บทที่ 9 แนะนำอย่างยิ่ง
ชิวเหิงหยางไม่สนใจเขารอให้เสียงหัวเราะของผู้ชมสงบลงก่อนที่จะพูดต่อ “คำถามสุดท้าย แถบโฆษณาบนหน้าจอ gameover”
“หนึ่งปัญหาที่นักออกแบบเกมมือใหม่หลายคนมีกันนั่นก็คือ พวกเขาไม่ใส่ใจกับวิธีการทำกำไรของเกม และไม่ได้คำนึงถึงสิ่งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นของการออกแบบเลยด้วยซ้ำ”
“อย่างเช่นเกม ‘Hunter Island’ ที่เป็นผลงานอันดับสองในครั้งนี้ มันเป็นเกมผจญภัยที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามนักออกแบบเกมไม่ได้พิจารณาถึงวิธีการทำกำไรซึ่งในความคิดของผมถือเป็นข้อบกพร่องอย่างหนึ่ง”
“มันไม่ได้หมายความว่าการที่คุณซุ่มสร้างเกมหนึ่งขึ้นมาแล้วคุณจะประสบความสำเร็จ มันก็เหมือนกับการสร้างหนังถ้าคุณมีหนังที่มีเรตติ้งสูง แต่หลังจากออนแอร์รายได้หนังจากการขายตั๋วไม่ดีก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ”
“หากคุณไม่พิจารณาวิธีการทำเงินเป็นพิเศษ เกมของคุณก็จะถูกวางอยู่ในแอปพลิเคชัน และขายได้ในราคาทั่วไปเท่านั้น”
“สมมติว่าเกม ‘Hunter Island’ มีราคาสิบหยวน ปัจจุบันที่มีจำนวนคนแนะนำ 330 คน สมมติว่า 80% ของ 330 คนยินดีจ่ายเงินสำหรับเกมนี้ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงมากแล้ว เช่นนั้นกำไรของ ‘Hunter Island’ คือ 2,640 หยวน”
“มองย้อนกลับไปที่เกม ‘flappybird’ กันบ้าง ถ้าเกมนี้เลือกที่จะจ่ายตามจำนวนคน รับรองได้เลยว่ามันจะกลายเป็นสินค้าที่ล้มเหลวอย่างมาก”
“แต่เห็นได้ชัดว่าผู้ออกแบบเกมได้คำนึงถึงจุดนี้ ถึงได้กำหนดวิธีการทำกำไรของเกม ‘flappybird’ เป็นการดาวน์โหลดฟรีและมีค่าพื้นที่โฆษณาซึ่งเป็นวิธีที่ฉลาดมาก และเข้ากับลักษณะของเกมได้เป็นอย่างดี”
“เวลาทั้งหมดในการเล่นเกมของทุกคนคือ 349 ชั่วโมง สมมติว่าจะมีการตายเฉลี่ยทุกๆ สิบวินาที ซึ่งค่านี้ถือว่าสูงเกินไปด้วยซ้ำเพราะคนส่วนใหญ่ไม่น่าอยู่ถึงสามวินาที”
“เช่นนั้นจำนวนการตายของผู้เล่นทั้งหมดคือ 125,640 ครั้ง ดังนั้นภายในหนึ่งชั่วโมงของการทดลองเล่น เกมนี้แสดงโฆษณาทั้งหมด 120,000 ครั้ง”
“นอกจากนี้ทุกท่านต้องสนใจประเด็นที่ว่าเป้าหมายของโฆษณาเหล่านี้มีความชัดเจนมาก เพราะผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ‘flappybird’ จะต้องเป็นผู้ใช้เกมมือถือ และพวกเขาเป็นผู้ใช้ที่มีคุณภาพค่อนข้างสูง เพราะคนที่สามารถยืนหยัดได้คือผู้เล่นที่มีความอดทนสูงเท่านั้น”
“ดังนั้น ถ้าผมเป็นนักออกแบบเกมมือถืออีกคน ผมจะพิจารณาซื้อพื้นที่โฆษณานี้ สมมติว่าทุกๆ สามสิบครั้งของโฆษณาในเกม ‘flappybird’ ดึงดูดผู้เล่นได้หนึ่งคน และทุกๆ ผู้เล่นสิบคนทำให้เกิดการใช้จ่ายหนึ่งครั้ง เช่นนั้นผลกำไรจากการโฆษณาเกม ‘flappybird’ คือ 418 มีการใช้จ่ายไปแปดครั้ง”
“หากทุกการใช้จ่ายแต่ละครั้งคือ 10 หยวน ผลกำไรจากการโฆษณาบนเกม ‘flappybird’ คือ 4,188 หยวน หากผมยอมลงทุนอย่างน้อย 3,000 หยวนเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณานี้ก็แซงหน้า ‘Hunter Island’ แล้ว”
“มีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสนใจ ‘Hunter Island’ ใช้วิธีการซื้อเพียงครั้งเดียว มีผู้เล่นน้อยมากที่ชอบเกม ประเภทนี้ และผู้ที่ซื้อไปแล้วจะไม่ซื้ออีกเป็นครั้งที่สองดังนั้นความสามารถในการทำกำไรจึงน้อยมาก”
“แต่เกม ‘flappybird’ มีลักษณะการแพร่กระจายที่แข็งแกร่งเหมือนไวรัส จึงมีแนวโน้มที่ผู้เล่นจะเพิ่มมากขึ้น แสดงถึงการเติบโตอย่างรวดเร็ว และพื้นที่โฆษณาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างสม่ำเสมอ เดือนนี้ขายให้ผม เดือนหน้าขายให้เขา การทำเช่นนี้จะเป็นการรับประกันผลกำไรที่ตามมาของเกมได้”
“ดังนั้นความสามารถในการทำกำไรของสองเกม ‘flappybird’ และ ‘Hunter Island’ จึงแตกต่างกันมากจริงๆ!”
“ประเด็นข้างต้นเป็นปัจจัยที่ผมคิดว่าเกม ‘flappybird’ สามารถประสบความสำเร็จได้ ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือนักออกแบบเกมรวมประเด็นทั้งหมดเหล่านี้เข้าด้วยกัน และทำการตัดสินใจทุกอย่างถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ทำให้ผม ประหลาดใจมาก!”
“พูดตามตรงหากให้พื้นที่เพียง 6MB กับผมเพื่อสร้างเกมที่สามารถทำกำไรได้มากกว่าเกม ‘flappybird’ ผมพูดได้คำเดียวว่าคงทำไม่ได้”
“การแสดงความคิดเห็นของผมจบแล้วครับคุณพิธีกร”
ชิวเหิงหยางปิดไมโครโฟน เป็นการบอกว่าพิธีกรสามารถดำเนินรายการช่วงถัดไปได้
เหล่าผู้เล่นพูดไม่ออกเล็กน้อย นี่มันเกินจริงไปหรือเปล่า
ขนาดให้พื้นที่ 6MB กับเขา เขาก็ไม่สามารถทำได้ถึงระดับนี้ นั่นไม่ได้หมายความว่าระดับ ของนักออกแบบเกมคนนี้สูงกว่านักออกแบบเกมระดับ B อยู่เหรอ คำป้อยอทางการค้าก็ต้องเป็นไป ตามกฎหมายพื้นฐานด้วยใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชิวเหิงหยางพูดนั้นสมเหตุสมผลและมีพื้นฐานมาอย่างดีและเป็นการวิเคราะห์ ที่ละเอียดถี่ถ้วนมาก ผู้เล่นหลายคนคิดตามความคิดของชิวเหิงหยางก็พบว่าเป็นจริงตามนั้น ‘flappybird’ ดูเรียบง่าย แต่ความจริงแล้วมีรายละเอียดมากมาย!
เห็นได้ชัดว่านักออกแบบเกมหมายเลขเจ็ดได้วางแผนทุกแง่มุมของเกมนี้ตั้งแต่เริ่มต้น การทรมานตนเอง อย่างพอเหมาะพอควรบวกกับการโอ้อวดทางออนไลน์ และกำไรจากการโฆษณา เป็นเกมที่ทำได้ดีมากและสามารถ ทำเงินได้จริงๆ!
ดังคำกล่าวที่ว่าคนวงในดูช่องทาง คนวงนอกไทยมุง[1] ความคิดเห็นของชิวเหิงหยางทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ รู้สึกว่าเกม ‘flappybird’ นั้นไม่ง่าย
เฉินโม่เปิดขวดน้ำแร่แล้วจิบไปหนึ่งอึก เขาอดมองไปที่ชิวเหิงหยางไม่ได้
อันที่จริงข้อมูลบางส่วนของชิวเหิงหยางเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของพื้นที่โฆษณานั้น เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายมโนขึ้นมาเองเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ศึกษาข้อมูลในด้านนี้อย่างลึกซึ้งซึ่งยังแสดงให้เห็นว่า
นักออกแบบเกมในยุคนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับด้านนี้เลย
จากข้อมูลในชีวิตก่อนหน้านี้ ‘flappybird’ มีการดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้ง และผู้สร้างเกมอย่างหร่วนฮาตงสามารถสร้างรายได้วันละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐผ่านโฆษณาในตัว ซึ่งเป็นเงินเกือบ 300,000 หยวน
ตามมาตรฐานการโฆษณาแบนเนอร์ในตอนนั้น รายได้ต่อการแสดงโฆษณาทุกๆ หนึ่งพันรายการ มีค่าเพียงศูนย์เท่านั้น สิบห้าดอลลาร์สหรัฐโดยประมาณเทียบเท่ากับหนึ่งหยวนกล่าวอีกนัยหนึ่ง ‘flappybird’ ในชีวิตก่อนแสดงโฆษณาวันละมากกว่า 300 ล้านรายการ
หากคำนวณจาก 1 หยวนต่อพันครั้ง การแสดงโฆษณา 120,000 ครั้งใน ‘flappybird’ ของเฉินโม่จะเท่ากับ 120 หยวนโดยประมาณ
แม้ว่าจะถูกแทนที่ด้วยโฆษณาคั่นที่มีราคาแพงกว่าซึ่งสูงขึ้นสิบเท่าก็มีราคาเพียง 1,200 หยวน เห็นได้ชัดว่าชิวเหิงหยางประเมินค่าสูงเกินไป
อย่างไรก็ตามชิวเหิงหยางพูดถูกอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของเกมนี้อยู่ที่ ประสิทธิภาพการแพร่กระจายอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เฉินโม่เพิ่มฟังก์ชันเครือข่าย และการจัดอันดับเข้าไป ความเร็วของการแพร่กระจายของมันจะสูงขึ้นอีกขั้นซึ่งเป็นพื้นฐานของความสามารถใน การทำกำไร
อย่างไรก็ตามเฉินโม่จะไม่แก้ไขคำพูดของชิวเหิงหยางอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาแอบดีใจสักหน่อยก็ยังไม่สาย
เฉินโม่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าการที่ชิวเหิงหยางพยายามอย่างหนักก็เพื่อให้ตัวเองมีที่ยืนบนเวที ผู้ชนะการแข่งขัน การออกแบบเกมครั้งนี้เป็นที่แน่นอนแล้วด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ชิวเหิงหยางยังสามารถวิเคราะห์หลายสิ่งหลายอย่างหลังจากเล่นบททดสอบเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และคำนวณรายได้โดยประมาณของเกม จากความเห็นของเฉินโม่นี่เป็นการแสดงที่เลวร้ายมาก หากเปรียบเทียบ กับกรรมการตัดสินคนอื่น ทำให้เห็นได้ชัดว่าระดับของชิวเหิงหยางสามารถบดฉื่อหัวเจ๋อและหลินไห่ลงบนพื้นได้เลย
โลกนี้ยังมีคนที่มีพรสวรรค์ไม่ใช่คนที่มีความสามารถพื้นๆ ธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรทำอย่างฉื่อหัวเจ๋อ
สีหน้าของฉื่อหัวเจ๋อดูไม่ค่อยดีนัก การวิเคราะห์ของชิวเหิงหยางนั้นเทียบเท่ากับการตบหน้าเขา แล้วเขาจะไปรู้สึกดีได้ยังไงกัน
ในบรรดากรรมการตัดสินทั้งสองคน คนหนึ่งตัดสินว่า ‘flappybird’ ไม่มีค่าอะไรเลย แต่อีกคนกลับยกย่อง เกินเบอร์เห็นได้ชัดว่ามีเพียงหนึ่งในสองคนเท่านั้นที่ตัดสินถูกต้อง และตอนนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็อยู่ข้างชิวเหิงหยาง อย่างเห็นได้ชัด
……………………………
[1] คนวงในดูช่องทาง คนวงนอกไทยมุง : ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หากเป็นคนที่อยู่ในวงการหรือมีอาชีพที่เกี่ยวข้องมองดูก็จะสามารถเข้าใจ ได้ประโยชน์หรือคิดหาวิธีได้ แต่หากเป็นคนที่อยู่นอกวงการหรือมีอาชีพที่ไม่เกี่ยวข้องมองดูก็จะไม่สามารถเข้าใจ เป็นได้เพียงแค่ไทยมุง