ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 88 ต่ำ!

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 88 ต่ำ!

แสงจันทร์สว่างไสว อาเหิงที่นั่งอยู่ตรงริมประตูเอียงศีรษะพิงขอบประตู ปล่อยให้สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านร่าง เส้นผมพลิ้วไหวแผ่วเบา ภาพเหตุการณ์ในอดีตปรากฏขึ้นมาภาพแล้วภาพเล่า สีหน้าประเดี๋ยวยินดีประเดี๋ยวกลัดกลุ้มปรากฏขึ้นมาให้เห็นบนใบหน้าอันแสนอ่อนโยนของเธอ

บางครั้งเธอก็นั่งกอดเข่าเอาหน้าซุกลงไป ครุ่นคิดอย่างยากลำบาก

ประตูที่ขว้างกั้นระหว่างห้องด้านในกับห้องด้านนอกเปิดแง้มเป็นช่องเล็กๆ ฉีอวี่เอ๋อร์เห็นอาเหิงนั่งอยู่บนพื้นตรงริมประตูระเบียง จึงรีบเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปทันที เพราะตัวเธอนอนอยู่ในห้องด้านนอก

อาเหิงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ยกสองมือสางผมไปด้านหลัง

ฉีอวี่เอ๋อร์ย่อตัวลง กล่าวเสียงเบาๆ ว่า “รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังมีการแสดงอีกนะ ถ้าหน้าโทรมมันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเธอได้นะ แล้วจะไปเจอคนได้ยังไง?”

อาเหิงกล่าว “แต่งหน้าสิ”

ความจริงใบหน้าที่เปลือยเปล่าภายใต้แสงจันทร์ของเธอดูดีอย่างมาก ใบหน้าเช่นนี้เป็นใบหน้าที่คนนอกยากจะได้เห็น

ฉีอวี่เอ๋อร์กล่าวว่า “นอนไม่หลับ? ยังคิดอยู่เหรอ?”

อาเหิงยิ้มพลางกล่าว “พี่เดินเข้ามาตอนนี้ พี่นอนหลับเหรอ?”

“เฮ้อ!” ฉีอวี่เอ๋อร์ถอนใจ รู้สึกว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอท่านอ๋องผู้ลึกลับเข้าที่นี่

เธอยื่นมือไปลูบแขนของอาเหิง รู้สึกได้ว่าค่อนข้างเย็น จึงลุกขึ้นไปหยิบเอาเสื้อมาตัวหนึ่ง คลุมไปบนร่างของอาเหิง ส่วนตัวเองก็นั่งลงไป เอนกายพิงเข้ากับอาเหิง ยกเข่าขึ้นมากอดเอาไว้พลางกล่าวพึมพำว่า “ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

อาเหิงเอียงศีรษะซบลงไปบนไหล่ของเธอ “พี่ ตารางงานหลังจากนี้ก็แจ้งทางคณะแสดงไปแล้ว เราเองก็ไม่มีเรื่องอะไรอีก พวกเราอยู่ที่นี่กันอีกสองสามวันนะ”

……

วันใหม่เริ่มต้นอีกครั้ง

หลัวคังอันที่เคาะประตูเดินเข้ามาในห้องพักผ่อนของหลินยวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะเห็นผ้าม่านปิดเอาไว้อีกแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปรูดผ้าม่านให้เปิดออก ภายในห้องพลันสว่างขึ้นมาไม่น้อย

หลินยวนนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานอย่างที่ยากจะพบเห็นได้ในเวลาปกติ ขาทั้งสองข้างวางพาดไว้บนโต๊ะ

หลัวคังอันที่เดินไปนอนลงบนโซฟาเริ่มพร่ำบ่นออกมาอีกครั้ง “พนักงานในหอการค้าตระกูลฉินส่วนใหญ่ได้ออกไปดูการแสดงกันหมด แต่ไม่ให้พวกเราไป นี่มันหมายความว่ายังไง”

การแสดงเมื่อคืนนี้จัดขึ้นในค่ายผู้พิทักษ์เทพ วันนี้ช่วงกลางวันยังมีการแสดงที่จัดขึ้นให้ประชาชนในเมืองได้ชมกันอีก

หอการค้าตระกูลฉินเป็นหอการค้าอันดับหนึ่งในเมืองปู๋เชวี่ย ย่อมต้องมีสิทธิพิเศษ จึงสามารถหาที่นั่งชมการแสดงในแถวหน้ามาให้พนักงานของตนได้เป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงานของหอการค้าตระกูลฉิน ภายในหอการค้าตระกูลฉินพากันโห่ร้องด้วยความดีใจ

แต่พวกเขาสองคนดันกลายเป็นคนเพียงสองคนในหมู่พนักงานที่ต้องอยู่ที่หอการค้าตระกูลฉิน

เหตุผลที่ไม่ให้พวกเขาไปนั้นง่ายมาก การแสดงแบบเปิดเป็นสาธารณะไม่ปลอดภัยเท่าค่ายผู้พิทักษ์เทพ มีคนเยอะ วุ่นวายเกินไป เกิดอันตรายได้ง่าย

หลัวคังอันรู้สึกไม่พอใจในเรื่องนี้

หลินยวนเคยชินกับปากที่พูดมากของเขาแล้ว แต่วันนี้เขากำลังรอให้อีกฝ่ายพร่ำบ่นต่อไปเรื่อยๆ รอคอยอย่างอดทน แล้วก็ไม่ไล่อีกฝ่ายออกไป

เขาอยากจะให้หลัวคังอันเป็นคนพูดออกมาเอง จากนั้นเขาจะได้ไปฟ้องได้อย่างเต็มที่

เขาไม่รู้จริงๆ ว่าภายในเทพมหาวิญญาณถูกใครไปทำอะไรเอาไว้ ค่อนข้างอันตราย กลัวว่าจะพัวพันมาถึงตนเองได้

แต่ร่างกายของเทพมหาวิญญาณมีขนาดใหญ่โตขนาดนั้น ถ้าจะทำการตรวจสอบแบบเต็มรูปแบบทั่วทั้งร่าง เขาคนเดียวไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นในเวลาปกติเขาก็ไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อนด้วย หากจู่ๆ ไปทำแบบนั้นแล้วพบเจอปัญหาเข้า เขาจะไปอธิบายอย่างไร? นั่นจะทำให้คนสงสัยเอาได้

แต่ก็น่าแปลก หลัวคังอันพูดจนปากแห้งจนกระทั่งไม่อยากจะพูดแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่ตัวเองตามผู้หญิงคนหนึ่งออกไป

สุดท้ายหลินยวนก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามออกไป “เมื่อคืน ผู้หญิงที่มาหาพี่คือใคร?”

หลัวคังอันใจเต้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว ตอนที่เสวี่ยหลานมาหาเขา เธอยืนอยู่ข้างประตู หลินยวนยังมองไม่เห็น จึงกล่าวตอบกลับไปด้วยท่าทีไม่สนใจว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่ผู้หญิงคนนึงไม่รู้ทาง ฉันก็เลยช่วยนำทางให้เขา”

หลินยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “นำทางต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเลยเหรอ?”

หลัวคังอันกล่าว “ไหนๆ ก็ออกไปแล้ว ก็เลยไปสูดอากาศหน่อย”

อันที่จริงเขามิใช่คนโง่ เขาไหนเลยจะกล้าพูดเรื่องที่ตัวเองพาผู้หญิงเข้าไปทำอะไรกันในเทพมหาวิญญาณได้ ถ้าพูดออกไปนั่นมิเท่ากับเป็นหาเรื่องให้ตัวเองเหรอ

เพียงแต่ในคำพูดของเขามีความผิดปกติอยู่เหลายจุด หลินยวนสามารถชี้ช่องโหว่เหล่านั้นออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ ยังคงเป็นเพราะคำพูดประโยคนั้น นี่มิใช่นิสัยของตัวเขาเวลาอยู่ที่นี่

เขานึกสงสัยด้วยว่าหลัวคังอันถูกเสวี่ยหลานเกลี้ยกล่อมให้ไปเป็นพวกเดียวกันกับเธอแล้วหรือเปล่า ตัวหลัวคังอันนั้นก็คือปัญหา ถ้าเขาถามอะไรมากไป มันอาจจะทำให้เกิดปัญหาอะไรที่ไม่จำเป็นขึ้นมาได้

นี่มิใช่ว่าเขาคิดมากไป หากแต่เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้ นับแต่โบราณมา การที่แผนสาวงามประสบความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่ามิใช่ว่าไม่มีเหตุผล..

……

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของประชาชน การตระเวนแสดงของเมืองปู๋เชวี่ยก็จบสิ้นลง

เหล่าเทพธิดาและเทพบุตรพากันแยกย้าย ต่างไปเก็บข้าวของแล้วเดินทางผ่านอุโมงค์เคลื่อนย้ายไปยังสถานที่จัดแสดงแห่งต่อไปตามตารางที่วางเอาไว้

เหล่าเทพธิดาจากไปแล้ว แต่ยังคงมีประเด็นหลงเหลือเอาไว้ให้ประชาชนได้พูดคุยกันอยู่ ที่ต่างๆ ภายในเมืองยังคงพูดถึงเรื่องการแสดงกันอยู่

หลินยวนที่อดทนรอจนถึงเวลาเลิกงานมายังห้องผู้ช่วยอีกครั้งเพื่อจะมาทำงานอีกส่วนหนึ่งของตัวเองต่อ

ทันทีที่เข้ามา ไป๋หลิงหลงที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานก็ลุกขึ้นยืนเหมือนอย่างทุกที

ที่ผ่านมา ไป๋หลิงหลงจะแสดงความเคารพต่อเขาในระดับหนึ่งมาโดยตลอด ช่วยไม่ได้ ในอนาคตคนผู้นี้อาจจะกลายเป็นนายท่านของหอการค้าตระกูลฉินก็เป็นได้

ไป๋หลิงหลงกล่าวอย่างเกรงว่า “อีกเดี๋ยวท่านประธานต้องออกไปเจอแขก วันนี้ไม่ต้องทำความสะอาดแล้ว”

หลินยวนรู้สึกสงสัย ต่อให้เขาโง่แค่ไหนก็มองออกถึงปัญหา การที่ฉินอี๋ไม่อยู่มันเกี่ยวอะไรกับการที่เขาเข้าไปทำความสะอาดด้วย? ต่อให้คนไม่อยู่มันก็ทำความสะอาดได้ไม่ใช่เหรอ?

นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะฉินอี๋ต้องการเห็นสภาพเขาที่ถูกกดขี่มากกว่า

ในเมื่อไม่ต้องทำความสะอาด มีเรื่องที่ต้องทำน้อยลงไปหนึ่งเรื่อง เขาเองก็ไม่มีอะไรพูดอีก จึงพยักหน้า แต่ก่อนที่จะเดินออกไปก็เหลือบมองดูการแต่งกายของไป๋หลิงหลงเล็กน้อย พบว่าแตกต่างไปจากปกติ

ไป๋หลิงหลงสังเกตเห็นท่าทีของเขา จึงก้มลงมองดูเสื้อผ้าของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะรีบยิ้มพลางกล่าวอธิบายว่า “เทพธิดาอาเหิงได้รับคำเชิญจากคุณจูลี่ ก็เลยจะอยู่ที่เมืองปู๋เชวี่ยอีกสองสามวัน เพื่อจะได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทางปู๋เชวี่ยวีดีโอ แล้วก็เพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอให้การสนับสนุนและช่วยประชาสัมพันธ์ปู๋เชวี่ยวีดีโอกโดยไม่คิดค้าใช้จ่าย หัวหน้าเหิงเทาก็เลยจัดงานเลี้ยงขึ้นมา ท่านประธานเองก็ได้รับเชิญเหมือนกัน อาเหิงเป็นคนสวยที่มีชื่อเสียงของดินแดนเซียน ถ้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วแต่งตัวดูไม่ดี เดี๋ยวจะทำให้เธอดูแคลนหอการค้าตระกูลฉินเอาได้”

อาเหิงอยู่ต่อ? หลินยวนงุนงง ยืนนิ่งไปกับที่

ไป๋หลิงหลงเองก็งุนงง ปกติคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่คนที่จะยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่ วันนี้เขาเป็นอะไร? จึงถามไปว่า “ยังมีอะไรอีกหรือเปล่า?”

หลินยวนปรับอารมณ์เล็กน้อย พยายามทำท่าทางเหมือนเต็มไปด้วยความคาดหวัง “เทพธิดาอาเหิงสวยจริงๆ ผมเองก็ชอบเธอมาก แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นเธอใกล้ๆ เลย พาผมไปเจอเธอด้วยได้ไหม?”

“…..” ไป๋หลิงหลงพูดไม่ออก ย่อมต้องทำแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว แต่คนผู้นี้ไม่เหมือนกับคนอื่น เรื่องของคนผู้นี้เธอไม่สะดวกจะตัดสินใจเอง จึงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา โทรติดต่อฉินอี๋ที่อยู่ด้านใน “ท่านประธานคะ หลินยวนอยากจะไปเจออาเหิงเหมือนกันค่ะ…เอ่อ ฉันไม่ระวังเลยพูดออกไปค่ะ…”

หลังเล่ารายละเอียดให้ฟังแล้ว เธอก็วางโทรศัพท์ลง ยิ้มเจื่อนไปทางหลินยวนพลางผายมือ “ท่านประธานให้นายเข้าไปด้านใน”

ทั้งสองคนเข้ามาในห้องทำงานของฉินอี๋ด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าฉินอี๋ก็ตั้งใจแต่งตัวมาเหมือนกัน บนร่างสวมชุดกระโปรงยาวแขนกุดสีน้ำเงินเข้ม ทำให้แขนทั้งสองข้างของเธอดูสวยงามเป็นอย่างมาก

ฉินอี๋ยืนกอดอกอยู่ตรงข้างโต๊ะทำงาน จ้องมองหลินยวนที่เดินเข้ามา กล่าวถามด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า “ทำไมนายถึงอยากเจออาเหิง?”

หลินยวนย่อมต้องแสดงทำเป็นชื่นชอบ “ทั่วทั้งดินแดนเซียนต่างรู้ว่าอาเหิงสวยแค่ไหน มีความสามารถแค่ไหน ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะไปเจอเธอใกล้ๆ ท่านประธาน…”

เมื่อได้ยินเขากล่าวมาเช่นนั้น ใบหน้าของฉินอี๋ก็แปรเปลี่ยนเป็นไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง สุดท้ายไม่รอให้เขาพูดจบ กล่าวตัดบทขึ้นมาว่า “ต่ำ!”

“….” หลินยวนพูดไม่ออก

เขายังอยากจะพูดอะไร แต่ฉินอี๋ก็ชิงพูดก่อนอีกครั้ง “ไม่ง่ายเลยเนอะที่ได้เห็นนายเอ่ยปากชมผู้หญิงว่าสวย แล้วก็ยังชอบถึงขนาดนี้ด้วย แทบจะไม่เคยเห็นเลย เหมือนจะชอบจริงๆ สินะ เรื่องที่จะพานายไปนั้นเป็นไปไม่ได้ งานเลี้ยงที่หัวหน้าเหิงจัดขึ้นมา จะพานายไปทำไม? ว่างจนไม่มีอะไรทำเหรอ?” เธอยื่นมือข้างหนึ่งออกมาชี้ซ้ายชี้ขวา “อย่าลืมเก็บกวาดให้สะอาดล่ะ”

มือทั้งสองข้างวางลง หิ้วกระเป๋าของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะ ก้าวอาดๆ ออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา ในตอนที่เดินผ่านไป๋หลิงหลงก็กล่าวออกมาว่า “ไป”

ไป๋หลิงหลงมีสีหน้าหนักใจ ยิ้มเจื่อนขอโทษไปทางหลินยวน ขอโทษที่เธอปากมาก ทำสีหน้าเหมือนบอกให้หลินยวนยกโทษให้ด้วย

ภายในห้องทำงานไม่มีใครอื่น สีหน้าของหลินยวนคร่ำเคร่งขึ้นมา เขาเดินไปตรงริมหน้าต่าง มองดูเมืองปู๋เชวี่ยที่ค่อยๆ มีแสงไฟสว่างไสวขึ้นมา

สีหน้าเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะคำพูดของฉินอี๋ อันที่จริงเขาเคยชินกับนิสัยของฉินอี๋แล้ว เธอพูดอะไรออกมาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรแล้ว

สิ่งที่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปคือเรื่องที่อาเหิงอยู่ต่อ เขาไม่ต้องคิดอะไรมากก็คาดเดาถึงสาเหตุที่อาเหิงอยู่ต่อได้ จะต้องเป็นเพราะเขาอย่างแน่นอน

เดิมคิดว่าอาเหิงจะตามคณะแสดงออกไปจากเมือง แต่เธอกลับอยู่ต่อ เธอคิดจะทำอะไร?

การกระทำของอาเหิงทำให้เขาโกรธ!

เขายืนเงียบๆ อยู่ริมหน้าต่าง หลังภายในใจคิดแผนการได้แล้วก็หมุนตัวทันที เริ่มทำความสะอาด

หลังเก็บกวาดเสร็จเรียบร้อย เขาก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากหอการค้าตระกูลฉินมายังถนนหลัก เขามองดูกระจกหลัง พบว่าตัวเองเหมือนยกหินมาทับเท้าตัวเอง จริงอยู่ที่มีปัญหาน้อยลงหลังแจ้งความ แต่มันก็เป็นการจำกัดอิสระในการไปไหนมาไหนของเขาด้วย

เขาหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา ติดต่อคนคนหนึ่ง “เสี่ยวไป๋ เอาของมาส่งที่โรงอีหลิวหน่อย…”

หลังสั่งการกวนเสี่ยวไป๋เรียบร้อยแล้ว เขาก็เก็บโทรศัพท์มือถือ ขี่มอเตอร์ไซค์เร่งความเร็วไปข้างหน้า

เมื่อกลับมาถึงโรงอีหลิว หลังกินโจ๊กเป็นเพื่อนจางเลี่ยเฉินเสร็จเรียบร้อย ด้านนอกก็มีเสียงจอดรถดังขึ้นมา หลังจากนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของกวนเสี่ยวไป๋ “ลุงเฉิน ผมเอง”

หลินยวนเดินไปเปิดประตู จางเลี่ยเฉินที่นั่งอยู่หน้าเตาเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มพลางกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋มาแล้ว”

กวนเสี่ยวไป๋อุ้มกล่องใบใหญ่เข้ามา “ลุงเฉิน ผมมีของมาฝาก”

เอาของมาฝาก? จางเลี่ยเฉินตาเป็นประกาย ลุกยืนขึ้นมา “อะไรเหรอ?”

หลินยวนทำท่าเบื่อหน่าย “ผมกลับไปบำเพ็ญเพียรที่ห้องล่ะ ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ารบกวนผม” กล่าวจบก็เดินไป ทำท่าบอกจางเลี่ยเฉินว่าจะไปดูดซับฤทธิ์ยาที่อยู่ในท้อง

“เสี่ยวไป๋มา ไม่เห็นต้องรีบเลยนี่” จางเลี่ยเฉินตะโกน แต่ก็รั้งเขาไว้ไม่ได้

“ไม่เป็นไรครับ” กวนเสี่ยวไป๋หัวเราะฮ่าๆ จากนั้นเปิดกระเป๋าออก หยิบของฝากออกมาวางไว้บนพื้นซองแล้วซองเล่า “ในบ้านยังมีอีกเยอะเลยครับ เดี๋ยวผมเอามาให้ลุงอีก”

จางเลี่ยเฉินหยิบเอาของฝากขึ้นมาดูซองหนึ่ง “ว้าว ไม่เลว วัตถุดิบดีๆ ทั้งนั้นเลย”

หลังหยิบของออกมาจากในกล่องหมดแล้ว กวนเสี่ยวไป๋ก็หยิบของขึ้นมาจากพื้น “ลุงเฉิน เดี๋ยวผมช่วยลุงขนเข้าไปในบ้านนะครับ”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” จางเลี่ยเฉินกล่าวอย่างเกรงใจ ส่วนตัวเองก็หยิบของเดินตามเข้าไป

ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปในบ้านนั่นเอง หลินยวนก็ออกมาจากในห้อง รีบมุดเข้าไปในกล่อง

กวนเสี่ยวไป๋ที่วางของเสร็จแล้วเดินกลับมายืนตรงหน้ากล่อง ยื่นมือไปปิดกล่องแล้วอุ้มขึ้นมา “ลุงเฉิน ผมไปก่อนนะครับ”

จางเลี่ยเฉินรีบวิ่งตามมา เข้าไปช่วยเขาเปิดประตู “ทำไมรีบกลับล่ะ ดื่มชาด้วยกันก่อนสิ”

กวนเสี่ยวไป๋กล่าว “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเอาของมาให้ลุงอีกลังนึง เดี๋ยวค่อยดื่มก็ได้ครับ”

“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ” จางเลี่ยเฉินกล่าวอย่างเกรงใจ

แต่สายตาพลันจ้องมองดูท่าทางการยกกล่องที่ดูเปลืองแรงของกวนเสี่ยวไป๋ จากนั้นเหลียวหน้ากลับไปมองดูห้องของหลินยวน หัวคิ้วเลิกขึ้นมาเล็กน้อย

รถออกไปแล้ว เขาโบกมือ ส่งแขกเสร็จก็ปิดประตูแล้วเดินกลับเข้าไป

แมลงตัวหนึ่งบินวนอยู่ตรงหน้า จางเลี่ยเฉินยกมือขึ้นมาดีดทีหนึ่ง แมลงตัวนั้นพุ่งออกไปราวลูกกระสุน ผัวะ ฝังเข้าไปในลำต้นของต้นไม้

เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินไปตรงหน้าเตา ส่ายศีรษะพลางกล่าวพึมพำกับตัวเอง “แต่ละคนใจร้อนกันจริงๆ”

……………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน