บทที่ 196 การคาดการณ์ของถังหลี่
เว่ยฉิงหันศีรษะไปทันทีก่อนจะเห็นบุคคลที่เขาโหยหายืนอยู่ที่ประตู ผิวกายที่ขาวผ่อง คิ้วเรียวและดวงตาคู่นั้นที่เขาได้สบตามานับครั้งในถ้วนในห้วงความฝัน เป็นภรรยาของเขาจริง ๆ
ชายหนุ่มมีความสุขมาก เขารีบก้าวเข้าไปโอบกอดภรรยาของเขาไว้ในอ้อมแขน ตัวของนางนุ่มนิ่มและอบอุ่น นี่ไม่ใช่ความฝันแน่!
ถังหลี่เองก็คิดถึงสามีของนางเช่นกัน นางฝังใบหน้าของตัวเองไว้ในอ้อมแขนของเขา ซึมซับลมหายใจของอีกฝ่าย สามีภรรยาคู่นี้โหยหากันยิ่งกว่าคู่แต่งงานใหม่เสียอีก พวกเขาแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้โอบกอดกันอย่างแนบชิด แต่ตอนนี้มีคนอื่นกำลังยืนอยู่ด้วย ทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอาย นางรีบผละออกจากอ้อมแขนของสามี
โดยส่วนตัวแล้วนางไช่ไม่ใช่คนคิดมาก นางพอจะรู้ว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องการความเป็นส่วนตัว
“พวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าจะกลับมาใหม่” นางกล่าวก่อนจะจากไป ทิ้งให้สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“เอ้อร์เป่าอยู่ไหนหรือ?” ถังหลี่ถามคำถามที่นางกำลังกังวลมากที่สุด
“อาการของท่านปู่เอ้อร์เป่าแย่ลงอีก เขาจึงต้องไปอยู่กับท่านปู่”
“เอ้อร์เป่าไม่ได้ถูกรังแกใช่ไหม?”
“ข้าอยู่ที่นี่ไม่มีใครกล้ารังแกเขาได้ ข้าดูแลเขาอย่างดี” เว่ยฉิงพูด
ชายหนุ่มนอนกอดบุตรชายทุกคืน
ในขณะที่เว่ยฉิงกำลังบ่น มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้น เห็นได้ชัดว่าการเกาะติดเอ้อร์เป่าของเขาในครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก
เมื่อถังหลี่ได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจ
หญิงสาวมองไปรอบ ๆ
บริเวณเรือนรับรองหลังนี้เล็กมาก เป็นแค่ห้องแถวเรียงกัน สีของผนังลอกและดูเก่า เพียงแค่เห็นก็รับรู้ได้ว่าคนสกุลฟางไม่ต้อนรับสามีของนาง ถังหลี่นึกถึงความฝันเมื่อคืนก่อนนางจะเดินเข้าไป หญิงสาวเข้าไปในห้องนอนใหญ่ที่ตรงกับความฝันของนาง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันอยู่ในสวนแห่งนี้ ก่อนถังหลี่จะเริ่มค้นหามันอย่างรวดเร็ว
“ฮูหยินเจ้ากำลังมองหาอะไรหรือ?” เว่ยฉิงถาม
“เมื่อคืนข้าฝัน…” ถังหลี่เล่าความฝันให้เขาฟัง
ใบหน้าของเว่ยฉิงเริ่มเคร่งเครียด ก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มค้นหาช่วยถังหลี่ หลังจากที่พลิกตลบดูหลายครั้ง เขาก็นำของบางสิ่งที่ไม่ใช่ของเขาออกมา
สร้อยข้อมือ ต่างหู แหวนหยก…
สิ่งเหล่านี้คือเครื่องประดับของหญิงสาว
เว่ยฉิงไม่รู้ว่ามันถูกซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อใด พวกมันถูกซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียน หากไม่สังเกตหรือค้นหาจริง ๆ ก็ไม่เห็น ถ้าไม่ใช่เพราะความฝันของภรรยา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาจะต้องเหมือนกับในความฝันแน่นอน เรือนรับรองถูกค้น เมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกพบ เขาจะกลายเป็นหัวขโมยในที่สุด….
ใบหน้าของเว่ยฉิงมืดครึ้มลง ดวงตาเย็นเยียบ
“ข้าคิดว่าเป็นฟางเจี๋ย” เว่ยฉิงกล่าว
ไม่ต้องคิดให้มากความ ฟางเจี๋ยต้องอยากฆ่าข้าแน่นอน!
ถังหลี่ขมวดคิ้ว
ฟางเจี๋ยเป็นพวกสัตว์ร้ายที่ทำเรื่องแบบนี้ได้
“ข้าไม่คิดว่าบิดามารดาผู้ให้กำเนิดของเอ้อร์เป่าจะเป็นคนเช่นนี้” เว่ยฉิงถอนหายใจ
ในตอนนี้เขาสามารถรับรู้ตัวตนของสองสามีภรรยาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“สามี เรามาหาวิธีพาเอ้อร์เป่ากลับกันเถอะ” ถังหลี่พูด
นางไม่ต้องการให้เอ้อร์เป่าเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เห็นแก่ตัวเช่นนี้ หากเขาเติบโตไปเป็นคนคดโกง นางต้องเสียใจมากเป็นแน่
“ปู่ของเอ้อร์เป่าป่วยมาก หากเขาอาการดีขึ้น เราจะพาเอ้อร์เป่ากลับไป” เว่ยฉิงพยักหน้า
“มาจัดการกับของพวกนี้ก่อน” ถังหลี่พยักหน้า
เว่ยฉิงนำของทุกชิ้นมาใส่ห่อผ้าก่อนจะขุดหลุมในสนามฝังทุกอย่างไว้ในนั้น เป็นการชั่วคราว
“ท่านพ่อ” ซานเป่าเดินตามหลังเว่ยฉิงไป เมื่อเขาหันกลับมา เด็กหญิงก็รีบเข้าไปกอดต้นขาของเขาไว้ทันที
“ท่านพ่อ ซานเป่าคิดถึงท่านพ่อ ท่านพ่อคิดถึงข้าหรือไม่?” เจ้าก้อนแป้งตัวน้อยถูใบหน้าไปกับหน้าขาของบิดาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“แน่นอน พ่อคิดถึงเจ้า เจ้าเชื่อฟังมารดาหรือไม่?” เว่ยฉิงอุ้มซานเป่าขึ้นมา
“ซานเป่าเชื่อฟังท่านแม่นะ! เก็บที่นอน…” ซานเป่าเริ่มนับนิ้วมือของตนเองและพูดถึงสิ่งดี ๆ ที่นางทำในตอนที่บิดาไม่อยู่
“เด็กดี” เว่ยฉิงพูด
ซานเป่ายืดหน้าอกของนางเล็กน้อยอย่างภาคภูมิใจ
“ท่านพ่อ อุ้มข้าสูง ๆ หน่อยได้หรือไม่?”
“ได้สิ สูงเลยนะ”
เว่ยฉิงยกนางด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนที่เจ้าเกี๊ยวน้อยจะโบกมือเล็ก ๆ สองข้างของนางพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
ถังหลี่นั่งอยู่ที่ประตูดูพ่อลูกเล่นกันด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในใจของหญิงสาวนั้นกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่
คนแรกคือไป๋มู่หยาง
ตามเนื้อเรื่องในนวนิยายนั้น พี่ชายคนโตของนางจะถูกสังหารด้วยกลุ่มโจรในตอนที่อาศัยอยู่ในเมืองเหยาสุ่ย ถังหลี่คือผู้เปลี่ยนชะตากรรมของไป๋มู่หยาง ในครั้งที่สองนั้นเป็นเพราะการแทรกแซงของนางทำให้เมืองฉินโจวรอดพ้นจากการบุกโจมตีและสังหารหมู่อย่างไร้ปราณี รวมถึงไป๋มู่หยางที่จะเสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ด้วย
เมื่อถังหลี่คิดถึงโครงเรื่องของนวนิยาย
หากเป็นคนอื่นเรื่องนี้คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
แต่ครั้งนี้คือสามีของนาง…
เขาควรขาหักตอนออกล่าสัตว์ แต่เพราะถังหลี่ทำให้ชะตากรรมของเว่ยฉิงนั้นเปลี่ยนไป หากในครั้งนี้นางยังมาไม่ถึง เว่ยฉิงจะต้องโดนหักขา ใส่ความเท็จจนติดคุก สุดท้ายแล้วก็ต้องไปรับโทษทำงานหนัก…
ดูเหมือนว่าในโลกนี้จะมีมือที่มองไม่เห็นกำลังพยายามเปลี่ยนโครงเรื่องให้กลับไปสู่เส้นทางเดิมของมัน
ตอนนี้นางยังไม่เจอพระเอกกับนางเอกในนวนิยายต้นฉบับเลย หากเจอกันด้วยร่างของถังหลี่ตอนนี้ จะสู้รัศมีของตัวเอกของเรื่องได้หรือไม่?
แน่นอนว่าไม่! นางไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะฟื้นฟูเวทย์มนตร์ในระดับสูงของตนได้ อย่างเช่นการเสกของหรือยกวัตถุจากระยะไกลได้ แต่อยากน้อยก็ควรมีเวทย์มนตร์บางอย่างไว้ปกป้องตนเองได้บ้าง…ก็คงจะดี
……
เมื่อฟางเจี๋ยกลับมาถึงจวนเขาก็เห็นใบหน้าของนางถังที่เศร้าหมอง
“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเจ้ามีสีหน้าเช่นนี้?” ฟางเจี๋ยถาม
“ถังหลี่พาลูกสาวมาที่นี่” นางถังพูด
“เจ้าคงไม่ให้พวกเขาเข้ามาใช่หรือไม่?” ฟางเจี๋ยขมวดคิ้ว
“ตอนแรกข้าไม่ให้นางเข้ามา แต่จู่ ๆ น้องสะใภ้ก็เข้ามาวุ่นวาย” เมื่อพูดถึงนางไช่ นางถังมีท่าทีรังเกียจ
“ท่านพี่ ข้ากำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ท่านบอกว่าน้องสะใภ้ไม่ได้ตั้งใจหรือ? แต่ถ้าครอบครัวของพี่คนโตวุ่นวาย สายรองแบบนางก็จะได้รับผลประโยชน์”
“นางไช่ก็เป็นเช่นนั้น นางกลัวว่าตระกูลจะวุ่นวายไม่พอหรือ?” ฟางเจี๋ยไม่ชอบคนสกุลไช่เช่นกัน
“ท่านพี่ ตอนนี้ทั้งแม่และลูกสาวก็เข้ามาในจวน กลายเป็นว่ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเราทั้งครอบครัวแล้ว…เราจะทำอย่างไรดี?
ฟางเจี๋ยขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
อันที่จริงมันอาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับเขาก็ได้ กับการที่แม่และลูกสาวมาที่จวนฟางเช่นนี้ ชายหนุ่มได้เตรียมแผนการบางอย่างไว้แล้ว ของมีค่าจำนวนหนึ่งถูกเอาไปวางไว้ในห้องเว่ยฉิง เมื่อพวกเขาถูกตัดสินว่าเป็นขโมย พวกเขาทั้งหมดจะถูกส่งไปใช้แรงงานหนัก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตื่นตะหนก
“ข้ามีวิธีแก้” ฟางเจี๋ยกล่าว “เจ้าแค่ทำตามที่ข้าบอกก็พอ”
ฟางเจี๋ยกระซิบที่ข้างหูของนางถัง ยิ่งฟังแผนการไปมากเท่าไรหญิงสาวก็เริ่มมีความสุขมากขึ้นแล้วนั้น
“เมื่อถึงเวลา เจ้าก็พาคนสองสามคนไปด้วย แล้วก็พาสาวใช้ของเจ้าไปด้วยเรื่องจะได้ดูใหญ่ขึ้น” ฟางเจี๋ยกล่าว
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านพี่” นางถังตอบอย่างมีความสุข
………
ในตอนเย็นเอ้อร์เป่ากลับไปยังเรือนรับรอง
เอ้อร์เป่ารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นแม่กับน้องสาวของตน เด็กชายตะโกนออกมาอย่างดีใจ
“ท่านแม่!”
“พี่รอง!”
ซานเป่าวิ่งไปหาเอ้อร์เป่าราวกับลูกบอลลูกเล็ก ๆ กลิ้งไปอย่างรวดเร็ว เด็กชายกอดนางอุ้มขึ้นและหมุนไปรอบ ๆ
“พี่รอง ท่านแม่กับข้ามาที่นี่เพื่อเจอท่าน” ซานเป่าเอาแขนโอบกอดรอบตัวของนางไป แล้วพูดบอกพี่ชายเบา ๆ
หัวใจของเอ้อร์เป่าสั่นสะท้าน เด็กชายรู้สึกอยากจะร้องไห้
เขาคิดถึงท่านแม่และน้องสาวของเขามาก
ถังหลี่โอบเด็กน้อยทั้งสองเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน ตอนนี้พวกเขาตัวติดกันแน่นหนา
เอ้อร์เป่ารู้สึกเศร้าใจ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกบิดา เด็กชายจึงเลือกที่จะบอกมารดาของตนแทน เอ้อร์เป่าไม่ชอบนายท่านฟาง เขาต้องการที่จะกลับบ้าน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ท่านปู่ของเขาคงอาการไม่ดีมากหากไม่ได้เห็นเขา เอ้อร์เป่าไม่อยากทำให้ชายชรารู้สึกกังวล
“เอ้อร์เป่า ไม่ว่าเจ้าจะเลือกอะไร พ่อกับแม่จะอยู่ข้างเจ้า” ถังหลี่พูด “หากวันใดที่เจ้าคิดถึงบิดามารดาที่ให้กำเนิด พ่อกับแม่ก็จะยินดีพาเจ้ามาหาเขา ลูกจะต้องเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด อย่าได้เศร้าใจไปเลย”
เอ้อร์เป่ารู้สึกว่าจมูกของตัวเองร้อน เขาผงกศีรษะตัวเองแรง ๆ
ท่านแม่ของเขาใจดีมาก!
รักเขา ตามใจเขา และสนับสนุนเอ้อร์เป่าเสมอ
เอ้อร์เป่ากอดมารดาแน่น
เด็กน้อยทั้งสองคนพูดคุยกับถังหลี่ ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูราวกับว่าต้องการจะพังประตูเข้ามาให้ได้แบบนั้น เว่ยฉิงกับถังหลี่มองหน้ากับอย่างใจเย็น
มากันแล้วสินะ!
พวกเขาจงใจมาในตอนที่เอ้อร์เป่าอยู่ด้วย คงต้องการใส่ความว่าเขาเป็นหัวขโมยต่อหน้าเอ้อร์เป่า เพราะคิดว่าจะทำให้เด็กชายมองพวกเขาเปลี่ยนไป
เป็นพวกอสรพิษจริงๆ!