บทที่ 187 หนังสือนิทาน
บทที่ 187 หนังสือนิทาน
“อาจารย์อู๋ อย่าได้ล้อเล่นนะคะ” ถังอวี่เฟยกระซิบบอกกับอู๋ฝาน “แค่คุณมาฉันก็ดีใจโดยไม่ต้องให้ของขวัญอะไรแล้วค่ะ”
ถังอวี่เฟยไม่เชื่อว่าอู๋ฝานจะมีเคล็ดวิชาฝึกฝน เพราะเธอทราบสถานะของชายหนุ่มเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคยเห็นวิดีโอที่อีกฝ่ายต่อสู้กับคนอื่นมาแล้ว แม้ว่าตระกูลถังจะไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาก่อน ทว่าหญิงสาวก็ทราบเรื่องราวเหล่านี้ได้ผ่านการรับชมเรื่องราวจากวิดีโอ เธอจึงได้เห็นว่าอู๋ฝานเป็นเพียงคนธรรมดาที่พอจะมีกำลังอยู่บ้าง แต่ไม่ทราบเรื่องศิลปะการต่อสู้
อู๋ฝานที่ไม่ทราบศิลปะการต่อสู้ อย่างนั้นจะเอาเคล็ดศิลปะการต่อสู้ที่ไหนมาเป็นของขวัญวันเกิด?
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ บางทีด้วยพื้นเพของอู๋ฝาน เขาไม่น่าจะทราบเรื่องของการฝึกฝนเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าตำราเล่มเล็กในมือหมายความถึงอะไร ตำราที่อู๋ฝานจะนำออกมาให้ สมควรเป็นอะไรที่เป็นคนละความหมาย
ถ้าเป็นสถานที่อื่นหรือในเวลาอื่น อู๋ฝานจะนำของเหล่านี้ออกมามอบให้นั้นก็ไม่นับว่าเป็นอะไร แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสเทียนเหอเพิ่งนำเคล็ดวิชาฝึกฝนออกมามอบให้ ส่วนเขาก็บอกว่าตนเองก็มีเช่นกัน มันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ว่าชายหนุ่มจะนำเอาเคล็ดวิชาฝึกฝนออกมามอบให้
ปัญหาคือ เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะไม่อาจหาทางลงได้..
แต่อู๋ฝานไม่ได้คิดใช้โอกาสถอยกลับ ยังเอ่ยคำต่อ “ไม่ได้ล้อเล่นครับ ผมมีตำราเล่มหนึ่งจริง ๆ ของขวัญวันเกิดที่เตรียมมาให้ก่อนหน้านี้ก็หายไปแล้ว เลยไม่รู้ว่าควรมอบอะไรให้ดี บังเอิญว่าเหมือนคุณจะชอบพวกหนังสือหรือตำรา ดังนั้นผมเลยจะมอบที่มีให้”
พูดจาไร้สาระอะไรกัน ตำราเช่นนั้น ใครบ้างจะไม่ชื่นชอบ?
หลังบรรดาผู้คนในที่แห่งนี้ได้ยินคำของอู๋ฝาน พวกเขาก็สบถกันอยู่ในใจ
คำถามก็คือ คุณมีมันแน่เหรอ? ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมีตำราดังกล่าวได้ คุณที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง จะเอามันมาจากที่ไหน?
“คุณหนูถัง ในเมื่ออีกฝ่ายยืนกรานจะมอบให้ ก็ไม่ควรจะปฏิเสธนะครับ ยังไงก็ถือเป็นของขวัญจากใจ” เจียงอวี่เผยยิ้มเย้ยหยันออกมาทางสีหน้า
“บางทีอาจจะคิดว่าผู้อาวุโสเทียนเหอมอบหนังสือนิทานให้ล่ะมั้ง? เพราะงั้นเลยเตรียมจะส่งหนังสือนิทานให้เหมือนกัน?” หลี่ปิงฉวยโอกาสพูดจาดูหมิ่น
ก่อนหน้านี้คนทั้งสองถูกถังอวี่เฟยปฏิเสธต่อหน้าผู้คนเพราะอู๋ฝาน ในใจจึงเจ็บแค้นทั้งหญิงสาวและชายหนุ่ม ขณะนี้พบเห็นอีกฝ่ายไม่รู้ความ คิดจะมอบหนังสืออะไรให้ก็ไม่ทราบ พวกเขาย่อมไม่พลาดโอกาสได้เย้ยหยันเหยียบย่ำ
ถังอวี่เฟยจ้องเจียงอวี่และหลี่ปิงด้วยสายตารุนแรง คนทั้งสองมีเจตนาสุมไฟอย่างเห็นได้ชัด
แต่อู๋ฝานยืนยันจะมอบให้ ทั้งหลายคนก็กำลังจับตามอง ถังอวี่เฟยจึงไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้นจึงยื่นมือไปรับเอาไว้ “ขอบคุณค่ะ”
ถ้าเทียบเปรียบกับตำราที่ผู้อาวุโสเทียนเหอมอบให้เมื่อครู่ สภาพของมันทรุดโทรมกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าตำราที่ผู้อาวุโสเทียนเหอมอบให้จะไม่ได้มีการประดับภายนอกอย่างงดงาม แต่ก็สะอาดและหมดจด ขณะที่ตำราของอู๋ฝาน มันราวกับหยิบกระดาษอะไรขึ้นมาปะรวมกัน สภาพภายนอกเห็นรอยยับไปทั่ว กระทั่งว่ามีคราบโคลนอยู่เลยด้วยซ้ำ
ให้ของเช่นนี้เป็นของขวัญวันเกิด ความรู้สึกเวทนาต่ออู๋ฝานจึงบังเกิดขึ้น
ในใจของทุกคนตอนนี้ต่างนึกเหยียดหยามอู๋ฝานกันถ้วนหน้า
หลังถังอวี่เฟยรับตำรามาแล้ว หญิงสาวก็เก็บมันไป ไม่คิดที่จะอ่านตอนนี้ เพราะในความเห็นของเธอ มันไม่ใช่เคล็ดวิชาฝึกฝน การเปิดต่อหน้าผู้คนมากมาย มีแต่จะยิ่งทำอู๋ฝานเสียหน้า
แม้เจียงอวี่ถูกถังอวี่เฟยข่มขู่ผ่านสายตา ทว่าเขากลับไม่มีเจตนายับยั้งการกระทำใดทั้งสิ้น อย่างไรแล้วตระกูลเจียงของพวกเขาก็เป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงโจว เขาจึงไม่ต้องเกรงใจถังอวี่เฟยถึงขนาดนั้น
“คุณหนูถัง มีคนมอบของขวัญให้อย่างตั้งใจถึงขนาดนั้น ก็ควรเปิดออกมาดูหน่อยไหมครับ? บางทีมันอาจจะดีกว่าที่ผู้อาวุโสเทียนเหอมอบให้ก็ได้ แต่บางทีก็อาจไม่ใช่ล่ะนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” เจียงอวี่เผยเสียงดังขึ้นมา
“ไว้ฉันดูทีหลังเองค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี
“เปิดดูตอนนี้เลยสิ ข้าเองก็สงสัยว่าเป็นตำราอะไรกัน” หลังเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ผู้อาวุโสเทียนเหอก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น
ผู้อาวุโสเทียนเหอเองก็ไม่พอใจพฤติกรรมของอู๋ฝาน เขามอบเคล็ดวิชาฝึกฝนให้ถังอวี่เฟยด้วยตนเอง ทว่าขณะนี้อีกฝ่ายเลียนแบบการกระทำตาม มันนับเป็นเรื่องอะไรกัน อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองเป็นใคร สูงส่งกว่าเขาอย่างนั้นหรือ?
แม้ที่เขามอบให้จะเป็นเพียงเคล็ดวิชาฝึกฝนระดับปฐพี แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถมีในครอบครอง หรืออีกฝ่ายคิดว่ามันเป็นของซื้อหาตามข้างทางได้? คิดว่าเคล็ดวิชาฝึกฝนที่เขามอบให้นั้นไม่คู่ควร?
ดังนั้นผู้อาวุโสเทียนเหอจึงต้องการเห็นว่าตำราที่อู๋ฝานมอบให้นั้นมันคืออะไรกันแน่
เดิมถังอวี่เฟยไม่มีแผนเปิดตำราของอู๋ฝานตรงนี้ เธอไม่ต้องการให้ชายหนุ่มเป็นตัวตลกในงานเลี้ยงของตัวเอง แต่ขณะนี้ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยขึ้นแล้ว หญิงสาวจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
“อวี่เฟย ลองเปิดดูเถอะ” ถังหมิงเจี๋ยเอ่ยขึ้น เพราะในเมื่อผู้อาวุโสเทียนเหอต้องการ เขาก็ต้องไว้หน้า
ถังอวี่เฟยฝืนใจทำตาม ทางหนึ่งเพราะไม่ต้องการทำให้อู๋ฝานดูแย่ อีกทางหนึ่งเพราะไม่กล้ายั่วยุผู้อาวุโสเทียนเหอ อย่างไรตระกูลถังก็จ่ายไปมากเพื่อคว้าเส้นสายจากสำนักล้ำสวรรค์ ถ้าทำให้อีกฝ่ายไม่ยินดี เกรงว่าเรื่องราวจะมีแต่เลวร้าย
“นักศึกษาถัง ในเมื่อทุกคนอยากดู งั้นก็เปิดตำราเถอะครับ” อู๋ฝานเอ่ยบอก
ถังอวี่เฟยมองตอบอู๋ฝาน ในใจตอนนี้ต่อว่าเขาที่ไม่รู้ความว่าอะไรผิดอะไรถูก เธออุตส่าห์พยายามแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่เห็นซะอย่างนั้น!
แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนว่าถ้าไม่เปิดก็ไม่ได้แล้ว
ดังนั้นภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน ถังอวี่เฟยจึงเปิดตำราที่อู๋ฝานมอบให้ หลังเห็นเนื้อหา เธอถึงกับชะงักงันไป
เดิมถังอวี่เฟยคิดเหมือนเช่นที่คนอื่นคิด มองว่าเป็นไปไม่ได้ที่อู๋ฝานจะส่งเคล็ดวิชาฝึกฝนให้ บางทีมันอาจเป็นเพียงแค่นิทานเล่มหนึ่ง
ตอนที่เธอได้เห็นเนื้อหาภายใน แม้ว่าไม่ได้อ่านอย่างจริงจัง แต่หนึ่งสิ่งที่แน่ใจได้ก็คือมันไม่ใช่หนังสือนิทานอย่างแน่นอน แต่เป็นกระบวนท่าและภาพประกอบอยู่ภายใน ทั้งยังมีรายละเอียดค่อนข้างมากพอสมควร
“นี่มันเคล็ดวิชาฝึกฝนจริงเหรอเนี่ย?” ถังอวี่เฟยตระหนกตกใจ
“คุณหนูถัง คงตะลึงกับเนื้อหานิทานในเล่มแล้วมั้ง? ลองอ่านให้พวกเราฟังทีสิครับ เผื่อว่าจะช่วยผ่อนคลายบรรยากาศได้” เจียงอวี่เอ่ยขึ้น
ทว่าถังอวี่เฟยเมินเฉยต่อคำพูดของอีกฝ่าย เธอสนใจเนื้อหาในตำราจริง และคิดจะอ่านมันอย่างตั้งใจ แต่ว่ามันไม่ใช่นิทานอย่างที่อีกฝ่ายสงสัยแน่นอน
หลังเห็นอาการตอบสนองของถังอวี่เฟย ผู้อาวุโสเทียนเหอที่ยืนข้างหญิงสาวจึงยื่นศีรษะไปดู ราวกับอยากรู้ว่าเนื้อหาด้านในเป็นอย่างไร และพอได้เห็น …การตอบสนองของเขาก็เป็นดังเช่นถังอวี่เฟยไปด้วยเช่นกัน!
เมื่อเห็นอาการตอบสนองของคนทั้งสอง ทุกคนจึงเริ่มพูดคุยกันเอง ขณะนี้เกิดความรู้สึกประหนึ่งแมวข่วนเข้าที่หัวใจ ต่างคนต่างรู้สึกสงสัยและอยากจะยื่นศีรษะไปดูเสียให้รู้แล้วรู้รอด ว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นคืออะไรกันแน่