บทที่ 183 เต้นรำกับฉันสิคะ
บทที่ 183 เต้นรำกับฉันสิคะ
“ฉันก็หวังว่าจะถูกเลือกนะ” เพื่อนของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้เคียงเอ่ยขึ้น “แต่พูดก็พูดเถอะ คนที่เงื่อนไขดีกว่าฉันมีเยอะแยะ คนอย่างเธอจะเลือกพวกเราได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินบุคคลแรกที่พูดขึ้นก่อนหน้านี้ จึงสำรวจมองทั่วทั้งงาน ก่อนจะตอบด้วยความกระดากใจ “ก็จริง คืนนี้มีแต่คนระดับสูงในเจียงโจวทั้งนั้น”
“ก็ไม่แปลก ตระกูลถังเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงโจว กับงานวันเกิดของบุตรหลานคนโปรดของพวกเขา ใครบ้างจะไม่เห็นแก่หน้าแล้วมาร่วมงาน?” เพื่อนของอีกฝ่ายตอบกลับมา
“ก็จริง คนจากตระกูงเจียง ตระกูลหวัง ตระกูลหลิว และตระกูลจ้าวต่างก็มากันครบถ้วน และยังเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงเสียด้วย” ชายคนก่อนหน้านี้เอ่ยตอบ
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ” เพื่อนคนนั้นยังคงตอบคำกลับ ขณะนี้ตั้งใจลดน้ำเสียงลงไปสองส่วน “ได้ยินมาว่าตระกูลถังเชิญสำนักล้ำสวรรค์มาด้วย ไม่ทราบเลยว่าครั้งนี้คนที่มาจะเป็นใคร”
“สำนักล้ำสวรรค์?!” คนก่อนหน้านี้เกิดประหลาดใจ “เอาจริงเหรอเนี่ย สำนักล้ำสวรรค์เป็นหนึ่งในสำนักแนวหน้าแห่งเจียงโจวเลยนะ ตระกูลถังเชิญพวกเขามาได้จริงเหรอเนี่ย?”
“ได้ยินมาว่าช่วงสองปีที่ผ่านมา ตระกูลถังแวะเวียนเข้าออกสำนักล้ำสวรรค์หลายครั้ง น่าจะเพราะต้องการสานสัมพันธ์กับสำนักล้ำสวรรค์ไม่ผิดแน่”
“ก็ไม่น่าแปลกใจ ตระกูลใหญ่ไหนบ้างจะไม่อยากสานสัมพันธ์กับสำนักพวกนั้น? นายไม่คิดว่าตระกูลด้านหลังนายก็เหมือนกันหรือยังไง? ถ้าไร้ซึ่งการสนับสนุนจากสำนักเหล่านั้น อย่างดีตระกูลก็คงรุ่งโรจน์แค่ชั่วระยะ การจะยืนหยัดต่อไปอีกนับพันปี ไม่ใช่อะไรที่จะทำได้”
“ก็จริง แต่คนส่วนใหญ่ในสำนักพวกนั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องราวทางโลก คิดเข้าหาพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“ตระกูลถังถือว่ายอดเยี่ยมในหมู่ห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงโจว ดังนั้นก็น่าจะพอมีหน้าค่าตาบ้างไม่ใช่หรือยังไง?”
“ใครจะรู้กัน? ถ้าว่าตระกูลถังทำไม่ได้ แล้วตระกูลอื่นของพวกเราก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่แล้วมั้ง”
“ก็ไม่ผิด ฉันยังคาดหวังให้มีคนจากสำนักพวกนั้นเล็งเห็นอะไรสักอย่างในตัวฉัน ถึงเวลานั้นทั้งฉันทั้งตระกูลคงได้พรกันถ้วนหน้า”
“เพ้อเจ้อ!”
อู๋ฝานรับฟังบทสนทนาของคนทั้งสองอย่างเงียบงัน มันทำให้เขาได้ทราบข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะห้าตระกูลใหญ่ในเจียงโจว รวมถึงเรื่องสำนัก
เพียงแต่ขณะทราบข้อมูลเหล่านี้ อู๋ฝานก็ยิ่งเกิดความรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ
สำนักล้ำสวรรค์? นับว่าเป็นตัวตนอะไรกัน? ตระกูลถังที่กว้างขวางในเจียงโจว ยังถึงขนาดไม่มีหนทางติดต่อหาพวกเขาเลยงั้นหรือ?
ก่อนหน้านี้ตอนที่อู๋ฝานใช้วิชาตรวจสอบกับข่งไห่หลินและเฟยอวิ๋น ทำให้ได้ทราบว่าอีกฝ่ายฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ และไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้ธรรมดา ในเวลานั้นเขาทำได้แค่สงสัยว่ามันจะต้องมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่สามารถฝึกฝนและถ่ายทอดมันได้ เพียงแต่ยากที่คนทั่วไปจะรับรู้เรื่องราวระดับดังกล่าว เป็นเหตุให้แม้จะสงสัยในเรื่องราวของโลกส่วนนั้น แต่ก็ไม่มีทางทราบข้อมูลอะไรมากนัก
ตอนนี้อู๋ฝานได้ยินเรื่องการดำรงอยู่ของสำนักเป็นครั้งแรก มันเป็นตัวตนที่ไม่ใช่ความลับในแวดวง เพียงแต่คิดเข้าใกล้สำนักเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ขณะที่ผู้คนมากมายกำลังพูดคุยต่อกัน ถังอวี่เฟยก็เต้นรำรอบแรกกับผู้เป็นพ่อบนเวทีเสร็จสิ้นแล้ว
ทันใดนั้นเองที่ปรากฏกลุ่มคนหนุ่มในฝูงชนมองถังอวี่เฟยด้วยสายตาเป็นประกายราวกับเปลวไฟโหมกระหน่ำ รวมถึงคนทั้งสองที่อยู่ถัดจากอู๋ฝานด้วย
“ต่อจากนี้จะเป็นการเต้นรำรอบที่สอง ลูกเลือกคู่เต้นรำได้เลย” บิดาของถังอวี่เฟยเอ่ยขึ้น ผู้คนเริ่มสงสัยว่าหญิงสาวจะเลือกใครมาเต้นรำเป็นคู่ในรอบที่สองถัดจากผู้เป็นพ่อ
ถังอวี่เฟยยังคงเผยยิ้มทรงเสน่ห์ที่ใบหน้า สายตาของเธอมองสำรวจ คนเหล่านั้นต่างตื่นเต้นและกระหาย รอคอยให้หญิงสาวสบตาตนเอง และเรียกไปเต้นรำด้วย
อู๋ฝานไม่ได้มีความคิดเหล่านั้น เขามาที่นี่ก็เพราะถังอวี่เฟยย้ำเตือนหลายต่อหลายครั้ง ส่วนเรื่องการเต้นรำ ไม่ใช่อะไรที่คนอย่างเขาควรจะคิดถึง
ตอนนั้นเองที่ถังอวี่เฟยราวกับเลือกเป้าหมายได้แล้ว แทนที่จะเรียกหาอีกฝ่ายขึ้นไปบนเวที เธอกลับเป็นฝ่ายลงจากเวทีเสียเอง
เห็นได้ชัดว่าเป็นการเชิญส่วนตัว หากไม่ตอบรับจะนับเป็นการหมิ่นเกียรติเจ้าภาพ
ถังอวี่เฟยก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ขณะที่สายตาผู้คนต่างมองตามอย่างกระหาย และคนบางส่วนกำลังผิดหวัง
จู่ ๆ อู๋ฝานก็รู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาในทันใด
เพราะถังอวี่เฟยกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!
“มาทางนี้ มาทางนี้ไม่ผิดแน่!” ข้าง ๆ อู๋ฝาน คนหนุ่มที่เพ้อฝันจะได้เต้นรำกับถังอวี่เฟยก่อนหน้านี้ เมื่อพบเห็นหญิงสาวเดินมา ก็มีสีหน้าแดงเรื่อตื่นเต้นและยินดี
เพื่อนข้างเขาที่ก่อนหน้านี้พูดไว้ว่าหญิงสาวไม่มีทางเลือกคนอย่างพวกเขาไปเต้นรำเป็นคู่ที่สอง เมื่อเห็นถังอวี่เฟยกำลังเดินเข้ามาใกล้ ลมหายใจของพวกเขาก็เริ่มถี่กระชั้น ตื่นเต้นเพราะคาดหวัง
เพราะมันคือการเต้นรำรอบที่สองในงานเลี้ยงวันเกิดของถังอวี่เฟย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับเกียรติให้เต้นรำกับเธอ การได้เต้นรำด้วย หมายความว่าอีกฝ่ายมีสถานะในใจของหญิงสาวเป็นอย่างมาก อย่างน้อยถังอวี่เฟยก็ต้องชอบพอ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว หากว่าพยายามให้มากขึ้น เช่นนั้นอาจจะได้เป็นบุตรเขยตระกูลถัง
นั่นคือตระกูลถัง!
หนึ่งในห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงโจว!
อีกทั้งสถานะตัวตนของถังอวี่เฟยในตระกูลถังยังสูงล้ำ เธอเป็นถึงคนโปรดในบรรดาทายาท หากว่ามีใครโชคดีพอได้แต่งงานด้วย เช่นนั้นก็เท่ากับว่าได้รับการสนับสนุนจากตระกูลถัง อนาคตภายหน้าแทบจะไร้ขอบเขต
มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงอยากมีเกียรติได้ร่วมเต้นรำกับถังอวี่เฟย กระทั่งหลี่ปิงยังคิดอยากตามจีบหญิงสาว ขณะนี้ย่อมเกิดความคาดหวังเปี่ยมล้นว่าเธอจะเชิญตนเองไปร่วมเต้นรำ ต่อให้เกิ่งหย่าเฟยเข้าใจผิด ถ้าหลี่ปิงได้โอกาสเขาจะตอบรับอย่างไม่มีความลังเล
ทว่าน่าเสียดายที่ทิศทางที่ถังอวี่เฟยเดินมุ่งหน้าไปนั้นไม่ใช่บริเวณที่หลี่ปิงอยู่ ดังนั้นเขาจึงเกิดรู้สึกผิดหวัง แต่ก็เป็นความผิดหวังที่ยอมรับได้ ทันใดนั้นเองที่เขาได้เห็นว่าบริเวณที่หญิงสาวกำลังมุ่งหน้าไป มันมีอู๋ฝานกำลังนั่งอยู่!
“คงไม่ใช่อู๋ฝาน ต่อให้ไม่รู้ก็เถอะว่าไอ้คนจนนั่นมีบัตรเชิญได้ยังไง แต่คนจนยังไงก็เป็นคนจน เป็นไปไม่ได้ที่ถังอวี่เฟยจะถึงขนาดเดินไปเชื้อเชิญมันด้วยตัวเอง” หลี่ปิงพึมพำกับตนเอง
ตอนนี้อู๋ฝานยิ่งรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรง เพราะเขาพบว่าถังอวี่เฟยกำลังจ้องตนเองไม่วางตา
แน่นอนว่าภายใต้สายตาของทุกคนในงาน ถังอวี่เฟยเดินไปหยุดตรงหน้าอู๋ฝาน พร้อมกับเผยยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์อู๋ เต้นกับฉันนะคะ”
ฮือฮา!
เสียงอึกทึกดังขึ้นภายในงาน ไม่เพียงเพราะสรรพนามเรียกหาอู๋ฝานของถังอวี่เฟย แต่ยังเพราะการเลือกของหญิงสาว
ถังอวี่เฟยไม่ได้เลือกบุตรหลานตระกูลใหญ่ อย่างที่ทราบกันดีว่าวันนี้อีกสี่ตระกูลใหญ่ต่างส่งทายาทมาเข้าร่วมงานกันทั้งสิ้น แม้แบบนั้นหญิงสาวก็ไม่เลือกพวกเขา แต่เลือกชายหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จัก
และชายหนุ่มคนดังกล่าว เหมือนจะเป็นอาจารย์คนหนึ่ง?
ชั่วขณะนั้นความสนใจของผู้คนรอบด้านต่างจับจ้องไปที่อู๋ฝาน พร้อมทั้งคาดเดาสถานะและตัวตนของอีกฝ่าย การได้รับคำเชิญเต้นรำในลำดับที่สองโดยถังอวี่เฟยได้นั้น ตัวตนของชายหนุ่มจะต้องไม่ใช่ธรรมดา
อีกทางหนึ่ง บางคนที่ได้หวังจื่อหมิงช่วยแนะนำตัวอู๋ฝานให้ก่อนหน้านี้ ก็พอจะทราบเรื่องราวของอีกฝ่ายบ้างเล็กน้อย แต่แม้กระทั่งพวกเขาเองยังต้องสงสัย ว่าชายหนุ่มมีสถานะตัวตนอื่นอีกหรือไม่ ถึงขนาดหวังจื่อหมิงเล็งเห็นค่า และได้รับการเชื้อเชิญโดยส่วนตัวจากถังอวี่เฟยเลยงั้นเหรอ?