บทที่ 303 วิชาดำดินจู่โจม
บทที่ 303 วิชาดำดินจู่โจม
“ฆ่า!”
เสียงตะโกนของนักรบโลกอสูรทั้งสิบดังขึ้นพร้อมกัน พวกมันเหวี่ยงดาบใหญ่ในมือเข้าหากองทัพกบฏที่กำลังแตกตื่นอยู่ตรงหน้า
“ฟึ่บ!”
ทหารกองทัพกบฏที่ไม่อาจหลบเลี่ยง ร่างพลันต้องล้มลงกับพื้น หากไม่ตายก็บาดเจ็บ เสียงร้องโหยหวนยังคงดำเนินต่อไป
“โฮก!”
ตอนนี้เองที่ฝูงมอนสเตอร์นับสิบตัวบุกเข้าหากลุ่มคน กรงเล็บอันแหลมคมของพวกมัน สามารถฉีกกระชากร่างกายของกองทัพกบฏได้โดยง่ายดาย ทุกร่างที่ผ่านเงื้อมมือของพวกมันล้วนแล้วแต่แหลกเละ สภาพศพดูไม่ได้
“อ๊าก!”
ทีละคนทีละคน เสียงแผดร้องโหยหวนยังคงดังจากปากของกองทัพกบฏ บรรดาผู้ที่ได้ยินและเห็นต่างต้องรู้สึกมือเท้าชา
“ไม่ต้องแตกตื่น ป้องกันเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ใครถอยทัพหรือหลบหนี!” โฉวหย่งเชาที่อยู่ในกลุ่มคนลงมือฟันร่างคนที่คิดหลบหนี พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชา
โฉวหย่งเชาที่อยู่ในกลุ่มคนได้เห็นถึงความดุร้ายของมอนสเตอร์และนักรบโลกอสูร แม้กระทั่งเขาเองก็ยังต้องหวาดกลัว หากต้องสู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง เขาอาจพอเสมอนักรบโลกอสูรได้ แต่เรื่องราวเลวร้ายคือการที่นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่พอจะสู้รบกับนักรบโลกอสูรหรือมอนสเตอร์ได้แม้แต่คนเดียว
ทว่าโฉวหย่งเชาก็ยังไม่คิดถอย หากเขาต้องถอยที่นี่ ไม่นานก็จะต้องถูกนักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์ไล่ล่าสังหาร เขาจะไม่มีทางหลบหนีได้อย่างราบรื่น อีกทั้งเขายังรู้สึกว่าฝั่งของตนมีคนหลายพัน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นตัวอะไร ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถเอาชนะกำลังคนนับพันได้ ต่อให้พวกเขาสูญเสียกันไปมากมาย แต่สุดท้ายก็ต้องมีผู้รอดชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้น นักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่ได้มีความนึกคิด พวกมันพร้อมที่จะหันกลับไปอีกฝั่งเพื่อลงมือ พวกมันสามารถหันไปโจมตีหมู่บ้านได้ในทุกเมื่อ หากเป็นเช่นนั้น วิกฤตของพวกเขาก็คลี่คลาย อีกทั้งพวกเขายังสามารถจัดการหมู่บ้านแห่งนี้ได้ในคราวเดียว
เห็นได้ชัดว่าโฉวหย่งเชาไม่ทราบว่ามอนสเตอร์และนักรบโลกอสูรเหล่านี้เป็นอู๋ฝานอัญเชิญออกมา พวกมันจะทำตามคำสั่งของเขา ไม่มีทางจะโจมตีคนของหมู่บ้านเป็นอันขาด
โฉวหย่งเชาไม่ทราบ ทุกคนในที่นี้ต่างก็ไม่ทราบเช่นกัน อย่างไรก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่เคยได้เห็นหรือได้ยินว่ามีมนุษย์คนใดสามารถบัญชาการมอนสเตอร์หรือนักรบโลกอสูรได้
ภายใต้คำสั่งอันเข้มงวดของโฉวหย่งเชา กองทัพกบฏจึงทำได้เพียงใช้แรงกายและแรงใจตอบโต้นักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์กลับไป
แต่ความเสียหายที่พวกเขาทำต่อมอนสเตอร์และนักรบโลกอสูรได้นั้น มันเป็นแค่บาดแผลน้อยนิด
นักรบโลกอสูรที่อู๋ฝานเคยอัญเชิญออกมาด้วยป้ายอัญเชิญระดับทองแดงเมื่อครั้งก่อน มันก็มีพละกำลังทัดเทียมกับผู้ฝึกตนขอบเขตมืดแล้ว ตอนนี้ป้ายอัญเชิญพัฒนาขึ้นเป็นระดับเงิน นักรบโลกอสูรจึงยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ทหารกองทัพกบฏเหล่านี้ ที่ไม่มีแม้แต่อาวุธในมือ ย่อมไม่อาจเทียบพวกมันได้
ส่วนมอนสเตอร์ พวกมันก็แข็งแกร่งไม่ต่างกัน เลเวลของพวกมันจะแปรผันตามเลเวลของอู๋ฝาน โดยจะมีเลเวลสูงกว่าอู๋ฝานสิบห้าเลเวลอยู่เสมอ ชายหนุ่มตอนนี้เลเวลแปด มอนสเตอร์เหล่านั้นจึงมีเลเวลยี่สิบสาม คนธรรมดาเมื่อเผชิญหน้ามอนสเตอร์เลเวลยี่สิบสาม ย่อมไม่มีทางต่อกรได้เลยแม้แต่น้อย ความเสียหายที่มอนสเตอร์สร้างได้นั้น รุนแรงยิ่งกว่านักรบโลกอสูรเสียด้วยซ้ำ
ตอนที่อู๋ฝานเพิ่งมาถึงที่นี่ไม่นานมานี้ เขายังต้องวางกับดักเพื่อรับมือเสือร้ายลายจุดเลเวลสิบด้วยซ้ำ และกองทัพกบฏตรงหน้าที่อ่อนแอยิ่งกว่าชายหนุ่มในตอนนั้น พละกำลังของมอนสเตอร์ที่เขาอัญเชิญออกมา มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสือร้ายลายจุดเป็นเท่าตัว!
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องคิดถึงสถานการณ์ที่ว่า อีกฝ่ายจะร่วมแรงร่วมใจกันต่อกรกับมอนสเตอร์หรือนักรบโลกอสูร มันไม่มีทางเป็นไปได้
ทว่าจำนวนคนของกองทัพกบฏยังค่อนข้างมาก แม้อู๋ฝานจะลดจำนวนไปได้หนึ่งในสามในตอนที่ใช้กับดักและลูกธนูไปแล้ว คนที่เหลือราวสามพันคนก็ยังสามารถต่อสู้ได้ ถึงจะมีเด็กและคนแก่อยู่ไม่น้อย แต่คำกล่าวที่ว่ามดเยอะล้มได้แม้กระทั่งช้างก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง พวกเขายังไม่สามารถสังหารมอนสเตอร์หรือนักรบโลกอสูรได้แม้สักตน อย่างไรพวกเขาก็ทำให้พวกมอนสเตอร์และนักรบโลกอสูรได้รับบาดเจ็บจนทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้นได้
อู๋ฝานรู้ดีว่านักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์เหล่านี้จะไม่มีทางถูกสังหารโดยกองทัพกบฏ แต่พวกมันจะหายไปทันทีที่ครบหนึ่งถ้วยชา ดังนั้นเขาจึงต้องคิดทางด้านเวลาและจังหวะลงมือให้ดี
อู๋ฝานปล่อยเหล่านักรบโลกอสูรและพวกมอนสเตอร์ไว้ด้านหน้าที่กำบัง ก่อนจะให้คนที่อยู่ด้านหลังเปิดฉากโจมตีด้วยหินและลูกธนูเท่าที่จะทำได้ เมื่อเป็นระยะประชิดขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าจะก้อนหินหรือลูกธนู ความแม่นยำย่อมสูงขึ้นกว่าที่เคยเป็น
อู๋ฝานเองก็ประจำตำแหน่ง หลบเลี่ยงสายตาของผู้คน ก่อนจะหมอบลงกับพื้น ทั้งกายเริ่มจมและหายไปจากตำแหน่งที่เคยอยู่บราวนี่ออนไลน์
วิชาดำดิน!
หลังใช้งานวิชาดำดิน อู๋ฝานก็จะจมลงใต้พื้น พร้อมกับได้เห็นอะไรที่แตกต่างไปจากที่เคย ทว่าก็ยังสามารถหายใจเข้าออกได้ตามปกติ เพียงแต่ในใจกลับรู้สึกอึดอัดใจอยู่พอสมควร
อู๋ฝานไม่มีเวลาได้ดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ได้ดำดินเป็นครั้งแรก เพราะต้องรีบมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่โฉวหย่งเชาอยู่
เมื่อครู่นี้ตอนที่โฉวหย่งเชาตะโกนสั่งการ อู๋ฝานก็ถือโอกาสกำหนดที่ตั้งของศัตรูไปด้วยในตัว หลังจดจำตำแหน่งอีกฝ่ายได้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงนึกถึงวิชาดำดินขึ้นมา เพราะหากบุกเข้าหาตัวโฉวหย่งเชา ก็เห็นได้ชัดว่ามีกองทัพกบฏมากมายขัดขวางเส้นทางเอาไว้ หากเขาคิดเข้าถึงตัวอีกฝ่ายจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ขณะที่วิชาดำดินค่อนข้างเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม
ตอนนี้โฉวหย่งเชายังไม่รู้ว่าอู๋ฝานกำลังบุกเข้ามาใกล้ เขายังคงซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนจากการบุกโจมตีของนักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มดูมั่นคงขึ้นมาบ้าง เขาจึงโล่งอกอยู่ในใจ
เดิมโฉวหย่งเชารู้สึกร้อนรนยามได้เห็นมอนสเตอร์และนักรบโลกอสูรที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ากลยุทธ์ที่กลุ่มคนของเขาใช้งานจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง หากยังดำเนินเช่นนี้ต่อไป ก็เป็นไปได้ว่าจะกำจัดนักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์ลงได้
แน่นอนว่า ราคาที่ฝั่งเขาต้องจ่ายไปนั้นไม่น้อย เพียงแค่ช่วงสั้น ๆ ก็ต้องสูญเสียกำลังรบไปหลายร้อยคน มันเป็นการสังเวยคนนับร้อยเพื่อสร้างโอกาสให้คนอื่นได้จัดการนักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์
แต่ตราบใดที่สามารถสังหารมอนสเตอร์และนักรบโลกอสูรแล้วพิชิตหมู่บ้านแห่งนี้ได้ ต่อให้ต้องสูญเสียมากกว่านี้โฉวหย่งเชาก็มองว่ายอมรับได้ แน่นอนว่าโทสะในใจของเขาย่อมไม่อาจคลี่คลายได้ง่าย ๆ อย่างไรหมู่บ้านเล็กจ้อยแห่งนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียอย่างหนัก เป็นไปไม่ได้ที่โทสะมากมายเช่นนั้นจะเลือนหาย
“หัวหน้าระวัง!”
ขณะโฉวหย่งเชากำลังพิจารณาสถานการณ์การสู้รบตรงหน้า เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนจากทหารส่วนตัวของตนเองที่อยู่ทางด้านหลัง
โฉวหย่งเชาพลันตระหนักว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ถูกต้อง จึงรีบหลบเลี่ยงไปด้านข้าง แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ช้าเกินไป
“ฟึ่บ!”
กระบี่ยาวแหลมคมเล่มหนึ่งแทงใส่ด้านหลังของโฉวหย่งเชา มันแทงทะลุผ่านตัวเขา และตำแหน่งที่มันแทงทะลุนี้ก็ใกล้กับหน้าอก!
โฉวหย่งเชารู้สึกหวาดกลัวในใจเป็นล้นพ้น เขาฝืนบังคับตัวเองให้อดกลั้นความรู้สึกเจ็บปวด พยายามหาทางหลุดพ้นจากคมกระบี่ของอีกฝ่าย น้ำพุเลือดพรั่งพรูออกมา ร่างของเขาสั่นสะท้าน เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เขาล้มลงกับพื้น ก่อนจะเห็นคนที่บุกมาลงมือกับตาตัวเอง
เป็นคนหนุ่มในชุดเกราะคนหนึ่ง!