จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 781-785

ตอนที่ 781-785

บทที่ 781 : มารวมตัวกันที่นี่ (2)
  อาจเป็นเพราะ…นางใช้ชีวิตเดียวดายมานานหลายปีและเนื่องจากนางไม่กล้าสนใจผู้ชาย นางจึงไม่อาจหยุดมอง หรือละสายตาจากเขาได้เลย
  ”นี่คือ… ”
  ”เจ้าสำนัก”จางเฟิงก้าวไปข้างหน้าสองก้าว “นางเป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของข้า วันนี้นางบังเอิญมาหาข้าพอดี ข้าคิดถึงคำสั่งของเจ้าสำนัก จึงพานางมาให้ท่านดู ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักพอใจนางหรือไม่ ?
  พอใจกระนั้นรึ?
  นางย่อมไม่พอใจแน่นอน!
  เพียงแต่เด็กหญิงมังกรอ้างว่าสตรีที่ชื่อไป๋หยานนั้นงามมากนางจึงขอให้หาคนมาแอบอ้างเป็นสาวสวยนางนั้นหากแต่ไม่เคยบอกว่าต้องการหญิงที่งดงามมากเช่นนี้
  ”เจ้าสำนัก”
  ขณะที่เล่งชิงชางกำลังขมวดคิ้วผู้คุ้มกันก็ก้าวเข้ามา พลางรีบกล่าวว่า “เด็กหญิงมังกรไม่ฟังสิ่งใดเลย นางโกรธมาก หากปล่อยให้นางอาละวาดต่อ ข้าเกรงว่านางจะทำลายสำนักมังกรฟ้าของเราหมด”
  คิ้วของเล่งชิงชางที่ขมวดอยู่พลันคลายลงนางกล่าวเบา ๆ ว่า “พาเด็กมังกรนั่นมาพบข้า บอกนางว่าผู้ที่นางกำลังตามหามาแล้ว !”
  ครั้นได้ยินเช่นนี้หมัดที่กำแน่นของไป๋หยานก็ค่อย ๆ คลายออก นางกับ ตี้คังหันมองหน้ากัน ประกายแสงสดใสปรากฏในแววตาของนาง
  ทันทีที่หลงเอ๋อปรากฏตัวข้าจะให้เฉินเอ๋อพานางออกไป แล้วข้าค่อยคิดบัญชีกับพวกเจ้า
  ”แม่นาง”เล่งชิงชางหันมามองไป๋หยาน “คาดว่าคนของสำนักมังกรฟ้าคงได้แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ แก่เจ้าแล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องบอกเด็กหญิงมังกรว่า เจ้าชื่อไป๋หยาน นอกจากนี้เจ้าต้องชักชวน เด็กหญิงมังกรให้ทำสัญญากับข้า หากเจ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ ข้าจะสมนาคุณเจ้าอย่างงาม !”
  ไป๋หยานหรี่ตาลงประกายแสงเย็นยะเยือกวาบผ่านดวงตาของนาง นางจิกมุมปากยิ้ม “ข้ารู้ว่าต้องทำเช่นไร”
  แน่นอนนางรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำเช่นไร สำนักมังกรฟ้าหลอกพาหลงเอ๋อมา ทั้งยังต้องการหาคนที่จะแอบอ้างเป็นนาง นางย่อมไม่มีทางปล่อยสำนักมังกรฟ้านี้ไว้อย่างแน่นอน
  ทว่า…
  ไป๋หยานขมวดคิ้วเล็กน้อยเกิดความสงสัยเล็กน้อยในใจของนาง
  เป็นไปไม่ได้ที่หลงเอ๋อจะไม่รู้ว่านางมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ? แล้วการที่สำนักมังกรฟ้าตามหาใครสักคนมาแอบอ้างเป็นนางจะได้ประโยชน์ใด ?
  “ในเมื่อเจ้าเข้าใจแล้วก็ดี”เล่งชิงชางพยักหน้าน้อย ๆ รู้สึกโล่งใจ
  ข้าหวังว่าวันนี้หญิงผู้นี้จะทำได้สำเร็จ เมื่อนั้นข้าก็จะสามารถพิชิตมังกรเด็กหญิงตัวนั้นได้
  ณบริเวณปากทางเข้าห้องโถงแสงแดดสาดส่องลงมากระทบร่างเล็กที่กำลังก้าวเข้ามา นางกระพริบนัยน์ตากลมโต พร้อมกับกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องโถง ที่สุดนางก็จ้องมองใบหน้าของไป๋หยาน …
  ไป๋หยานหันกลับมาอย่างช้าๆ หลังจากแลเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ปรากฏตัวเบื้องหน้าประตู ใบหน้าของนางพลันแข็งค้าง
  นั่นไม่ใช่หลงเอ๋อนี่?
  ก่อนหน้านี้นางได้ส่งรูปของหลงเอ๋อไปให้อาจารย์ทั้งสองแล้วเหตุใดพวกเขาถึงยังพลาด ? เหตุใดถึงได้มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กท่าทางแปลก ๆ ปรากฎตัวขึ้นที่นี่อีกคน ?
  ”ราชินี”
  ใบหน้าของเด็กหญิงแลดูมีความสุขนางรีบวิ่งเข้ามาหาไป๋หยานอย่างรวดเร็ว “ราชินี… คนพวกนี้ไม่ได้โกหกข้า พระองค์อยู่ที่นี่จริง ๆ”
  ราชินี?
  เล่งชิงชางตัวแข็งไปชั่วครู่หนึ่งหัวใจของนางพลันอึดอัด นางรู้สึกไม่สบายใจนัก ตกลงนางคือหญิงสาวที่สาวมังกรกำลังตามหาจริง ๆ กระนั้นหรือ ? ทั้งยังเป็นราชินีแห่งเผ่ามังกรด้วยใช่หรือไม่ ?
  ”เจ้าเป็นใคร?”
  ครั้นไป๋หยานเห็นเด็กหญิงตัวน้อยถลาเข้ามานางก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าวพลางขมวดคิ้วแน่น
  เมื่อนางไม่ใช่หลงเอ๋อเหตุใดนางถึงได้ตามหาข้า
  ”แม่นางไป๋!” สีหน้าของเล่งชิงชางเปลี่ยนไป นางรีบทักทายไป๋หยานทันที
  ทว่าไป๋หยานไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยไป๋หยานเอาแต่จ้องมองเด็กน้อยผู้ซึ่งยามนี้กำลังเกาะแข้งเกาะขา
  “ราชินีน้องหลงเอ๋อขอให้ข้ามาหาท่าน” ปากของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สั่นระริก น้ำตาของนางพลันร่วงหล่น “น้องหลงเอ๋อถูกคนเลวจับไป แท้ที่จริงคนเลวนั่นอยากจะจับตัวข้า ทว่าน้องหลงเอ๋อช่วยชีวิตข้าไว้ ราชินี…ท่านต้องไปช่วยชีวิต น้องหลงเอ๋อด้วยนะ”
  ***จบบทมารวมตัวกันที่นี่ (2)***

บทที่ 782 : มารวมตัวกันที่นี่ (3)
  สีหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนไปทันที”คนพวกนั้นจับนางไปที่ใด ?”
  ”พวกมันเป็นคนเผ่ามังกร… ”
  ”เผ่ามังกรอยู่ที่ใด? เจ้ารู้วิธีที่จะไปที่นั่นหรือไม่ ?” หัวใจของไป๋หยานเต็มไปด้วยความเคืองขุ่น ใบหน้าของนางแลดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง
  หลงเอ๋อเป็นเด็กขี้อายอีกทั้งอ่อนแอ หากไม่ได้อยู่ข้างกายนาง เด็กน้อยนั่นจะหวาดกลัวสักเพียงใด ?
  นางจะต้องหาเด็กน้อยให้พบโดยเร็วที่สุด!
  ”ข้า… ข้าเองก็ไม่รู้ … ” เด็กหญิงตัวเล็กส่ายหัวพร้อมน้ำตา “ข้าไม่รู้จะกลับไปเผ่ามังกรได้อย่างไร ?”
  ครั้นไป๋หยานแลเห็นหยาดน้ำตาในดวงตาของเด็กหญิงตัวน้อยนางจึงกล่าวคำใดไม่ออก นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองไป๋เสี่ยวเฉินพลางกล่าวว่า “เฉินเอ๋อ บอกให้ชิงอี้มาพบแม่”
  หากต้องการกลับไปที่เผ่ามังกรต้องรอให้ชิงอี้เป็นผู้นำทางให้ !
  ไป๋เสี่ยวเฉินรับคำพลางหยิบก้อนหินสื่อสารออกมากล่าวสองสามคำจากนั้นก็วางสาย
  ”หม่ามี้น้าชิงอี้กำลังมา”
  เขาไม่ได้บอกไป๋หยานว่าไม่เพียงแต่ชิงอี้ทว่าท่านตาก็จะนำคนของตนมาด้วยตัวเองเช่นกัน
  ไป๋หยานพยักหน้าเล็กน้อย”เฉินเอ๋อ เจ้าพานางออกไปก่อน”
  ”ได้”
  ไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้าเขาต้องการที่จะจับมือของเด็กหญิงตัวน้อย ทว่าเขาคิดถึงระยะห่างระหว่างชายหญิง เขาจึงหยุด
  ”อย่าร้องไห้มีหม่ามี้ของข้า หลงเอ๋อต้องปลอดภัย เจ้ากับข้าไปรอน้าชิงอี้ดีกว่า”
  ”อืม”
  เด็กหญิงตัวน้อยเช็ดน้ำตาพลางหันไปทางประตู
  เล่งชิงชางไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่ได้แล้วนางลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ทุบกำปั้นของนางลงบนเก้าอี้อย่างแรง ใบหน้าของนางเป็นสีเขียว “แม่นางเจ้าทำอย่างนี้หมายความเช่นไร ?”
  ไป๋หยานยิ้ม”ข้าต่างหากที่ต้องถามเจ้าว่า เจ้าต้องการสิ่งใดจึงให้ข้าแกล้งแอบอ้างเป็นตนเอง ?”
  เจ้าหมายถึงเรื่องใดให้เจ้าแกล้งแอบอ้างเป็นตนเองกระนั้นรึ ?
  ใบหน้าของเล่งชิงชางแข็งค้าง”เจ้าหมายถึงอะไร ?”
  ไป๋หยานไม่ตอบ
  ทันใดนั้นเล่งชิงชางก็หันไปหาจางเฟิง “ไหนเจ้าบอกว่า นางเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าไง ?”
  จางเฟิงคุกเข่าลงอย่างแรงร่างของเขาสั่นสะท้าน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองนาง
  ”บอกมาเจ้าพบหญิงผู้นี้ที่ใดกัน ?” มือของเล่งชิงชางบีบพนักเก้าอี้แน่น กระทั่งเส้นเลือดสีเขียวบนมือปูดโปน
  ”ท่านเจ้าสำนัก… ” เสียงของจางเฟิงสั่นไหวจนไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มประโยค “ข้า … ข้าพบนางที่เชิงเขา”
  ”บ้าที่สุด!”
  บูม!
  เล่งชิงชางกวาดชุดน้ำชาลงบนพื้นพลางตวาดด้วยความโกรธ “คนโง่ เจ้านำคนเหล่านี้มาที่สำนักมังกรฟ้าของเรา โดยไม่รู้แม้แต่ตัวตนที่แท้จริงของนาง ทั้งยังกล้าให้นางแกล้งเป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของเจ้าอีกกระนั้นรึ ?”
  หลังจากดุจางเฟิงแล้วเล่งชิงชางก็หันไปหาไป๋หยาน และตี้คังด้วยท่าทางเยาะเย้ย “อย่างไรก็ตาม เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่า สำนักมังกรฟ้าของเรา เป็นสถานที่ที่เจ้าคิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป ? เมื่อพวกเจ้าทั้งหมดมาที่นี่ในวันนี้ ก็อย่าคิดว่าจะได้กลับออกไป !”
  ตูม!
  เพียงไม่ช้าคนจำนวนนับไม่ถ้วนก็กระโดดลงมาจากห้องตรงเข้าโอบล้อมไป๋หยานและตี้คัง
  ”หยานเอ๋อ”นิ้วของตี้คังปัดเส้นผมดำขลับของนาง พลางยิ้มด้วยแววตาที่อ่อนโยน “ตอนนี้ให้ข้าลงมือได้หรือยัง ?”
  ไป๋หยานพยักหน้าเล็กน้อย”เจอคนแล้ว ท่านอยากทำสิ่งใดก็เชิญเถิด”
  แม้ว่าเด็กน้อยผู้นี้จะมิใช่หลงเอ๋อทว่า … การหานางพบก็ถือว่าสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว อย่างน้อยก็ได้พบที่อยู่ที่แท้จริงของหลงเอ๋อ
  แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว…
  ไป๋หยานหรี่ตาลงเล็กน้อยยิ่งนางคิดว่าหลงเอ๋อถูกคนของเผ่ามังกรจับตัวไป ความโกรธในหัวใจของนางก็ยิ่งพุ่งทวีขึ้น รอยยิ้มเยาะบนมุมปากของนางก็ยิ่งแลดูแย่ลงไปอีก
  ***จบบทมารวมตัวกันที่นี่ (3)***

บทที่ 783 : มารวมตัวกันที่นี่ (4)
  ”เช่นนั้นรอข้าก่อนนะ”
  ตี้คังก้มลงจุมพิตริมฝีปากไป๋หยานเบาๆ จากนั้นเขาก็ปล่อยมือของหญิงสาวในอ้อมแขน พลางกราดนัยน์ตาเรียวคมไปยังคนที่เหลือ
  สายลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเหนือร่างของเขาชายผู้นั้นยืนอยู่ท่ามกลางสายลมแรง ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยอาการคุกคาม ประกาศความมีอำนาจเหนือผู้คนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
  ภายใต้ความกดดันอย่างหนักหน่วงของเขามนุษย์ทุกคนที่ต้องการโจมตีเขาก็ทำได้เพียงยืนนิ่งเฉย ไม่สามารถขยับร่างกายของตนได้ พวกเขาจ้องมองชายผู้หล่อเหลางดงามที่สุดในโลกด้วยความหวาดกลัว
  “พวกเจ้ามัวตกตะลึงอะไรอยู่? ยังไม่รีบลงมืออีก ?”
  แววตาของเล่งชิงชางเต็มไปด้วยความโกรธนางตะโกนด้วยความโมโห
  หน้าผากของทุกคนเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
  มิใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะลงมือทว่า … พวกเขาไม่อาจขยับตัวทำอะไรได้ต่างหาก
  บูม!
  แรงกดดันอันหนักหน่วงของชายผู้นั้นระเบิดดังลั่นภายหลังจากเสียงดังสะท้านสะเทือน คนกลุ่มนั้นรู้สึกได้ว่าเลือดในกายของพวกเขาไหลย้อนกลับ ก่อนจะทะลุออกมาจากทวารทั้งเจ็ด พวกเขาก็ล้มลงกับพื้น และสิ้นชีวิตด้วยดวงตาเบิกกว้าง
  บางทีพวกเขาอาจไม่เข้าใจอะไรเลย แม้กระทั่งตายไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดชายผู้นี้ยังไม่เริ่มลงมือด้วยซ้ำ พวกเขาก็ตายเสียแล้ว …
  ใบหน้าที่โกรธเคืองของเล่งชิงชางเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกนางเงยหน้าขึ้นราวกับหุ่นยนต์ พลางจ้องมองชายผู้ข่มคนทั้งโลกผู้นั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสยองขวัญ และความหวาดหวั่นจับใจ
  ในที่สุดนางก็รู้ว่า แท้จริงแล้วนางกลัว นางถอยหลังไปสองสามก้าว ใบหน้าของนางซีดด้วยความหวาดกลัว
  ”เจ้าเจ้า…”
  เล่งชิงชางชี้นิ้วไปที่ตี้คังนางไม่สามารถกล่าวคำใดได้อยู่เป็นนาน
  นัยน์ตาเรียวคมของตี้คังเหลือบไปดูเล็กน้อยนัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยแววสังหารขณะมองเล่งชิงชาง
  เล่งชิงชางกลืนน้ำลายอย่างหนัก”เมื่อไม่นานมานี้ ผู้อาวุโสของสำนักมังกรฟ้าเรา เพิ่งถูกเจ้าตำหนักเซียนพยับหมอกเชิญเข้าสภาอาวุโส เขาเป็นผู้อาวุโสของสภาอาวุโสแห่งตำหนักเซียนพยับหมอก หากเจ้าทำร้ายข้า เจ้าย่อมไม่อาจหนีจากความตายได้ !”
  นับตั้งแต่การตายของอดีตเจ้าสำนักมังกรฟ้าผู้อาวุโสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเจ้าสำนักมังกรฟ้า แต่ในเมื่อเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นตำแหน่งเจ้าสำนักจึงตกลงบนหัวของนาง
  ส่วนผู้อาวุโสก็เข้าสันโดษเพื่อฝึกฝน ความต้องการของเขา คือ ฝ่าเข้าสู่ระดับซุ่นเจี่ย และเมื่อคนของเจ้าตำหนักเซียนพยับหมอกมาเยี่ยม เขาก็ขอเข้าร่วมกับสภาอาวุโสโดยไม่ลังเล
  และเพราะความสัมพันธ์เช่นนี้จึงทำให้สำนักมังกรฟ้ามีฐานะสูงขึ้น ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะยั่วยุพวกเขา แม้ว่าสำนักของพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก …
  ”ผู้อาวุโสแห่งสำนักมังกรฟ้ากลายเป็นผู้อาวุโสของตำหนักเซียนพยับหมอกแล้วกระนั้นหรือ?” ไป๋หยานค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้า พลางยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย “เช่นนั้นเจ้าก็เรียกเขามา ข้าอยากเห็นหน้า ผู้อาวุโสในสภาอาวุโสตำหนักเซียนพยับหมอกที่เจ้ากล่าวถึงคนนั้น”
  เล่งชิงชางยิ้มเยาะเย้ยหญิงผู้นี้พูดราวกับว่านางเคยพบผู้อาวุโสของตำหนักเซียนพยับหมอกมาก่อน
  ”คิดจะพบผู้อาวุโสไม่ใช่อยากพบก็พบได้เขา … ”
  เปรี้ยง!
  ทันทีที่คำกล่าวของนางจบลงการจู่โจมก็เกิดขึ้นทันที ร่างของนางพลันลอยไปข้างหลังเลือดกลบเต็มปาก ก่อนจะตกลงบนพื้นด้วยความอับอาย
  ในขณะเดียวกันเท้าของไป๋หยานก็ตามลงมาเหยียบหน้าอกของนางอย่างหนัก
  “ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย !” ไป๋หยานเชิดคางของนางขึ้นเล็กน้อย พลางกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษของข้าแล้ว ! เจ้าควรต้องตระหนักว่าตนเองเป็นนักโทษ !”
  ก่อนที่ชิงอี้จะมาถึงนางมีเวลาเหลือเฟือที่จะคิดบัญชีกับหญิงผู้นี้ !
  อันดับแรกหญิงผู้นี้ลักพาเด็กหญิงของเผ่ามังกรซึ่งเป็นผู้นำข่าวสารของหลงเอ๋อมา ทำให้นางเกือบพลาดข่าวสารของหลงเอ๋อไป แล้วยังหาคนมาปลอมตัวเป็นนาง ! กล้าดียังไงมาแอบอ้างชื่อนาง ?
  เช่นนั้นนางจะปล่อยสำนักมังกรฟ้านี้ไว้ได้อย่างไร?
  ฟุ่บ!
  เล่งชิงชางกระอักเลือดออกมานางต้องการที่จะต่อสู้ ทว่าก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่านางไม่สามารถรวบรวมความแข็งแกร่งในกายตนได้เลย แม้แต่พลังที่จะใช้ยกมือของตนเองก็ยังไม่มี …
  ถึงตอนนี้ที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดลูกน้องของนางจึงไม่สามารถทำอะไรคนทั้งสองได้
  พวกเขาสามารถกักขังพลังแท้จริงของฝ่ายตรงข้ามได้คนพวกนี้ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ช่างน่ากลัวจริง ๆ …
  ***จบบทมารวมตัวกันที่นี่ (4)***

บทที่ 784 : มารวมตัวกันที่นี่ (5)
  ไป๋หยานเชิดริมฝีปากของนางขึ้นน้อยๆ พลางเหยียบลงบนเท้าของเล่งชิงชางอีกครั้ง จากนั้นก็ออกแรงขยี้ เอ่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าให้โอกาสเจ้าเรียกผู้อาวุโสของเจ้ามาช่วยแล้วนะ ทว่าเจ้าไม่ยอมใช้โอกาสนั้น เช่นนั้น … ”
  ในขณะที่ถ้อยคำของไป๋หยานหลุดออกมาเสียงมังกรคำรามจากอากาศที่ว่างเปล่าพลันดังขึ้น เสียงนั้นสั่นสะเทือนทั่วพื้นดิน ถึงขั้นทำให้สำนักทั้งสำนักระส่ำระส่าย
  เหล่าศิษย์สำนักมังกรฟ้าแอบวิ่งออกไปดูมังกรที่บินอยู่ในอากาศด้วยความตกใจต่างก็กลืนน้ำลายลงคออย่างแรง
  ”มังกร… จะมีมังกรได้อย่างไร ? หรือเป็นเพราะมังกรน้อยที่ถูกเจ้าสำนักนำกลับมา ทำให้มังกรตัวนี้มาที่นี่ เพื่อตามหาเด็กหญิงมังกร ?”
  “ช้าก่อนมังกรนั่นจับคนมาด้วย มีคนติดอยู่ในกรงเล็บของมัน คนผู้นั้นคืออาวุโสหวู่นี่ …
  อาวุโสหวู่กระนั้นรึ?
  เสียงจากข้างนอกดังเข้ามาในห้องโถง นัยน์ตาสีซีดของเล่งชิงชางพลันเบิกบานขึ้นมาอย่างกระทันหัน นางร้องไห้ออกมาด้วยความประหลาดใจ “ผู้อาวุโสหวู่เฮ่า ช่วยข้าด้วย !”
  ผู้อาวุโสหวู่เฮ่ามาถึงที่นี่แล้ว เขาต้องช่วยนางแน่ นางรอดแล้ว !
  ทว่าความปลื้มปิติของเล่งชิงชางก็คงอยู่ได้ไม่นานนักมีพลังบางอย่างมาจากบนท้องฟ้ายกหลังคาห้องโถงของนางขึ้น
  ยามนี้เล่งชิงชางพลันแหงนหน้ามองมังกรบนท้องฟ้า
  บนหลังของมังกรมีคนสองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเรียวคมราวดาบ นัยน์ตาแวววาวราวดวงดารา ส่วนอีกคนเป็นเด็กสาวที่สวยงามมาก นัยน์ตากลมโตคู่นั้นผสมกับรอยยิ้มน่ารักยิ่ง
  แน่นอนว่าเล่งชิงชางไม่สนใจคนทั้งสองเลย นับตั้งแต่ตอนที่มังกรปรากฏตัว สายตาของนางก็ถูกตรึงไว้ที่ชายชราผู้ซึ่งอยู่ในอุ้งเท้าของมังกร …
  นางไม่สนใจด้วยซ้ำว่าชายชรากำลังอยู่ในกรงเล็บมังกรหัวใจของนางเต็มไปด้วยความปิติยินดี นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
  ผู้อาวุโสหวู่เฮ่าไม่เพียงแต่กลับมาทว่ายังนำมังกรกลับมาด้วย !
  ครั้งนี้นางไม่เพียงแต่รอดชีวิตหากแต่ยังช่วยสั่งสอนพวกลูกไม่พ่อเหล่านี้ให้รู้ดีรู้ชั่วด้วย !
  ทว่า…
  เมื่อผู้อาวุโสหวู่เฮ่าเห็นเล่งชิงชางซึ่งถูกไป๋หยานเหยียบไว้ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีดำทันที เขาหัวเราะพลางกล่าวว่า “ท่านจ้าวมังกรฟ้า ท่านช่วยปล่อยข้าลงก่อนจะได้หรือไม่ ?”
  ”ฮึ”
  มังกรพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาดวงตาสีทองของมันเต็มไปด้วยความรังเกียจ
  หากมิใช่เพื่อมาพบราชินีโดยเร็วที่สุดเขาจะไม่ยอมรับมนุษย์ผู้นี้มาด้วยเป็นแน่
  เช่นนั้นหลงเทียนจึงไม่ปล่อยหวู่เฮ่าลงจากอากาศว่างเปล่าอย่างนุ่มนวลนัก หวู่เฮ่าค่อย ๆ ตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้า ๆ ก่อนจะลงไปนอนกลิ้งบนพื้น
  ”เจ้าตำหนักน้อยองค์หญิงน้อย ค่อย ๆ ลงช้า ๆ ระวังตก”
  เมื่อหันไปเผชิญหน้ากับคนทั้งสองที่กำลังขี่อยู่บนหัวของเขาน้ำเสียงของหลงเทียนพลันเปลี่ยนไปเป็นเคารพและสุภาพ เขาวางหัวลงใกล้กับพื้นเพื่อให้ทั้งคู่ลงมาได้อย่าง่าย ๆ
  ตี้เสี่ยวอวิ๋นเป็นองค์หญิงแห่งแดนปีศาจส่วนเหวินหยุนเฟิงก็เป็นบิดาของราชินี เช่นนั้นจึงนับเป็นเกียรติแก่เขาที่ได้เป็นพาหนะให้ทั้งคู่เดินทาง
  สำหรับมนุษย์เช่นหวู่เฮ่ายังห่างไกลจากคุณสมบัติเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงใช้กรงเล็บอุ้มมาตลอดทาง และความเร็วของหลงเทียนก็เร็วมากซึ่งทำให้สมองของหวู่เฮ่าสับสน เขาเวียนหัว เส้นผมสีขาวของเขายุ่งเหยิง
  ”แค่กๆ !” เล่งชิงชางไอ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาอีก นางกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “อาวุโสหวู่เฮ่า ความแข็งแกร่งของชายผู้นี้ไม่ธรรมดา ท่านร่วมมือกับมังกรของท่านสังหารเขาเสียเถอะ !”
  ในฐานะเจ้าสำนักมังกรฟ้าเล่งชิงชางคุ้นเคยกับการออกคำสั่ง ไม่ต้องพูดถึงว่า ตอนนี้นางกำลังตาบอดด้วยความโกรธ ไม่สามารถคิดได้เลยว่า เหตุใดหวู่เฮ่าจึงถูกมังกรใช้กรงเล็บอุ้มมาตลอดการเดินทาง
  “โอหังยิ่งนัก!” หวู่เฮ่าโกรธมาก “เล่งชิงชาง เจ้าช่างกล้านะ หากข้ารู้ว่าเจ้าจะนำสำนักมังกรฟ้ามาจนถึงจุดนี้ ไม่มีทางเลยที่ข้าจะมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้แก่เจ้า !”
  ***จบบทมารวมตัวกันที่นี่ (5)***

บทที่ 785 : มารวมตัวกันที่นี่ (6)
  หัวของเล่งชิงชางแทบระเบิดนางมองหวู่เฮ่า อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนว่านางไม่เข้าใจความหมายที่เขาเอ่ยกล่าว
  ยามนี้ร่างของหลงเทียนพลันเปล่งประกายแสงไฟวูบวาบเพียงเสี้ยวนาที บุรุษในชุดเสื้อคลุมสีทองพลันปรากฏตัวขึ้นในลาน
  ชายผู้นี้หล่อเหลามากแต่ครั้นยืนอยู่เบื้องหน้าตี้คัง ความหล่อของเขาก็ถูกบดบังไป
  ”หลงเทียนผู้นำเผ่ามังกร ขอคารวะองค์ราชาและราชินี”
  เขาปัดแขนเสื้อยาวๆ ของเขาตามมารยาทการแสดงความเคารพขั้นสูงสุดของแดนอสูร
  ใบหน้าของเล่งชิงชางแข็งค้างขึ้นอีกครั้งลิ้นของนางสั่นระรัว “ผู้อาวุโสหวู่เฮ่า นี่มันเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่ ?
  พวกเขาเป็นสำนักมังกรฟ้าพวกเขาสามารถทำให้มังกรเชื่องได้มิใช่รึ ?
  ”หุบปาก!” หวู่เฮ่าโกรธ “เป็นเพราะเจ้าที่ทำให้สำนักมังกรฟ้าไม่อาจดำรงอยู่ได้อีกต่อไป !”
  เจ้าตำหนักน้อยรักบุตรสาวที่เพิ่งพบกันเป็นอย่างมากไม่มีผู้ใดในตำหนักเซียนพยับหมอกไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ผู้คนในสำนักมังกรฟ้าได้ทำให้นางขุ่นเคือง เช่นนั้นเจ้าตำหนักน้อยย่อมจะไม่ให้อภัยสำนักมังกรฟ้าของเรา”
  เมื่อเล่งชิงชางยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นถ้อยคำที่เหมือนแส้ก็หวดหนัก ๆ ลงมาที่ใจอันว่างเปล่าของเล่งชิงชาง
  ”บุตรสาวของข้าเหวินหยุนเฟิง ต้องมาตกที่นั่งลำบาก ถูกสำนักมังกรฟ้ารังแก ข้าได้ยินมาว่าเจ้าต้องการให้ใครบางคนปลอมตัวเป็นนางด้วยใช่หรือไม่ ?”
  บุตรสาวของเหวินหยุนเฟิงถูกสำนักมังกรฟ้ารังแกเมื่อใดกัน?
  ชายผู้นี้คือเจ้าตำหนักน้อยที่นอนป่วยอยู่บนเตียงมาเป็นเวลานานงั้นรึ?
  หากแต่นางไม่เคยได้ยินว่าเหวินหยุนเฟิงมีบุตรสาวมาก่อนเลย
  ”หยานเอ๋อตี้คัง” เหวินหยุนเฟิงกวาดสายตาของเขาจากเล่งชิงชาง แล้วไปจ้องมองที่คู่ของไป๋หยาน เอ่ยกล่าวเบา ๆ ว่า “ท่านตาของเจ้า บอกให้ข้าพาคนมาช่วยเจ้า ทว่าคนเหล่านั้นยังไม่มาถึง หากเจ้ามีสิ่งใด เจ้าก็ไปจัดการก่อนได้ ข้าจะจัดการทางนี้เอง มังกรเขียวกับพวกของนางกำลังรอพวกเจ้าอยู่ด้านนอก … ”
  ไป๋หยานพยักหน้าเล็กน้อยพลางมองตี้คัง
  ”ตี้คังเราไปก่อนกันก่อนเถอะ”
  ”พี่สะใภ้!”
  ครั้นตี้เสี่ยวอวิ๋นเห็นว่าไป๋หยานกำลังจะจากไปนางก็รีบวิ่งตามไปทันที “รอข้าก่อน ข้าจะไปกับพี่ด้วย”
  ขณะที่ถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกมาร่างทั้งสองก็หายไปแล้ว
  ทว่าหวู่เฮ่ายังไม่มีเวลาได้ผ่อนคลายทันใดนั้นเปลวไฟที่ร้อนแรงก็พวยพุ่งออกมาต่อหน้าเขาเข้าหาเล่งชิงชาง …
  ”อ๊าก!”
  ภายในกองไฟนั้นมีเสียงร้องครวญครางน่าสยดสยองมีศิษย์สำนักมังกรฟ้า หลายคนปรากฎกายขึ้น ทว่าไม่มีผู้ใดช่วยเล่งชิงชางเลย
  อย่างไรเสียหญิงผู้นี้ก็คือบุตรสาวของเหวินหยุนเฟิง ผู้อาวุโสหวู่เฮ่าจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก คนอื่น ๆ ก็เป็นเพียงศิษย์ตัวเล็ก ๆ พวกเขาจะช่วยเจ้าสำนักได้อย่างไร ?
  ”จ้าวมังกร”เหวินหยุนเฟิงหันไปมองหลงเทียน “เมื่อครู่ ท่านบอกว่ามีบางอย่างต้องจัดการกับสำนักมังกรฟ้า เช่นนั้นเมื่อกิจของท่านจบลงแล้ว ข้าค่อยคิดบัญชีกับสำนักมังกรฟ้า”
  หลงเทียนหรี่ตาลงริมฝีปากของเขาเหยียดเยาะ ขณะจ้องมองผู้คนโดยรอบ
  แววตาของเขาไม่ต่างจากเข็มเงินทิ่มแทงทุกคน ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจราวมีเข็มปักอยู่บนหลัง
  ”ข้าได้ยินมานานแล้วว่าผู้คนในสำนักมังกรฟ้าสร้างข่าวลือไปทั่วทุกหนทุกแห่งว่า เจ้าสำนักคนแรกของสำนักมังกรฟ้าปราบจ้าวมังกรฟ้ามาเป็นข้ารับใช้ เช่นนั้นจึงตั้งชื่อว่า สำนักมังกรฟ้า”
  เหล่าศิษย์ตกตะลึงหากแต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจความหมายในคำกล่าวของหลงเทียน
  ครั้นเห็นปฏิกิริยาของคนเหล่านั้นแล้วหลงเทียนก็รู้ว่าข่าวลือเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง ฉับพลันการแสดงออกของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ เขาหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง และประชดประชัน
  ”เอาล่ะเยี่ยม เยี่ยมมาก ให้โม่เฟยลี่มาพบข้า !”
  โม่เฟยลี่กระนั้นรึ?
  นัยน์ตาของผู้อาวุโสหวู่เฮ่าเบิกกว้าง”จ้าวมังกร ปรมาจารย์ ท่านสิ้นชีพไป… เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว”
  ***จบบทมารวมตัวกันที่นี่ (6)***

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท