บทที่ 179 ครอบครัวอบอุ่น
ต้นฤดูใบไม้ร่วงแสงแดดยังคงแผดเผา ลมอ่อน ๆ ห่อหุ้มความเย็นสบาย แม้จะเดินใต้แสงอาทิตย์ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนอบอ้าวเช่นฤดูร้อน
พวกเด็ก ๆ เบื่อที่จะอยู่ในรถม้าแล้ว ต่างยื่นมือออกไปให้บรรดาท่านอาทหารม้าของกองทัพทหารเกราะเหล็กอุ้มและอยากขี่ม้าตัวใหญ่ แต่ละคนดีใจจนร้องตะโกนออกมา
มีเพียงเผยจี้ฉือเท่านั้นที่ยังทนนั่งอยู่ในรถม้า วางมาดเคร่งขรึมไม่เหมือนเด็กหนุ่มเลยสักนิดเดียว
หลังออกมาจากเมืองหลวง ความเร็วของกองทหารขนาดใหญ่ก็ช้าลง พวกเขาไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้านหรือตำบลเล็ก ๆ แต่เลือกใช้ถนนหลวงแทน จี้จือฮวนให้พวกท่านป้านำเงินไปซื้อไข่และผักสดจากชาวไร่ชาวนา ส่วนเนื้อนั้นไม่ต้อง แค่บอกทหารม้าของกองทัพทหารเกราะเหล็ก พวกเขาก็แบ่งกองหน้าออกเป็นสองกลุ่มทันที โอบล้อมสองด้านของภูเขาแล้วล่าสัตว์ป่ากลับมาได้ไม่น้อย
มีทั้งสัตว์ในแม่น้ำ ที่บินบนท้องฟ้า และที่วิ่งอยู่ในป่า
มีพอให้กินจนถึงหมู่บ้านตระกูลเฉินแล้ว
เมื่อเจอพื้นที่โล่งพวกเขาก็วางแผนที่จะพักผ่อน
คืนนี้ต้องค้างแรมที่นี่กันก่อน พรุ่งนี้จึงจะสามารถกลับหมู่บ้านตระกูลเฉินได้
ในตอนเที่ยงทุกคนกินของที่นำกลับมาจากเมืองหลวง พอตกกลางคืนจึงต้องกินอาหารร้อน ๆ สักมื้อ
เมื่อตั้งเตาหินง่าย ๆ เสร็จแล้ว พวกท่านป้าก็ไปล้างผักและเนื้อที่แม่น้ำ พวกเด็ก ๆ ได้เห็นกองทัพทหารเกราะเหล็กก็ตื่นเต้น จึงเอาแต่วิ่งวนอยู่รอบตัวพวกเขา
จี้จือฮวนจัดการสัตว์ป่าทั้งหมดที่พวกเขาล่ามา ก่อนจะทาด้วยน้ำปรุงรส
และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเตรียมอาหารสำหรับคนเยอะ ๆ ดังนั้นจี้จือฮวนจึงเลือกทำแกะย่างทั้งตัว กระต่ายผัดเผ็ด ไก่หม้อดิน เห็ดผัดกินกับแป้งอบ เพิ่มด้วยเนื้อหั่นเต๋าตุ๋น มีกลิ่นหอมเป็นอย่างมาก พวกผู้ชายกินกันจนเหงื่อออกเต็มหน้า ในใจก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา
น่าเสียดายที่ทุกคนไม่ได้เอาเหล้ามาด้วย ไม่อย่างนั้นคืนนี้จะได้ฉลองกัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน ดังนั้นจึงไม่มีกระโจมหรืออะไรเลย พวกผู้ชายจึงนอนเบียด ๆ กันอยู่ด้านนอกเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ส่วนผู้หญิงและเด็กก็นอนในรถม้า
หลังจากจี้จือฮวนพาเด็ก ๆ เข้านอนแล้ว นางกลับนอนไม่หลับ จึงเปิดม่านประตูรถม้าและออกมาด้านนอก ก็เห็นเผยยวนยืนอยู่ริมแม่น้ำคนเดียว
นางจึงหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินไปที่ข้างกายเขา
“เหตุใดถึงยังไม่นอน?”
เผยยวนได้สติขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นนางความเย็นชาในดวงตาก็พลันหายไป
“ไม่มีอะไร เพียงแต่มีบางคนไม่อยู่แล้ว สรรพสิ่งยังเหมือนเดิม แต่คนเปลี่ยนไป ก็เลยรู้สึกเศร้าใจ”
กองทัพทหารเกราะเหล็กทุกคนล้วนเป็นสหายร่วมรบของเขา เป็นมิตรภาพที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้ เกินกว่าญาติมิตรและความรักไปมากแล้ว
จี้จือฮวนนั่งลงข้างกายเขา “ข้าเคยอยู่ในสังกัดของกลุ่มเหยี่ยวราตรี แต่ต่อมากลับเหลือข้าแค่คนเดียว”
จี้จือฮวนหยิบก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง และปาไปบนผิวน้ำ
“พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เข้ากองกำลังครั้งแรก ตั้งแต่ไม่รู้จักกันจนเริ่มคุ้นเคย ฝึกฝนจนรู้ใจกัน แค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร พวกเราไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน มีเพียงกันและกันในโลกอันกว้างใหญ่ และไม่มีใครเลยที่รู้จักเรา พวกเราซ่อนตัวอยู่ในความมืดแต่กลับโหยหาแสงสว่าง นี่คือหน้าที่ของเราในฐานะสายลับ ข้าเข้าใจความรู้สึกผิดและความโศกเศร้าของเจ้าดี เจ้ากำลังเจ็บปวดที่พวกเขาสมควรได้รับการยกย่อง แต่กลับต้องมาตายเพราะแผนชั่วเช่นนี้
ดังนั้นเผยยวน เจ้ายิ่งต้องมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเขา นำความภาคภูมิใจของพวกเขากลับคืนมา รวมถึงดินแดนที่พวกเขาสละชีวิตเพื่อปกป้องมัน”
ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของเผยยวนถูกเติมเต็มและถูกอัดแน่นอย่างสมบูรณ์ อารมณ์บางอย่างยังคงไหลบ่าออกมาและไม่สามารถยับยั้งได้
เขาจ้องมองนางอย่างลึกซึ้งอยู่เช่นนั้น มองเห็นตัวเขาเองที่ตกอยู่ในความรู้สึกผิดจากดวงตาของนาง
ราวกับเวลาหยุดนิ่ง พวกเขาเหมือนหมาป่าโดดเดี่ยวที่บาดเจ็บสองตัวกำลังเลียบาดแผลให้กันและกัน ไม่มีใครสามารถเข้าใจพวกเขาได้ดีกว่าพวกเขาอีกแล้ว
วีรบุรุษไร้นามล้วนอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของโลกเสมอ เสียสละอย่างเงียบ ๆ เป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ บางทีพวกเขาอาจเดินผ่านข้างกายของเราไป แต่ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เอาไว้เลย
เมื่อสวมเครื่องแบบทหารแล้ว ความรับผิดชอบและภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ล้วนเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า
“ข้าจะทำ” เผยยวนสัญญาหนักแน่น
“ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพฆ่าเลยขอรับ! ฆ่า!”
“โอ๊ย เลิกละเมอได้แล้ว เจ้ากรนเสียงดังจะตายอยู่แล้ว” เสียงทะเลาะกันของเหล่าทหารดึงความสนใจของทั้งสองคน จี้จือฮวนยิ้มสดใสออกมาอย่างเห็นได้ยาก และกระแทกหัวใจของเผยยวนอย่างจัง
คืนนี้จี้จือฮวนนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำเป็นเพื่อนเขา
ทั้งสองคนพูดคุยกันหลายเรื่อง จี้จือฮวนคุยกับเขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหารในยุคปัจจุบัน เล่าให้เขาฟังว่าโลกทางนั้นเป็นเช่นไรบ้าง
เผยยวนรู้สึกว่าทุกอย่างล้วนอยู่เหนือจินตนาการของเขา
“เรือสามารถขับใต้น้ำได้อย่างนั้นหรือ?”
“บินบนท้องฟ้า ไม่ได้ใช้วิชาตัวเบา แต่เป็นเครื่องยนต์ ภายในเครื่องบินยังมีระเบิดที่สามารถทิ้งลงมาจากทางอากาศได้?”
เผยยวนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง “เจ้าคุ้นเคยกับพวกเราที่นี่ แต่ข้ากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกของเจ้าเลย”
“เพราะข้ามาจากโลกอีกใบ ที่นั่นอยู่ห่างจากที่นี่ บางทีอาจจะผ่านไปแล้วเป็นพันปี พวกเรามีตำราและเอกสารมากมายสำหรับทำความเข้าใจพวกเจ้า เจ้าลองจินตนาการดูก็ได้ว่าพวกเราต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ ทุกคนถักทอประวัติศาสตร์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ของเจ้าหรือประสบการณ์ของข้าก็ตาม ทุกสิ่งก็เพื่อสื่อให้เข้าใจซึ่งกันและกัน”
“หากมีโอกาสข้าอยากไปดูโลกของพวกเจ้า ไปเรียนรู้เกี่ยวกับการชำระเงินผ่านมือถือ เครื่องบิน และเรือดำน้ำที่เจ้าพูดถึง และเรียนรู้เกี่ยวกับกองกำลังของพวกเจ้า”
“อืม”
จี้จือฮวนได้ยินการเคลื่อนไหวในรถม้า คาดว่าเป็นอาชิงต้องการลุกมาฉี่ตอนกลางคืน จี้จือฮวนและเผยยวนจึงลุกขึ้นพร้อมกัน มือจึงเท้าลงที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน เมื่อเงยหน้าขึ้นเผยยวนก็ดันตัวเตรียมที่จะลุกขึ้น ริมฝีปากของจี้จือฮวนจึงปัดผ่านที่แก้มของเขาพอดี
ทั้งสองคนต่างก็ชะงักไป
หูของเผยยวนแดงเรื่อขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของเขาตกใจเป็นอย่างมาก ในใจก็ตื่นตระหนกไปหมด
เขาจะแสร้งทำเป็นรู้หรือไม่รู้ดี?
จี้จือฮวนก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยเช่นกัน นางไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อเห็นหูของเขาแดงจนเลือดแทบจะไหลออกมา จี้จือฮวนจึงอ้าปากเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่เผยยวนกลับทิ้งคำพูดไว้หนึ่งประโยค และเดินไปที่รถม้าอย่างรวดเร็ว
จี้จือฮวนจ้องมองแผ่นหลังของเขานิ่งงัน พลางกะพริบตาปริบ ๆ
เมื่อครู่เขาพูดว่าอะไรกัน?
“เจ้าต้องรับผิดชอบข้า พวกเราคนพันปีก่อน ยอมรับแค่คนเดียว ชีวิตนี้ก็คือเจ้า”
จี้จือฮวนคลึงหว่างคิ้วเล็กน้อย เอ่อ…ถูกเขาใช้เป็นข้ออ้างเข้าแล้วหรือนี่
อาชิงปวดฉี่จริง ๆ และกำลังจะปลุกคนอื่น ๆ ในรถม้าอยู่พอดี แต่ถูกเผยยวนดึงตัวออกมาเสียก่อน และพาไปฉี่ในพงหญ้า
อาชิงน้อยหาวไปพลางฉี่ไปพลาง จนเกือบฉี่โดนเท้าของตัวเอง
เผยยวนมองดูเจ้าลูกชายซื่อบื้อผู้นี้ก็อยากจะหัวเราะออกมา จึงจับจุกน้อย ๆ ของเขาและเอ่ยขึ้น “ฉี่รดขึ้นมาพรุ่งนี้ก็ต้องเปลือยก้นนั่งรถม้า ถึงเวลาพวกเสี่ยวฮุยจะหัวเราะเจ้าเอานะ”
ไม่รู้ว่าอาชิงได้ยินหรือไม่ หัวเล็ก ๆ ผงกหงึก ๆ ปากก็พึมพำออกมา “ขี่ม้า อาชิงก็จะขี่ม้าด้วย!”
เผยยวนดึงกางเกงของเขาขึ้น อาชิงขยี้ตาก่อนจะหาวและเอ่ยออกมา “ท่านพ่อ ข้าไม่เอาช้างน้อยแล้วได้หรือไม่ขอรับ มันชอบฉี่ตอนข้านอนหลับอยู่เรื่อย”
“ไม่มีมันแล้วเจ้าจะใช้อะไรฉี่เล่า? เช่นนั้นจะไม่อึดอัดตายหรือ” เผยยวนหัวเราะอย่างหนัก
อาชิงมุ่ยปาก “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะทนมันอีกหน่อยก็ได้ขอรับ”
เผยยวนเลิกคิ้วขึ้น “สิ่งนี้ไม่สามารถให้ใครส่งเดชได้ ภายภาคหน้าเจ้ายังอยากเป็นพ่อคนหรือไม่?”
อาชิงพยักหน้ารับอย่างหนักแน่นแล้วเอ่ยขึ้นมา “อยากอยู่แล้วขอรับ ต่อไปข้าจะขอท่านแม่แต่งงาน มีอาชิงน้อยกับท่านแม่หลาย ๆ คน”
เผยยวนหมดคำจะพูด นั่นภรรยาของข้านะ!!! เจ้าลูกอกตัญญูนี่!