ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 34 เฉาเหยี่ย

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 34 เฉาเหยี่ย

ภายในรถแท็กซี่ ในที่สุดหลัวคังอันที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นสุราก็กลับมาถึงบ้าน

หลัวคังอันที่กำลังจะลงจากรถตกตะลึงไปทันที เขามองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตู จำได้ว่าเป็นจูเก่อม่าน

เขาเอื้อมมือไปกดหญิงสาวข้างกายที่เมาเล็กน้อยลงไป นิ้วมือสองนิ้วบีบไปที่ลำคอของอีกฝ่าย หญิงสาวสลบไปทันที

จากนั้นสั่งกำชับคนขับแท็กซี่เล็กน้อยพร้อมทั้งโยนเงินให้จำนวนหนึ่ง จากนั้นลงมาจากรถคนเดียว

รถแท็กซี่ขับออกไป พาหญิงสาวที่นอนสลบไสลอยู่ด้านหลังรถไปด้วย

จูเก่อม่านเดินเข้ามาหาหลัวคังอันด้วยความดีใจ “กลับมาแล้วเหรอ?” จากนั้นพลันขมวดคิ้วขึ้นมา “ทำไมเหม็นเหล้าแบบนี้? เที่ยวมาจนถึงตอนนี้เลยเหรอ?”

หลัวคังอันหัวเราะแหะๆ พลางกล่าว “เที่ยวนิดเที่ยวหน่อยมันก็ปกติไม่ใช่เหรอ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้สักหน่อยว่าเธอมารอฉันอยู่ที่นี่ อย่าโกรธเลยนะ ข้างนอกอากาศเย็น เข้าไปบ้านกันดีกว่า”

จูเก่อม่านไม่พอใจเล็กน้อย แต่หลังจากถูกง้องอนสองสามประโยคก็ไม่ติดใจอะไร ส่งเสียงเหอะออกมาพลางกล่าว “ช่วยฉันถือของ”

“เอ่อ…” ในเวลานี้หลัวคังอันถึงได้สังเกตเห็นกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ จึงกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “กระเป๋าเยอะขนาดนี้ นี่เธอจะทำอะไร?”

จูเก่อม่านถลึงตาใส่เขา “คุณบอกว่าอยากอยู่กับฉันตลอดไปไม่ใช่เหรอ? ฉันเป็นฝ่ายมาหาคุณถึงที่ คุณโชคดีขนาดนี้ หรือว่าคุณไม่ดีใจ?”

“ไม่ใช่ไม่ดีใจ แต่ว่า นี่มัน…” หลัวคังอันเกาศีรษะ “ที่นี่มันเป็นที่พักที่ทางหอการค้าจัดให้ฉันอยู่แค่คนเดียว ถ้าจะพาคนอื่นมาอยู่ด้วยต้องให้ทางหอการค้าอนุญาตก่อน”

จูเก่อม่านสงสัย “หอการค้ามีกฎแบบนี้ด้วยเหรอ?”

หลัวคังอันรีบกล่าวทันที “สำหรับพวกเธอน่ะไม่มีอยู่แล้ว แต่งานที่ฉันทำมันเกี่ยวข้องกับความลับของหอการค้า ดังนั้นจึงต้องให้ทางหอการค้าอนุญาตก่อน”

สีหน้าจูเก่อม่านดูไม่ดีแล้ว “ฉันมาถึงนี่แล้ว หรือคุณจะบอกให้ฉันกลับ?”

หลัวคังอันรีบปลอบ “ที่ไหนกันเล่า มาถึงแล้วก็เข้าไปก่อน พรุ่งนี้ฉันค่อยไปขอกับทางหอการค้าให้ ฉันอยากให้เธอมาหาฉันใจจะขาด เธอมาหาฉันแบบนี้ มีหรือที่จะไม่ดีใจ เดี๋ยวฉันหาวิธีคุยกับหอการค้าให้นะ” กล่าวจบก็รีบช่วยยกกระเป๋าเหล่านั้น

สีหน้าของจูเก่อม่านดีขึ้นมาเล็กน้อย เธอส่งเสียงเหอะพลางล้วงหยิบกุญแจออกมาจากบนตัวหลัวคังอัน จากนั้นเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปก่อน ของทั้งหมดโยนให้หลังคังอันเป็นคนถือเข้ามา

หลัวคังอันกุลีกุจอถือของเดินตามเข้าไป ทว่าภายในใจกลับบ่นพึมพำ

ที่บอกว่าจะไปคุยกับหอการค้านั้นเป็นแค่ข้ออ้างของเขา เขาไม่มีทางไปคุยกับหอการค้า เพราะหอการค้าไม่มีกฎที่ว่านี้ แล้วเขาจะไปคุยได้อย่างไร?

สรุปแล้วก็คือเขาไม่มีทางปล่อยให้จูเก่อม่านมาอยู่ด้วยกันกับเขาที่นี่ ถ้าจูเก่อม่านมาอยู่ที่ีนี่ แล้วต่อไปเขาจะพาผู้หญิงคนอื่นกลับมาได้อย่างไร?

หลังเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูลง หลัวคังอันก็โอบกอดจูเก่อม่านพลางเรียกที่รักอย่างโน้นที่รักอย่างนี้ หยอกเย้าจนจูเก่อม่านหัวเราะมีความสุข….

…..

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ไนท์คลับเองก็เช่นเดียวกัน

อู่เวยที่ล้างเครื่องสำอางค์ออกเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ส่งยิ้มให้แฟนหนุ่มที่รออยู่ด้านนอก คล้องแขนแฟนหนุ่มเดินออกมาด้วยกัน

ทั้งสองคนที่เดินออกมาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ขี่ฝ่าสายลมยามค่ำคืนไปด้วยกัน อู่เวยที่โอบเอวของแฟนหนุ่มมีใบหน้าอ่อนโยนสุขใจ อิงแอบแผ่นหลังของชายหนุ่ม

กระทั่งขี่มาจนถึงสถานที่ที่เงียบสงัดแห่งหนึ่ง จู่ๆ ด้านหลังพลันมีรถคันหนึ่งขับแซงขึ้นมาแล้วหักเลี้ยว โครม! มอเตอร์ไซค์ชนเข้ากับรถคันนั้น ส่ายไปส่ายมาจนเกือบจะคว่ำลง สุดท้ายฝืนทรงตัวเอาไว้ได้

รถที่อยู่ด้านหน้าหยุดลง มอเตอร์ไซค์เองก็หยุดลง ทั้งสองคนลงจากมอเตอร์ไซค์ ต้องการจะไปคุยตกลงกับอีกฝ่าย

แต่ผู้ชายสองคนที่ลงมาจากรถเพียงแค่มองดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร ชายหญิงทั้งสองคนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ในเวลานี้เอง ด้านหลังพลันมีรถอีกสองคันขับเข้ามา ก่อนจะจอดลงข้างๆ

มีคนอีกสองสามคนลงมาจากรถ ประตูของรถคันหนึ่งในนั้นเปิดออก เฉาลู่ผิงที่นั่งอยู่ในรถถอดหมวกบนศีรษะออก กล่าวถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

ชายหญิงเมื่อได้เห็นคนผู้นี้ก็รู้สึกตกใจ คนผู้นี้เรียกได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองปู๋เชวี่ย ได้ยินว่าพลังของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก ทั้งสองคนทำงานกลางคืน ย่อมต้องเคยเห็นและเคยได้ยินเรื่องของคนผู้นี้มา เพียงแต่ยังไม่เคยพูดคุยกับอีกฝ่ายมาก่อนเท่านั้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายจึงกล่าวทักทายออกไปทันทีว่า “เฉาเหยี่ย”

คนที่ลงมาจากรถคันที่ถูกชนก่อนหน้านี้เดินเข้ามาฟ้องว่า “เฉาเหยี่ย สองคนนี้ชนรถของพวกเราครับ”

พอฟังดูก็รู้ว่าทั้งสองฝั่งเป็นพวกเดียวกัน ชายหญิงต่างรู้สึกตื่นกลัวขึ้นมาในทันที รีบกล่าวอธิบายเป็นพัลวัน

แต่อธิบายอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ เฉาลู่ผิงเอียงศีรษะส่งสัญญาณ มีคนเดินเข้าไปจับชายหญิงคู่นั้นยัดเข้าไปในรถคันหนึ่งทันที กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ถูกเอาไปด้วย

เมื่อเดินทางมาถึงโกดังที่ถูกขุดเอาไว้ในภูเขาแห่งหนึ่ง กลุ่มชายฉกรรจ์ทยอยลงจากรถ เฉาลู่ผิงที่ลงมาจากรถโบกมือส่งสัญญาณ

ชายหญิงคู่หนึ่งถูกดึงลงมาจากรถ ผู้หญิงถูกพามาตรงหน้าเฉาลู่ผิง ส่วนผู้ชายก็ถูกชายฉกรรจ์สามคนล้อมเอาไว้ ก่อนจะรุมซ้อมในทันที ถูกทุบตีจนส่งเสียงร้องไม่หยุด

อู่เวยรีบตะโกนอย่างลนลาน “หยุดตี หยุดตี”

เฉาลู่ผิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณผู้หญิง ตอนนี้คุณออกไปจากที่นี่ได้ ถ้าคิดว่ามีปัญหาอะไรก็ไปแจ้งทางผู้พิทักษ์เมืองได้”

มีปัญหากับคนแบบนี้ อู่เวยไหนเลยจะกล้าไปแจ้งความใดๆ ต่อให้จับพวกที่อยู่ตรงหน้านี้ไป แต่พรรคพวกคนอื่นๆ ของคนเหล่านั้นจะยอมปล่อยพวกเธอไปหรือ เมื่อถึงตอนนั้นพวกเธอตายอย่างไรก็ยังไม่รู้เลย จึงรีบกล่าวอ้อนวอนทันที “เฉาเหยี่ย เฉาเหยี่ย พวกเราผิดเองค่ะ พวกเราไม่ระวังไปชนถูกรถของคุณเอง พวกเราจะชดใช้ให้ค่ะ พวกเราจะชดใช้ให้ ปล่อยเขาไปเถอะนะคะ อย่าตีเขาเลย” ขณะกล่าวก็คุกเข่าลงตรงหน้าเขา

“พอ” เฉาลู่ผิงตะโกนบอก “คุณผู้หญิงขอโทษแบบนี้แล้ว พวกแกก็อย่าทำอะไรให้มันเกินไปนัก”

ชายฉกรรจ์สามคนที่รุมซ้อมแฟนหนุ่มพลันหยุดมือ เมื่อเฉาลู่ผิงเอียงศีรษะส่งสัญญาณ พวกเขาก็หามเอาแฟนหนุ่มของอู่เวยที่ถูกซ้อมจนสาหัสออกไป

“เฉาเหยี่ย!” เมื่อเห็นแฟนหนุ่มถูกหามออกไป อู่เวยก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ กอดขาของเฉาลู่ผิงเอาไว้พลางขอร้องอ้อนวอน

เฉาลู่ผิงโบกมือไปทางซ้ายและขวา คนที่อยู่ข้างๆ พากันหมุนตัวเดินออกไปจนหมด

เฉาลู่ผิงยื่นมือออกไปในอากาศ เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปลอยเข้ามา ตกลงตรงด้านหลังของเขา เขาค่อยๆ นั่งลง ยกมือขึ้นลูบศีรษะที่กำลังร่ำไห้น้ำตานองหน้า “ไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว มีอะไรค่อยๆ คุยกัน ถ้าคนอื่นเห็นเธอร้องห่มร้องไห้แบบนี้ เดี๋ยวพวกเขาจะพากันคิดว่าฉันรังแกผู้หญิงตัวเล็กๆ เอาได้ ไหนลองบอกมาสิว่าเธอจะชดใช้อย่างไร?”

อู่เวยรีบเช็ดน้ำตา “ต้องชดใช้เท่าไรเชิญเฉาเหยี่ยว่ามาได้เลยค่ะ พวกเราจะพยายามหาวิธีหาเงินมาให้ได้”

เฉาลู่ผิงส่ายศีรษะ “เธอเห็นฉันเป็นอะไร คิดว่าฉันใช้วิธีข่มเหงเพื่อรีดไถเงินเหรอ? พวกเธอจะหาเงินมาได้สักเท่าไรกันเชียว คิดว่าฉันสนใจเงินแค่นี้เหรอ?”

ไม่เอาเงิน? หรือว่า? อู่เวยมองเขาอย่างงุนงง ก่อนจะยกมือขึ้นมากอดตัวเองตามสัญชาตญาณ

เฉาลู่ผิงหัวเราะหึหึพลางกล่าว “เธอคิดมากไปแล้ว ฉันไม่ขาดแคลนผู้หญิง ฉันไม่ได้สนใจอะไรในร่างกายของเธอ ฉันเป็นคนที่มีเหตุผล เจ้าพวกนั้นมันไม่รู้จักหนักเบา เอะอะไรก็ลงไม้ลงมือ ใช้ไม่ค่อยได้ เอาแบบนี้แล้วกัน แฟนเธอฉันจะพาไปรักษาให้ เอาไว้รักษาหายดีแล้วฉันจะส่งเขากลับไปหาเธอ แล้วก็จะให้เงินทำขวัญพวกเธอก้อนหนึ่งด้วย ส่วนที่ทำงานของพวกเธอ ฉันคิดว่าเถ้าแก่ของพวกเธอน่าจะเห็นแก่หน้าฉันบ้าง ให้แฟนเธอหยุดรักษาตัวสักพักหนึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เธอไม่ต้องกังวลอะไร”

อู่เวยรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง เรื่องรถชนนั้นไม่ใช่ปัญหาของเรื่องนี้เลย จึงกล่าวอย่างตื่นกลัวว่า “เฉาเหยี่ย คุณจะให้ฉันทำอะไรกันแน่คะ?”

เฉาลู่ผิงกล่าวถามตรงๆ “หลัวคังอัน เธอรู้จักใช่ไหม? ผู้ชายที่ช่วงนี้ชอบไปเต้นบนเวทีกับเธอบ่อยๆ”

อู่เวยทั้งตกใจและสงสัย พยักหน้าเล็กน้อย

เฉาลู่ผิงกล่าว “เธอไม่ใช่คนไร้เดียงสาอะไร เขาคิดจะทำอะไรกับเธอ เธอเองก็น่าจะรู้ เธอก็ทำให้เขาสมหวังซะ ขอเพียงเธอช่วยฉันเรื่องหนึ่ง ต่อไปถ้าพวกเธอเจอปัญหาอะไรในเมืองปู๋เชวี่ยก็มาหาฉันได้ แซ่เฉาคนนี้พูดคำไหนคำนั้น ไม่มีทางมองดูพวกเธอมีปัญหาเฉยๆ แน่นอน!”

อู่เวยกัดริมฝีปากพลางส่ายศีรษะทันที

曹路平丝毫不以为意,面对伍薇这种层次的人,在他眼里就是能随意拿捏的货色,平平静静道:“又不是让你跟他一辈子,不就那点事,虚伪应付一下就行。

เฉาลู่ผิงไม่สนใจแม้แต่น้อย ในสายตาเขา คนอย่างอู่เวยนั้นเป็นผู้หญิงที่เขาจะเล่นตามใจชอบอย่างไรก็ได้ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ไม่ได้ให้เธอไปอยู่กับเขาทั้งชีวิตเสียหน่อย ก็แค่เรื่องนั้นเรื่องเดียว แกล้งๆ ยอมไปหน่อยก็พอ”

当然,你若是很在乎,也可以不让他得逞,我不勉强,那要看你自己应对的本事。我不管经过,只要结果,我想知道他的所有喜好,只让你帮我摸摸他的情况,没有任何危险。就这点简单小事,你若是不答应,那就没得商量了。我既然能找到你,自然清楚你的底细,到时候别说你男友,只怕你父母也要养伤了……”

“แต่แน่นอน ถ้าเธอถือเรื่องนี้นัก เธอจะไม่ให้เขาทำก็ได้ ฉันไม่ได้บังคับ อันนั้นก็ต้องดูว่าเธอมีปัญญาจะรับมือกับเรื่องนั้นหรือเปล่า ฉันไม่สนใจวิธีการ สนใจแต่เพียงผลลัพธ์ ฉันอยากจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาชอบ ก็แค่ให้เธอไปสืบเรื่องของเขามา ไม่มีอันตรายอะไร เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ถ้าเธอไม่รับปาก อย่างนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรให้ต้องคุยกันแล้ว ในเมื่อฉันหาตัวเธอได้ ฉันย่อมต้องรู้เรื่องของเธอเช่นกัน เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่แฟนเธอเลย เกรงว่าพ่อแม่ของเธอก็ต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มเหมือนกัน”

………

เมฆหมอกลอยวน อาคารใหญ่โตอลังการ ศูนย์กลางแคว้นเซียนคุนกว่าง คนกลุ่มหนึ่งทยอยเดินออกมาจากในอาคาร ลั่วเทียนเหอเองก็อยู่ในนั้น

เมื่ออยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่แทบจะมองไม่เห็นการแต่งกายเหมือนอย่างโลกมนุษย์ ทุกคนล้วนแต่สวมชุดโบราณอย่างเมื่อในอดีต

เจ้าแคว้นหนานหรูเรียกเจ้าเมืองทั้งเก้ามาปรึกษาหารือกัน เรื่องที่ปรึกษาหารือก็คือเรื่องการประมูลเทพมหาวิญญาณ เขาต้องการถามความเห็นของเจ้าเมืองต่างๆ ว่าควรจะจัดการประมูลขึ้นที่ไหน ส่วนใหญ่ทุกคนไม่มีความเห็นอะไร ต่างบอกว่าให้เจ้าแคว้นตัดสินใจได้เลย สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน การจะให้มาจัดการประมูลขึ้นในเมืองของตนนั้นไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเปล่า

แม้แต่เจ้าเมืองเทียนกู่ เจ้าเมืองฝูปอและเจ้าเมืองปู๋เชวี่ยที่หอการค้าภายในดินแดนของตัวเองเข้าร่วมการประมูลด้วยก็ไม่มีท่าทีแก่งแย่งกันในเรื่องนี้

ผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อนเพิ่งจะลอบโจมตีเมืองหลวงของดินแดนเซียนไป ขณะนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย หากจะให้คนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ที่เมืองของตัวเองเพราะเรื่องผลประโยชน์ นั่นไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความยุ่งยากในเรื่องการจัดกำลังคนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อดูแล แต่ยังไม่รู้ด้วยว่าจะทำให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า แม้นหอการค้าที่อยู่ภายในเมืองจะแสดงท่าทีว่าต้องการให้มาจัดการประมูลขึ้นที่เมืองของตน อีกทั้งเจ้าเมืองทั้งสามเองต่างก็ตบปากรับคำเอาไว้ ทว่าพอมาถึงที่นี่กลับไม่มีใครพยายามพูดอะไร

เมื่อเทียบกันแล้ว ความกังวลของเจ้าเมืองทั้งสามนั้นไม่ใช่ปัญหาที่จะใช้เงินแก้ได้ ดังนั้นความต้องการของพวกนักธุรกิจในหอการค้าเหล่านั้นจึงสามารถมองข้ามไปได้

ความจริงแล้ว แม้กระทั่งตระกูลฉินเองก็ได้แสดงท่าทีต่อลั่วเทียนเหอแล้วว่าต้องการให้จัดการประมูลขึ้นที่เมืองปู๋เชวี่ย การได้อยู่ในอาณาเขตของตัวเองย่อมต้องทำให้มีความได้เปรียบบางอย่าง แต่ลั่วเทียนเหอก็ไม่แม้แต่จะพยายามลองพูดดู

เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่างคนต่างไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับเรื่องนี้ หนานหรูเองก็ไม่ฝืนบังคับ ได้แต่ต้องจัดการประมูลขึ้นในพื้นที่ศูนย์กลางของแคว้นเซียนอันเป็นพื้นที่ที่ตนเองประจำอยู่

ขณะที่ทุกคนกำลังแยกย้ายจากไป มู่ชิงโหรวที่เป็นเจ้าเมืองเทียนกู่ก็เดินเข้ามา ชายกระโปรงพลิ้วไหว ยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “เจ้าเมืองลั่ว ช้าก่อน”

ลั่วเทียนเหอชะงักฝีเท้า เหลียวหน้ากลับมา “เจ้าเมืองมู่มีเรื่องใดสั่งกำชับหรือ?”

มู่ชิงโหรวกล่าว “มิกล้าสั่งกำชับ เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ฉันมีคนอยากแนะนำให้เจ้าเมืองลั่วรู้จักหน่อย” กล่าวจบก็ยื่นมือเชื้อเชิญ

ลั่วเทียนเหอร้องอ้อ การแสดงความเคารพมิเท่าเชื่อฟัง จึงเดินตามเธอไป

ทั้งสองคนเดินลงจากเขา ก่อนจะได้พบชายที่ยืนตัวตรงคนหนึ่งอยู่ในศาลาหลังหนึ่งที่อยู่ตรงตีนเขา

มู่ชิงโหรวยิ้มพลางกล่าว “เจ้าเมืองลั่ว ท่านนี้คือพานชิ่ง ประธานของหอการค้าตระกูลพานที่อยู่ภายในเมืองที่ฉันดูแล ประธานพาน ยังไม่รีบคารวะเจ้าเมืองลั่วอีก”

คนผู้นี้ก็คือหัวหน้าตระกูลพาน แล้วก็เป็นพ่อของพานหลิงอวิ๋น เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาจึงรีบโค้งตัวคำนับ “พานชิ่งคารวะท่านเจ้าเมืองลั่ว”

หัวคิ้วของลั่วเทียนเหอกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย พอจะรู้แล้วว่านี่มันเรื่องอะไร จึงส่งเสียงอืมเบาๆ

พานชิ่งยืดตัวขึ้นมา ก่อนจะรีบเดินไปยังด้านข้าง หยิบกล่องหยกใบเล็กใบหนึ่งขึ้นมาเปิดออก ประกายแสงเรืองรองสาดส่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นตานของปีศาจอะไรบางอย่าง เพียงดูก็รู้ว่าเป็นของวิเศษที่ยอดเยี่ยมชิ้นหนึ่ง “ลูกสาวของกระผมพานหลิงอวิ๋นกระทำตัวอวดดีที่เมืองปู๋เชวี่ย พานชิ่งอบรมสั่งสอนได้ไม่ดี รู้สึกละอายใจเป็นยิ่งนัก นี่เป็นตานของเจียว[1]พิษหมื่นปี หวังว่าท่านเจ้าเมืองลั่วจะไม่รังเกียจ ให้พานชิ่งได้แสดงการขอโทษเล็กๆ น้อยๆ ขอรับ”

ลั่วเทียนเหอแค่นเสียงเหอะออกมา “คุณคิดจะทำอะไร? ติดสินบนแบบเปิดเผยอย่างนั้นเหรอ?”

…………………………………………………………

[1]เจียว คือมังกรพิษประเภทหนึ่งในตำนานของจีน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน