บทที่ 111 ท้าสู้
เมื่อเขาเข้าไปในร้านก็รูดบัตรประชาชนแล้วหาคอมพิวเตอร์เพื่อเล่น
วันนี้จัวเหยาไม่อยู่ แต่มีแคชเชียร์สาวที่แผนกต้อนรับ ซึ่งเธอก็ไม่รู้จักเฉินโม่
เฉินโม่มองไปรอบๆ ในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และพบว่ามีผู้เล่นไม่ถึงครึ่งกำลังเล่น ‘Warcraft’
หลังจากเปิดตัว ‘Warcraft’ เกมก็ได้รับความนิยม อินเทอร์เน็ตคาเฟ่หลายแห่งก็เริ่มติดตั้งเกมนี้ ผู้เล่นสามารถเข้าสู่ระบบบัญชีของตนและเล่นการต่อสู้ออนไลน์ผ่าน Thunder Game Pass
วันนี้มีคนค่อนข้างน้อย ดังนั้นเฉินโม่จึงหาที่นั่งว่างและนั่งลง
หลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ เฉินโม่เข้าเกม ‘Warcraft’ และลงชื่อเข้าใช้ผ่าน Thunder Game Pass ของตนเอง
ก่อนหน้านี้เขายุ่งมาก นอกจากตอนทดสอบแล้ว เขาไม่เคยเล่น ‘Warcraft’ เลยจนกระทั่งตอนนี้เขาถึงได้เล่นเกมในฐานะผู้เล่น
ป้อนชื่อเล่น : Silent
คำแนะนำ: ตรวจพบชื่อเล่นที่ซ้ำกัน
เฉินโม่ขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาซูจิ่นอวี๋
“ฮัลโหล ปลาทอง คุณช่วยเข้าไปในพอร์ทัลการจัดการและตรวจสอบว่าใครใช้ ID ‘Silent’ ใน ‘Warcraft’ หน่อย ใช่ เปลี่ยนชื่อเขาหน่อย เปลี่ยนเป็นชื่ออะไรเหรอ แล้วแต่เลย ใช่ ให้ค่าตอบแทนเขาสองร้อยหยวนด้วย แจ้งไปว่าชื่อเล่นนั้นไม่ได้รับอนุญาต ใช่ ตอนนี้เลย”
ห้านาทีหลังจากวางสาย เฉินโม่ลงทะเบียนอีกครั้ง และชื่อก็พร้อมใช้งาน
หลังจากลงทะเบียนไอดีแล้ว เฉินโม่เล่นเกมแบบกำหนดเองก่อน เลือกเผ่าพันธุ์แบบสุ่ม จากนั้นปรับระดับเผ่าพันธุ์อันเดดให้สุดบ้าคลั่งแก่คู่ต่อสู้
เล่นไปได้ยี่สิบเจ็ดนาทีเฉินโม่ก็เริ่มเบื่อจนต้องดันหน้าจอออกห่าง
ถึงแม้โหมดการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งจะเป็นฝันร้ายสำหรับผู้เล่นทั่วไป แต่เฉินโม่ที่เป็นนักออกแบบเกมนั้นรู้กลยุทธ์ของโหมดการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ปฏิกิริยาตอบสนองและความเร็วมือของเขาในตอนนี้เทียบเท่ากับผู้เล่นมืออาชีพ เมื่อรวมกับความรู้ในเกมระดับสูงแล้วเขาสามารถต่อสู้อย่างบ้าคลั่งได้ตามที่เขาต้องการ
จุดประสงค์หลักโหมดของการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งคือการฝึกฝน เพราะไม่ได้เล่นมานานเกินไปจึงต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย
หลังจากเล่นเกมนี้ เฉินโม่รู้สึกว่ามือของเขาร้อนเล็กน้อย จึงเริ่มค้นหาผู้เล่นตัวจริงเพื่อลงแข่งด้วย
คะแนนอันดับปัจจุบันของเขาคือ 0 ซึ่งเป็นสถานะที่ไม่มีการจัดอันดับ เขาจะได้รับอันดับของเขาหลังจากผ่านไปสิบเกม จากนั้นผู้เล่นจะถูกจับคู่ตามคะแนนอันดับ
แมตช์ที่หนึ่ง แมตช์ที่สอง แมตช์ที่สาม
เขาจัดการบดขยี้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมตช์ที่สาม เฉินโม่เลือกออร์คโดยใช้เพียง Blade master ก็ทำให้เผ่าอันเดดของฝ่ายตรงข้ามถึงกับสติแตก ยังไม่ทันครบสิบนาทีคู่ต่อสู้ก็ออกจากเกมไปแล้ว
“…มันดูเป็นการรังแกกันเกินไปไหมนะ”
เฉินโม่ก็พูดไม่ออกเช่นกัน อย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นมือใหม่ แต่ฝีมือของเฉินโม่เรียกได้ว่าผู้เล่นมืออาชีพ กลยุทธ์ของเขาเป็นการสังหารทุกคนในโลกคู่ขนานนี้ ไปจัดการกับมือใหม่ขนาดนั้นเขาก็ละอายใจอยู่
ในตอนนั้นเองมีเสียงดังมาจากด้านหลังของเฉินโม่ “เฮ้ มาดวลกันหน่อยไหม”
เฉินโม่หันกลับไปและพบชายร่างท้วมยืนอยู่ข้างหลังเขา เขาดูอายุประมาณสิบแปดสิบเก้าปี สวมแว่นตาทรงกลมดูเหมือนหมีแพนด้า
เพื่อนที่เล่น ‘Warcraft’ อยู่ข้างๆ เขาโห่ร้อง “เจ้าอ้วนน้อย ทำไมนายถึงยังท้าสู้คนอื่นอีก นายต้องทรมานผู้เล่น ‘Warcraft’ ทุกคนในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อความสุขใช่ไหม”
เพื่อนอีกคนก็พูดว่า “ใช่ นายพอได้แล้ว ผู้เล่นระดับเทพสามพันคะแนนกลั่นแกล้งคนอ่อนแอกว่าในทางที่ผิดมันสมควรแล้วเหรอ”
ชายร่างท้วมพูดว่า “หยุดเอะอะจะได้ไหม ฉันถามพวกนายเหรอ เมื่อกี้ฉันดูเขาเล่นสองตา ฝีมือดีเลย”
เขาพูดกับเฉินโม่ว่า “สวัสดี ฉันชื่อโจวจัว(邹卓) ”
เฉินโม่ตกตะลึง “โจวจัว(周卓) เหรอ”
ผู้ชายคนนี้เป็นแพนด้ากลับชาติมาเกิดจริงเหรอเนี่ย
อีกฝ่ายรีบโบกมือ “ไม่ใช่โจวจัว(周卓) นั้น แต่เป็นโจวจัว(邹卓)”
“อ้อๆ โจวจัว(邹卓) ใช่ไหม” เฉินโม่ถามกลับ “คุณไม่รู้จักผมเหรอ”
โจวจัวงงงวยเล็กน้อย “ฉัน…ควรรู้จักนายเหรอ”
เฉินโม่ส่ายหัว “เปล่าหรอก มาเล่นด้วยกันสักตาก็ได้”
โจวจัวสับสนกับท่าทีของเฉินโม่เล็กน้อย แต่ยังไงเขาก็หาคนท้าสู้ในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ได้แล้วก็เกิดรู้สึกคันไม้คันมือ ดังนั้นเขาจึงรีบเปิดคอมพิวเตอร์ฝั่งตรงข้ามแล้วนั่งลง
“ฉันจะนั่งฝั่งตรงข้ามนาย ไม่แอบมองหน้าจอ” โจวจัวพูด
เฉินโม่ก็งงเช่นกัน เขาบอกว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์แห่ง ‘Warcraft’ แต่ทำไมถึงไม่รู้จักเขาล่ะ ไม่รู้หรือไงว่าผู้พัฒนาเกมนี้นั่งอยู่ตรงข้ามกับคุณ
แต่เมื่อลองคิดดู Weibo ของเฉินโม่ไม่มีรูปถ่ายใดๆ ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้สนใจว่าผู้ออกแบบเกมหน้าตาเป็นอย่างไร จึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่รู้จักเฉินโม่
“มาเลย ฉันจะสร้างห้องเอง” โจวจัวพูด
ถึงแม้จะมีระบบการต่อสู้จัดอันดับเกมให้ แต่การต่อสู้ในร้านอินเทอร์เน็ตก็ยังเป็นที่นิยมมากกว่า ท้ายที่สุดแล้วผู้เล่นต่อสู้จัดอันดับกันทางออนไลน์มักไม่รู้จักกันและไม่ได้ถึงบรรยากาศ การเล่นแบบเห็นหน้ากันในร้านอินเทอร์เน็ตนั้นน่าตื่นเต้นกว่า
โจวจัวสร้างห้องอย่างรวดเร็วและเฉินโม่ก็เข้ามา
โจวจัวถาม “นายใช้เผ่าพันธุ์อะไร ของฉันเป็นอันเดด”
เฉินโม่พูด “เดี๋ยวผมสุ่ม”
“อา” โจวจัวรู้สึกสับสนเล็กน้อย “สุ่มเหรอ นายไม่มีเผ่าหลักเหรอ”
เฉินโม่พูด “ผมเล่นแบบไม่มีเป้าหมาย ไม่เป็นไร เริ่มแบบนี้แหละ”
โจวจัวลังเลเล็กน้อย “ฉันจะให้เลือดนาย 80% ไหม”
เฉินโม่ยิ้ม “ไม่เป็นไร สู้กันก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
โจวจัวพยักหน้า “ได้ งั้นฉันเริ่มละ”
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น
ผู้เล่นสองสามคนที่เล่น ‘Warcraft’ ก็รวมตัวกันเพื่อชมการต่อสู้
“ว้าว สุ่มซะด้วย ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เคารพเจ้าอ้วนเลย!”
“เร็วเข้า เริ่มแล้ว!”
ทั้งเฉินโม่และโจวจัวแตะเมาส์และคีย์บอร์ดกันอย่างรวดเร็วในขณะที่หน้าจอยังคงกะพริบอยู่
อาคารต่างๆ ถูกสร้างขึ้นทีละหลังอย่างรวดเร็ว ชาวนากำลังรวบรวมทรัพยากร โดยบางส่วนถูกส่งไปสอดแนม
อย่างไรโจวจัวก็เป็นผู้เล่นที่มีสามพันคะแนน ตอนนี้ระดับของทุกคนไม่สูง มีผู้เล่นระดับเทพเพียงไม่กี่คน การจัดอันดับใหม่เลยเป็นไปช้าๆ ดังนั้นสามพันคะแนนถือว่าเป็นผู้เล่นระดับเทพแล้ว จะเรียกว่าปรมาจารย์ในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ก็คงไม่เกินไป
ในไม่ช้าผู้ติดตามที่ส่งไปสอดแนมได้ค้นพบฐานของเฉินโม่ซึ่งเป็นเผ่าออร์ค
“ออร์คเหรอ” โจวจัวไม่กล้าที่จะประมาท มันไม่ง่ายสำหรับอันเดดที่จะต่อสู้กับออร์ค
ผู้ชมเฝ้าดูเป็นเวลาสองนาทีและพบว่าออร์คฝั่งตรงข้ามเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็ด้วยความเร็วและจังหวะของมือที่สมบูรณ์แบบนั้นก็เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่มือใหม่ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ ด้วยความสนใจ
“ที่แท้ก็ Blade Master 3x ดูเหมือนว่าผู้เล่นระดับสูงจะเลือก Blade Master ก่อน เผ่าออร์คนี่ไม่ง่ายเลย”
“แต่เจ้าอ้วนนั่นก็เตรียมพร้อมอยู่นะ ขนาด dust ยังเตรียมไว้แล้ว เขาระมัดระวังตัวมากเมื่ออยู่ในป่า”
“ให้ตายเถอะ เขาทำแบบนั้นได้ยังไง ความเร็วมือของออร์คนี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ”
“ไม่เป็นไร เจ้าอ้วนยังไหวอยู่”
ในช่วงแรกนั้นเป็นเพียงความขัดแย้งเล็กน้อย โจวจัวกำลังเพิ่มระดับทักษะของเขาในขณะที่เฉินโม่มี Blade Master 3x โดยทั่วไป ไม่ว่ากองทัพของโจวจัวจะไปที่ไหน Blade Master ของเฉินโม่ก็จะตามไปด้วย และจัดการสังหารรวมทั้งคว้าสมบัติในทุกครั้งที่มีโอกาส
โจวจัวได้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้แล้ว แต่เขาก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาไม่เหมือนพวกมือใหม่อ่อนหัดที่ออกจากเกมหลังจากถูก Blade Master ของเฉินโม่รังแก ก็แค่เกิดการสูญเสียเล็กน้อย
นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นสองสามคนที่เฝ้าดูการต่อสู้เบื้องหลังเฉินโม่ พวกเขาไม่กล้าพูดเสียงดังเกินจึงพูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบเพราะกลัวว่าเฉินโม่กับโจวจัวจะได้ยิน
“เชี่ย มองไม่ทันเลย เขาทำอะไร”
“Blade Master ตามเจ้าอ้วนอยู่ตลอด แล้วนักล่าเงาอัปเลเวลด้วยตัวเองงั้นเหรอ แล้วยังสร้างเหล่าทัพอีก แทบไม่มีอะไรล่าช้าเลย พี่ชายคนนี้เป็นปรมาจารย์ชัดๆ!”
“ฉันรู้สึกว่าเจ้าอ้วนกำลังเสียเปรียบอยู่”
…………………