บทที่ 302 ยากลำบาก
บทที่ 302 ยากลำบาก
“น่าเสียดาย” อู๋ฝานส่ายศีรษะเล็กน้อย ขณะมองม้าที่ไร้คนขี่อีกฝั่งหนึ่ง
หากคนเหล่านั้นรู้ตัวช้ากว่านี้อีกสักนิด เขาคงสังหารหรือทำให้บาดเจ็บได้ครบทุกคนแล้ว การที่สิบคนนั้นได้ขี่ม้าจากกลุ่มคนนับพัน เห็นได้ชัดว่าสถานะของพวกเขาเหล่านั้นไม่ต่ำเตี้ย
โชคร้าย อีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
ทว่ากลุ่มคนเหล่านั้นก็ได้รับบทเรียนกันไปแล้ว แทนที่จะขี่ม้าอีกครั้งหนึ่ง พวกเขากลับเลือกที่จะซ่อนตัวในฝูงชน ทำให้อู๋ฝานไม่อาจทำอะไรอื่นได้อีก
แต่อู๋ฝานไม่มีเวลามาใคร่ครวญมากนัก โชคร้ายที่ยังมีศัตรูอีกมากมายต้องจัดการ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องใช้กับดักและหนามแหลม เพื่อหาทางกำจัดศัตรูให้ได้มากที่สุด
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝั่งกำลังใกล้เข้ามา ขณะที่ลูกธนูยิงผ่านอากาศออกไปนั้น ตอนนี้เองที่ฝั่งอู๋ฝานตัดสินใจบุกโจมตี
เดิมฝั่งกองทัพกบฏก็ไม่ได้มีนักธนูนัก และจริง ๆ แล้วก็มีเพียงแค่กลุ่มทหารส่วนตัวของโฉวหย่งเชาที่สามารถยิงธนูได้ ทว่าเพราะอู๋ฝานตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นไม่ตายก็ครึ่งตาย ส่วนคนที่เหลือนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคน ทำให้ไม่มีโอกาสใช้คันธนูและลูกธนูเพื่อเล่นงานชายหนุ่มและคณะ
ส่วนฝั่งอู๋ฝาน คนกว่าหกสิบคนที่กำลังยิงลูกธนูอยู่นั้น แม้ฝีมือการยิงค่อนข้างคาดหวังไม่ได้ แต่ก็ยังทำให้กองทัพกบฏเสียชีวิตไปหลายคน ทั้งที่ตรงนี้ยังมีอู๋ฝานที่ยิงตายไปแล้วเกือบร้อยศพ
ถนนหน้าหมู่บ้าน นอกจากตะปูเหล็กที่โรยเอาไว้แล้ว มันก็ยังมีกับดักไม้ไผ่แหลม พวกมันไม่อาจหาพบง่าย ๆ เหมือนตะปูเหล็ก การเก็บกวาดตะปูเหล็กของกองทัพกบฏ ย่อมต้องใช้กำลังคนจำนวนมาก เมื่อพวกเขาเคลื่อนตัวจนกับดักไม่อาจรับได้ไหว สุดท้ายก็จะหล่นลงไป หากไม่ตายก็บาดเจ็บ
ขณะที่เข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ คนจำนวนหลายร้อยทางฝั่งกองทัพกบฏก็สูญเสียเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้เรียบร้อยแล้ว
“ยังเหลืออีกสิบจั้ง เร่งความเร็วให้มากกว่านี้!” โฉวหย่งเชาตะโกนเสียงดังออกคำสั่งขณะซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน
โฉวหย่งเชารู้สึกแทบคลุ้มคลั่ง หมู่บ้านที่เขาเคยคิดว่าจะสามารถพิชิตมาได้อย่างง่ายดาย กลับทำให้ต้องเจอการต่อต้านเกินคาดคิด คนของเขาเสียชีวิตไปเกินกว่าหนึ่งพัน ก่อนจะทันถึงตัวศัตรูด้วยซ้ำ ความสูญเสียนี้มันแทบจะเทียบได้กับจำนวนคนตายตอนที่ได้ปะทะกับกองทัพประจำการ
ทว่าที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าตอนนี้ก็ไม่ใช่กองทัพประจำการ เป็นเพียงหน่วยรักษาการณ์ของหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นอย่างจำเป็น! และที่ยิ่งทำให้เขายากจะยอมรับ คือการที่จริง ๆ แล้วเหลือระยะไม่ถึงสามสิบจั้งก็จะเข้าถึงหมู่บ้าน แต่กลับยังไปไม่ได้ ฝ่ายพวกเขาต่างหากที่สูญเสียอย่างหนัก คนของอีกฝ่ายสร้างความยากลำบากให้พวกเขายิ่งกว่ากองทัพประจำการแห่งราชสำนักเสียด้วยซ้ำ!
แต่โฉวหย่งเชาก็ไม่มีความคิดท้อถอย ในใจของเขานั้น หากเข้าถึงตัวหมู่บ้านได้ หน่วยรักษาการณ์ของหมู่บ้านก็มีแต่จะต้องตาย ไม่ว่าจะเรื่องล้างแค้นหรือปล้นชิงอาวุธมาครอบครอง เขาก็ไม่มีทางปล่อยวางอย่างแน่นอน!
ทว่าโฉวหย่งเชาไม่ได้คิดว่าโชคร้ายของพวกเขายังไม่จบลง
“หน่วยสำรอง โจมตีพวกมันด้วยหิน!” อู๋ฝานสั่งเหล่าผู้อพยพที่ไม่ได้เข้าร่วมหน่วยรักษาการณ์
หลังจากนั้น กลุ่มคนจึงเริ่มใช้หินที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทุ่มใส่แถวหน้าของกองทัพกบฏ ตอนนี้หินเหล่านั้นร่วงหล่นเข้าหาพวกเขาประหนึ่งห่าฝน
คนหลายร้อยพร้อมใจกันโยนหินออกไปพร้อมกัน ความหนาแน่นของก้อนหินมีมากกว่าลูกธนูก่อนหน้านี้ ทว่าไม่นานทหารกองทัพกบฏที่เข้ามาใกล้หมู่บ้าน หลายคนก็เริ่มขึ้นมาแถวหน้าเพื่อเตรียมพร้อมบุก
แม้หินเหล่านี้ไม่อาจเล่นงานพวกเขาจนตายได้ แต่ก็มากพอจะทำให้พวกเขาต้องล้มลงกับพื้น มือที่เคยว่างต้องกุมศีรษะป้องกันเอาไว้ เสียงร้องของคนเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมันดังเสียยิ่งกว่าครั้งก่อนหน้า
“บ้าฉิบ! ทำไมไอ้เวรพวกนี้จัดการได้ยากขนาดนี้กัน?!” โฉวหย่งเชาตะโกนด้วยความกราดเกรี้ยว เมื่อเห็นสถานการณ์ที่ผิดคาดอีกครั้ง ทั้งเขาเองก็ยังถูกหินเล่นงานด้วย แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่มันก็ยังเจ็บ ทำให้สภาพในยามนี้ยิ่งเลวร้ายลงกว่าที่เคยเป็น
“หยิบก้อนหินขึ้นมา ขว้างกลับไปหาพวกมัน!” โฉวหย่งเชาตะโกนสั่งการเสียงดัง
ทหารกองทัพกบฏที่เจ็บช้ำและสูญเสีย พวกเขาคิดแต่จะแก้แค้น เมื่อโฉวหย่งเชาออกคำสั่งตรงใจ พวกเขาจึงหยิบก้อนหินขึ้นมาพร้อมโยนเข้าใส่ทางหมู่บ้าน
“ทุกคนหลบหลังที่กำบัง! คนที่มีโล่ให้ไปยืนด้านหน้า!” อู๋ฝานสั่งเสียงดัง
โฉวหย่งเชาพบว่าก้อนหินเกือบทั้งหมดที่พวกเขาโยนกลับคืนไปทางหมู่บ้าน มันเสียเปล่า ไม่ว่าจะที่กำบังหรือว่าโล่เหล่านั้นต่างก็กันไว้ได้แทบทั้งหมด มีเพียงไม่กี่คนที่ถูกหินโยนใส่
ภาพที่เห็นมันยิ่งทำให้โฉวหย่งเชาแทบคลุ้มคลั่งบราวนี่ออนไลน์
พวกเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทว่าการตอบโต้ใดก็ล้วนแล้วแต่ไร้ผลอย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าโฉวหย่งเชาแทบคลุ้มคลั่งเพราะโทสะ ทว่าเขาก็ยังไม่อาจหาทางออกในสถานการณ์ตรงหน้าได้ ทำได้เพียงแค่ให้คนของตนเองกวาดตะปูเหล็กต่อไป พลางต้านรับห่าฝนลูกธนูและก้อนหินที่พุ่งมาจากอีกด้าน ตอนนี้เขาได้เข้าใจแล้วว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ฝ่ายเขาจะมีแต่จะสูญเสีย มีเพียงต้องบุกเข้าหมู่บ้านเท่านั้นจึงจะสามารถตอบโต้พลิกกลับสถานการณ์ และสังหารกลุ่มตัวบัดซบเหล่านี้ได้!
ระยะห่างสิบจั้งทั้งไม่ไกลหรือใกล้ หลังจ่ายด้วยราคาอันหนักหนา โฉวหย่งเชาก็คิดอยากบุกผ่านการเดินทางอันยากลำบากนี้เพื่อไปให้ถึงทางเข้าหมู่บ้าน ตอนนี้เขาแทบไม่อาจทนได้ไหวแล้ว
และป้อมปราการของอู๋ฝานก็อยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน!
“บุกเข้าไป! สังหารทุกคนในหมู่บ้านให้สิ้น ต้องไม่ให้เหลือสักตัว!” โฉวหย่งเชาคำรามเสียงดังลั่นถึงชั้นเมฆบนฟากฟ้า
โฉวหย่งเชาร้อนใจ ด้วยระยะทางไม่ถึงสามสิบจั้ง หนึ่งในสามของกองทัพกบฏที่เขานำทัพจะสูญเสียอำนาจการต่อสู้ หากไม่ตายก็บาดเจ็บ จำนวนผู้เสียชีวิตถึงเพียงนี้เป็นอะไรที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน ตอนนี้เขาต้องการล้างแค้นเพื่อระบายโทสะ!บราวนี่ออนไลน์
คนของกองทัพกบฏต่างร้องตะโกนตอบรับ พวกเขาหมายจะสังหารพวกอู๋ฝานไม่แพ้กัน! ตอนนี้ไม่เพียงโฉวหย่งเชาที่รู้สึกคับแค้น พวกเขาเองก็คับแค้นยิ่งกว่าอีกฝ่ายซะอีก ขณะนี้คือโอกาสได้ต่อสู้ตอบโต้ ความขมขื่นในใจพวกเขากำลังจะได้ระบายออกมา
ตอนนี้ถึงเวลาได้ล้างแค้นความอัดอั้นที่มีแล้ว มีหรือพวกเขาจะยั้งตัวเองเอาไว้ได้อีก?
อู๋ฝานมองกลุ่มคนที่บุกเข้ามาพร้อมสารพัดอาวุธในมือด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก
คิดว่าผ่านพ้นถนนหน้าหมู่บ้านมาได้ ทุกสิ่งจะเป็นไปตามที่ต้องการอย่างนั้นหรือ?
ไม่รู้ความอะไรเลยแม้แต่น้อย!
“โฮก!”
ขณะกองทัพกบฏกำลังจะบุกเข้าถึงตรงหน้าอู๋ฝานและพรรคพวก เสียงคำรามจำนวนหนึ่งพลันดังขึ้นมา เมื่อพวกเขาหันมอง ก็ได้เห็นมอนสเตอร์ดุร้ายกว่าสิบตัว พวกมันมีฟันแหลมคม ส่งเสียงคำรามทุ้มต่ำ ทั้งมาหยุดยืนตรงหน้าของพวกเขา
เมื่อเห็นมอนสเตอร์ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ไม่เพียงแต่คนของฝ่ายกองทัพกบฏที่แตกตื่น กระทั่งคนของฝั่งอู๋ฝานก็แตกตื่นเช่นเดียวกัน
มอนสเตอร์โหดเหี้ยมไม่แยกแยะมิตรหรือศัตรู แม้ตอนนี้พวกมันคล้ายจะเผชิญหน้าเพียงแค่กองทัพกบฏ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะคลายความระวัง มอนสเตอร์ไม่เคยสนว่าใครอยู่ฝ่ายใด ไม่ว่าเมื่อไหร่ มันก็พร้อมหันกลับมาขย้ำอะไรก็ตามที่ไม่ใช่ตนเอง
ที่นี่เวลานี้ มีเพียงอู๋ฝานที่ทราบว่ามอนสเตอร์เหล่านี้จะไม่โจมตีคนของฝั่งหมู่บ้าน แต่จะโจมตีเพียงแค่คนของกองทัพกบฏ เพราะมอนสเตอร์เหล่านี้เป็นเขาอัญเชิญออกมาเอง และในบรรดามอนสเตอร์เหล่านั้น ยังมีนักรบโลกอสูรอีกสิบตนรวมอยู่ด้วย!
หากเทียบกับครั้งก่อน ออร่าที่นักรบโลกอสูรแผ่พุ่งออกมาในครั้งนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่า หลังได้รับอาวุธที่อู๋ฝานจัดเตรียมไว้ให้ล่วงหน้า พวกมันก็เปรียบดังเสือติดปีกทะยานลงจากยอดภูเขา เพื่อเข้าประหารเหล่าคนจากกองทัพกบฏ