าจะชนะตนน่ะมันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเยอะ!

“ฉันล่ะอยากเห็นนักว่าแกจะปากเก่งไปได้อีกนานแค่ไหน!”

บิงเมียนได้ตัดสินใจแล้ว ว่าเขาจะขยี้อีกฝ่ายให้เละจากนั้นเตะมันลงจากลานประลองดุจเศษขยะ!

ถึงอีกฝ่ายจะพูดว่าจะเข้ากับคนที่ชนะตัวเองได้ แต่บิงเมียนไม่คิดจะรับคนใกล้ตายเข้ามาหรอก เขาได้วางยามันไปเมื่อวานแล้ว

แต่…..ถ้าคนที่เข้าเป็นผู้หญิงสองคนที่ชื่อ ฮินางิคุ กับ มิโคโตะ นี้ล่ะก็….เรื่องมันก็ต่างออกไปแล้ว….

หันไปมองสองสาวที่ยืนห่างออกไป จากนั้นหวนนึกถึงหุ่นของอิคารอส รอยยิ้มชั่วร้ายก็ลอยขึ้นมาบนใบหน้าเขา………

บิงเมียนไม่ได้สังเกตุเลยว่า ณ เวลานี้หน้าที่กำลังยิ้มๆของวู่หยานบนลานประลองได้กลายเป็นเย็นยะเยือกแล้ว……

@เพื่อไม่ให้สับสนกับแต้มระบบ ผมจะเลือกแต้มที่ใช้ในโรงเรียนเป็น แต้มเอส(S) นะครับ แบบ หมื่นเอส อะไรงี้

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!

Status: Ongoing
นี่คือเรื่องราวของ โอตาคุติดบ้านแสนธรรมดา ที่วันหนึ่งพอลืมตาตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองได้มาอยู่กลางป่าในต่างโลก พร้อมระบบร้านค้าแสนจะกวนประสาท ที่ชอบข่มขู่ให้เขาต้องทำตามมัน หลังจากผจญภัยเสี่ยงชีวิตมามากมาย เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะปกป้องครอบครัวที่เขารัก แล้วใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่สดใสในต่างโลกให้ได้เลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท