บทที่ 579 เผชิญหน้ากับองค์หญิงใหญ่
เว่ยฉิงเข้าพระราชวังมาในยามเช้า องค์หญิงใหญ่เพิ่งทราบข่าวนี้ตอนที่เสวยพระกระยาหารเช้า เมื่อได้ยิน ถ้วยในพระหัตถ์ก็ร่วงหล่นลงไปที่พื้น พระพักตร์บิดเบี้ยวด้วยโทสะ
เว่ยฉิงโดนธนูยิงตกหน้าผาไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วเขามาปรากฏตัวในเมืองหลวงได้อย่างไร?
ไอ้พวกขยะ! แค่จัดการคนผู้เดียวยังทำไม่ได้!
พระนางกริ้วจนทนเสวยเครื่องเช้าต่อไปไม่ไหว จึงประทับยืนขึ้นแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องทรงพระอักษรในทันที จากนั้นจึงได้หยิบจดหมายที่ติดต่อกับมณฑลวั่งเซี่ยนมา รับสั่งให้บ่าวรับใช้นำเตาอั้งโล่มาให้ แล้วลงมือเผาจดหมายทั้งหมดด้วยพระองค์เอง เมื่อทอดพระเนตรว่าทุกอย่างได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว พระนางจึงถอนพระปัสสาสะออกมาอย่างยาวเหยียด
……
พระราชวัง
เว่ยฉิงมองฮ่องเต้ที่อยู่ตรงหน้าเขา สีพระพักตร์อ่อนโรยและซีดเซียวเหนื่อยล้า พระเกศาขาวโพลน ดูเหมือนพระชนมายุเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายปี
ถึงชายผู้นี้จะเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดเขา กระนั้นเว่ยฉิงก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจหรือเดือดร้อนแต่อย่างใดเมื่อเห็นการเปลี่ยนไปของเขาเช่นนี้
“ถวายพระพรฝ่าบาท” เว่ยฉิงคุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพ
“ใต้เท้าอู่ ลุกขึ้นเถอะ” ฮ่องเต้โจวแย้มพระสรวล
“เจ้าเจออะไรหรือไม่?”
ชายหนุ่มรายงานเรื่องสิ่งที่เขาพบทันที
“เจ้าเมืองเล่อสุ่ยไปหาเจ้าคณะมณฑลอยู่หลายครั้งเพราะเรื่องการเสียภาษีอย่างไม่เป็นธรรมในเมืองเล่อสุ่ย โดยหวังว่าเขาจะลดภาษีลง แต่เจ้าคณะมณฑลปฏิเสธ เมื่อเห็นความทุกข์ยากของราษฎรแล้ว เขาจึงอยากเข้ามาเมืองหลวงเพื่อกราบทูลฝ่าบาท แต่สิ่งที่เขาได้รับคือเขาถูกกล่าวหาว่ารับสินบน และถูกลงโทษประหารชีวิตทันที”
พระพักตร์ของฮ่องเต้โจวเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ มณฑลวั่งเซี่ยนอยู่ภายใต้จมูกของเขาแท้ๆ แต่กล้าที่จะขึ้นภาษีถึงเพียงนี้
“ฝ่าบาท ไม่เพียงแต่ในมณฑลวั่งเซี่ยนเท่านั้น แต่ในสถานที่ห่างไกลบางแห่งผู้คนพากันเดือดร้อน ที่ดินไม่สามารถทำกินได้แต่ต้องจ่ายภาษีแพงเพราะความจำยอม”
“เมื่อกระหม่อมติดตามสืบเรื่องการเก็บภาษีเกินเหตุ ว่าได้ใช้ไปที่ไหน อย่างไร จึงพบเข้ากับกองกำลังทหารในมณฑลวั่งเซี่ยน”
“กองกำลังทหาร?” สีหน้าของฮ่องเต้โจวเปลี่ยนไปทันที
ต้าโจวมีกฎหมายว่าด้วยการห้ามมีกองทัพส่วนตัวอย่างเด็ดขาด แต่วั่งเซี่ยนกลับมีกองทัพส่วนตัวแบบนี้อีกทั้งยังอยู่ใกล้วังหลวงมาก อีกฝ่ายคิดจะทำอะไรกันแน่!
“กองทัพนี้อยู่ที่ทางตอนใต้ของวั่งเซี่ยนมีทั้งหมดสามหมื่นนายพร้อมมีอาวุธครบมือ หนึ่งหมื่นนายเป็นกองทหารม้า” เว่ยฉิงกล่าวต่อ “ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในหนังสือรายงานฉบับนี้พะย่ะค่ะ”
เว่ยฉิงถวายรายงานให้แก่ฮ่องเต้โจว
“ฝ่าบาททรงทอดพระเนตรรายชื่อที่เก็บภาษีในมณฑลวังเซี่ยน…”บราวนี่ออนไลน์
เมื่อทอดพระเนตรรายชื่อในกระดาษเหล่านั้น ฮ่องเต้โจวเองทรงวิงเวียนปวดพระเศียรขึ้นมาในทันใด นี่คือการฆ่าคนอย่างเห็นได้ชัด
“ตอนที่กระหม่อมกำลังจะกลับเมืองหลวง กระหม่อมถูกตามล่าจากนักฆ่าหลายคน ถูกยิงธนูเข้าที่หน้าอกจนแทบจะรักษาชีวิตมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทไม่ได้!”
“ช่างชั่วร้ายสิ้นดี!” ฮ่องเต้โจวทุบโต๊ะ
มณฑลวั่งเซี่ยนยังกล้าที่จะสังหารราชทูตของฮ่องเต้อีกหรือ? พระเศียรเริ่มปวดรวดร้าวจนทนแทบไม่ไหว
“เต๋อชุน!” ทรงตะโกนรับสั่ง เต๋อซุนรีบเข้ามา
“ยา…”
ขันทีรีบเอายามาถวายทันที หลังจากที่พระองค์ได้เสวยเข้าไปแล้ว พระอาการจึงได้ทุเลาลง พระเนตรแจ่มชัดขึ้น
“มานี่ เรียกองค์หญิงใหญ่มาพบข้า” ฮ่องเต้ตรัส หลับพระเนตรลง เว่ยฉิงยืนรอเฉยอยู่เช่นนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ ร่างกายของเขาตึงเครียดเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นไรตามมา
ไม่นานนัก องค์หญิงใหญ่จึงได้เสด็จเข้ามา พระองค์ทรงทักทายฝ่าบาท จากนั้นจึงทอดพระเนตรไปยังเว่ยฉิง พระพักตร์ยังมีรอยแย้มสรวลเช่นปกติ
“ท่านผู้นี้คือใครหรือเพคะ?”
“ใต้เท้าอู่ เขาไปสืบคดีเรื่องเจ้าเมืองเล่อสุย” ฮ่องเต้ตรัส
“เป็นใต้เท้าอู่นี่เอง อายุยังไม่มาก แต่มีฝีมือเก่งกาจ” องค์หญิงใหญ่ทรงชื่นชมเขา พระนางทรงหันไปทอดพระเนตรฮ่องเต้ ทรงขมวดพระขนง
“ฝ่าบาท เหตุใดสีหน้าถึงได้ไม่สู้ดีนัก เกิดเหตุร้ายหรือเพคะ?” ฮ่องเต้โจวส่งสายพระเนตรไปยังพระเชษฐภคินี ความไม่พอพระทัยเข้ามาเกาะกุม
นางคือพี่น้องที่เขาสนิทและไว้ใจได้มากที่สุด
แม้คนอื่นจะทำตัวเหินห่างไปจากเขา แต่มีพี่สาวเท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้างเขามาตลอด ทว่าตอนนี้นาง….
ฮ่องเต้คือผู้ที่โดดเดี่ยว…ยืนเดียวดายอยู่บนบัลลังก์
พระองค์ยื่นรายงานให้องค์หญิงใหญ่ทอดพระเนตร
“ดูเอาเถิด”
องค์หญิงใหญ่ทอดพระเนตรรายงานฉบับนั้น พระอารมณ์แปรเปลี่ยนไป
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำเรื่องเหล่านี้นะเพคะ ขุนนางที่อยู่ในวั่งเซี่ยนเป็นคนจัดการทำเองก็เป็นได้”
“หม่อมฉันถือครองที่ดินศักดินาแค่ชั่วเวลาสั้นๆ จากนั้นจึงได้ย้ายกลับมายังเมืองหลวง ทุกปีเก็บภาษีได้แค่ครึ่งของมณฑลวั่งเซียนเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเอาชื่อหม่อมฉันไปแอบอ้างเพื่อเก็บภาษีเพิ่ม ซ้ำยังแอบสร้างกองกำลังส่วนตัวอีกด้วย!”
“ฝ่าบาทเพคะ ตามกฎหมายของต้าโจวห้ามมีการเลี้ยงกองกำลังส่วนตัว หากถูกพบคนเบื้องหลังจะมีโทษรุนแรง หม่อมฉันจะไม่ทราบกฎหมายข้อนี้หรือเพคะ?”
หลังจากที่องค์หญิงใหญ่แก้ต่างให้ตนเองแล้ว พระนางเริ่มคร่ำครวญขึ้นมาทันที
“ฝ่าบาท พวกเราเป็นพี่น้องกัน เติบโตมาด้วยกัน หม่อมฉันเองก็อยู่สุขสบายดี ไฉนเลยจะกล้าคิดเรื่องสุมเสี่ยงเช่นนี้ได้”
องค์หญิงใหญ่เมินเฉยต่อการมีอยู่ของเว่ยฉิง เริ่มตรัสเรื่องวัยเยาว์ของพี่น้องอย่างไม่รู้จบ
ท่าทีของฮ่องเต้ที่ทรงเย็นชาจึงนุ่มนวลอ่อนโยนขึ้น
ใช่แล้ว! เขาและพี่สาวมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ท่านพี่จะทรยศเขาได้อย่างไร? แม้จะมีหลักฐานมากมายแต่ด้วยความสัมพันธ์ที่มีต่อกันแล้ว เขาไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ อีกนัยหนึ่ง ก็เป็นเพราะเขารับไม่ได้กับความคิดที่ว่าพี่สาวจะทรยศเขา เขาเลือกที่จะปฏิเสธ และเชื่ออย่างจริงจังว่าพี่สาวเขาจะไม่มีวันหักหลังตนเอง
เว่ยฉิงนิ่งเงียบมาโดยตลอด ดวงตาของชายหนุ่มหลุบต่ำลงอย่างเย็นเยียบ สายเลือด?
ฝ่าบาทสนพระทัยในเรื่องความรักในครอบครัวมากเหลือเกิน เมื่อก่อนพระองค์เคยรักเสด็จแม่ของเขาบ้างหรือไม่? ช่างไร้สาระสิ้นดี หากฮ่องเต้เลือกที่จะวางพระทัยในองค์หญิงใหญ่แล้ว ผู้บริสุทธิ์อย่างเจ้าเมืองเล่อสุ่ยจะต้องตายไปอย่างไร้ประโยชน์หรือ? ชายชราที่ช่วยเขาไว้ โก่วหวา และอีกหลายๆ คนจะมีชีวิตอยู่อย่างไร?
ความรู้สึกไร้ซึ่งอำนาจจนทำให้สิ้นหวังก่อเกิดขึ้นในหัวใจของเขา
แต่แล้วกลับถูกแทนที่ด้วยความคิดที่ร้อนแรงและแน่วแน่ ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตายให้ได้ ชาวบ้านเหล่านั้นจะต้องไม่โดนกดขี่อีกต่อไปเขาจะล้างมลทินให้ตระกูลเซียว! คนในตระกูลเซียวทั้งหมดจะต้องไม่ตายอย่างสูญเปล่า
สายตาของเว่ยฉิงหลุบต่ำลง แววตามั่นคงแน่วแน่มากขึ้น
ฮ่องเต้หวั่นพระทัย เขาหวังว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจากคนที่ต้องการใช้พี่สาวเขามาแอบอ้างเท่านั้น
“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าการค้นพระราชวังองค์หญิงใหญ่จะช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับพระนางได้พะย่ะค่ะ” เว่ยฉิงพูด
“ตกลง” ฮ่องเต้โจวตรัส
ฮ่องเต้โจวทรงเรียกองครักษ์ส่วนพระองค์เข้าไปค้นวังขององค์หญิงใหญ่ ฮ่องเต้จะทรงอภัยโทษให้นางอย่างแน่นอน ความผิดทั้งหมดจะถูกโยนไปให้บรรดาเจ้าหน้าที่ในวั่งเซี่ยนและองค์หญิงใหญ่เพียงแต่ถูกคนเอาชื่อไปแอบอ้างเท่านั้น
องค์หญิงใหญ่ถอนพระทัยด้วยความโล่งอก โชคดีที่นางได้ทำลายหลักฐานไปแล้ว ต่อให้ค้นเท่าไหร่ก็จะไม่พบหลักฐานใดๆ
….
พระราชวังองค์หญิง
องครักษ์ของฮ่องเต้ล้อมวังองค์หญิงใหญ่ไว้อย่างรวดเร็ว
“เจ้า…พวกเจ้าทำอะไร นี่เป็นวังขององค์หญิงใหญ่นะ” บ่าวรับใช้ที่ดูแลต้องการที่จะหยุดพวกเขา นี่คือวังขององค์หญิงใหญ่ที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างยิ่ง เหตุใดจึงกล้าอุกอาจเช่นนี้!
องครักษ์ทำตามพระบรมราชโองการจากฮ่องเต้ พวกเขารีบเข้าไปรื้อทุกซอกทุกมุม การค้นหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและจริงจังจนผู้ที่อยู่ในวังพากันตกใจตัวสั่น องค์หญิงใหญ่คอยสนับสนุนพวกเขา หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพระนางล่ะก็…
มีเพียงคุณชายลิ่วเยว่เท่านั้นที่ดูสงบ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่ มีคนมาจากวังหลวงเพื่อค้นวังองค์หญิงใหญ่ ต้นไม้ใหญ่เริ่มถูกเขย่าแล้ว เขาเดินอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายทำให้ไม่มีใครสนใจเขา
เขาเดินออกจากห้องทรงพระอักษรขององค์หญิงใหญ่ ยืนเฝ้าดูองครักษ์ที่รีบวิ่งเข้ามา เมื่อตอนที่พวกเขากลับออกไปในมือขององครักษ์เหล่านั้น มีจดหมายอยู่สองสามฉบับเขาส่งให้กับผู้บังคับบัญชาของเขาทันที
มุมปากของลิ่วเยว่โค้งเป็นรอยยิ้ม
องค์หญิงใหญ่มั่นพระทัยว่านางได้เผาจดหมายหมดแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าเขาแอบเก็บไว้สองสามฉบับ…
ในไม่ช้าองครักษ์ส่วนพระองค์ก็รื้อค้นที่ห้องบรรทมขององค์หญิงใหญ่ พวกเขาพบกับฉลองพระองค์ปักลายมังกร!
จดหมายถึงวั่งเซี่ยนเรื่องกองทัพส่วนตัวกับฉลองพระองค์ปักลายมังกรนี้แสดงให้เห็นว่าองค์หญิงใหญ่กำลังจะก่อกบฏ! หลักฐานทุกอย่างมัดตัวไว้แล้ว พวกเขารวบรวมหลักฐานทั้งหมดกลับไปที่วังหลวง
…..
องค์หญิงใหญ่ทรงสงบนิ่งมาก พระนางเสวยชาพร้อมกับครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ในพระทัย ว่านางจะจัดการกับองครักษ์เหล่านี้อย่างไร? ใครจะรับผิดชอบ? รวมถึงอู่อวี้ที่ทำให้นางเดือดร้อน!
นางต้องการให้อู่อวี้โดนตั้งข้อหา ให้เขามีชีวิตที่ตายเสียดีกว่าอยู่ ! ความโหดร้ายฉายชัดในแววพระเนตรของนาง
แต่ชั่วพริบตากลับกลายเป็นอ่อนโยนลง
องค์หญิงใหญ่ทรงสนทนากับฮ่องเต้โจว ฝ่าบาทตรัสรับสองสามประโยค บรรยากาศผ่อนคลายลงมาก ในตอนนี้เองเมื่อองครักษ์กลับมาพร้อมกับหลักฐานส่งถวายให้กับฮ่องเต้
ฉลองพระองค์ปักลายมังกร…
เมื่อองค์หญิงใหญ่ได้ทอดพระเนตรหลักฐาน สีพระพักตร์ของพระนางแปรเปลี่ยนไปทันที
นางไม่ได้เผาจดหมายทั้งหมดไปแล้วหรือ?
แล้วฉลองพระองค์ปักลายมังกร..… นางจะมีได้อย่างไร? นางไม่มีวันทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้อย่างเด็ดขาด!
แต่ในเมื่อถูกพบจากวังของนางทำให้ไม่มีทางโต้แย้งได้ มีบางอย่างหลุดรอดสายตาของนางไป! เมื่อหลักฐานพวกนี้ได้ประจักษ์อย่างชัดแจ้ง องค์หญิงใหญ่ทรุดตัวลงประทับบนเก้าอี้ด้วยพระพักตร์ซีดเผือด