จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 316-320

ตอนที่ 316-320

บทที่ 316 : รอดูการแสดงสนุก ๆ (1)
  ไป๋หยานก้มมองผู้ที่นางกำลังเหยียบไว้พลางยิ้มเยาะ
  ”นางก็อยู่ใต้ฝ่าเท้าของข้านี่ไง”
  นางอยู่ใต้ฝ่าเท้าของข้า!
  ฟางหยูเฟิ่งรู้สึกตกใจเขาหันไปมองฟู่เป่าหยุนผู้ซึ่งนอนตัวซีดอยู่ ความประหลาดใจพลันปรากฏขึ้นในแววตาของเขา
  ”นางเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรฉื่อเสียจริงหรือ? มีองค์หญิงแบบนี้ อาณาจักรฉื่อเสียจะไม่ย่อยยับหรอกหรือ ?”
  ใบหน้าของฟู่เทียนฉีเปลี่ยนเป็นแดงก่ำด้วยความละอายนัยน์ตาที่โกรธเกรี้ยวของเขาจับจ้องไปที่ฟู่เป่าหยุนผู้ซึ่งยามนี้เกือบจะเป็นลมไปแล้ว เขาต้องการใช้มีดสักเล่มแทงหญิงโง่เง่านี่ให้ตายคามือ
  หากแต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งไปกว่าก็คือพรรคสัตว์อสูรไม่ได้ต้องการรับบุตรชายของไป๋หยานเป็นศิษย์ ทว่าตรงกันข้ามพวกเขากลับยกย่องเด็กคนนั้นเป็นถึงหัวหน้าพรรค
  เดิมทีตงรั่วฉินก็รู้สึกตกใจมากพออยู่แล้วทว่าตอนนี้ความรู้สึกของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ยามนี้เขารู้แล้วว่า เหตุที่ทัศนคติของฟู่เทียนฉีที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปนั้นไม่ได้เกิดจากเป่าหยุน
  ทว่าตรงกันข้ามเขากลับพึ่งพาบารมีของตงรั่วหลาน !
  หากมิใช่เพราะตงรั่วหลานตระกูลตงจะรู้จักกับไป๋หยานได้อย่างไร ? ฮ่องเต้จะไม่มีวันสนับสนุนตระกูลตงหากมิใช่เพราะไป๋หยาน
  น่าขัน…ที่เขายอมทำทุกอย่างเพียงเพราะคิดว่าเกิดจากฟู่เป่าหยุน
  ตงรั่วฉินหลับตาลงในใจของเขา มีภาพตงรั่วหลานผู้ซึ่งอยู่ในอาการสลบไสล ยามนั้นความทุกข์และความผิดหวังก็ประดังประเดเข้าสู่หัวใจ
  ”ข้าขอโทษด้วยพี่ใหญ่… ”
  สีหน้าของเขาซีดเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
  แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้ตงรั่วฉินเองก็เกลียดตงรั่วหลาน
  ครั้งที่ฟู่เป่าหยุนแต่งงานกับเขาเขาไม่เพียงจะถูกหัวเราะเยาะ ทว่ายังไม่ได้รับความสนใจจากองค์ฮ่องเต้อีกด้วย
  เขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากตระกูลตง
  เช่นนั้นเมื่อฟู่เป่าหยุนขอให้ตงรั่วหลานถวายตัวเป็นพระสนมของฮ่องเต้เขาจึงเห็นดีเห็นงามด้วย
  เพราะอย่างไรเสียตระกูลตงก็ตกเป็นหนี้บุญคุณฟู่เป่าหยุน พวกเขาควรชดใช้มิใช่หรือ ?
  ทว่าตงรั่วหลานกลับปฏิเสธที่จะเป็นพระสนมนางเลือกที่จะแต่งงานกับหลานหยูอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียดนางมานานหลายปี
  หากแต่ดูเหมือนเขาจะลืมไปว่าชายที่ฟู่เป่าหยุนแต่งงานด้วยก็คือเขาเกี่ยวอะไรกับตงรั่วหลานด้วยเล่า ? นางเป็นผู้บริสุทธิ์ ยิ่งเฉพาะตอนนี้เมื่อเขารู้ว่า เหตุใดตลอดเวลาที่ผ่านมาฮ่องเต้จึงเคยไม่แยแสฟู่เป่าหยุน เขาก็เข้าใจแล้วว่าเขาทำผิดมากเพียงใด
  ”ขอโทษจะมีประโยชน์อันใด?” ตี้เสี่ยวอวิ๋นเหลือบตามองตงรั่วฉินผู้ซึ่งตกอยู่ในสภาพน่าหดหู่ พลางเชิดริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้าเพิ่งรู้ตัวรึว่าตนเองทำอะไรลงไป ? หากพี่สะใภ้ของข้าไม่มาที่อาณาจักรฉื่อเสียเพื่อขอความยุติธรรมให้กับป้าสะใภ้ของนาง ข้าก็ไม่รู้ว่าป้าสะใภ้ของนางจะต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเจ้ามากเพียงใด ?”
  ใช่แล้วหากไม่มีไป๋หยาน ไม่มีพรรคสัตว์อสูร ตงรั่วฉินจะเสียอกเสียใจลึกซึ้งถึงเพียงนี้หรือ ? นอกจากนี้ฟู่เป่าหยุนยังใช้คำพูดสาดสีทำให้ตงรั่วหลานต้องได้รับความอัปยศอดสูอีกล่ะ
  ตงรั่วฉินพูดไม่ออกเขาบีบขมับแน่น แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
  ชั่วขณะนี้นั้นฟู่เป่าหยุนก็ไม่ต่างจากคนตาย นางมองสตรีในอาภรณ์สีแดงด้วยความสิ้นหวัง นางส่ายหัวเหมือนยังพยายามหลอกตนเอง “ไม่จริง ลูกชายของเจ้าไม่ควรได้เป็นผู้นำของพรรคสัตว์อสูร เด็กนั่นเป็นเพียงลูกไม่มีพ่อ ไม่รู้ว่าพ่อของเด็กนั่นเป็นใครด้วยซ้ำ”
  ปัง!
  ไป๋หยานยกขาของนางขึ้นจากนั้นก็กระทืบซ้ำลงไปอีกครั้ง
  การกระทืบครั้งนี้ทำเอาฟู่เป่าหยุนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด
  ”ข้าบอกได้เลยว่าหากเจ้ากล้าเอ่ยคำว่าลูกไม่มีพ่ออีกครั้ง ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจไปตลอดชีวิต !”
  ฟางหยูเฟิ่งกวาดตามองสภาพที่แทบดูไม่ได้ของฟู่เป่าหยุน “ผู้ใดบอกว่านายน้อยไม่มีบิดา”
  บิดาของนายน้อยเป็นอ๋องผู้ลึกลับของอาณาจักรหลิวฮั่ว!
  เมื่อปีที่แล้วเขาเคยพบอ๋องคังอยู่ครั้งหนึ่ง และเมื่อต้องอยู่เบื้องหน้าอ๋องคัง เขาก็แทบไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคง
  แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าความแข็งแกร่งของอ๋องคังนั้นอยู่ในระดับใด
  ***จบบทรอดูการแสดงสนุก ๆ (1)***

บทที่ 317 : รอดูการแสดงสนุก ๆ (2)
  ”เฉินเอ๋อไม่เพียงแต่มีป๊ะป๋าแต่ยังมีพ่อบุญธรรม กับท่านอาหญิงอีกด้วย” ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสา “แต่ว่า ลูกของป้านี่แหละที่ไม่ช้าก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า”
  น้ำเสียงของไป๋เสี่ยวเฉินนุ่มนวลสดใส ทั้งน่ารัก ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเสียงของเด็กตัวน้อยจะสื่อความหมายรุนแรงอย่างถ้อยคำที่เขากล่าวออกมาเลย
  ”หุบปาก!” ฟู่เป่าหยุนโกรธจัด
  ทันทีที่เสียงนั้นหลุดออกจากปากฝ่าเท้าของไป๋หยานก็เหยียบลงบนปากของนางอย่างแรงพร้อมกับบดขยี้ ฟู่เป่าหยุนเจ็บปวดกระทั่งน้ำตาไหลพราก
  ร่างของนางสั่นเทานัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ขณะจ้องมองไป๋หยาน
  ”เจ้ายังไม่ได้สั่งเสียเลยนะ”
  ไป๋หยานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นๆ รอยยิ้มฉาบอยู่บนริมฝีปากของนาง
  ครั้นมองเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งของไป๋หยานที่สุดแววตาของฟู่เป่าหยุนก็แสดงความหวาดกลัวออกมาบ้าง นางมองไปทางตงรั่วฉิน
  ตงรั่วฉินตัวแข็งขึ้นมาทันทีเขาเบนหน้าหลบโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าดวงตาคู่นั้นก็ยังคงจับจ้องมองเขาอย่างไม่คลาดสายตา นั่นทำให้เขายิ่งรู้สึกอึดอัด
  ”ท่านแม่!”
  ทันใดนั้นเองเสียงร้องก็ดังมาจากด้านหน้า
  ตงรั่วฉินกำหมัดแน่นเขาหันหลังกลับไปมองหญิงสาวในอาภรณ์สีชมพูที่ผละออกมาจากองครักษ์สองคน และวิ่งตรงมาที่ฟู่เป่าหยุน
  ”ท่านแม่ข้าจะช่วยท่านเอง ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้ท่านตาย” ตงมู่เซียะยืดอก เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ไป๋หยาน “นางผู้หญิงสารเลว เจ้าปล่อยท่านแม่ข้าเดี๋ยวนี้นะ”
  ปัง!
  ก่อนที่นางจะทันเข้าไปใกล้ไป๋หยานตี้เสี่ยวอวิ๋นก็ปรากฏกายขึ้นขวาง และปล่อยหมัดใส่ตงมู่เซียะ ส่งผลให้ร่างของตงมู่เซียะลอยลิ่ว
  ตงมู่เซียะตกลงบนพื้นจากนั้นก็ไม่อาจลุกขึ้นยืนได้ แววตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ใบหน้าที่งดงามของนางบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
  ”เซียะเอ๋อ… ” เสียงของตงรั่วฉินสั่นเทาเล็กน้อย “เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ ?”
  เขาสามารถมองข้ามฟู่เป่าหยุนได้ทว่าตงมู่เซียะเป็นบุตรสาวของเขา !
  ไม่ว่าบุตรสาวคนนี้จะดูถูกดูแคลนเขามากเพียงใดเขาก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า นางเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาไปได้ !
  ”เจ้ามันคนไร้ประโยชน์ท่านแม่ของข้าถูกทำร้าย เจ้าก็ไม่แม้แต่จะยื่นมือเข้าช่วย” ตงมู่เซียะหันไปจ้องมองตงรั่วฉิน
  การแสดงออกของนางไม่เหมือนกับกำลังมองบิดาของตนทว่ากลับเหมือนมองศัตรูที่ฆ่าบิดาเสียมากกว่า
  ”เซียะเอ๋อเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความผิดของมารดาเจ้า” ตงรั่วฉินพยายามอธิบายอย่างซื่อ ๆ
  ”หุบปาก!” ตงมู่เซียะตวาดด้วยความโกรธ “ผู้ใดให้เจ้าเรียกข้าว่า เซียะเอ๋อ เหตุใดคนไร้ค่าอย่างเจ้าจึงไม่ตาย…ตายไปซะ ? ข้าไม่มีบิดาขี้ขลาดเช่นเจ้า !”
  ใบหน้าของตงรั่วฉินเต็มไปด้วยความเศร้า
  บุตรสาวของเขาปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว
  ”หม่ามี้…”
  ไป๋เสี่ยวเฉินจับมือของไป๋หยานแน่น”วันหน้า หากหม่ามี้มีน้องสาวให้เฉินเอ๋อ เฉินเอ๋อจะสั่งสอนนางให้ดี จะไม่ปล่อยให้นางเป็นแบบนี้เด็ดขาด”
  ไป๋หยานอมยิ้ม”อืม… แม่เชื่อในตัวเฉินเอ๋อ”
  ”งั้นหม่ามี้ก็สัญญาว่าจะมีน้องสาวให้เฉินเอ๋อแล้วสิ?”
  ”…”
  นางสัญญาแล้วหรือ?
  ไป๋หยานยกนิ้วขึ้นเคาะหัวของไป๋เสี่ยวเฉิน”หากเจ้าต้องการน้องสาว เจ้าก็ไปรบเร้าขออาหญิงเจ้าสิ”
  ”ทำไมล่ะ?”
  ”บุตรสาวของอาหญิงก็นับเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า นางย่อมต้องเป็นน้องสาวของเจ้าเช่นกัน”
  ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้นจ้องตี้เสี่ยวอวิ๋นตาไม่กระพริบนัยน์ตากลมโตของเขาแลดูไร้เดียงสา พลันแสงสว่างก็ฉายวาบผ่านดวงตาของเขา
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นตัวสั่นเทานางก้าวถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว สีหน้าของนางราวกับกำลังจะร้องไห้
  ”พี่สะใภ้ท่านอย่าโยนเรื่องแบบนี้มาให้ข้าสิ”
  ***จบบทรอดูการแสดงสนุก ๆ (2)***

บทที่ 318 : รอดูการแสดงสนุก ๆ (3)
  ”และ… ” ตี้เสี่ยวอวิ๋นฝืนยิ้ม “ยังมีเรื่องสำคัญที่ท่านต้องจัดการให้เสร็จเสียก่อน”
  ไป๋หยานหันไปมองเจ้าบ้านและตงฮูหยินอย่างช้า ๆ “พวกท่านจะให้ข้าจัดการฟู่เป่าหยุนอย่างไรดี ?”
  ตงฮูหยินมองฟู่เป่าหยุนด้วยสายตารังเกียจ”หญิงผู้นี้ทำร้ายบุตรสาวของข้า นางทำให้บุตรสาวของข้าต้องรับความเจ็บปวดมากมาย เช่นนั้นไม่ว่าแม่นางไป๋จะจัดการนางอย่างไร ตระกูลตงของเราก็ไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย”
  ตงเทียนหลิงมองตงมู่เซียะด้วยความไม่พอใจเขาต้องการจะกล่าวบางอย่าง ทว่าสุดท้ายเขาก็ไม่พูดออกมา
  ”แล้วเจ้าล่ะ?” นัยน์ตาของไป๋หยานจับจ้องตงรั่วฉินอย่างเย็นยะเยือก
  นางต้องการรู้ว่าถึงตอนนี้แล้ว น้องชายของป้าสะใภ้นางจะตัดสินใจเช่นไร ?
  ใบหน้าของตงรั่วฉินแข็งค้างเขาไม่กล้าสบตาตงมู่เซียะ ทำได้เพียงเบือนหน้า หลบตานาง
  ครั้นเห็นเช่นนี้ตงมู่เซียะก็ตื่นตระหนก นางลุกขึ้น และรีบวิ่งไปที่ตงรั่วฉิน
  ”ไม่เจ้าไม่ควรละทิ้งท่านแม่ !” นางคว้าแขนเสื้อของตงรั่วฉินพลางกล่าว “หากเจ้าไม่สนใจความเป็นความตายของท่านแม่ ข้าก็พร้อมจะตายไปกับท่านแม่ของข้าที่นี่ และพี่ชายของข้าจะเกลียดเจ้าตลอดไป !”
  ใบหน้าของตงรั่วฉินเปลี่ยนเป็นซีดขาวเขากล่าวราวกับน้ำท่วมปาก “เซียะเอ๋อ เจ้า … ”
  “ตงรั่วฉินเจ้ายังเป็นบิดาของข้าอยู่หรือไม่ ? ท่านแม่ของข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ! ตงรั่วหลานเป็นบุตรสาวของตระกูลตง ในฐานะที่ท่านแม่เป็นผู้นำตระกูลตง ท่านแม่ของข้าจะทำอะไรนางก็ได้ หากวันนี้เจ้าไม่ช่วยท่านแม่ ข้าจะตายต่อหน้าเจ้าทันที ”
  ตงมู่เซียะดึงดาบออกจากมือขององครักษ์ทันทีพร้อมกับวางพาดไว้บนไหล่ของนาง นางจ้องมองตงรั่วฉินด้วยความเกลียดชัง
  ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวดุดัน
  ไป๋หยานเหยียบเท้าฟู่เป่าหยุนแล้วขยี้อีกครั้งนางยังคงมีเลือดไหลออกจากปากและเกือบสิ้นสติหลังจากพบกับความเจ็บปวดหลายต่อหลายครั้ง
  ”พี่สะใภ้ครานี้ตงรั่วฉินคงจะไม่ดักดานเช่นเดิมเหรอนะ ใช่หรือไม่ ?” ตี้เสี่ยวอวิ๋นเบ้ปาก
  ตงรั่วฉินคิดว่าเขาควรจะขอโทษตงรั่วหลานด้วยซ้ำ เช่นนั้นเขาจะช่วยฟู่เป่าหยุนได้อย่างไร ?
  “ท่านอาหญิง”ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวพร้อมกระพริบตา เขาเผยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา “มีคำกล่าวว่า ในแผ่นดินใหญ่นี้เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เขาไม่สนใจฟู่เป่าหยุนนั้นได้ แต่เขาจะต้องห่วงใยบุตรสาวของตน”
  แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาจริง ๆ !
  เช่นที่คาดสีหน้าของตงรั่วฉินแลดูลังเล เขามองตงมู่เซียะด้วยน้ำตาอาบหน้า เขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ จากนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าเจ้าบ้านตงทั้งสอง
  “ท่านพ่อท่านแม่นับตั้งแต่ฟู่เป่าหยุนเข้ามาอยู่ในตระกูลตงของเรา นางทำเรื่องผิดมากมาย ซ้ำยังเอาแต่ใจตนเองเสมอ ! ทว่าอย่างไรก็ตาม เป่าหยุน..นางก็เป็นมารดาของเซียะเอ๋อ และหลินเอ๋อ ! ข้าสามารถหย่าขาดจากนางได้ แต่ได้โปรดละเว้นชีวิตนางเถอะ”
  เขาไม่ขอร้องไป๋หยาน
  อย่างไรเสียไป๋หยานก็เป็นเพียงหลานสาวของตงรั่วหลาน ทว่าเจ้าบ้านตงและตงฮูหยินคือบิดามารดาผู้ให้กำเนิดตงรั่วหลาน ตราบใดที่ท่านทั้งสองให้อภัย ไป๋หยานจะทำอะไรพวกเขาได้เล่า ?
  “แม่นางไป๋”ฟางหยูเฟิ่งส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ “ท่านต้องการให้ข้าช่วยจัดการเรื่องนี้หรือไม่ ?”
  ไป๋หยานยกยิ้ม…
  รอยยิ้มของนางงดงามมากเรียกได้ว่าเป็นความงามล่มบ้านล่มเมือง
  “เสี่ยวอวิ๋นเฉินเอ๋อ เจ้าอยากเห็นการแสดงสนุก ๆ หรือไม่ ?”
  ครั้นคิดถึงเรื่องราวที่คนจากหอบุปผารายงานนางนัยน์ตาของไป๋หยานก็เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
  ”หม่ามี้จะคิดบัญชีให้ท่านยายใช่หรือไม่?”
  ***จบบทรอดูการแสดงสนุก ๆ (3)***

บทที่ 319 : รอดูการแสดงสนุก ๆ (4)
  แน่นอน…ไป๋เสี่ยวเฉินย่อมรู้ดีว่าไป๋หยานกำลังจะทำอะไรดวงตากลมโตของเขาสว่างสดใสเต็มไปด้วยแววฉลาดแกมโกง
  ”เจ้าคอยจับตาดูการแสดงนี้ดีๆ เถอะ … ”
  ผู้ที่ทำให้ตงรั่วหลานเจ็บปวดที่สุดหาใช่ฟู่เป่าหยุนไม่หากแต่เป็นน้องชายของนาง ซึ่งนางทั้งรักทั้งเอ็นดูเขามาตั้งแต่ยังเด็ก
  เช่นนั้น…
  เขาเสียใจเพียงแค่นี้ยังไม่พอหรอก!
  นางต้องทำให้เขาเสียใจไปตลอดชีวิต!
  ”ไป๋หยาน… ” ตงเทียนหลิงเงยหน้าขึ้นอย่างลังเล เขามองใบหน้าเย็นชาของไป๋หยาน แต่แล้วก็ไม่อาจกล่าวถ้อยคำที่เขาต้องการออกมา
  เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้ที่ให้สัญญาเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
  ”ต้องการจะขอร้องแทนงั้นหรือ?” ใบหน้าของไป๋หยานเย็นยะเยือก “ท่านลืมแล้วหรือว่าป้าสะใภ้ของข้าต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ? หากเสี่ยวหยุนไม่ไปตามข้า นางจะรอดชีวิตหรือไม่ ?”
  อาจเห็นว่าอาการบาดเจ็บภายนอกของตงรั่วหลานมิได้ร้ายแรงนัก
  ทว่าแท้จริงแล้วหากล่าช้ากว่านี้ อาการบาดเจ็บจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท้ายสุดย่อมถึงแก่ชีวิตได้
  ใบหน้าของตงเทียนหลิงแข็งค้างเขาถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา
  ”คิดเสียว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน”
  เพราะที่ผ่านมาทั้งตงมู่หลินและตงมู่เซียะไม่เพียงแต่ดูถูกดูแคลนตงรั่วฉินเท่านั้น หากแต่ยังรวมไปถึงตระกูลตงของพวกเขาด้วย เช่นนั้นพวกเขาจึงไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อเด็กหนุ่มสาวทั้งสองเช่นกัน
  คนพวกนั้นทำร้ายตงรั่วหลานหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเช่นนั้นครานี้เขายังจะทำร้ายจิตใจนางอีกได้อย่างไร ?
  ”ท่านปู่”ตงมู่เซียะเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ นางกัดริมฝีปากก่อนจะหันไปหาตงรั่วฉิน “ท่านปู่รักเจ้ามากที่สุดเสมอ ช่วยข้าอ้อนวอนท่านสิ ! หากท่านปู่ไม่ช่วย เจ้าก็ฆ่าตัวตายแทนซะ !”
  ร่างของตงรั่วฉินสั่นสะท้านเขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ดุดันของตงมู่เซียะ
  ”เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร ?”
  ”ข้าไม่สนหรอกคุ้มค่าแล้วที่จะแลกชีวิตราคาถูกของเจ้ากับชีวิตท่านแม่ของข้า ! หากท่านปู่ไม่ช่วย เจ้าก็บังคับเขาด้วยการทำร้ายตัวเองสิ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทนดูเจ้าตายได้”
  ตงมู่เซียะเขย่าร่างของตงรั่วฉินอย่างบ้าคลั่งใบหน้าที่ดุร้ายของนางนั้นแลดูน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
  ตงรั่วฉินหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดเป็นเวลานานกว่าที่เขาจะลืมตาขึ้นอีกครา เขาหันไปหาเจ้าบ้านตงทั้งสอง
  ”ท่านพ่อท่านแม่โปรดยกโทษให้บุตรชายที่อกตัญญูคนนี้ของท่านด้วยเถิด เพื่อปกป้องบุตรสาวของท่านแล้ว ท่านสามารถทอดทิ้งฟู่เป่าหยุนและหลานสาวของท่านได้ ข้าเองก็เช่นกัน ข้าก็ต้องเห็นแก่บุตรสาวของข้า”
  น้ำเสียงของเขาสั่นสะท้านราวกับว่าเขาใช้พลังทั้งหมดของตนเพื่อเอ่ยกล่าวสิ่งนี้
  ”เซียะเอ๋อเป็นบุตรสาวของข้า ไม่ว่านางจะทำผิดร้ายแรงเพียงใด ข้าในฐานะบิดาก็ต้องอภัยให้นาง เช่นนั้นข้าขอร้อง ท่านพ่อท่านแม่โปรดปล่อยฟู่เป่าหยุน หาไม่บุตรชายของข้าก็อาจทำร้ายตัวเองตามไปด้วย สมาชิกสี่คนของตระกูลตงก็คงต้องไปยมโลก ! ”
  ”เจ้า… ” ตงฮูหยินชี้หน้าตงรั่วฉิน นิ้วของนางสั่นระริกด้วยความโกรธ
  นางกล่าวคำใดไม่ออกทำได้เพียงมองตงรั่วฉินเขม็ง นางแทบจะเป็นลมด้วยความโกรธ
  ตงรั่วฉินก้มหัวต่ำลงเรื่อยๆ เขากำหมัดแน่นอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของตงเทียนหลิงแม้แต่น้อย
  ขณะที่ตงรั่วฉินไม่กล้าสบตากับตงเทียนหลิงนั้นน้ำเสียงที่เย็นชาก็ลอยมากระทบหูของเขาราวกับสายลม
  ”ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายเจ้าแน่ใจนะว่าต้องการจะช่วยสองแม่ลูกนี่ ? แน่ใจนะว่าเจ้าจะไม่เสียใจภายหลัง ?”
  ตงรั่วฉินกัดริมฝีปากแน่น”ข้าไม่มีวันเสียใจ”
  ไป๋หยานยิ้ม
  เป็นรอยยิ้มที่งดงามสว่างไสว
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นถึงกับตะลึงพรึงเพริดไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่ชายนางจะติดอกติดใจพี่สะใภ้ เพียงรอยยิ้มนี้ก็มากพอที่จะทำให้หัวใจและวิญญาณหลุดลอย
  นี่ขนาดเป็นสตรีด้วยกันนางยังหลงใหลรอยยิ้มของไป๋หยานถึงเพียงนี้
  ”เอาล่ะเช่นนั้นก็จำคำพูดของเจ้าไว้ให้ดี” ไป๋หยานเม้มริมฝีปากน้อย ๆ “ข้าหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะไม่นึกเสียใจ”
  ***จบบทรอดูการแสดงสนุก ๆ (4)***

บทที่ 320 : สมองพิการนี่เป็นกรรมพันธุ์รึเปล่า ? (1)
  ตงรั่วฉินมองแววตาที่เฉยเมยและเรียบสงบของสตรีผู้นั้นแล้ว เขาก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว หรือเขาจะต้องนึกเสียใจ ?
  ไม่
  เป็นไปไม่ได้!
  เขาทำเพื่อช่วยบุตรสาวของตนเขาย่อมจะไม่เสียใจ !
  ไป๋หยานเหยียบอกของฟู่เป่าหยุนพลางกล่าวเบา ๆ ว่า “ข้าจะนับหนึ่งถึงสามไปให้พ้นจากสายตาของข้า หาไม่แล้วข้าจะทำให้เจ้าก้าวออกจากที่นี่ไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว”
  ตงรั่วฉินตื่นเต้นมากเขารีบอุ้มฟู่เป่าหยุนที่ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ขึ้นมาอย่างว่องไว จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตูรวดเร็วราวพายุ
  ตงมู่เซียะจ้องหน้าไป๋หยานก่อนจะรีบตามตงรั่วฉินออกไปอย่างรวดเร็ว
  ฟางหยูเฟิ่งมองตามหลังตงรั่วฉินพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “เท่าที่ข้ารู้มา แม่นางไป๋มิใช่คนที่ใจกว้างนัก ก็แล้วเหตุใดครานี้ท่านถึงยอมปล่อยนางไป”
  “หากข้าไม่ปล่อยนางละครเรื่องนี้จะดำเนินต่อไปได้อย่างไร ?”
  ไป๋หยานยกยิ้มนางค่อย ๆ หันไปมองเจ้าบ้านและฮูหยินตง “กลับไปบอกท่านป้าและเสี่ยวหยุนด้วยว่า ข้าเชิญพวกนางร่วมชมละคร”
  ต่อให้ตงรั่วฉินจะแสดงออกถึงความรักความผูกพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรสาวได้งดงามเพียงไรนางก็ไม่มีวันเห็นอกเห็นใจเขา ทั้งจะไม่มีวันปล่อยคนเหล่านี้ไปง่าย ๆ อย่างเด็ดขาด
  ผู้ใดก็ตามที่ทำร้ายตงรั่วหลานคนผู้นั้นย่อมต้องเป็นศัตรูของนาง ! นางไม่มีวันเห็นอกเห็นใจศัตรู !
  ตงเทียนหลิงอ้าปากเพื่อจะถามไถ่สิ่งที่ค้างคาใจหากแต่เขาก็ต้องกลืนคำพูดลงคออีกครั้ง เขายิ้มอย่างขมขื่น “ได้ ข้าจะไปบอกรั่วหลาน และหยุนเอ๋อ”
  ”เฉินเอ๋อเสี่ยวอวิ๋น เรากลับกันก่อนเถอะ”
  ไป๋หยานจับมือของไป๋เสี่ยวเฉินหมุนตัวกลับหมายจะเดินออกนอกประตูวัง
  ทว่าฟางหยูเฟิ่งกลับรีบวิ่งตามมาเขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม “แม่นางไป๋ ท่านช่วยทบทวนเรื่องที่ข้าเพิ่งพูดไปจะได้หรือไม่ ?”
  ”ข้ามักจะให้เฉินเอ๋อตัดสินใจเรื่องของเขาด้วยตัวเขาเองหากเขายินดีข้าก็ไม่ขัดข้อง ไป๋หยานชะงักฝีเท้าพลางกล่าว
  ฟางหยูเฟิ่งหันไปทางไป๋เสี่ยวเฉินสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง “นายน้อยท่านจะยอมรับพรรคสัตว์อสูรของเราหรือไม่ ?”
  ”เอ่อ…” ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบตา “ข้าต้องการเวลาสำหรับทบทวนเรื่องนี้”
  ครั้นเห็นว่าไป๋เสี่ยวเฉินยังไม่ปฏิเสธฟางหยูเฟิ่งก็โล่งใจ เขารีบเดินตามสองแม่ลูกต้อย ๆ เช่นเดียวกับบรรดาผู้คุ้มกันที่เดินตามหลังเขามาติด ๆ เช่นกัน
  *****
  ณบ้านสกุลตง
  ภายในห้องพักบริเวณปีกด้านหนึ่งนัยน์ตาของฟู่เป่าหยุนแดงก่ำช้ำเลือด ตงรั่วฉินที่ยืนอยู่ภายในห้องจ้องมองนางอย่างเกลียดชังและดุดัน
  “ตงรั่วฉินเจ้ามันคนไร้ค่า เจ้าไม่ยอมช่วยข้า ทั้งที่เห็นข้ากำลังถูกทุบตี”
  ใบหน้าของตงรั่วฉินเปลี่ยนไป”ฟู่เป่าหยุน ข้าเชื่อเจ้ามานานหลายปี เชื่อในคำโกหกของเจ้า ทั้งยังรู้สึกผิดต่อเจ้า ทว่าตอนนี้ข้ารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว เจ้าคิดว่าข้ายังจะยอมอดทนให้เจ้าเหมือนเมื่อก่อนอีกงั้นหรือ ?”
  ”ข้าเป็นถึงองค์หญิงเป็นองค์หญิงของอาณาจักรฉื่อเสีย ! ไม่ว่าข้าจะชื่นชอบหรือไม่ก็ตาม อย่างไรเสียเจ้าก็แต่งงานกับข้าแล้ว !” ฟู่เป่าหยุนโกรธนางคว้าถ้วยชาจากหญิงรับใช้จากนั้นก็ขว้างใส่ตงรั่วฉิน
  ตงรั่วฉินไม่ได้หลบชาร้อน ๆ เทรดลงหัวของเขา หน้าผากของเขาแดงพร้อมกันนั้นก็ปรากฏเลือดไหล
  เขากล่าวเยาะ”สิ่งที่ข้าติดค้างเจ้า ข้าล้วนชดใช้ให้แล้ว หลังจากที่เจ้าหายดี เราก็เลิกราต่างคนต่างไป”
  เลิกรา?
  นัยน์ตาของฟู่เป่าหยุนเบิกกว้างในอดีตนางเคยข่มขู่ตงรั่วฉินด้วยคำว่าเลิกราและแยกทาง ทว่าบัดนี้ชายผู้นี้กลับมาขอเลิกรากับนางได้อย่างไรกัน ?
  ตงรั่วฉินเลิกสนใจฟู่เป่าหยุนอีกเขาก้าวออกจากห้อง
  ทันทีที่เขาพ้นจากประตูเสียงร้องไห้ก็ดังรอดออกมา
  ตงรั่วฉินเจ้าสมควรตาย ! ข้าขอสาปแช่งตระกูลตงของเจ้า
  ตงรั่วฉินก้าวจากไปพร้อมกับขมวดคิ้ว
  ***จบบทสมองพิการนี่เป็นกรรมพันธุ์รึเปล่า ? (1)***

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท