บทที่ 31 ธุรกิจมาแรง
บทที่ 31 ธุรกิจมาแรง
เวลาผ่านไปครึ่งวันจนถึงช่วงบ่าย อู๋ฝานกำลังเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดสำหรับเปิดร้านในตอนเย็น เพื่อไม่ให้ของหมดเร็วเกินไปเหมือนเมื่อคืน เขาจึงต้องเตรียมวัตถุดิบมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ ทั้งผักและเนื้อสัตว์
แต่อู๋ฝานประเมินทักษะทำอาหารของตัวเองต่ำเกินไป เมื่อมาถึงร้านพร้อมสัมภาระต่าง ๆ ในช่วงเย็น เขาพบว่าผู้คนได้มารอเขาก่อนแล้ว
“เถ้าแก่มาแล้ว!”
“เถ้าแก่ ขอหมูสามชั้น 5 ไม้ ปีกไก่ 2 ไม้ ต้นหอม 2 ไม้…”
“เถ้าแก่ ขอน่องไก่ 1 ไม้ ตีนเป็ด 1 ไม้ และมะเขือยาวอีก 2 ไม้…”
“เถ้าแก่ ฉันขอ…”
ก่อนที่จะได้วางของที่เตรียมมา คนมากมายก็มารุมล้อมรอบตัวเขา ซึ่งคนเหล่านี้มารอเขาเพื่อกินบาร์บีคิว
“ไม่ต้องห่วงครับ รอผมเตรียมของให้เสร็จก่อน แล้วจะทำให้ทุกคนเลย” อู๋ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม
อู๋ฝานดีใจมากที่เสียงตอบรับดีขนาดนี้ แม้จะรู้ว่าทักษะของเขาพัฒนาและรสชาติของบาร์บีคิวก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ไม่คาดคิดว่าจะมี ‘ลูกค้าประจำ’ เร็วขนาดนี้ เขาจำได้ว่าคนเหล่านี้มากินอาหารเมื่อวาน พวกเขาคงเห็นว่าอาหารมีรสชาติดีจึงมาอีกในวันนี้ ใครบ้างจะไม่อยากมีลูกค้าประจำในการทำธุรกิจ? ยิ่งไปกว่านั้น จะมีลูกค้าขาประจำประเภทไหนอีกที่มารอล่วงหน้าเพื่อกินอาหารแบบนี้?
“เถ้าแก่ เร่งมือหน่อย ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”
“ฉันด้วย ฉันมาก่อน ฉันต้องได้ก่อน!”
“ใจเย็น ๆ กันก่อน เถ้าแก่กำลังย่างจนมือเป็นพัลวัน อย่าไปรบกวนเขาสิ”
ลูกค้ากำลังตั้งหน้าตั้งตารอและคาดหวังในบาร์บีคิวของอู๋ฝาน
อู๋ฝานลงมือทำบาร์บีคิวต่อไป เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง ลูกค้าก็แวะเวียนมาที่ร้านของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะเพิ่มโต๊ะเข้ามาใหม่ 2 ตัวก็ยังมีคนนั่งจนเต็ม
ไม่ใช่ว่าอู๋ฝานไม่ต้องการซื้อเพิ่ม แต่ถ้าซื้อมากเกินไปอาจไม่มีที่ว่างเพียงพอ และคงไม่สะดวกนักที่จะขนไปกลับ
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีที่นั่ง อู๋ฝานก็เชื่อว่าธุรกิจของเขาจะต้องดีขึ้นกว่าเดิมด้วยทักษะทำอาหารในปัจจุบัน
เถ้าแก่ร้านบาร์บีคิวอีกหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียงต้อนรับลูกค้าได้เพียง 2-3 คน ก่อนจะมองมาทางอู๋ฝานด้วยความอิจฉา
พวกเขาพบว่าจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านตัวเองลดน้อยลงตั้งแต่เมื่อคืน ขณะที่ลูกค้าของอู๋ฝานกลับเพิ่มขึ้น ลูกค้าหลายคนถูกดึงดูดไปยังร้านของอู๋ฝาน แม้ว่าหลายร้านจะอยู่ห่างออกไปไม่ไกล แต่ด้วยธุรกิจที่ดังเปรี้ยงปร้างอย่างกะทันหันของอู๋ฝาน ทำให้เถ้าแก่ร้านขายบาร์บีคิวใกล้เคียงหลายคนล้วนอิจฉาริษยาเขา
“เขาเป็นพ่อค้าหน้าใหม่ จะมีฝีมือแค่ไหนกันเชียว? ทำไมจู่ ๆ ถึงมีลูกค้าเยอะขนาดนี้?” เถ้าแก่บางคนสงสัย
“จริงด้วย เราเปิดร้านมาเกือบสามปีแล้ว แต่เขาเพิ่งเปิดได้แค่เดือนเดียว ทำไมถึงขายดีกว่าเราอีก?”
“หรือเขาขายตัดราคา?”
“เป็นไปได้นะ เฮ้อ คนหนุ่มสาวสมัยนี้ชอบทำอะไรไร้สาระ ไม่เหมือนพวกเราที่ติดดินและทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา”
“การค้าขายจำเป็นต้องใช้เงิน มาดูกันว่าเขาจะอยู่ได้นานสักแค่ไหน!”
“บางทีมันอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในวันพรุ่งนี้ก็ได้”
เถ้าแก่ร้านบาร์บีคิวหลายแห่งเต็มไปด้วยความอิจฉาและไม่ไว้ใจ อู๋ฝานทำให้พวกเขารู้สึกว่า ‘ขายดี’ ของอู๋ฝานเป็นเพียงภาพลวงตา และคงมีใครบางคนจ้างอู๋ฝานมาให้แย่งลูกค้าของพวกเขา
อู๋ฝานไม่รู้ว่าเถ้าแก่ร้านบาร์บีคิวคิดกับเขาอย่างไร อันที่จริง เขาไม่ได้สนใจเก็บมาคิดให้หนักหัว เพราะแค่นี้ก็ยุ่งมากแล้ว และเมื่อวานธุรกิจก็ขายได้ดี แต่เขาพบว่าวันนี้ขายดียิ่งกว่าเมื่อวาน เขาไม่ได้หยุดพักเลยตั้งแต่เปิดแผงขาย โชคดีที่เขามีทักษะทำอาหารระดับสูง เนื่องจากชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้ จึงยากที่จะรักษารสชาติที่ดีของบาร์บีคิวทุกชิ้น
คืนนี้ขายดีกว่าที่อู๋ฝานคิดไว้ วัตถุดิบที่เตรียมมาโดยคิดว่ามีขายเพียงพอแล้วกลับหมดลงก่อนเวลาเที่ยงคืน แต่ในเวลานี้ยังมีลูกค้าจำนวนมากรออยู่หน้าร้าน
“ผมขอโทษด้วยนะครับ ทุกคน วันนี้บาร์บีคิวขายหมดแล้ว ถ้าอยากมาอุดหนุน โปรดกลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้นะครับ” อู๋ฝานกล่าวขอโทษ
“หมดอีกแล้วเหรอ? เมื่อวานก็ขายหมดเร็ว วันนี้เถ้าแก่ไม่ได้เตรียมของเพิ่มเลยเหรอ?”
“เถ้าแก่ ถ้าขายไม่เป็นก็อย่ามาทำสิ”
“ใช่แล้ว เถ้าแก่ คิดหาวิธีแก้ไขและเตรียมของมาเยอะกว่านี้ได้ไหม?”
ทุกคนดูไม่พอใจกับคำพูดของอู๋ฝาน โดยเฉพาะลูกค้าที่รอมานานและยังไม่ได้กิน
“ผมขอโทษจริง ๆ ครับ แต่วัตถุดิบหมดแล้ว ผมทำอะไรไม่ได้แล้วครับ” อู๋ฝานพูด “ทำไมพวกคุณไม่ลองกินร้านอื่นดูก่อนล่ะครับ?”
เขาเริ่มผลักลูกค้าไปให้ร้านอื่น วิธีการของอู๋ฝานถือว่าอุกอาจพอสมควร
“ไม่! ฉันจะกินของคุณ!”
“ใช่แล้ว บาร์บีคิวของร้านอื่นจะอร่อยเท่านี้ได้ยังไง?”
“หลังจากมากินบาร์บีคิวที่นี่ ฉันก็ไปกินของที่อื่นไม่ได้อีก เถ้าแก่ คุณต้องขายให้ฉันนะ”
อู๋ฝานเผยยิ้มขมขื่น เขาคิดไม่ถึงว่าเขาไม่สามารถผลักลูกค้าไปให้ร้านอื่นได้ เขาไม่เหลือวัตถุดิบแล้วจริง ๆ แม้อยากจะขายเพิ่มอีก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ท้ายที่สุด เขาจึงทำได้เพียงขอโทษขอโพยลูกค้าอีกครั้ง และสัญญาว่าจะเตรียมวัตถุดิบให้มากขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนี่คือวิธีหนีเอาตัวรอดของเขา
“ดูเหมือนว่าเราจะประเมินทักษะทำอาหารระดับสูงนี้ต่ำเกินไป” อู๋ฝานเก็บข้าวของและเตรียมตัวกลับ “หรือเราจะจ้างคนมาช่วยดี?”
แม้ว่าเขาจะต้องเป็นคนย่างด้วยตัวเองเพื่อให้มั่นใจในรสชาติและเป็นตำแหน่งที่ทำแทนกันไม่ได้ แต่อย่างน้อยคนอื่นก็ยังสามารถช่วยแพ็คของ หยิบวัตถุดิบ เสียบไม้ รวมถึงงานอื่น ๆ หากมีคนช่วยทำงานพวกนี้ คงจะช่วยผ่อนแรงให้เขาได้มากเช่นกัน
แต่เขาไม่รีบร้อนหาคนในทันที ธุรกิจของอู๋ฝานเพิ่งเริ่มต้น จึงยังมีเงินเก็บไม่มากนัก เขาสามารถทำงานต่อไปด้วยตัวเองขณะมองหาผู้ช่วยที่เหมาะสมไปพร้อมกัน
หลังจากกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงคืน เขายังไม่สามารถเทเลพอร์ตได้ในตอนนี้ อู๋ฝานจึงค้นหาในอินเทอร์เน็ตเพื่อดูว่าพืชผักหรืออาหารชนิดใดกำลังได้รับความนิยมและมีราคาแพงในขณะนี้ ตอนนี้เขาอยู่บนภูเขาด้านหลังหมู่บ้านในโลกของเกม บนภูเขามีพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะปลูกอะไร อีกทั้งเขายังไม่มีเหรียญทองอีกด้วย เขาจึงอยากหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ
“คงยังจ่าย 500 เหรียญทองให้หัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้ ถ้ามีเงิน ก็ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ทุกชนิดเพื่อนำมาปลูกในพื้นที่ทั้งหมดก่อน” อู๋ฝานคิด
เขาจำเป็นต้องจ่ายเงินทำสัญญาเช่าพื้นที่ของหัวหน้าหมู่บ้านภายในหนึ่งเดือน ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า 500 เหรียญทองนั้นเป็นเงินจำนวนมาก และเขาหาเงินได้มากกว่า 100 เหรียญทองจากการเดินทางไปยังเหมืองครั้งก่อน หนี้สิน 500 เหรียญทองจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป เขาจึงต้องการปลูกพืชในพื้นที่หลังภูเขาทั้งหมดก่อน ยิ่งปลูกเร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับผลผลิตเร็วขึ้นมากเท่านั้น