เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 576 นัดพบ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 576 นัดพบ

พวกเขาใช้เวลาสามถึงสี่ชั่วยามในการเดินทางไปยังเขตของเมือง ความจริงแล้วมีโรงเตี๊ยมอยู่แต่พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะพัก

พวกเขารีบเดินทาง ชายชราจึงขอให้อาสุ่ยขับเกวียนในยามกลางคืนด้วย

อาสุ่ยเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายชราพูดเขาก็ไม่ได้รังเกียจ เขาขับเกวียนไปยังเขตของเมือง

โชคดีที่คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง มีถนนเพียงสายเดียวเท่านั้นที่ตรงไปยังเขตของเมืองได้ แม้จะถึงช้าไปบ้างแต่ทางก็เรียบสะดวกดี อาสุ่ยกลัววัวจะเหนื่อยเขาจึงหยุดพักบางครั้ง ทำให้ใช้เวลาเดินทางหกหรือเจ็ดชั่วยามกว่าจะไปถึงหน้าประตูเมือง

ที่ประตูเมืองมีคนต่อแถวยาวมากเพื่อเข้าไปด้านใน โก่วหวาหลับอยู่ในอ้อมแขนของเว่ยฉิง หลังจากที่ชายชราเรียกเขาถึงสองครั้ง เด็กน้อยถึงได้ตื่นขึ้นมา

“ท่านจะเข้าเมืองหรือ?” ชายชราถามเว่ยฉิงเสียงเบา

เว่ยฉิงคิดว่าหากมีหมายจับของเขาก็น่าจะติดอยู่ที่ทางเข้าประตูเมืองเป็นแน่ หากทะเล่อทะล่าเข้าไปมิเป็นการฆ่าตัวเองหรอกหรือ?

ชายหนุ่มส่ายศีรษะ เขาก้มลงกระซิบเรื่องหมายจับ ชายชราครุ่นคิดแล้วพูดว่า

“ถ้าเช่นนั้นข้าเข้าไปส่งสาส์นให้เจ้าจะดีไหม?” เว่ยฉิงก็มีความคิดเช่นเดียวกัน

เขาส่งหมายจับให้ท่านผู้เฒ่ากระซิบกับเขาว่า

“ท่านไปหาเถ้าแก่ร้านอาหารหนิงเฟิ่ง บอกเขาว่าต้องการพบเถ้าแก่ร้าน จากนั้นเอาหมายจับฉบับนี้ให้เขาบอกว่าได้รับมาจากข้า”

“ไม่ต้องห่วง” เขาพยักหน้ารับหมายจับมาถือไว้

“ขอบคุณท่านมาก” เว่ยฉิงยกมือคารวะเขาหนึ่งครั้ง

“ข้าก็ไม่อยากให้หลานชายข้าเป็นเหมือนกับพ่อของเขา” ชายชราพึมพำ

เพราะต้องใช้เงินในการเข้าเมือง เขาจึงไม่ได้พาหลานชายเข้าไปด้วย เว่ยฉิงจับมือโก่วหวาไว้มองดูชายชราหลังค่อม เดินเข้าไปต่อแถวเข้าเมือง หวังว่าการเข้าเมืองของเขาจะราบรื่น

แต่โก่วหวาไม่รู้ถึงอันตรายในครั้งนี้ เขามองไปปู่ของตัวเองอย่างใจจดจ่อ

“ข้าก็อยากเข้าไปในเมืองบ้าง”

“ไว้วันหลังนะ” เว่ยฉิงลูบศีรษะของเขา

ชายชราเคยมาที่นี่เมื่อสามสิบปีที่แล้ว โชคดีที่ร้านอาหารหนิงเฟิ่งมีชื่อเสียง เพียงถามคนสองสามคนเขาก็เดินไปจนถึงร้านหนิงเฟิ่งได้แล้ว เขาเดินไปประมาณครึ่งชั่วยามในที่สุดก็มาถึงหน้าร้าน

เขาพยายามเหยียดแผ่นหลังของตนให้ตรง มองไปในร้านอาหารแห่งนี้ ข้างในมีแต่คนแต่งกายหรูหรางดงาม สภาพตัวเขามีเพียงผ้าขี้ริ้วห่อกาย เจ้าของร้านจะยอมมาพบเขาหรือไม่? หรือจะขับไล่เขาออกไปราวกับขอทาน?

ชายชราสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปในร้านอาหารบราวนี่ออนไลน์

“ผู้อาวุโส ท่านอยากสั่งอาหารหรือขอรับ?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา

ชายผู้นี้ไม่ไล่เขาออกไปหรือ? ขนาดร้านอาหารเล็กๆ เมื่อเห็นเขายังไล่เลย ทั้งๆ ที่เป็นร้านอาหารใหญ่โตเช่นนี้ แต่ทัศนคติที่มีต่อลูกค้าไม่ธรรมดาเลย เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกบอกเสี่ยวเอ้อร์ว่า

“ข้าอยากพบกับเถ้าแก่ของร้าน”

“ท่านต้องการพบเถ้าแก่เรื่องอะไรหรือ?” เสี่ยวเอ้อร์ถามเขาด้วยรอยยิ้ม

“เถ้าแก่ร้านเจ้ากำลังตามหาใครอยู่หรือไม่?” ชายชราถาม สีหน้าของเสี่ยวเอ้อร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ผู้อาวุโสนั่งที่นี่ก่อน ข้าจะไปเรียนเถ้าแก่ให้”

ในไม่ช้าชายชราก็ถูกพาตัวไปยังห้องชั้นบน ข้างในมีชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าหรูหราท่าทางไม่ธรรมดา เขาเป็นเถ้าแก่ของร้านหนิงเฟิ่งในมณฑลจางมู่ ท่าทีของเขาสุภาพมาก

“ผู้อาวุโส ท่านรู้ได้อย่างไรหรือว่าข้ากำลังตามหาใครบางคนอยู่” ชายชราหยิบหมายจับออกมาจากกระเป๋าแล้วกางออกส่งให้เถ้าแก่ร้าน

“ข้าเห็นคนที่อยู่ในรูป”

คนผู้นั้นออกคำสั่งให้ตามหาคนที่อยู่ในรูป ตอนนี้ได้เบาะแสแล้ว ช่างดีเหลือเกิน! เถ้าแก่ดีใจอย่างมาก

“ท่านรู้ไหมว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”

“รู้ เขาเป็นคนขอให้ข้ามาหาเจ้า”

“พาข้าไปหาเขาที!” เถ้าแก่พูดอย่างเร่งรีบ

เว่ยฉิงพาโก่วหวาและอาสุ่ยไปรอห่างจากประตูเมืองประมาณหนึ่งลี้ อาสุ่ยและโกวหว่ากำลังนอนหลับ ในขณะที่เว่ยฉิงนั่งอยู่บนก้อนหินคอยมองไปที่ประตูเมืองด้วยความกระวนกระวายใจ

เขากำลังคิดว่าตอนนี้ชายชราได้ไปถึงร้านอาหารหรือยัง

ครึ่งชั่วยามต่อมารถม้าหรูหราแล่นออกมาจากประตูเมือง ตรงมาที่พวกเขา รถม้าหยุดลง อาสุ่ยและโก่วหวาตื่นขึ้น พวกเขาสองคนจ้องไปที่รถม้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เคยเห็นรถม้าหรูหราเช่นนี้ ในตอนนั้นมีคนสองคนลงมาจากรถม้า

“ท่านปู่!” โก่วหวาอุทานอย่างตกใจ

ท่านปู่ของเขาได้นั่งรถม้าจริงๆ

ชายวัยกลางคนแต่งกายหรูหราลงตามมาจาก เขาเดินมาหาเว่ยฉิงด้วยสายตามีความหวัง เมื่อเว่ยฉิงเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หมวกไม้ไผ่

ใบหน้าของชายวัยกลางคนผู้นั้นเต็มไปด้วยความสุข นี่คือสามีของเถ้าแก่เนี้ยจริงๆ

“นายท่าน! ดียิ่งนัก ในที่สุดข้าก็พบท่านแล้ว! เว่ยฉิงพยักหน้า

“พอมีหนทางจะเข้าเมืองได้ไหม?”

“ที่รถม้าคันนี้มีช่องลับอยู่ขอรับ ท่านต้องซ่อนตัวในนั้นก่อน” เถ้าแก่ร้านกล่าว เขาขอเงินจากเถ้าแก่ไปเป็นค่าเกวียนให้กับอาสุ่ยจากนั้นก็ลูบหัวโก่วหวา

“ไปเดินเล่นในเมืองไหม?”

“อืม!” โก่วหวาพยักหน้ารับทันที

ชายชรากำชับกับอาสุ่ยว่าอย่าพูดเรื่องในวันนี้เด็ดขาด เขาพยักหน้ารับคำเป็นมั่นเหมาะแล้วจึงขับเกวียนจากไป

เว่ยฉิงซ่อนตัวอยู่ในรถม้า เถ้าแก่พาโก่วหวากับชายชราขึ้นรถม้าเข้าไปในเมือง เว่ยฉิงมีเรื่องที่ต้องจัดการ เขาจึงฝากชายชราและโก่วหวาไว้กับเถ้าแก่ร้าน กำชับให้มอบเงินและอาหารดีๆ ให้แก่พวกเขา เขาจำได้ว่าความฝันของเด็กชายคือการกินข้าวขาว ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องบอกลากันแล้ว

“ผู้อาวุโส ข้าจะไม่ให้โก่วหวาต้องซ้ำรอยบิดาของเขาแน่นอน” เว่ยฉิงให้คำมั่น

“ขอบคุณขอรับใต้เท้า”

“ท่านลุง เราจะได้พบกันอีกไหม?” โก่วหวามองไปที่เว่ยฉิง

“ลุงจะมาหาเจ้าตอนที่ว่าง เจ้าต้องดูแลท่านปู่ให้ดีนะ” สีหน้าของเว่ยฉิงอ่อนลงเขาลูบหัวของโก่วหวา

“ขอรับ” โก่วหวาพยักหน้า

“เด็กดี” เว่ยฉิงยิ้ม

ใบหน้าของโก่วหวาแดงขึ้น เขายืดหน้าอกของตัวเองขึ้น หลังจากที่เว่ยฉิงบอกลาทั้งสองคน เถ้าแก่ก็พาชายหนุ่มไปที่บ้านของเขาเอง

“เมื่อไม่นานมานี้ข้าได้รับจดหมายจากเถ้าแก่เนี่ย ข้าอยากหาท่านพบมากๆ หากเถ้าแก่เนี้ยได้รู้ข่าวจะต้องดีใจมากแน่ๆ ขอรับ” เถ้าแก่พูดด้วยรอยยิ้ม

ฮูหยินของเขากำลังตามหาเขาอยู่ ตอนนี้นางคงเป็นกังวลมาก เถ้าแก่ผู้นี้แซ่หลู่ เว่ยฉิงจึงพูดว่า

“เถ้าแก่หลู่ ข้าจะเขียนจดหมายเพื่อบอกกล่าวนางให้สบายใจ รบกวนเถ้าแก่ไปส่งให้ข้าด้วย”

เว่ยฉิงเขียนจดหมายมอบให้กับเจ้าของร้าน เถ้าแก่หลู่รีบส่งจดหมายไปทันที เขาติดต่อฉื่อซื่อและคนอื่นๆ ตอนบ่ายของวันนั้น ฉื่อซื่อและคนอีกหลายสิบคนกลุ่มรวมถึงเหล่าหู่ก็มาถึง

เมื่อฉื่อซื่อเห็นเว่ยฉิง ดวงตาของเขาก็เป็นประกายทันที นายท่านปลอดภัยแล้ว! ดียิ่ง!

เหล่าหู่รีบไปหาเว่ยฉิงกอดเขาไว้แน่น

“ใต้เท้า! ท่านปลอดภัยแล้ว ช่างดียิ่งนัก ฮือๆ”

เมื่อเห็นว่าเหล่าหู่กำลังเช็ดน้ำมูก เว่ยฉิงรีบผลักศีรษะเขาออกทันที

ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ดูอันตรายมาก จนเขาคิดว่าเหล่าหู่อาจจะเอาตัวรอดไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาสบายดียังมีชีวิตอยู่ เว่ยฉิงจึงได้สบายใจ

“เหล่าหู่ เจ้ารอดมาได้อย่างไร?” เว่ยฉิงถาม

“ข้าแค่นอนบนพื้นแกล้งทำเป็นตาย แต่แล้วก็สลบไปจริงๆ จนมีคนมาเจอข้า” เหล่าหู่หัวเราะ หลังจากที่ถามไถ่กันสักพักพวกเขาก็วางแผนที่จะออกจากเมืองหลวงกัน

ที่มณฑลวั่งเซี่ยนเป็นที่ดินศักดินาขององค์หญิงใหญ่ พวกเขายังไม่ปลอดภัยจนกว่าจะออกจากที่นี่ไปได้ เขาได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท