บทที่ 198 วันหน้าเจ้ามีข้า
อีกด้านหนึ่ง เผยยวนกำลังนำเหล่าทหารวิ่งรอบหมู่บ้านโดยแบกน้ำหนักไปด้วย วิ่งไปได้ครึ่งทางเขาก็รู้สึกกระสับกระส่าย และมองไปที่บ้านบนเนินเขาครู่หนึ่ง
“ท่านแม่ทัพ มีอะไรหรือขอรับ?”
เผยยวนขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะกลับบ้านก่อน เจ้าพาพวกเขาวิ่งอีกสิบรอบแล้วกลับไปพักผ่อนได้”
“ขอรับ”
เมื่อเห็นเผยยวนจากไปไกลแล้ว หลายคนจึงเริ่มพูดคุยกัน
“ท่านแม่ทัพใจลอยตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านหรือไม่?”
“อย่าปากเสีย มีฮูหยินอยู่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ คงจะคิดถึงฮูหยินกระมัง”
…
จี้จือฮวนหยิบยาแก้ฟกช้ำออกมาจากกล่องยาน้อย แล้วปิดประตูห้องลง
ตอนที่เผยยวนกลับมา พวกเด็ก ๆ ก็ออกมารับลมพอดี เมื่อเห็นเขาก็พากันกรูเข้ามาหา
“ท่านแม่ทัพ ๆ ท่านกลับมาแล้วหรือขอรับ?”
“วันนี้พวกเราเรียนตัวอักษรด้วยขอรับ”
“ท่านแม่ทัพ พวกท่านไม่ไปรบหรือขอรับ? พาข้าไปรบด้วยได้หรือไม่ขอรับ”
อาอินจึงไล่พวกเขาไป ก่อนจะดึงเผยยวนมาแล้วเงยหน้าขึ้น พลางบอกเขา “ท่านพ่อ เมื่อครู่ท่านแม่กลับมาแล้ว แต่ว่าหลบเข้าไปในห้อง ท่านไปดูนางหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”
เผยยวนกำลังจะถามว่าจี้จือฮวนกลับมาจากภูเขาด้านหลังหรือยัง เมื่อเช้านางบอกว่าจะไปสำรวจทะเลสาบน้ำเค็ม เขาบอกว่าจะไปเป็นเพื่อนนาง แต่นางก็ไม่ยอมและไล่เขากลับมา หนังตาของเขากระตุกตลอดตั้งแต่เช้า รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อได้ยินอาอินเอ่ยเช่นนี้ก็นั่งไม่ติดอีก
“ข้าขอไปดูนางก่อน เจ้าไปเล่นเถอะ”
เผยยวนเดินผ่านอาอินไปที่ห้องใหญ่ กล่องยาน้อยถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะน้ำชาหน้าประตูอย่างโดดเดี่ยว เมื่อเห็นเผยยวนกล่องยาน้อยก็รีบเปิดฝาออก
เผยยวนเห็นกระดาษในกล่องยานั่นเขียนเอาไว้ว่า ฮวนฮวนได้รับบาดเจ็บมา
ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไปทันที
จี้จือฮวนกำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหวก็รีบดึงเสื้อผ้าขึ้น ก่อนจะเห็นเผยยวนยืนขมวดคิ้วอยู่ที่หน้าประตู
“เหตุใดถึงบาดเจ็บได้? บาดเจ็บที่ใดกัน?” เผยยวนปิดประตูลง น้ำเสียงก็อดไม่ได้ที่จะเข้มขึ้นเล็กน้อย
การได้รับบาดเจ็บถือเป็นเรื่องปกติสำหรับจี้จือฮวน ยิ่งไปกว่านั้นก็มีเพียงรอยฟกช้ำและรอยขีดข่วนเท่านั้น ไม่ได้มีเลือดออกแต่อย่างใด “พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งก็เลยลงมือ แต่น่าเสียดายที่คนหนีไปได้”
เผยยวนมองไปที่ยาที่วางอยู่ตรงมุมห้อง จากนั้นก็มองไปที่ร่างบอบบางของนาง “ข้าขอดูหน่อย”
จี้จือฮวนเองก็ไม่ได้เล่นตัวแต่อย่างใด นางดึงเสื้อลงมาถึงไหล่ เผยให้เห็นไหล่ที่กลมกลึงสวยงาม
เผยยวนมองไปที่รอยถลอกและรอยฝ่ามือบนนั้น “เหตุใดเจ้าถึงไปเจอฝ่ามือเหล็กหานฉีได้?”
“ข้าจะฆ่าเซี่ยหยาง” จี้จือฮวนเองก็ไม่ได้ปิดบัง และเล่าเรื่องบนเขาให้เขาฟัง
“เซี่ยหยางอาจถูกคนลอบสังหารตอนที่เขาออกตามหาอาฉื่อน่าหลู่ ดังนั้นเขาจึงหนีไปซ่อนตัวที่ภูเขาด้านหลังหมู่บ้านตระกูลเฉิน ส่วนหานฉีผู้นั้นคาดว่าคงมาตามหาเซี่ยหยางจึงมาปรากฏตัวที่นี่”
“เขาเป็นยอดฝีมือของจวนอัครมหาเสนาบดีหาน เจ้าไม่มีพื้นฐานกำลังภายใน สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว” เมื่อเผยยวนคิดว่าหากจี้จือฮวนเป็นอะไรไป เกรงว่าเขาคงจะทำเรื่องที่แม้แต่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึงก็เป็นได้
เผยยวนถูฝ่ามือไปมาจนร้อน จากนั้นก็นวดยาไปบนบ่าของนาง “อดทนหน่อย อาจจะเจ็บนิดหน่อย”
จี้จือฮวนปล่อยให้เขานวดโดยไม่พูดอะไร การเคลื่อนไหวของมือเผยยวนชะงักไปเล็กน้อย เขาใส่ยาให้นางเงียบ ๆ จนเสร็จแล้วจึงสวมเสื้อผ้ากลับให้นางจากทางด้านหลัง
จี้จือฮวนเตรียมที่จะลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกเผยยวนกอดไว้แน่นจากทางด้านหลัง
“เจ้าสามารถพึ่งพาข้าได้ ไม่ต้องแบกรับทั้งหมดเอาไว้เอง เจ็บก็สามารถพูดออกมาได้ ตอนนี้เจ้ามีข้า มีคนทั้งบ้านที่เป็นห่วงเจ้า รักเจ้า การที่เจ้าจะฆ่าเซี่ยหยางก็เพื่อพวกเรา พวกเราก็สามารถบุกน้ำลุยไฟเพื่อเจ้าได้เช่นกัน”
แสงตะวันส่องลงมาที่หน้าต่าง เมื่อจี้จือฮวนได้ยินประโยคนี้ ขนตาของนางก็สั่นไหวเล็กน้อย
“ไม่เคยมีใครบอกข้าว่าไม่ต้องแบกรับมันไว้คนเดียวมาก่อน เผยยวน ขอบใจมากนะ”
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่กอดนางแน่นขึ้น รู้สึกถึงร่างกายที่บอบบางของนางผ่านเนื้อผ้าบางเบา ไม่เคยมีเวลาใดที่เผยยวนอยากจะฆ่าเซี่ยหยางและพวกอัครมหาเสนาบดีหานมากเท่านี้มาก่อน
…
ตำหนักฉินเจิ้ง
“หมู่บ้านตระกูลเฉิน? หมู่บ้านตระกูลเฉินเป็นสถานที่เช่นไร” ทั่วทั้งใต้หล้าคนแซ่เฉินมีมากมายยิ่งนัก! แค่หมู่บ้านตระกูลเฉินก็มีมากมายจนนับไม่ถ้วนแล้ว
ฮ่องเต้เซี่ยเจินคิดว่าเผยยวนจะพาไท่ซ่างหวงกลับค่ายที่ซีเป่ย หรือว่าจะขู่เขาเสียอีก อย่างไรเสียก็ย่อมไม่ใช่เรื่องดี แต่ตอนนี้คนที่ส่งไปกลับบอกเขาว่าไท่ซ่างหวงอยู่ที่หมู่บ้านตระกูลเฉิน?! ที่นั่นเป็นสถานที่เช่นไรกันแน่
ไม่เคยได้ยินว่าเผยยวนมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับหมู่บ้านตระกูลเฉินมาก่อน
“อยู่รอบนอกของตำบลฉาซู่ อำเภอฝู่หยาง ไม่ไกลจากเมืองหลวงเท่าไรนักพ่ะย่ะค่ะ ตั้งอยู่ในหุบเขาเล็ก ๆ ที่ห่างไกล มีจำนวนคนไม่มาก สถานที่ก็ทุรกันดาร คนส่วนใหญ่ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินตบโต๊ะเสียงดัง “เผยยวนคิดจะทำอะไรกันแน่ ไท่ซ่างหวงถูกเขาจับไว้เป็นตัวประกันอย่างนั้นหรือ คนยังสบายดีอยู่หรือไม่?”
หากว่าเผยยวนกล้าทำอะไรไท่ซ่างหวง เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเขาหาข้ออ้างมากำจัดเขาก็แล้วกัน
ผู้ใต้บังคับบัญชามองสีหน้าของฮ่องเต้เซี่ยเจินเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างอึดอัด “ไท่ซ่างหวงสบายดีพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าไม่ต้องพูดแทนเผยยวน ไท่ซ่างหวงอายุปูนนี้แล้ว ยังถูกเจ้าเด็กนั่นพาไปยังหุบเขาที่ทุรกันดารอีก ทำไม? เขาคิดที่จะยึดภูเขาแล้วตั้งตัวเป็นราชาหรืออย่างไร? คิดจะก่อกบฏใช่หรือไม่ ไท่ซ่างหวงไหนเลยจะทนได้?”
“ไท่ซ่างหวงไล่ต้อนเป็ด…บางครั้งก็รำไท่เก๊ก ปกติแล้วมักจะนั่งเล่นกับคนในหมู่บ้านพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินโมโหถึงกับหอบหนัก ๆ จนต้องนั่งลง “เจ้าเผยยวนตัวดี เขาถึงกับให้ไท่ซ่างหวงนั่งกับชาวบ้านชั้นต่ำพวกนั้นอย่างนั้นหรือ? ไท่ซ่างหวงมีฐานะเช่นไร? ไล่ต้อนเป็ด? นี่เท่ากับกำลังเหยียดหยามไท่ซ่างหวงอยู่ชัด ๆ!”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินโกรธจนมือไม้สั่น นับตั้งแต่เผยยวนปรากฏตัวที่เมืองหลวงอย่างเอิกเกริก ตอนนี้ทุกที่ล้วนพูดกันว่าเผยยวนถูกเขาทำร้าย
เพราะเขาที่ไม่อยากเก็บเผยยวนไว้ ทำให้อำนาจของฮ่องเต้ถูกวิพากษ์วิจารณ์
และเป็นเพราะกลุ่มกองกำลังของตระกูลเหล่านั้นที่ไม่ได้เรื่อง เขาจัดการแบ่งแยกกองทัพทหารเกราะเหล็กและส่งไปให้ ทว่าจนถึงตอนนี้กลับยังไม่สามารถจัดการได้ เผยยวนยังไม่ทันจะได้ชูมือ แค่มีข่าวก็เฮโลหนีกันไปหมดแล้ว!
พวกขี้เมาหยำเป ไร้ประโยชน์!
“ฝ่าบาท” อัครมหาเสนาบดีหานซึ่งยืนอยู่เบื้องล่าง และไม่ได้พูดอะไรมากนักเอ่ยขึ้นมา
“ในเมื่อรู้แล้วว่าไท่ซ่างหวงอยู่ที่ใด เช่นนั้นฝ่าบาทก็ควรเสด็จออกจากเมืองหลวงไปรับไท่ซ่างหวงกลับมาด้วยพระองค์เอง เพื่อเป็นการปิดปากราษฎรทั้งใต้หล้า และกอบกู้ชื่อเสียงคืนนะพ่ะย่ะค่ะ”
เหตุผลนี้ฮ่องเต้เซี่ยเจินเองก็เข้าใจดี เพียงแต่เผยยวนพากองทัพทหารเกราะเหล็กไปอยู่ที่นั่นด้วย หากเขาไปมิเท่ากับพาตัวเองไปตกอยู่ในอันตรายหรอกหรือ?
ตั้งแต่ต้นจนจบ ฮ่องเต้เซี่ยเจินไม่เคยเชื่อใจเผยยวนเลย
โดยเฉพาะเมื่อเห็นเจ้าเด็กคนนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ ชื่อเสียงในหมู่ราษฎรก็เป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ฮ่องเต้เซี่ยเจินก็รู้สึกเหมือนถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
“ความกังวลของฝ่าบาทกระหม่อมเข้าใจดีพ่ะย่ะค่ะ แต่หากฝ่าบาทไม่สนใจไท่ซ่างหวง เช่นนั้นเผยยวนก็จะกลายเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์ไป เป็นเหตุผลที่ดีที่เขาจะก่อกบฏนะพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินหรี่ตาลง “เฝ้าสังเกตหมู่บ้านตระกูลเฉินต่อไป มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ให้มารายงานข้าทันที”
อัครมหาเสนาบดีหานเข้าใจแล้ว ฮ่องเต้เซี่ยเจินต้องการจะรอดูว่าเผยยวนคิดที่จะทำอะไรกันแน่ เขามีไท่ซ่างหวงเป็นตัวประกัน แต่ชาวบ้านยังไม่รู้ความจริง ถึงเวลาให้คนกระจายข่าวบอกว่าเผยยวนเป็นคนลักพาตัวไป หรือจะพูดอย่างไรก็ได้ ไท่ซ่างหวงจะลุกขึ้นมาแก้ต่างอย่างนั้นหรือ
คิดว่าไท่ซ่างหวงเองก็คงไม่มีทางยืนข้างเผยยวน ฝ่าบาทต่างหากที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของเขา เผยยวนไม่ได้แซ่เซี่ย ไท่ซ่างหวงจะไปช่วยคนนอกได้อย่างไร