บทที่ 10 อันดับหนึ่งอย่างล้นหลาม!
ฉื่อหัวเจ๋อไม่พูดอะไร แม้ว่าชิวเหิงหยางจะเป็นรุ่นน้อง แต่ทั้งคู่ก็เป็นนักออกแบบเกมระดับ B อีกทั้งชิวเหิงหยางยังทำงานในแนวหน้าของการวิจัยและพัฒนา การฉีกหน้ากันของทั้งสองคนคงไม่ดีเท่าไรนัก ยิ่งไปกว่านั้นฉื่อหัวเจ๋อรู้สึกว่าเขาไม่สามารถฉีกหน้าชิวเหิงหยางได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลืนความโกรธไว้ชั่วคราว และไม่พูดอะไร
พิธีกรรู้สึกว่าบรรยากาศของผู้ตัดสินทั้งสามดูแปลกๆ เล็กน้อยจึงรีบพูดว่า “ครับ ขอบคุณกรรมการตัดสิน ทั้งสามท่านสำหรับความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมนี้ อันที่จริงผมคิดว่าไม่มีเกมที่สามารถทำให้ทุกๆ คนชื่นชอบได้ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบล้วนเป็นเรื่องปกติ ไม่มีถูกผิดที่ชัดเจน แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงอยู่ในมือของเหล่าผู้เล่นทุกท่าน เช่นนั้นช่วงต่อไปขอเชิญผู้เล่นทุกท่านเข้าสู่ช่วงแนะนำครั้งที่สองกันครับ”
พิธีกรทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยได้อย่างราบรื่นสีหน้าของฉื่อหัวเจ๋อดูดีขึ้นเล็กน้อย
ในช่วงถัดไปเหล่าผู้เล่นสามารถให้คะแนนนส่วนของคำแนะนำอีกรอบได้ แต่แน่นอนว่าคราวนี้พวกเขาจะต้องโฟกัสไปที่สองเกมอย่าง ‘flappybird’ และ ‘Hunter Island’ อย่างแน่นอน
เป็นไปไม่ได้ที่เกมอื่นจะแซงหน้า ‘flappybird’ ได้ สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนแนะนำของเกม ‘Hunter Island’ ที่จะได้รับในรอบสุดท้ายนี้
เหล่าผู้เล่นยังคงลังเล “เธอเลือกอันไหน”
“ฉันคิดว่าที่อาจารย์ฉื่อพูดมาก็มีเหตุผล เกม ‘flappybird’ ไม่ง่ายเกินไปเหรอ มันคู่ควรกับอันดับหนึ่ง จริงหรือเปล่า”
“เธอจะโหวต ‘Hunter Island’ เหรอ”
“เฮ้อ พูดไม่ถูก ถึงจะรู้สึกว่า ‘Hunter Island’ ถูกสร้างขึ้นด้วยความเอาใจใส่มากกว่า แต่จริงๆ แล้วมันไม่สนุกเท่า ‘flappybird’ เลย”
“แล้วเธอจะลังเลอะไรอีกที่ชิวเหิงหยางพูดมาก็มีเหตุผลยังไงฉันก็โหวตให้ ‘flappybird’ แน่”
“งั้นฉันโหวตให้ ‘flappybird’ ด้วย”
“งั้นโหวตกันเถอะ อย่าให้ฉันโดนทรมานอยู่คนเดียว” ข้อมูลรอบใหม่ก็ถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว
‘flappybird’ มีจำนวนแนะนำ 1,037!
‘Hunter Island’ มีจำนวนแนะนำ 537!
‘Hunter Island’ ต้องมีจำนวนแนะนำแซงหน้า ‘flappybird’ 128 คำแนะนำถึงจะมีโอกาสเข้าชิงเป็นอันดับที่หนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าดูจากคะแนนแล้วคงไม่มีหวัง
ยิ่งไปกว่านั้น ‘flappybird’ ได้รับคำแนะนำในรอบที่สองมากกว่าอีกเกมไปเกือบห้าร้อยคำแนะนำ เรียกได้ว่าบดขยี้จนแบน!
พิธีกรพูดว่า “เอาละครับ ผลรอบสุดท้ายออกมาแล้วดังนั้นตามกฎแล้ว ‘flappybird’ ได้พิสูจน์ ให้เห็นถึงความรักของผู้ชมด้วยเวลาเล่นเกมและจำนวนคำแนะนำที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และช่วงถัดไป เรามาดูความคิดเห็นของกรรมการตัดสินทั้งสามกันครับ หากกรรมการทั้งสามคนเห็นตรงกันว่าไม่สมควรได้รับอันดับที่หนึ่ง น่าเสียดายที่เราจะต้องทำการตัดสิทธิ์เกมนี้ไป”
“กรรมการทั้งสามท่านมีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ”
ทั้งฉื่อหัวเจ๋อและหลินไห่ไม่พูดอะไร
หากคิดปฏิเสธเกมนี้กรรมการตัดสินสามคนจะต้องคัดค้านอย่างเป็นเอกฉันท์ แต่ทัศนคติของชิวเหิงหยางก็ชัดเจนอยู่แล้ว แม้ว่าฉื่อหัวเจ๋อและหลินไห่จะคัดค้านก็ไม่เป็นผลดังนั้นพวกเขาเลือก ที่จะเงียบไม่พูดอะไรดีกว่า
ชิวเหิงหยางรับไมโครโฟน “ผมยอมรับเกมนี้ ผมคิดว่าเกมนี้สมควรได้ที่หนึ่งในการแข่งขันออกแบบเกมครั้งนี้ครับ”
พิธีกรพยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาละครับ! เช่นนั้นอันดับที่หนึ่งของการแข่งขันออกแบบเกมครั้งนี้เป็นที่สรุปแล้ว นั่นก็คือผลงาน ‘flappybird’ ของนักออกแบบเกมหมายเลขเจ็ดครับ!”
“อันดับต่อไปขอเชิญนักออกแบบเกมหมายเลขเจ็ดขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับรางวัล ของรางวัลที่จะได้รับคือทุนวิจัยและพัฒนาจำนวนสามแสนหยวนจากสปอนเซอร์ คุณสมบัตินักออกแบบเกมระดับ D และ Experience Store ของตนเอง ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!”
เฉินโม่ลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปที่เวที เหล่าผู้เล่นกำลังดูด้วยความอยากรู้ว่าผู้เขียนเกมนี้จะเป็นคนประเภทไหน
บางทีครึ่งหนึ่งของผู้เล่นในที่นี้ต้องการดึงผมของเฉินโม่แล้วถามว่า “นายเป็นพวกต่อต้านสังคมเหรอ ทำไมต้องพัฒนาเกมทำร้ายตัวเองแบบนี้ด้วย! ทำไม!”
แน่นอนว่ามันเป็นแค่ความคิด สิ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจคือปฏิกิริยาของเฉินโม่นั้นราบเรียบมาก ไม่มีสีหน้าดีใจใดๆ ราวกับว่าเขาคาดไว้แล้วว่าจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
สำหรับเขาแล้วการรับรางวัลบนเวทีดูเหมือนจะเป็นเพียงพิธีการเท่านั้น
“ยินดีด้วยครับ” พิธีกรจับมือกับเฉินโม่ จากนั้นมอบถ้วยรางวัลการแข่งขันให้กับเขา
“อีกสักครู่จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปเพื่อโอนเงินรางวัลไปยังบัญชีของคุณ นอกจากนี้ยังมี Experience Store โปรดหารือเกี่ยวกับการส่งมอบเฉพาะกับเจ้าหน้าที่โดยละเอียดด้วยครับ” เฉินโม่พยักหน้า
พิธีกรพูดเสียงดังว่า “ขอเสียงปรบมือให้กับนักออกแบบเกมหมายเลขเจ็ด เฉินโม่ ด้วยครับ!”
เหล่าผู้ชมปรบมือกันอย่างกึกก้อง แสงแฟลชของนักข่าวที่อยู่รอบๆ กะพริบไม่หยุด เฉินโม่ถือถ้วยรางวัลและยิ้มอย่างสุภาพอย่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เป็นผลให้ในตอนนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อะแฮ่ม คุณพิธีกร ผมขอพูดอะไรสักหน่อยได้ไหม”
พิธีกรผงะไปครู่หนึ่งพอหันกลับมาเห็นว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้คือฉื่อหัวเจ๋อ
หมายความว่าอะไร…
พิธีกรลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตามกำหนดการแล้วการแข่งขันทั้งหมดถือว่าเป็นอันจบสิ้น ความคิดเห็นก็แสดงไปหมดแล้วยังอยากจะพูดอะไรอีก
แต่ในเมื่อฉื่อหัวเจ๋อเกริ่นขึ้นมาแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้เขาพูดดังนั้นพิธีกรจึงพยักหน้าอนุญาต
“แน่นอนครับ เชิญเลย”
เสียงปรบมือในที่นี้ค่อยๆ หยุดลง เหล่าผู้ชมรู้สึกงงงวยเล็กน้อย สงสัยว่าฉื่อหัวเจ๋อต้องการจะพูดอะไร
ฉื่อหัวเจ๋อกระแอมในลำคอแล้วพูดกับเฉินโม่ว่า “ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับชัยชนะอันดับหนึ่ง”
เฉินโม่พยักหน้า “ขอบคุณครับ”
ฉื่อหัวเจ๋อพูดต่อว่า “ในฐานะคนที่เคยมีประสบการณ์ ผมอยากจะแบ่งปันประสบการณ์บางอย่างกับคุณ คุณอยากฟังไหม”
เฉินโม่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เชิญพูดมาได้เลยครับ”
ฉื่อหัวเจ๋อพูดว่า “ผมคิดว่าความคิดวัยรุ่นอย่างคุณไม่เหมือนใครจริงๆ แนวคิดการสร้างเกมของคุณ ก็แตกต่างออกไปซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก แต่ว่าการสร้างเกมไม่ใช่แค่การมีไอเดียเท่านั้น หากคิดมากเกินไป บางทีก็เป็นกับดัก”
“ในการสร้างเกมจะต้องทำอย่างสุขุมรอบคอบ ทำงานสอดคล้องกับความเป็นจริง การอาศัยช่องโหว่เพื่อสร้างเกมอาจทำให้ฮิตได้ช่วงหนึ่ง แต่ไม่ได้ฮิตไปตลอดหรอกนะ”
“ยกตัวอย่างเกมของคุณ ผมยังคงมีมุมมองเดิม คุณล้มเหลวที่จะสร้างอารมณ์หรือความสุขให้กับผู้เล่น แต่กลับกันคุณใช้อารมณ์เชิงลบของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาเล่นเกมต่อไปซึ่งนี่ถือว่าเป็นการดูถูกกันมาก”
“ผมหวังว่าคุณจะถอยกลับมาอยู่ในทางที่ถูกต้อง อย่ายิ่งเดินยิ่งออกนอกลู่นอกทางเพียงเพราะรางวัลครั้งนี้ มันมีแต่จะทำให้คุณเจ็บปวด เข้าใจไหมครับ”
ทันทีที่ฉื่อหัวเจ๋อพูดออกไป บรรยากาศในที่แห่งนี้ก็ผิดปกติเล็กน้อย
แม้ว่าคำพูดเหล่านี้ภายนอกฟังดูสวยหรูแต่จริงๆ ไม่ใช่ ความหมายโดยนัยนั้นชัดเจนมาก นั่นคือเฉินโม่ ทำให้เกมนี้เป็นที่นิยมโดยใช้ช่องโหว่ เล่นตุกติก อาศัยโชคแล้วเขาจะต้องสร้างเกมประเภทนี้ขึ้นมาอีกแน่โดยไม่ต้องสงสัย
เห็นได้ชัดว่าฉื่อหัวเจ๋อไม่ยอมกลืนคำสบประมาท เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับชิวเหิงหยางตัวต่อตัวได้ และเขาไม่สามารถยอมรับว่าตนเองผิดได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการโจมตีเฉินโม่
การเผชิญหน้ากับชิวเหิงหยางนั้นมีความเสี่ยง เพราะหากอารมณ์ของชิวเหิงหยางพลุ่งพล่าน จนลุกขึ้นมาฉีกหน้าคนทั้งสอง ฉื่อหัวเจ๋อคงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ แต่การเผชิญหน้ากับเฉินโม่ นั้นไม่มีความเสี่ยง
นักออกแบบเกมที่เพิ่งเข้าสู่วงการในตอนนี้อย่างมากที่สุดเขาคงทำได้เพียงแค่พยักหน้าอย่างยอมจำนน และพูดว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับอาจารย์” ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดเห็น แต่ก็ทำได้เพียงอดกลั้นเท่านั้น
ทำไมชิวเหิงหยางจะไม่เข้าใจความคิดของฉื่อหัวเจ๋อ แต่ฉื่อหัวเจ๋อไม่ได้เล็งเป้าหมายโจมตีตน ดังนั้นเขาจึงออกหน้าไม่ได้ เขาจึงเห็นเพียงมองเฉินโม่ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็พูดอะไรออกไปไม่ได้
…………………………………