บทที่ 30 แฟนเธอหล่อมาก
บทที่ 30 แฟนเธอหล่อมาก
เป็นอาจารย์?
อู๋ฝานไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน เพราะเขาคิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งอะไรมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อชายวัยกลางคนพูดถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเป็นอาจารย์ นั่นทำให้หัวใจอู๋ฝานคล้อยตามอยู่บ้าง
คาบสอนแค่สัปดาห์ละ 2 คาบ มีห้องทำงาน โต๊ะทำงาน และห้องพักเดี่ยวในอพาร์ตเมนต์ของอาจารย์ นอกจากนี้เงินเดือนที่ได้ถือว่าไม่น้อยเลย แล้วยังมีสวัสดิการอื่นๆ ในช่วงวันหยุดอีกด้วย
เงื่อนไขเหล่านี้ทำให้หัวใจของอู๋ฝานสั่นคลอนไม่น้อย เขาลังเลเพียงครู่ ก่อนจะตอบรับคำเชิญของอีกฝ่าย
ในเวลานี้อู๋ฝานได้รู้ว่าชายวัยกลางคนคนนี้เป็นรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเจียงโจว ตัวเขาชอบบาสเกตบอลอยู่แล้ว ในช่วงเช้าเขามีโอกาสผ่านมาทางสนามบาสเกตบอลและได้รับชมทักษะการเล่นของอู๋ฝาน เขานึกว่าอู๋ฝานเป็นนักศึกษาของที่นี่ จึงได้เข้ามาสอบถาม แต่ไม่คาดคิดว่าอู๋ฝานจะจบการศึกษาไปแล้ว
เป็นเรื่องบังเอิญที่มหาวิทยาลัยเจียงโจวกำลังขาดแคลนครูพลศึกษา และมีแผนจะเปิดรับสมัครในอนาคตอันใกล้นี้ แต่รองอธิการบดีก็ต้องเปลี่ยนใจกะทันหันหลังได้เห็นอู๋ฝาน เขาจึงเชิญอู๋ฝานมาเป็นครูพลศึกษาของมหาวิทยาลัยโดยตรง
“ไม่คาดฝันเลยว่าจะได้มาเป็นอาจารย์พละ” อู๋ฝานกลับมายังบ้านเช่าของตัวเองขณะที่ยังรู้สึกไม่ค่อยเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายเป็นเพียงรองอธิการบดี อู๋ฝานกำลังนึกสงสัยว่าชายวัยกลางคนจะมีอำนาจในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้หรือไม่
“แต่ถึงจะไม่ได้เป็นอาจารย์ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เราแค่แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเช้าวันนี้” อู๋ฝานคิดกับตัวเอง
หลังจากสลัดความคิดนี้ไว้ชั่วคราว อู๋ฝานออกไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาด เนื่องจากเมื่อวานที่ร้านขายดีมาก ดังนั้นอู๋ฝานจึงวางแผนที่จะซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมสำหรับวันนี้
“เฟยเฟย เฟยเฟย เมื่อกี้แฟนของเธอหล่อมากเลย!” ประตูหอพักถูกเปิดออก ร่างหนึ่งพุ่งตัวเข้าไปในห้องที่เยี่ยเฟยเฟยพักอยู่ทันที
“แฟนที่ไหน? ฉันไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?” เยี่ยเฟยเฟยมองเพื่อนร่วมห้องที่พรวดพราดเข้ามา “อีกอย่างนะ เสี่ยวหรู เธอไม่ได้ออกไปซื้อข้าวเช้าหรอกเหรอ? แล้วข้าวเช้าอยู่ไหนล่ะ?”
“จริงด้วย ข้าวเช้าของพวกเราอยู่ไหน?” เสี่ยวอวิ๋นพูดเสริม เธอเป็นเพื่อนร่วมหอพักอีกคนของเยี่ยเฟยเฟย “เมื่อกี้เป่ายิงฉุบกัน แล้วเธอเป็นคนแพ้ เธอจึงต้องรับผิดชอบไปซื้อข้าวเช้าให้พวกเรา อย่ามาเบี้ยวนะ”
“ฉันลืมน่ะ” หญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาพูดด้วยความลำบากใจ “ฉันมัวแต่ไปยืนเชียร์แฟนของเฟยเฟย เลยลืมเรื่องข้าวเช้าไปเลย”
“ฉันไม่มีแฟน เธอกำลังพูดถึงใครกัน?” เฟยเฟยถาม
“ก็คนที่เดินมาส่งเธอที่โรงเรียนเมื่อวานนั่นไง” เสี่ยวหรูตอบ
ใบหน้าของอู๋ฝานผุดขึ้นในหัวใจของเยี่ยเฟยเฟยทันที เธอรีบพูดอธิบาย “ฉันบอกไปแล้วนี่ เขาไม่ใช่แฟนของฉัน เราเป็นแค่เพื่อนธรรมดา ไม่สิ ไม่ใช้แม้แต่เพื่อนด้วยซ้ำ”
“เอาล่ะ เฟยเฟย อย่าพยายามแก้ตัวเลย” เสี่ยวอวิ๋นพูด “เสี่ยวหรู บอกหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น? เธอก็รู้ว่าเขาเป็นแฟนของเฟยเฟย แล้วทำไมถึงไปยืนเชียร์เขาจนลืมซื้อข้าวเช้าได้ล่ะ?”
เยี่ยเฟยเฟยพูดไม่ออก เธอพยายามถามตัวเองซ้ำๆ ว่าทำไมเพื่อนร่วมห้องทั้งสองถึงไม่เชื่อคำของเธอเลย?
ในเวลานี้เยี่ยเฟยเฟยรู้สึกเสียใจที่ขอให้อู๋ฝานมาส่งเธอที่โรงเรียน ถ้าเขาไม่มา เพื่อนร่วมห้องก็คงไม่เข้าใจเธอผิดแบบนี้
“คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่ฉันออกไปซื้อข้าวเช้า ฉันบังเอิญเดินผ่านสนามบาสของโรงเรียน…” เสี่ยวหรูบอกเล่าสิ่งที่เธอเห็นจากข้างสนามบาสให้แก่เพื่อนร่วมห้อง เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้ชมเวลานั้น
“เกิดเรื่องแบบนั้นจริงเหรอ? แฟนของเฟยเฟยแข็งแรงขนาดนั้นเลย?” เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกไม่เชื่อ
“เขาไม่ใช่แฟนของฉัน!” เยี่ยเฟยเฟยแก้ตัวอีกครั้ง
แต่เพื่อนร่วมห้องทั้งสองกลับไม่เชื่อคำพูดของเธอเลย และดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ
“เป็นเรื่องจริงน่ะสิ! ฉันเห็นมันด้วยตาของตัวเองเลย!” เสี่ยวหรูพูดเสียงดัง “ในสนามมีพยานอีกตั้งหลายคน! พวกเขาทั้งหมดเห็นแบบนั้นก็อ้าปากค้างไปเลย หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงมากมายไปขอช่องทางติดต่อจากเขา คนพวกนั้นไม่รู้หรือยังไงนะว่าเขาเป็นแฟนของเฟยเฟยและมีเจ้าของแล้ว?”
“เขาไม่ใช่แฟนของฉัน…” เยี่ยเฟยเฟยพูดอย่างอ่อนแรง
“หน้าไม่อายเลยจริง ๆ” เสี่ยวอวิ๋นพยักหน้ากล่าวสนับสนุน “เฟยเฟย เธอต้องระวังเรื่องแฟนหนุ่มให้ดีนะ อย่าให้คนอื่นฉกไปได้”
“เขาไม่ใช่แฟนของฉัน…”
“ใช่แล้ว เธอต้องระวังให้ดี” เสี่ยวหรูพูด “พูดตามตรงเลยนะ ถ้าฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นแฟนของเฟยเฟย ฉันเองก็คงอยากเข้าไปขอช่องทางติดต่อด้วยเหมือนกัน”
“เขาไม่ใช่แฟนของฉัน…”
“เสี่ยวหรู แย่มากเลยนะที่คิดแบบนี้ แฟนของเพื่อนจะแย่งไปไม่ได้นะ เธอไม่รู้หรือไง?”
“เขาไม่ใช่แฟนของฉันนะ”
“แน่นอนว่าฉันรู้ มันเป็นแค่ความคิด ฉันไม่ได้จะไปขอเขาจริงๆ เสียหน่อย” เสี่ยวหรูกล่าว เธอหันมองเยี่ยเฟยเฟยและพูดว่า “เฟยเฟย ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่ได้ไปขอข้อมูลติดต่อของเขาเลย ฉันสาบานได้!”
เยี่ยเฟยเฟยไม่รู้จะพูดอะไรอีก เธอพยายามพูดหลายครั้งแล้วว่าอู๋ฝานไม่ใช่แฟนของเธอ แต่เพื่อนร่วมห้องทั้งสองก็ไม่สนใจเลย
ในเวลานี้ประตูห้องพักถูกเปิดอีกครั้ง เป็นหวังเหวินถิงที่เดินเข้ามา เธอมองมายังเยี่ยเฟยเฟยและพูดอย่างเป็นกันเองว่า “แฟนเธอเล่นบาสเก่งเหมือนกันนี่”
“เขาไม่ใช่แฟนของฉัน!” เยี่ยเฟยเฟยรู้สึกสิ้นหวัง
“แต่การแต่งกายของเขายังดูเชยและราคาถูกเหมือนเคย” หวังเหวินถิงไม่สนใจคำแก้ตัวของเยี่ยเฟยเฟย และยังคงพูดดูถูกการแต่งตัวของอู๋ฝาน
“เหวินถิง เธอพูดถึงแฟนของเฟยเฟยแบบนั้นได้ยังไง?” เสี่ยวอวิ๋นพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ใช่แล้ว เขาเป็นแฟนของเฟยเฟย มันเสียมารยาทเกินไปหน่อยมั้ยที่พูดถึงเขาแบบนั้น” เสี่ยวหรูพูดเสริม “อีกอย่าง ฉันว่าเขาก็แต่งตัวดูดีใช้ได้”
“นั่นเป็นเพราะรสนิยมด้านความงามของเธอมันเชยพอ ๆ กับเขายังไงล่ะ!” หวังเหวินถิงพูดดูถูกอีกฝ่ายด้วยความไม่ปรานี
“หวังเหวินถิง! เธอจะมากเกินไปแล้วนะ!” เสี่ยวอวิ๋นตะคอก
อย่างไรก็ตามหวังเหวินถิงยังคงไม่สนใจ สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนไปเลย ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจและกระเป๋าและเดินออกไป
“ก็แค่รวยกว่านิดหน่อย มาทำเป็นวางท่าใหญ่โต” เสี่ยวอวิ๋นยังคงรู้สึกโกรธ เธอหันไปปลอบใจเสี่ยวหรู “อย่าไปใส่ใจคำพูดเธอเลย คนนิสัยเสียแบบนั้น”
“อืม” เสี่ยวหรูพยักหน้า แต่สีหน้าของเธอยังคงเศร้าหมอง
ทั้งเยี่ยเฟยเฟยและเสี่ยวอวิ๋นต่างก็รู้ว่าฐานะทางการเงินครอบครัวของเสี่ยวหรูไม่ดีนัก เสื้อผ้าที่เธอใส่จึงดูธรรมดาและนำไปเปรียบเทียบกับหวังเหวินถิงไม่ได้เลย เมื่อได้ยินหวังเหวินถิงพูดแทงใจดำปมด้อยในเรื่องนี้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโศกเศร้า
เยี่ยเฟยเฟยไม่ได้รู้สึกดีกับหวังเหวินถิงเช่นกัน เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายใจร้ายและไร้เหตุผลเกินไป แต่เพราะเธอคิดว่าทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน จึงไม่อยากแสดงความเป็นศัตรูกับหวังเหวินถิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนหวังเหวินถิงจะไม่สนใจเพื่อนร่วมห้องของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ยิ่งทำให้ความประทับใจของเยี่ยเฟยเฟยต่อหวังเหวินถิงแย่ลงกว่าเดิม รวมถึงการที่หวังเหวินถิงวิพากษ์วิจารณ์อู๋ฝานก็ทำให้เธอไม่พอใจอยู่เหมือนกัน
“เป็นคนที่น่ารำคาญชะมัด!” เยี่ยเฟยเฟยคิดกับตัวเอง