บทที่ 323 ไม่เชื่อ
บทที่ 323 ไม่เชื่อ
เดิมพันข้างตัวเอง!
แม้อู๋ฝานไม่ได้เอ่ยเสียงดังอะไร แต่มันก็ทำให้กลุ่มคนในที่นี้ต่างต้องเงียบไปอีกครั้ง สายตาพวกเขากำลังมองชายหนุ่มราวไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
อู๋ฝานไม่ได้วางเดิมพันข้างไช่หง แต่เดิมพันข้างตัวเอง?
เขากำลังจะบอกว่าตัวเองมีฝีมือขับรถดีกว่าไช่หงอย่างนั้นเหรอ?
แม้ไช่หงไม่ได้มีโอกาสชนะหานเป่าฟางเต็มร้อย แต่อีกฝ่ายก็เคยเป็นนักแข่งมืออาชีพมาก่อน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ต้องฝีมือดีกว่าอู๋ฝาน ทว่าชายหนุ่มกลับไม่วางเดิมพันข้างไช่หง กลับเลือกที่จะวางเดิมพันว่าชัยชนะจะตกสู่ตนเอง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นี่ได้ยินไม่ผิดไปใช่ไหม? แกกำลังจะเดิมพันว่าตัวเองชนะงั้นสินะ?” หลังชะงักไปครู่หนึ่ง หานเป่าฟางก็หัวเราะเสียงดังอีกครั้ง เสียงของเขาตอนนี้ยิ่งดังมากขึ้นไปอีก ท่าทีการค่อนแคะยิ่งแสดงชัดกว่าก่อนหน้า
“ไอ้หนูนี่ยังฝันไม่ตื่นหรือไง คิดว่าจะเอาชนะทั้งหานเป่าฟางและไช่หงเลยงั้นเหรอ?”
“พอเข้าใจแล้วว่าทำไมวางเดิมพันแค่หนึ่งหยวน เพราะรู้ตัวว่าเอาชนะไม่ได้ ถ้าวางเดิมพันมากไป ก็มีแต่เสียกับเสีย”
“เป็นแบบนี้นี่เอง ฮ่า ฮ่า ไอ้หนูนี่น่าสนใจดี!”
ทุกคนจากทางเมืองหลิวต่างออกมาเย้ยหยันอู๋ฝานมาคนแล้วคนเล่า หลังชายหนุ่มตอบกลับมาว่าจะวางเดิมพันข้างตัวเองนั้น ทุกคนราวกับเข้าใจว่าเพราะอะไรเขาถึงเดิมพันเพียงแค่หนึ่งหยวน เพราะหากเดิมพันที่รู้ว่าต้องพ่ายแพ้ ยิ่งน้อยเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีเท่านั้น
ส่วนกลุ่มคนทางฝั่งเจียงโจว พวกเขารู้สึกว่าอู๋ฝานทำตัวไร้สาระสิ้นดี รถของอีกฝ่ายดีอย่างไม่มีใครเทียบได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถชนะได้ ถ้ามีแค่รถดีก็สามารถชนะการแข่งขัน เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ต้องจัดการแข่งของจริงขึ้นมากันแล้ว แค่เอาศักยภาพของรถมาโอ้อวดกัน เปรียบเทียบว่าใครจะชนะก็เกินพอ
ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าอู๋ฝาน ที่น่าจะเป็นนักแข่งรถมือใหม่ จะดีไปกว่าอดีตนักแข่งรถมืออาชีพทั้งสองคนไปได้
ไช่หงเผยสีหน้าอัปลักษณ์เล็กน้อย คนจากเมืองหลิวไม่มองว่าเขาจะมีโอกาสชนะสักนิดก็ยังพอทน ทว่าตอนนี้กระทั่งอู๋ฝานยังคิดเช่นเดียวกัน กระทั่งเดิมพันว่าตัวเองสามารถชนะได้ มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้คาดหวังกันเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นนี้แล้วจะให้เขามองอีกฝ่ายอย่างไร?
เมื่อเผชิญหน้ากับคำเหยียดหยามของกลุ่มคนจากเมืองหลิว และความไม่เชื่อมั่นจากทางฝั่งเจียงโจว อู๋ฝานก็ไม่ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ราวกับตัวตลกที่พวกเขากำลังขบขันอยู่นั้นไม่ใช่ตนเองอย่างไรอย่างนั้น
“หัวเราะอะไรกัน” อู๋ฝานไม่ได้ตอบคำใด แต่ถังอวี่เฟยอดไม่ได้จนต้องพูดขึ้นมา “พวกนายรู้ได้ยังไงว่าอู๋ฝานจะเอาชนะไม่ได้? ฉันเชื่อว่าอู๋ฝานจะเอาชนะได้!”
แม้ถังอวี่เฟยไม่ได้เชื่อจากก้นบึ้งหัวใจว่าอู๋ฝานจะสามารถเอาชนะการแข่งครั้งนี้ได้ แต่ความเห็นของเธอย่อมไม่โหดร้ายดังเช่นที่คนอื่นกำลังแสดงออกมา เธอมองว่ามันยังมีความเป็นไปได้ อีกทั้งเธอไม่อาจทนมองชายหนุ่มตกเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่น
“ถ้าเขาชนะได้ เดี๋ยวฉันคัดลายมือชื่อตัวเองกลับด้านให้ดูเลย!”
“ได้ ถ้าเขาชนะ เดี๋ยวฉันกินรถตัวเองด้วยปากให้ดู!”
คำพูดของถังอวี่เฟย มันไม่อาจเปลี่ยนแปลงความเห็นของคนจากเมืองหลิวต่ออู๋ฝานได้ กลับกัน มันยิ่งทำให้มีการเย้ยหยันหนักข้อมากขึ้น
“พี่ถัง พอแล้ว อย่าพูดอะไรอีกเลย!”
“ใช่แล้วพี่ถัง อู๋ฝานเอาชนะไม่ได้หรอก ถ้ายังพูดอีก สุดท้ายจะยิ่งทำให้พวกเมืองหลิวหัวเราะดังขึ้นนะ”
ถังอวี่เฟยที่ยืนหยัดพูดแทนอู๋ฝานถูกกลุ่มคุณชายจากทางฝั่งเจียงโจวต่างเข้าห้ามปรามเอาไว้ พวกเขามองว่าถังอวี่เฟยกำลังหน้ามืดตามัว ทำเช่นนี้ต่อไปมีแต่จะยิ่งทำให้คนจากฝั่งเมืองหลิวเย้ยหยันพวกเขาหนักข้อมากขึ้น
ถังอวี่เฟยจ้องมองกลุ่มคนพร้อมเอ่ย “กระทั่งพวกนายก็ไม่เชื่อในตัวอู๋ฝาน? ไม่คิดจะพูดอะไรแทนเขาเลยเหรอ? พวกนายยังเป็นคนจากเจียงโจวอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากพูดแทนนายน้อยอู๋ ถ้าถึงกับต้องพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ออกมานั้น… ต่อให้พวกเราพูดออกมาจริง ผลลัพธ์ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็น พวกเรามีแต่จะยิ่งโดนเยาะเย้ยหนักมากขึ้น อาจเป็นกระทั่งการตบหน้าตัวเองด้วยซ้ำ”
“ใช่แล้วพี่ถัง เห็นชัด ๆ ว่านายน้อยอู๋สู้พวกเขาไม่ได้ พูดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”
แม้กลุ่มคนจากฝั่งเจียงโจวค่อนข้างกลัวเกรงถังอวี่เฟย แต่พวกเขาก็ไม่คิดเปลี่ยนใจบราวนี่ออนไลน์
“พวกนาย…” ถังอวี่เฟยที่เห็นท่าทีคนของตัวเองเช่นนี้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
“ไม่เป็นไรครับ อวี่เฟย ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” อู๋ฝานเข้ามาห้ามปรามถังอวี่เฟยด้วยตัวเอง
“แต่พวกเขาไม่เชื่อคุณนะคะ” ถังอวี่เฟยยังไม่ลดละความพยายาม
“เชื่อหรือไม่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นครับ เพราะแบบนั้น ก็เลยไม่สำคัญอะไรครับ” อู๋ฝานยิ้มพร้อมตอบกลับ
คนอื่นเชื่อมั่นแล้วอย่างไร ไม่เชื่อมั่นแล้วอย่างไร? มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์การแข่งขันแม้แต่น้อย
อู๋ฝานมองทางกลุ่มคนอีกครั้งพร้อมเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเดิมพันกันเรียบร้อยแล้ว เริ่มการแข่งเลยดีไหมครับ?”
“เริ่มเลย!” หานเป่าฟางมองอู๋ฝานพร้อมเอ่ยคำ “ไอ้หนู เดี๋ยวแกได้แพ้ยับเยินแน่ รอดูได้!”
“งั้นเหรอ?” อู๋ฝานตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
กลุ่มคนเริ่มนำรถของตัวเองไปยังตำแหน่งเริ่มการแข่งขัน ขณะเดียวกันหญิงสาวในชุดแข่งรถก็ปรากฏตัว พร้อมธงในมือที่โบกสะบัดอยู่ตรงหน้า รถทุกคันเริ่มส่งเสียงเครื่องยนต์กระหึ่ม มันส่งเสียงร้องประหนึ่งสัตว์ร้ายคำราม บรรดาผู้ที่มารับชมรอบด้านต่างตะโกนเสียงดังกันออกมา
“รัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยนะครับ” สายตาของอู๋ฝานจ้องผู้หญิงด้านหน้าที่กำลังจะให้สัญญาณ ส่วนปากนั้นบอกกับถังอวี่เฟยให้รีบรัดเข็มขัดนิรภัย
“เธอคนนั้นสวยและมีรูปร่างดึงดูดจนละสายตาไม่ได้เลยเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยที่นั่งข้างกายอู๋ฝานกังวลเรื่องอื่น แต่ก็ไม่พอใจเรื่องที่พูดออกมาเช่นกัน
‘เดี๋ยวสิ นี่ฉันเป็นอะไรไปกันเนี่ย แค่เขามองผู้หญิงคนอื่นทำไมจะต้องหงุดหงิดใจขนาดนี้ด้วยล่ะ?’ ถังอวี่เฟยกำลังตื่นตระหนกอยู่ในใจ
“ก็ถือว่ารูปร่างดีนะครับ” อู๋ฝานตอบกลับ การเป็นตัวแทนมาให้สัญญาณเริ่มแข่งแบบนี้ได้ก็ต้องคัดเลือกมาเป็นอย่างดีแล้ว
“เฮอะ!” ถังอวี่เฟยฮึดฮัดออกมา
อู๋ฝานมองหน้าเธอ เมื่อพบว่าสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าใดนัก เขาก็ยิ้มออกมา “อย่าเข้าใจผมผิดไปสิครับ ผมกำลังรอให้เธอคนนั้นส่งสัญญาณต่างหาก”
“ข้อแก้ตัว” ถังอวี่เฟยไม่เชื่อ “พวกผู้ชายพอเห็นผู้หญิงสวยทีไร ก็จ้องมองไม่วางตากันแบบนี้”
“ไม่ว่าเธอจะสวยแค่ไหน แต่ก็ยังเทียบคุณไม่ได้หรอกนะครับ เห็นสายตาของผมโลมเลียเรือนร่างของเธอคนนั้นหรือยังไง?” อู๋ฝานตอบกลับอย่างจนใจ
“ชมแล้วก็อย่าคิดว่าจะปล่อยผ่านนะคะ” ถังอวี่เฟยกลับมาแสดงท่าทีแง่งอน สายตาของเธอยังคงจ้องอู๋ฝาน “ก็ไม่ได้ห้ามมองหรอกนะคะ แต่อย่าให้เห็นมือขยับไปจับก็แล้วกัน”
อู๋ฝานมองใบหน้าอันงดงามของถังอวี่เฟย กับเรือนร่างที่เป็นประหนึ่งอสูรร้ายเย้ายวนจิตใจบุรุษ โฉมงามเช่นนี้เป็นภัยต่อใจของผู้คน เมื่อเธอกำลังแสดงท่าทีแง่งอนออกมา มันยิ่งทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกใจร้อนรุ่ม
อู๋ฝานที่ใจแข็งมาโดยตลอด เมื่อพบท่าทีเช่นนี้ของถังอวี่เฟย ก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนยวบลงมาบ้าง
ตอนนี้เองที่ธงในมือของหญิงสาวสะบัดลงอย่างรุนแรง ริมฝีปากของเธอเอ่ยให้เริ่มออกวิ่ง อู๋ฝานเริ่มมองการกระทำของรถคันอื่นด้วยหางตา ขณะนี้เริ่มปล่อยเท้าจากคลัตช์ พร้อมกับเหยียบคันเร่ง การเร่งรถอย่างกะทันหันและรุนแรง ทำให้ร่างของถังอวี่เฟยแทบจมลงไปกับเบาะของรถ
“ช้าค่ะ ช้ากว่านี้ค่ะ!” ถังอวี่เฟยรีบตะโกนออกมา
“นี่การแข่งขันนะครับ ถ้าช้าแล้วจะชนะได้ยังไง” อู๋ฝานหัวเราะตอบ ขณะที่สายตาจ้องมองถนน
รถซิ่งหลายสิบคันเริ่มออกตัวแทบจะพร้อมกัน เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์และจากปลายท่อ ยิ่งทำให้ผู้คนที่มาร่วมรับชมต่างรู้สึกเลือดในกายเดือดพล่าน กระทั่งอู๋ฝานเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
“ยังไงก็ชนะไม่ได้อยู่แล้วนี่คะ” ถังอวี่เฟยบ่นอุบอิบในปาก “ขับช้ากว่าก็หมายถึงปลอดภัยกว่านะคะ”
——————————
