เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 215 งานแต่งงาน

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 215 งานแต่งงาน

ฤกษ์งามยามดีกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ใบหน้าของถังหลี่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีแดง

นางไช่และเถ้าแก่เนี้ยฮวาช่วยประคองนางออกไปนอกห้องส่งมอบนางให้กับซีเหนียง

“ถังถัง เจ้าสวยมาก” หลู่ชิงและฮูหยินมู่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ถังหลี่มีรูปร่างเล็กกระทัดรัด แม้ทั้งคู่จะไม่เห็นใบหน้าของนาง แต่ก็รับรู้ได้ว่าวันนี้ถังหลี่จะงดงามเพียงใด

“หญิงสาวจะสวยที่สุดในวันแต่งงาน” ฮูหยิ่นมู่พูดขึ้น

“ใช่แล้ว วันนั้นฮูหยินก็งดงามมาก” นายท่านมู่ไม่ปล่อยให้โอกาสที่จะเอาอกเอาใจภรรยาของตัวเองหลุดมือ ฮูหยินมู่กระแอมเบา ๆ ก่อนจะไล่สามีออกไป หญิงสาวพูดคุยกับถังหลี่ต่อ

“หลังแต่งงานหากสามีของหญิงสาวปฏิบัติกับนางดี นางจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขและสวยงามไปตลอด แต่ถ้าหลังแต่งงานผู้ชายคนนั้นไม่ดีกับภรรยาของเขาแล้ว นางก็จะสวยงามที่สุดเพียงแค่วันแต่งงานวันเดียวเท่านั้น”

ฮูหยินมู่ตบหลังมือหลู่ชิงเบา ๆ

“ดังนั้นเจ้าต้องหาบุรุษที่ปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี”

“ถังถังเองก็พูดเช่นเดียวกัน” หลู่ชิงพยักหน้ายอมรับ

ฟางจวิ่นนั่งอยู่เคียงข้างนางไช่ เดิมทีพวกเขาทั้งสองคนมาที่นี่ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ทั้งสองคนอยากอวยพรให้ถังหลี่และเว่ยฉิงเท่านั้น ประกอบกับจะได้เจอกับบุตรชายของตนด้วย แต่เมื่อมาถึงงานก็ต้องตกใจมาก ประการแรกคือ บุรุษที่ชื่อ ไป๋มู่หยาง

ฟางจวิ่นรู้จักไป๋มู่หยางในฐานะทายาทผู้สืบทอดตระกูลไป๋ เขาเคยได้รับเกียรติให้เข้าพบอีกฝ่ายมาก่อน หลังจากที่ได้พูดคุยกันก็พบว่าไป๋มู่หยางเองก็มีกิจการอยู่ในเมืองฉินโจวเช่นกัน !

คนทั้งคู่ได้สนทนากันอย่างราบรื่น

ตระกูลฟางนั้นเป็นเสมือนงูท้องถิ่นของเมืองฉินโจว ส่วนตระกูลไป๋คือมังกรใหญ่จากเมืองหลวง ดังนั้นการที่ได้พบกันในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดียิ่ง

นอกจากนี้ ฟางจวิ่นยังได้เจอกับท่านแม่ทัพเฉาเช่าบุคคลที่เอาชนะพวกซยงหนูและปกป้องเมืองฉินโจวเอาไว้ได้ ชายผู้นี้เปรียบดั่งวีรบุรุษของเมืองฉินโจว นี่เป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงและไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าถังหลี่จะรู้จักกับคนใหญ่โตเช่นนี้!

นอกจากนี้ยังมีคุณชายน้อยจากเมืองซ่างจิง พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นบุคลสำคัญและมีชื่อเสียง

เดิมทีเขาคิดว่าถังหลี่และเว่ยฉิงเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น จึงอยากช่วยเหลือคนทั้งสอง แต่ตอนนี้เมื่อมองไปที่พวกเขาแล้ว สองคนสามีภรรยาจะเป็นคนธรรมดาไปได้อย่างไร? ฟางจวิ่นถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นโลกมาก่อน

ฟางจวิ่นมองนางไช่นึกขอโทษภรรยาอยู่ในใจที่คิดว่าตนเองคงทำนางเสียหน้า แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเขายังจะทำให้ภรรยาของตัวเองขายขี้หน้าอีกครั้งเมื่อพบว่าฮั่วจีว์และไป๋มู่หยางยืนเคียงข้างกัน!

ในวันนี้ฮั่วจีว์เป็นพี่รอง เขาต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้น้องสาวของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบตื่นแต่เช้าเพื่อลองเสื้อผ้าตัวแล้วตัวเล่า ในที่สุดก็พบกับเสื้อผ้าที่เขาพึงพอใจ

ฮั่วจีว์อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีม่วงมีผ้ารัดเอวสีดำทอง สวมรองเท้าหุ้มข้อสีดำ รอบตัวของเขามีบรรยากาศหรูหราไม่น้อย ส่วนไป๋มู่หยางนั้นยังคงสวมเสื้อคลุมตัวยาวเหมือนเดิมทว่ากลับส่งให้เขาดูหล่อเหลามากยิ่งขึ้น

ฮั่วจีว์ใช้ศอกสะกิดไป๋มู่หยาง

“เหล่าไป๋ เหตุใดวันนี้ถึงได้ดูดีมากนักเล่า…เจ้าจงใจหรือ”

ไป๋มู่หยางดูดีกว่าฮั่วจีว์…เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง! ไฟแห่งความริษยาของฮั่วจีว์กำลังพุ่งออกมา

คุณชายตระกูลไป๋ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย ก่อนจะพูดว่า

“ข้ารูปงามมากอยู่แล้ว”

ฉีหยินที่อยู่บนหลังคาเกือบจะลื่นตกลงไปเมื่อได้ยินคำนี้

เสื้อผ้าของนายท่านไป๋นั้นสั่งตัดขึ้นมาเป็นพิเศษโดยช่างปักในเมืองซ่างจิงเพื่อร่วมงานแต่งนี้เท่านั้น ชุดสีขาวสะอาดทำให้ดูแตกต่าง จึงเป็นสาเหตุทำให้ไป๋มู่หยางโดดเด่นกว่าฮั่วจีว์

ทว่าไป๋มู่หยางเป็นพี่ใหญ่และฮั่วจีว์คือพี่รอง ดังนั้นจึงไม่สำคัญหรอกว่าทั้งคู่จะดูดีมากเพียงใด ฮั่วจีว์เบิกตากว้างอย่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นเว่ยฉิงในชุดเจ้าบ่าว นี่น้องเขยที่ดูหยาบกระด้างของเขาช่างดูดีได้มากเพียงนี้เลยหรือ?

เว่ยฉิงสวมชุดแต่งงานสีแดง ใบหน้าที่คมคายของเขาเปล่งประกาย คิ้วราวกับดาบ ดวงตาทอแสงแห่งความสุขออกมายิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลามากยิ่งขึ้น

ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามถูกห่อหุ้มไว้ด้วยชุดสีแดงมงคล มีเพียงช่วงเอวสอบเท่านั้นที่ทำให้เห็นว่ารูปร่างของเว่ยฉิงนั้นดีมากเพียงใด

ทันทีที่เว่ยฉิงปรากฏตัว เขามองไปที่ภรรยาของตัวเองเท่านั้น สายตาคมจับจ้องไปที่ถังหลี่อย่างไม่ละสายตา วันนี้เป็นวันที่เขารอคอยมานานมากแล้ว หลังจากที่เคารพฟ้าดินเข้าเรือนหอแล้ว ทั้งสองก็จะเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ชื่อของพวกเขาจะถูกบันทึกเอาไว้ ฮูหยินเว่ยจะไม่สามารถทิ้งเว่ยฉิงไปไหนได้อีก แม้ว่านางจะอยากทำมากเพียงใดก็ตาม!

เมื่อคิดว่าตัวเขาและภรรยาจะต้องเคารพฟ้าดินด้วยกัน เว่ยฉิงก็ตื่นเต้นจนนอนแทบไม่หลับ เว่ยฉิงอยากเห็นภรรยาของเขาในชุดเจ้าสาวเร็วๆ เมื่อได้มองดูนางในตอนนี้แล้ว หัวใจของชายหนุ่มก็ฟูฟ่อง อัดแน่นไปด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม นางงดงามมากจริงๆ

“โอ้! เจ้าจะได้มองจนเบื่อเลย คำนับฟ้าดินก่อน!” ซีเหนียงแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อแล้ว

แต่เว่ยฉิงก็ยังไม่ละสายตาจากถังหลี่ เขาคว้าชายผ้าไม้สีแดงที่ซีเหนียงมอบให้คู่บ่าวสาวจับชายผ้าไหมกันคนละข้าง เมื่อถึงฤกษ์มงคลเสียงกลองก็ดังขึ้น ทั้งสองเริ่มพิธี คำนับฟ้าดินในครั้งแรก คำนับซึ่งกันและกันในครั้งที่สอง หลังจากพิธีสิ้นสุดลง เจ้าบ่าวก็พาเจ้าสาวไปยังห้องหอ

ที่ด้านนอกมีคนสองคนกำลังยืนแอบอยู่ที่หัวมุมตรอกเมื่อได้ยินเสียงความสุขจากพิธีวิวาห์มุมปากของเขาก็ยิ้มแย้มขึ้นมา

“น้องเล็กเจ้าเห็นหรือยัง อาฉิงแต่งงานแล้วนะ ข้าเคยถามหลานถึงภรรยาของเขา นางเป็นเด็กดี นางใจดีกับอาฉิงมาก อาฉิงเองก็รักหลานสะใภ้มากเช่นกัน” เซียวซานหลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“คุณชายแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา วิญญานของคุณหนูที่อยู่บนสวรรค์ต้องมีความสุขแน่นอนขอรับ” คนข้างกายของเซียวซานหลางพูดขึ้น

“ไปกันเถอะ”

ทั้งสองคนหันหลังจากไปราวกับทั้งคู่ไม่เคยได้มาที่นั่นเลย

…..

ที่งานเลี้ยงฉลองแต่งงานมีการจัดโต๊ะกินเลี้ยงไว้หลายโต๊ะ โต๊ะสำหรับครอบครัวเจ้าสาว และโต๊ะครอบครัวเจ้าบ่าว โต๊ะสำหรับแขกทั่วไป ทุกโต๊ะล้วนเต็มหมด ทั้งเอ้อร์เป่าและซานเป่าแต่งกายด้วยชุดน่ารัก เด็กๆตามต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยเพื่อรับรองแขกในงาน โดยที่ตามธรรมเนียมแล้วเจ้าบ่าวจะต้องออกมากินเลี้ยงก่อนเข้าห้องหอ

ทันทีที่เว่ยฉิงออกมาจากห้อง ชายหนุ่มก็ถูกฮั่วจีว์กักตัวไว้ ในฐานะพี่เขยและครอบครัวของเจ้าสาว ฮั่วจีว์กระตือรือร้นมากที่จะข่มขู่เว่ยฉิง ชายหนุ่มบอกให้เจ้าบ่าวปฏิบัติต่อน้องสาวเขาให้ดีมากขึ้น และท้าดวลสุรากับเว่ยฉิงทันที

หลังจากแข่งไปได้สักพักฮั่วจีว์ก็เมามายนอนฟุบไปกับโต๊ะพูดจาไร้สาระไม่หยุด ในขณะที่เว่ยฉิงปกติดีทุกอย่าง

ไป๋มู่หยาง………..

เขาไม่รู้หรือว่าเว่ยฉิงแข็งแกร่งขนาดไหน อะไรทำให้เขามั่นใจว่าจะไปดวลสุรากับน้องเชยผู้นี้ได้ ….

หลังจากที่เว่ยฉิงดื่มฉลองงานอวยพรบ่าวสาวเสร็จ เขาก็ฝากที่เหลือไว้กับสวี่เจวี๋ยและต้าเป่า ชายหนุ่มแทบทนรอไม่ไหวในการเข้าห้องหอ ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเว่ยฉิงพบว่าภรรยาของเขานั่งอยู่บนเตียง หัวใจของเว่ยฉิงเต้นแรงมาก ชายหนุ่มเดินเข้าไปทรุดตัวลงที่ขอบเตียงอย่างนิ่งงัน แค่ได้นั่งข้างนาง เว่ยฉิงก็รู้สึกดีมากแล้ว เว่ยฉิงทนความตื่นเต้นอีกต่อไปไม่ไหว เขาจึงค่อยๆเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวขึ้น

ชายหนุ่มมองภรรยาไม่ละสายตา…ฮูหยินของเขางดงามมาก!

ดวงตาของนางฉ่ำน้ำ ขนตางอนเป็นแพ ริมฝีปากนุ่มนิ่ม เชิญชวนให้ผู้ที่พบเห็นอยากลิ้มลองและดื่มด่ำกับสเน่ห์และความงามของนาง เว่ยฉิงรู้สึกว่าถังหลี่กระชากวิญญานเขาออกไปจากร่าง!

ถังหลี่มองสามีที่จ้องนางราวกับคนโง่งม

นางยื่นมือออกแตะที่ใบหน้าของเขา

“ใจลอยไปไหน”

เว่ยฉิงได้สติกลับคืนมา

“ดื่มสุรากันเถอะ ”

ชายหนุ่มมคิดถึงขั้นตอนที่ซีเหนียงกำชับเขาไว้ทีละขั้นทีละตอนในการเข้าหอ หลังจากดื่มสุรามงคลก็เข้าห้องหอ เป็นอันจบพิธีตอนนี้ทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ทั้งสองจะเคยเข้าห้องหอกันมาก่อนแต่ความรู้สึกในตอนนี้ย่อมแตกต่างออกไป

เว่ยฉิงตื่นเต้นเหมือนกับเด็กหนุ่ม แต่เขายังอดทนช่วยภรรยาถอดเครื่องประดับผมการเคลื่อนไหวของเขาอ่อนโยนมาก ราวกับว่าหากออกแรงเพียงนิดภรรยาของเขาจะเจ็บได้ หลังจากเช็ดใบหน้าจนสะอาด ชายหนุ่มคลายมวยผมของภรรยาตัวเองออก เส้นไหมสีดำสนิทตกลงคลอเคลียราวกับน้ำตก ขับผิวขาวผ่องยิ่งขาวมากขึ้น ภรรยาของเขาสวยงามเบ่งบานราวดอกไม้รอให้เขาเข้าไปเด็ดเชยชมนาง

ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตนาง

ค่ำคืนวสันตร์มีค่าดุจทองคำพันชั่ง

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท