บทที่ 49 จับผิด
เหตุใดหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้ถึงไม่สนใจลูกบ้านของตัวเองเลย?
ถังหลี่ไม่สนใจหลี่ฟู่กุ้ยอีกต่อไป นางหันไปหาผู้ที่ให้ข้อมูลเรื่องถนนเส้นเดิม
“หากซ่อมถนนสายนี้ต้องใช้แรงงานมากหรือไม่?”
“หากเกณฑ์แรงงานทั้งหมู่บ้าน เพียงสิบวันก็เสร็จแล้ว แค่สิบวันไม่ส่งผลกระทบต่อการทำนาหรอก” ชายคนนั้นกล่าว ชาวบ้านทุกคนนิ่งเงียบ เมื่อถนนสายนี้ได้รับการซ่อมแซ่ม พวกเขาก็จะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของเฉาเจียอีกต่อไป ตอนนี้ก็เหลือแค่เพียงการตัดสินใจของผู้นำหมู่บ้านคนเดียว
“ผู้ชายที่ใช้แรงงานได้ของบ้านข้าไม่ได้อยู่ที่บ้านตอนนี้ ดังนั้นข้าจะจ่ายเงินสิบตำลึงเป็นค่าอาหารให้ทุกคนที่มาช่วยซ่อมถนนในสิบวันนี้” ถังหลี่กล่าว
“ฮูหยินเว่ยเป็นคนมีคุณธรรมจริง ๆ ข้าไปทำงานได้ ข้าอยู่กับแม่เท่านั้น!” ชาวบ้านบางคนรีบอาสา
“ครอบครัวข้าช่วยอีกหนึ่งตำลึงและมีแรงงานสองคน” หลี่ต้าซานเห็นด้วย
“ครอบครัวข้าทำงานได้”
“คนบ้านข้าก็ทำได้เช่นกัน ”
ชาวบ้านต่างตกลงกัน สมาชิกครอบครัวแต่ละคนอาสาคนละไม้คนละมือ จนในที่สุดก็รวบรวมคนงานได้หกสิบกว่าคน หลี่ฟู่กุ้ยถูกผลักออกไปเป็นคนนอกทันที เขาไม่มีโอกาสจะได้พูดจาประชดประชันใครอีก ทุกคนลงมติกันเรื่องหาผู้นำรับผิดชอบและการก่อสร้างถนน ชาวบ้านลงความเห็นกันเป็นเอกฉันท์ ทุกคนต่างพอใจและแยกย้ายกันกลับบ้านไป
ป้าเกาจูงมือหลันฮวาเดินไปหาถังหลี่ ดวงตาของนางแดงก่ำ
“เสี่ยวถัง ข้าไม่รู้จะพูดอะไรได้”
หากวันนี้ถังหลี่ไม่ได้ออกมาช่วยพูดให้ล่ะก็ ครอบครัวของนางคงไม่สามารถอยู่หมู่บ้านนี้ต่อไปได้
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วป้าเกา มันไม่ใช่ความผิดของป้าหรือหลันฮวา คนที่ควรละอายคือคนชั่วพวกนั้น เจ้าเป็นเด็กดีไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้” ถังหลี่พูดพลางบีบแก้มหลันฮวา
เด็กสาวพยักหน้าแรง ๆ นางรู้สึกว่าสองสามวันมานี่ หนังหน้าของนางหนาขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ได้ยินคำพูดของถังหลี่ หลันฮวาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเด็กสาวทอแสงเป็นประกาย
ตอนนี้เป็นเวลาตกดึกแล้ว ถังหลี่พาบุตรทั้งสองคนกลับบ้าน
ป้าเกายืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับหลานสาว นางมองถังหลี่กับเด็กทั้งสองเดินห่างออกไปไกลเรื่อยๆ
“หลันฮวา ถังหลี่คือผู้มีพระคุณของเรา หากวันหน้าเจ้ามีโอกาสต้องตอบแทนนางให้ได้นะ”
หลันฮวาพยักหน้าหนักแน่น เด็กสาวจะไม่มีวันลืมความเมตตานี้ตลอดชั่วชีวิตของนาง!
……
วันต่อมา
ชาวบ้านทุกคนต่างแบกเครื่องมือออกไปจากบ้านและเริ่มเร่งทำงานกันอย่างรวดเร็ว โรงงานผลิตถุงหอมหยุดงานชั่วคราวเช่นกัน ถังหลี่พาผู้หญิงสองสามคนมาทำอาหารเพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านอีกด้วย
เมื่ออาหารพร้อม ถังหลี่และคนงานหญิงก็พากันลากรถเข็นอาหารมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่ซ่อมถนนอย่างกล้าหาญ เมื่อมาถึงนางจึงเห็นว่าทุกคนกำลังขะมักเขม้นทำงานกันอย่างหนัก
“ข้าได้กลิ่นอาหาร! เป็นภรรยาเว่ยฉิงทำกับข้าวหรือ ?! ทุกคนมากินข้าวกันเถิด”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกทุกคนจึงเดินมารวมตัวกัน
“ภรรยาเว่ยฉิง ข้าพาคนไปสำรวจเส้นทางมาในช่วงเช้า พบว่าถนนสายนี้สภาพดีกว่าที่เราคิดเอาไว้มาก แม้จะมีหญ้าขึ้นสูง แต่ก็สามารถเดินไปกลับได้เพียงสามชั่วยามเท่านั้น เพียงแต่ตอนนี้เกวียนวัวยังไม่สามารถผ่านไปได้”
“ตรงส่วนที่เสียหาย หากซ่อมและทำให้กว้างขึ้น ถนนสายนี้จะดีกว่าถนนในหมู่บ้านเฉาเจียอีก ”
“พวกเราตกหลุมพรางของหมู่บ้านเฉาเจียแล้ว ตอนนั้นคิดแต่เรื่องประหยัดแรงงานเลยตกปากไป หากแต่กลายเป็นว่าพวกเขาใช้ถนนเส้นนั้นมาบีบบังคับเรา รู้เช่นนี้ควรมาซ่อมแซมถนนสายนี้ตั้งนานแล้ว”
พวกเขาถือว่าถังหลี่คือผู้นำของตน ชาวบ้านทุกคนต่างรายงานเรื่องต่าง ๆ ให้นางทราบ ถังหลี่พยักหน้ารับฟัง…ถือว่าเป็นข่าวที่ดี
นางมองดูชาวบ้านที่เหงื่อซึมทั่วร่างก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“มาเถิดทุกคน พักเหนื่อยเสียหน่อย มากินข้าวกันเถิด”
“โอ้โห… มีเนื้อแห้งด้วย หอมมาก อร่อยกว่าที่ภรรยาข้าทำเยอะเลย!”
“ภรรยาเว่ยฉิง หลังจากกินเสร็จข้าจะตั้งใจทำงานให้มากขึ้น!”
“เยี่ยมมาก ข้าเคยเห็นเจ้าทำอาหารในบ้าน กลิ่นหอมจนลอยฟุ้งออกมา วันนี้ข้ามีโอกาสได้ลิ้มรสแล้ว!”
พวกชาวบ้านผู้ชายกินข้าวมื้อใหญ่แล้วจึงแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
จู่ ๆ ทั้งถังหลี่ก็เห็นบุคคลที่คุ้นเคยในหมู่ผู้ชายเหล่านั้น
“จูเฉิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
จูเฉิงชายหนุ่มจากร้านขายยา ปกติเนื้อตัวของเขาจะสะอาดสะอ้านตลอดเวลา แต่ตอนนี้เขากำลังแบกก้อนหินใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยดินโคลน จนนางเกือบจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ตอนเช้าข้าเจอคนในหมู่บ้านบอกว่าพวกเขากำลังจะสร้างถนน วันนี้ข้าไม่มีอะไรทำมากเลยมาช่วยอีกแรงหนึ่ง” จูเฉิงยิ้มให้อย่างไร้เดียงสา
แต่สายตาของชายหนุ่มจับมองไปที่หลันฮวาที่ยืนอยู่หลังถังหลี่
“ปู่ของหลันฮวาอายุมากแล้ว ข้าสามารถทำแทนเขาได้”
หลันฮวาประสานมือของตัวเองเข้าด้วยกัน นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจหันไปเทน้ำให้จูเฉิงหนึ่งแก้ว
ถังหลี่เม้มปากแล้วแอบคลี่ยิ้มเล็กน้อย จูเฉิงเป็นคนดีและหลันฮวาก็เริ่มจะมีใจให้อีกฝ่ายแล้ว ไม่เลวเลย
นางมองพวกเขาอย่างมีความสุข แต่…ทำไมต้องรู้สึกโล่งใจเหมือนแม่เฒ่าด้วยนะ
ชาวบ้านทุกคนต่างช่วยกันทำงาน
อย่างไรก็ตามมีคนบางคนไม่มีความสุข
หลี่ฟู่กุ้ยนั่งอยู่ที่ธรณีประตู เขาสูบยาสูบด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวกับปัญหาของเกาฉุยหง หลี่ฟู่กุ้ยเสียเวลาไปมากมายในการเจรจาต่อรองกับคนจากหมู่บ้านเฉาเจีย จนที่สุดก็สามารถต่อรองราคาจากสองร้อยเหลือแค่หนึ่งร้อยตำลึงได้ เดิมทีหากเป็นอย่างที่เขาคุยไว้ล่ะก็เรื่องมันก็จบแล้ว แต่เหตุใดถังหลี่จะต้องกระโดดออกมาริเริ่มการซ่อมถนนเช่นนี้…ถ้าถนนสายนี้ซ่อมแซ่มเสร็จเมื่อไหร่ ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเขาในหมู่บ้านจะต้องหมดลง
ไม่มีทาง ถนนสายนี้จะต้องซ่อมไม่สำเร็จ!
หลี่ฟู่กุ้ยลุกขึ้นและเดินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านลี่เจีย และหมู่บ้านเฉาเจียก็อยู่ในทิศทางนั้นเช่นกัน…
วันนี้พระอาทิตย์ส่องแสงจ้าแดดแรงมาก ดังนั้นถังหลี่จึงให้ทุกคนช่วยกันทำถั่วเขียวเชื่อมน้ำตาลมาหนึ่งหม้อใหญ่
ตกบ่ายคล้อยถังหลี่เอาถั่วเขียวต้มน้ำตาลไปในชาวบ้าน ทุกคนกินกันอย่างมีความสุข
“หวานอร่อยมาก”
“หากได้กินอาหารกับของหวานที่ฮูหยินเว่ยทำทุกวัน ข้าล่ะอยากมาสร้างถนนทุกวันเลย!”
“หากภรรยาเจ้าได้ยิน ต้องบิดหูเจ้าขาดแน่ ๆ”
“เฮ้ ลุงสามเหยียบให้มิดเชียวนะ! หากนางรู้เข้าล่ะก็ต้องฆ่าข้าแน่ คงไม่อยากให้ข้าตายใช่หรือไม่?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขสนุกสนาน จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้ามา คนพวกนี้มีมากกว่ายี่สิบคน ทุกคนล้วนเป็นชายฉกรรจ์ คนที่เป็นผู้นำกลุ่มดูท่าทางดุร้าย เมื่อคนในหมู่บ้านลี่เจียเห็น พวกเขาก็พากันเงียบเสียงลงทันที
“ฮูหยินเว่ย คนผู้นั้นคือคนสกุลเฉาเหล่าเอ้อร์ เป็นพี่ชายของหัวหน้าหมู่บ้านเฉาเจีย คนพวกนี้โหดร้ายป่าเถื่อน ดูท่าเราจะเดือดร้อนแล้ว ฮูหยินเว่ยท่านมาหลบอยู่ข้างหลังพวกข้าเถิด..”
ชาวบ้านอธิบายให้ถังหลี่ฟัง ผู้ชายบางคนเดินหน้าออกมากันถังหลี่และผู้หญิงสองสามคนไว้ด้านหลัง
เฉาเหล่าเอ้อร์เตะชาวบ้านที่กำลังขนหินด้วยท่าทีก้าวร้าว จนชาวบ้านคนนั้นล้มไปกับพื้น เศษหินกระจัดกระจายเกลื่อนไปหมด
“เฉาเหล่าเอ้อร์ เจ้าจะทำอะไร?” ชาวบ้านลี่เจียร้องออกมาทันที
“ข้าทำอะไร พวกเจ้าไม่รู้หรือ ? พวกเจ้ากำลังสร้างถนนลับหลังพวกข้า เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเราจะใช้ถนนเส้นเดียวกัน!” เขาโต้อย่างดุเดือด
“ก็พวกเจ้าไม่ให้ทางเรา!” ชาวบ้านลี่เจียท้วงขึ้น
“แล้วใครใช้ให้คนหมู่บ้านเจ้ามาทำร้ายคนหมู่บ้านข้า!”
“เป็นอวี่ชุนอิงและเฉาเสี่ยวกุ้ยต่างหากที่มาข่มเหงคนหมู่บ้านเรา!”
“ข้าไม่สน! ข้าไม่อนุญาตให้พวกเจ้าซ่อมแซมถนนสายนี้ หากเจ้าซ่อมไปเท่าไหร่ข้าจะทำลายมันเท่านั้น!” เฉาเหล่าเอ้อร์พูด และหยิบค้อนขึ้นมากระแทกไปกับส่วนที่เพิ่งซ่อมแซมจนเกิดเสียงดังสนั่น