บทที่ 613 พบกันอีกครั้ง
ไม่กี่วันจากนั้นองค์หญิงจิ้งชูมารอที่ประตูเมืองบ่อยขึ้น เหตุใดถังหลี่จึงรู้น่ะหรือก็เพราะนางเองก็มาด้อมๆ มองๆ ที่ประตูเมืองเช่นกัน ทั้งสองจึงได้พบปะกัน แม้พวกนางจะรู้ว่าพวกเขายังไม่กลับมาในเร็ววันนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเฝ้ารอ
จากหนึ่งวันเป็นสองวัน…
วันแห่งการรอคอยช่างยาวนาน
“ข้าอยากให้เวลาผ่านไปเร็วๆ” องค์หญิงจิ้งชูกล่าว ถังหลี่เองก็คิดเช่นนั้น นางอยากเจอสามีมาก ผ่านไปหกวันแล้วแต่ยังไร้วี่แวว ยิ่งทำให้องค์หญิงจิ้งชูเริ่มกังวลขึ้นอีกครั้ง
“หรือพวกเขาจะเจอกับโจรเข้าจริงๆ..กู้หวนจิ่นอาจจะถูกโจรจับไปแล้วกลายเป็นหัวหน้าโจรไปแล้ว” องค์หญิงจิ้งชูกังวล
“…..”
“สามีของข้าก็อยู่ เขาจะปกป้องพี่ชายเอง” เมื่อได้ยินแบบนั้นองค์หญิงจิ้งชูก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ในวันที่แปดมีรถม้าคันหนึ่งวิ่งฝุ่นตลบมาจอดที่ประตูเมือง เมื่อรถม้าหยุดลง ทหารยามเข้าไปตรวจสอบทันที ชายหนุ่มท่าทางสูงศักดิ์ อาจหาญก้าวลงจากรถม้า เขาแจ้งสถานะตัวตนแก่ทหารที่เฝ้าประตูเมือง ทหารยามจึงได้ให้เขาผ่านเข้าเมือง
ตอนแรกเขาตั้งใจจะกลับขึ้นไปบนรถม้า แต่รู้สึกถึงสายตาที่กำลังจับจ้องมองเขาอยู่ ชายคนนั้นหันไปยังทิศทางที่เขาสัมผัสได้ ภาพที่เขาเห็นคือดวงหน้าที่เขาคิดถึงทุกครั้งทั้งยามหลับและยามตื่น ดวงตางดงามคู่นั้นมองมาที่เขาอย่างใจจดจ่อ ทั้งสองยืนสบตากันท่ามกลางผู้คนราวกับว่าในโลกใบนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น ทั้งคู่ค่อยๆ ขยับเดินเข้ามาหากัน
ถังหลี่ไม่อาจจะห้ามตัวเองได้ นางวิ่งเข้าหาอ้อมแขนของชายผู้นั้น เขาอ้าแขนรอรับนาง หญิงสาวโผเข้ากอดที่รอบเอว ฝังใบหน้าของตัวเองในอ้อมอกกว้างซึมซับไออุ่นที่คุ้นเคย
เว่ยฉิงกอดภรรยาของเขาแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เขาต้องการที่จะโอบกอดนางไว้จนร่างกายแนบชิดติดกัน แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ ถังหลี่เงยหน้าขึ้นเขย่งปลายเท้าไปจูบที่ริมฝีปากของสามี เว่ยฉิงรีบเดินทางเขาจึงไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ใบหน้าของเขามีแต่ตอหนวดขึ้นจนเขียว เต็มไปด้วยฝุ่น ริมฝีปากแตกระแหง
“ฮูหยิน ข้าสกปรกมาก” เว่ยฉิงพูด พยายามที่จะเบี่ยงตัวหลบ ภาพลักษณ์ที่ดูไม่ดี ทำให้เขาไม่อยากให้ภรรยาเห็น ตอนแรกเขาตั้งใจจะจัดการกับตัวเองก่อนแต่ไม่คิดเลยว่านางจะมารอที่ประตูเมือง…
เขาอยากจะกอดจูบนางแต่ตอนนี้เว่ยฉิงสกปรกมาก ทว่าถังหลี่ไม่สนใจ นางประคองใบหน้าของสามีแล้วจุมพิตเขา เมื่อได้สัมผัสกับริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของภรรยา เขาตอบสนองจุมพิตของนางอย่างเผลอไผล กระทั่งลืมผู้คนที่อยู่ตรงนั้นไปจนสิ้น
อีกด้านหนึ่ง กู้หวนจิ่นลงมาจากรถม้าแล้วเช่นกัน องค์หญิงจิ้งชูจับแขนของกู้หวนจิ่น นางมองเขาด้วยแววตาสดใส
“ผอมลง”
“ผมแห้ง”
“หนวดเคราขึ้นเต็ม”
“ดวงตาแดงก่ำใต้ตามีรอยคล้ำ”
องค์หญิงจิ้งชูสำรวจการเปลี่ยนแปลงของกู้หวนจิ้นอย่างละเอียด เขาได้แต่ยืนงงกับคำพูดของอาจื่อ สรุปได้ว่าตอนนี้สภาพของเขาช่างทรุดโทรมจนดูไม่ได้ ปกติแล้วจิ้งชูจะชื่นชมในความหล่อเหลาของเขาอยู่เสมอ หากเขาดูไม่ดีเช่นเดิมอาจื่อจะยังชอบเขาอยู่หรือไม่? กู้หวนจิ่นเริ่มไม่สบายใจ
“อาจื่อ เจ้าไม่ชอบข้าแล้วหรือ?”
องค์หญิงจิ้งชูมองเขาราวกับหวนจิ่นเป็นตัวโง่งม
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังชอบเจ้าอยู่เช่นเดิม เจ้าทำงานหนักมากเลยสินะ”
องค์หญิงจิ้งชูเขย่งเท้า นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะของกู้หวนจิ่น เมื่อได้มองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว นางจึงโล่งใจที่เขาไม่ได้รับอันตรายใดๆ
“เจ้าบาดเจ็บหรือ?” องค์หญิงจิ้งชูถาม ชายหนุ่มพยักหน้ารับบราวนี่ออนไลน์
“ใช่แล้ว”
องค์หญิงจิ้งชูกังวล
“บาดเจ็บตรงไหน ให้ข้าดูหน่อย”
กู้หวนจิ่นแบฝ่ามือของตนให้นางดู บนฝ่ามือมีรอยขีดข่วนและรอยเลือดอยู่เล็กน้อย
“ข้าเจ็บมากเลย” กู้หวนจินเอ่ย ใบหน้าของเขาราวกับมีคำว่า ‘ ช่วยปลอบข้าที’ แปะเอาไว้
“……” องค์หญิงจิ้งชูอดไม่ได้ที่จะกลอกตา
“ใช่ บาดแผลสาหัสมาก ต่อให้เจ้าไม่ต้องไปหาหมอก็ย่อมหายดีได้” ว่าแล้วนางก็ยื่นมือไปทุบตีที่หน้าอกของกู้หวนจิ่น ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยวไป จิ่งชูจับได้ด้วยสายตาที่แหลมคมสีหน้าของนางเปลี่ยนไป
“กู้หวนจิ่น เจ้าได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกหรือ?” ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกังวล
“ไม่ ข้าแค่แกล้งหยอกเจ้าต่างหาก ยัยโง่” กู้หวนจิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม เขาหลบสายตา แต่จิ้งชูจับเสื้อผ้าของเขาไว้ พยายามที่จะถอดเสื้อเขาออกดู
“อาจื่อ หากเจ้าทำแบบนี้จะข่าวลือไปทั่วว่าองค์หญิงจิ้งชูปล้นสวาทบุรุษกลางถนน”
“ข้าไม่ได้ปล้น เจ้าเป็นคนของข้า! ” น้ำเสียงขององค์หญิงจิ้งชูหนักแน่น เมื่อนางถอดเสื้อของเขาออก จึงได้เห็นผ้าพันแผลที่หน้าอกของเขา ใบหน้าของนางยิ่งวิตกมากยิ่งขึ้น นางจ้องไปที่บาดแผลไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือไปสัมผัสเพราะกลัวเขาเจ็บ แก้มขององค์หญิงจิ้งชูพองขึ้น เหมือนนางกำลังจะร้องไห้ ใบหน้ายับย่นดูแล้วช่างน่าสงสาร
“อาจื่อ…ดูภายนอกเหมือนบาดเจ็บสาหัส แต่แท้จริงแล้วไม่เจ็บมากนักหรอก” กู้หวนจิ่นรีบปลอบโยนนาง
“ที่จริงข้าแค่เลือดออกนิดหน่อยเท่านั้น แต่น้องเขยดื้อดึงยืนกรานจะพันแผลข้าให้ได้”
“หมอได้มาดูแผลใส่ยาให้ข้าแล้ว”
องค์หญิงจิ้งชูหายใจเข้าลึกๆ นางจัดเสื้อผ้าให้กู้หวนจิ่นอย่างระมัดระวังไม่ให้โดนแผลที่บาดเจ็บพร้อมพยักหน้า
“เจ้าเหนื่อยหรือไม่ กลับจวนเถอะ” องค์หญิงจิ้งชูกล่าว ชายหนุ่มรีบพยักหน้ารับ
“อืม..กลับบ้าน”
ทั้งสองกลับไปยังจวนสกุลกู้ ส่วนถังหลี่และเว่ยฉิงกลับไปที่จวนอู่โหว เขาทั้งสกปรกและรู้สึกไม่สบายตัว จึงรีบอาบน้ำก่อน เว่ยฉิงชำระล้างฝุ่นออกจากร่างกาย สวมเสื้อผ้าสะอาด แต่ก่อนที่เขาจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยประตูก็ถูกเปิดออกด้วยมือของถังหลี่
นางเดินเข้ามาพิจารณามองสามีอย่างใกล้ชิด เว่ยฉิงสวมกางเกงขายาวหลวมๆ เสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยของเขาเผยเห็นแผ่นอกและหน้าท้องของเขา หยดน้ำค่อยๆไหลลงมาที่ผิวน้ำผึ้ง
เมื่อภรรยาเดินเข้ามาใกล้ กำลังจ้องมองร่างกายตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะยืดตัวขึ้น และเกร็งกล้ามให้เห็นได้ชัดเจน ถังหลี่มองแขนของเว่ยฉิงพลางขมวดคิ้ว ใบหน้าเล็กๆ ของนางมีรอยยับย่นขึ้นมา
บาดแผลบนแขนของเขากำลังตกสะเก็ด เว่ยฉิงจึงเข้าใจได้ว่าภรรยาของตนกำลังมองหาบาดแผลและอาการบาดเจ็บของตัวเขาต่างหาก หาใช่เพราะอยากชมรูปร่างของเขาแต่อย่างใด
ชายหนุ่มรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ภรรยาห่วงเขามากที่สุด นางเห็นความปลอดภัยของเขามาก่อนเสมอ
“ฮูหยิน แค่เล็กน้อยเท่านั้น เจ้าไม่ต้องกังวล” เว่ยฉิงพูด
ถังหลี่ยังคงสำรวจร่างกายสามีไม่หยุด จนกระทั่งมั่นใจดีว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บที่เป็นอันตรายมากนัก นางจึงปล่อยวางได้