ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 96 เหมือนดั่งสายฟ้าฟาด

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 96 เหมือนดั่งสายฟ้าฟาด

หนานหรูนิ่งเงียบไม่พูดอะไร กำลังครุ่นคิดถึงคำอธิบายของพวกเขา

เลขาธิการกลางซุนฉีซั่งเห็นทั้งสามคนนี้มีความเห็นตรงกัน ก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลในทันที แม้นจะไม่รู้ว่าทั้งสามคนตั้งใจจะทำอะไร แต่เขาก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “เรื่องนี้ควรจะหารือกับหอการค้าต่างๆ เพื่อขอความเห็นจากพวกเขาก่อน”

เขาอยากจะซื้อเวลาเพื่อปรึกษาหารือกับทางฉินอี๋ก่อน เพื่อจะดูว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกว่าในเรื่องนี้จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ตนเองไม่ทราบอยู่อย่างแน่นอน

สิ้นเสียงของเขา เลขาธิการใต้ฉู่เชียนชิวก็กล่าวแย้งขึ้นมาทันที “หารือไปหารือมา ท่านแน่ใจหรือว่าพวกเขาจะมีความเห็นที่ตรงกัน? พวกเขาจะต้องพยายามหาวิธีการประมูลที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาที่สุดอย่างแน่นอน อย่างนั้นจะต้องหารือกันถึงเมื่อไร? พรุ่งนี้การประมูลก็จะเริ่มขึ้นแล้ว”

เลขาธิการกลางซุนฉีซั่งกล่าว “หารือจะใช้เวลาสักเท่าไรกันเชียว ไม่ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่มีทางกระทบกับการประมูลในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน”

เลขาธิการตะวันออกฮั่นซากล่าวแย้ง “ในเมื่อจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ล้วนแต่ต้องทำการประมูลกันอยู่ดี อย่างนั้นยังจำเป็นต้องหารืออยู่อีกหรือ?”

เลขาธิการตะวันตกคุนไหลกล่าวว่า “เลขาธิการซุน คุณก็รู้นี่ว่าพวกเราเป็นคนจัดการประมูล กฎพวกเราก็เป็นคนกำหนด กฎที่ทางท่านเจ้าแคว้นกำหนดขึ้นมาไม่มีทางทำให้ทุกคนพอใจได้อยู่แล้ว พวกเขาย่อมต้องอยากจะเปลี่ยนแปลงกฎให้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา ในจุดนี้ไม่อาจปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนั้นได้ เราจะไปทำให้พวกเขาทุกคนพึงพอใจได้ยังไง มันมีกฎที่ไหนที่ทำให้ทุกคนพึงพอใจได้ ในเมื่อจะประมูลก็จำเป็นต้องเคารพกฎกติกา!”

เลขาธิการเหนือเชียงเหยากล่าวว่า “ถูกต้อง! หลังจากแจ้งกฎออกไปแล้ว ทุกคนก็จะเท่าเทียมกัน ทุกคนต้องทำการประมูลโดยเคารพกฎกติกา”

เลขาธิการกลางซุนฉีชั่งที่เผชิญหน้ากับการร่วมมือโจมตีของทั้งสี่คน ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เขาหาเหตุผลที่ดีกว่านี้มาโต้แย้งไม่ได้ จึงไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างไร แต่เขามั่นใจได้ว่าในเรื่องนี้จะต้องมีปัญหาอะไรอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงหันหน้ามองไปทางลั่วเทียนเหอ

ที่หอการค้าตระกูลฉินสามารถยืนหยัดอยู่ในแคว้นเซียนคุนกว่างได้เป็นเพราะว่ามีเขากับลั่วเทียนเหอคอยช่วยเหลือ คนหนึ่งปกป้องรากฐานของหอการค้าตระกูลฉิน อีกคนหนึ่งปกป้องการค้าที่กระจายออกไปยังที่ต่างๆ นอกเมืองของหอการค้าตระกูลฉิน

ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ใช่พันธมิตรกัน แต่หอการค้าตระกูลฉินก็ล้วนแต่เป็นขุมกำลังของพวกเขาในแง่หนึ่ง ลั่วเทียนเหอเป็นอาจารย์ของเจ้าแคว้นหนานหรู มีอิทธิพลต่อหนานหรูอย่างมาก ขอเพียงลั่วเทียนเหอเอ่ยปาก เขาเชื่อว่าหนานหรูจะต้องครุ่นคิดพิจารณาสักหน่อยอย่างแน่นอน ได้ผลมากกว่าเขามานั่งโต้แย้งอย่างไรประโยชน์อยู่ที่นี่มากนัก

เรียกได้ว่าในเวลานี้ท่าทีของลั่วเทียนเหอมีความสำคัญอย่างมาก

หนานหรูที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เองก็เหลือบมองดูปฏิกิริยาของลั่วเทียนเหออย่างเงียบๆ

เลขาธิการเหนือใต้ออกตกมีจุดยืนที่แตกต่างกับเลขาธิการกลางอย่างชัดเจน ตัวเขาที่เป็นเจ้าแคว้นไม่ใช่คนโง่ ย่อมสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

เจ้าเมืองคนอื่นๆ ที่อยู่ในที่นี้ก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างเช่นกัน ตามหลักแล้วภายในแคว้นเซียนคุนกว่างไม่มีหอการค้าไหนจะมีความสามารถเข้าร่วมการประมูลได้เลย แต่การประมูลครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับทั่วทั้งดินแดนเซียน ในหอการค้าทั้งยี่สิบสี่แห่งที่เข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ ภายในแคว้นเซียนคุนกว่างกลับมีหอการค้าเข้าร่วมการประมูลไปสามแห่งแล้ว เป็นสัดส่วนที่สูงอย่างมาก เรียกได้ว่าค่อนข้างแปลกประหลาด

เบื้องหลังของหอการค้าทั้งสามภายในแคว้นเซียนคุนกว่างเป็นใคร ทุกคนล้วนแต่ทราบกันดี

ทันทีที่เกิดความขัดแย้งขึ้นมา ทุกคนต่างก็สังเกตดูปฏิกิริยาของคนที่มีความเกี่ยวข้องทันที

ซางเจ๋อที่เป็นเจ้าเมืองฝูปอเหลือบมองดูท่าทีของเจ้าเมืองเทียนกู่มู่ชิงโหรว เห็นมู่ชิงโหรวไม่มีท่าทีว่าจะเอ่ยปากพูดอะไร เขาเองจึงนิ่งเงียบด้วย

มู่ชิงโหรวเองก็สังเกตดูท่าทีของลั่วเทียนเหอ ทางหอการค้าตระกูลพานเคยมาหาเธอ เธอเองก็รับปากไว้ว่าขอเพียงมีโอกาสเหมาะสมก็จะช่วยอย่างแน่นอน

หากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะเปิดปากพูดไปแล้ว แต่หลังจากที่ได้เห็นท่าทีที่ลั่วเทียนเหอแสดงกับกัวฉีสวินผู้เป็นหนึ่งในหกแม่ทัพเทพแห่งวังพิฆาตมาร เธอก็ไม่กล้าดูแคลนลั่วเทียนเหอเหมือนอย่างแต่ก่อนอีก เธอค่อนข้างยำเกรง ยามนี้เลขาธิการทั้งสี่ที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยปากแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก

ลั่วเทียนเหอมีสีหน้าราบเรียบ เขาเองก็รับรู้ได้ถึงปัญหา แต่เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร

หากเป็นเวลาปกติ เขาจะต้องช่วยทางหอการค้าตระกูลฉินพูดอย่างแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องปกติเหมือนอย่างเรื่องอื่นๆ เขามีความคิดของเขาอยู่

เป็นเพราะหอการค้าตระกูลฉินเข้าร่วมการประมูลเทพมหาวิญญาณ เมืองปู๋เชวี่ยที่ตลอดมาใช้ชีวิตกันอย่างสุขสงบถึงได้เกิดความวุ่นวายขึ้น การประมูลยังไม่ทันเริ่มก็เกิดเรื่องขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบนั้นแล้ว กระทั่งกัวฉีสวินที่เป็นหนึ่งในหกแม่ทัพเทพแห่งวังพิฆาตมารก็ยังเดินทางมาที่เมือง นี่ถ้าเขาปล่อยให้หอการค้าตระกูลฉินชนะการประมูลจริงๆ เกรงว่ายังไม่ทันที่หอการค้าตระกูลจะได้ผลประโยชน์ใดๆ เมืองปู๋เชวี่ยของเขาคงจะต้องตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างที่ยากจะจินตนาการได้อย่างแน่นอน

เพื่อความสงบสุขของประชาชนทุกคนในเมืองปู๋เชวี่ยแล้ว เขาไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเตือนให้หอการค้าตระกูลฉินหยุดมือ แต่หอการค้าตระกูลฉินคำนึงถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองโดยไม่สนใจผู้อื่น ไม่ยอมฟังคำเตือนของเขา

ในเมื่อไม่ฟัง อย่างนั้นเขาก็ทำได้เพียงปล่อยให้หอการค้าตระกูลฉินทำในสิ่งที่อยากทำ การที่เขาไม่ใช้อำนาจสั่งให้หอการค้าตระกูลฉินหยุดเรื่องนี้เอาไว้ก็นับว่าไว้หน้ามากแล้ว การที่คิดยังจะให้เขาชักศึกเข้าบ้านอีกนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

สรุปแล้วก็คือเรื่องนี้เขาไม่มีทางช่วย

เมื่อเห็นลั่วเทียนเหอไม่มีท่าทีอะไร เจ้าแคว้นหนานหรูก็ไม่จำเป็นต้องพยายามสื่อสารอะไรกับอีกฝ่ายอีก เขารู้ว่าอาจารย์ผู้นี้ได้ตัดสินใจแล้ว จึงหันไปกล่าวถามเลขาธิการกลางทันทีว่า “ซุนฉีชั่ง ตัวแทนของหอการค้าแต่ละแห่งที่จะเข้าร่วมการประมูลมาถึงกันหมดหรือยัง?”

ซุนฉีซั่งเห็นลั่วเทียนเหอไม่เอ่ยปาก เขาเองก็จนปัญญาเช่นเดียวกัน เขาตัวคนเดียวยากจะทำอะไรได้ จึงประสานมือกล่าวรายงานว่า “เรียนท่านเจ้าแคว้น ทุกคนมาถึงหมดแล้วครับ”

หนานหรูกล่าว “ในเมื่อทุกท่านไม่มีความเห็นอื่น อย่างนั้นก็อุดช่องโหว่นี้ซะ!”

ทุกคนไม่มีความเห็นอื่น เจ้าแคว้นหนานหรูจึงตัดสินใจออกมา!

……

ภายในตึกต้นไม้ ไป๋หลิงหลงพาเจียงอวี้ที่แต่งตัวเป็นพ่อครัวเข้ามาในห้อง กล่าวว่า “ท่านประธานคะ”

ฉินอี๋ที่ยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างหันหน้ามามอง ยื่นมือไปดึงผ้าม่านลง หมุนตัวมาเชิญเจียงอวี้นั่งลง

เจียงอวี้ส่ายศีรษะ ไม่ได้นั่งลง กล่าวถามว่า “มีอะไรครับ?”

เขาไม่นั่ง ฉินอี๋ก็ไม่นั่งเช่นกัน เดินไปตรงหน้าเขาแล้วกล่าวว่า “ได้รับแจ้งข่าวมา เจ้าแคว้นหนานหรูเพิ่งจะเรียกพบเจ้าเมืองทั้งสามสิบหกเมือง พรุ่งนี้การประมูลจะเริ่มขึ้นแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดคาดล่ะก็ วิธีการประมูลน่าจะถูกประกาศออกมาในวันนี้”

ไป๋หลิงหลงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกประตู

เจียงอวี้กล่าว “ให้ผมทำอะไร?”

ฉินอี๋กล่าว “ฉันยังรอฟังผลอยู่ แล้วก็ต้องเห็นวิธีการประมูลก่อน ถ้าเกิดการประมูลดุเดือดตั้งแต่เริ่มต้น ฉันไม่ไว้ใจหลัวคังอัน เกรงว่าคงต้องให้คุณลงไปแสดงฝีมือตั้งแต่เริ่ม”

เจียงอวี้กล่าว “เข้าใจแล้ว”

ฉินอี๋กล่าว “คุณรออยู่ที่นี่ก่อน อย่าเพิ่งเผยตัว เดี๋ยวเรื่องอื่นๆ ฉันจัดการเอง”

เจียงอวี้กล่าว “ได้ครับ”

ในเวลานี้ จู่ๆ ด้านนอกพลันมีเสียงอุทานตกใจของไป๋หลิงหลงดังขึ้นมา “อะไรนะ?”

คนที่อยู่ภายในห้องทั้งสองคนต่างมองไปทางประตู ไม่นานไป๋หลิงหลงก็รีบเปิดประตูเดินเข้ามา มองฉินอี๋ด้วยสีหน้าที่ดูแย่ คล้ายไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

ฉินอี๋กล่าว “มีอะไร?”

ไป๋หลิงหลงอึกๆ อักๆ “ท่านประธานคะ ทางเลขาธิการกลางแจ้งข่าวมา วิธีการประมูลออกมาแล้วค่ะ”

ฉินอี๋เห็นท่าทางของเธอผิดปกติ รู้ว่าจะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน “การประมูลยากมากเหรอ?”

ไป๋หลิงหลงแจ้งออกไปอย่างลังเล “ทางเลขาธิการกลางบอกว่าท่านเจ้าแคว้นหนานหรูมีคำสั่งออกมา ให้จำกัดคนและเทพมหาวิญญาณที่จะเข้าร่วมการประมูลอย่างเคร่งครัด คนและเทพมหาวิญญาณที่อยู่ในค่ายผู้พิทักษ์เทพแล้ว ห้ามหอการค้าแต่ละแห่งทำการเปลี่ยนตัวอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตาม!”

“อะไรนะ?” ฉินอี๋ที่เยือกเย็นมาโดยตลอดเหมือนถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลง ใบหน้าขาวซีดไปในทันที ร่างกายส่ายโงนเงนคล้ายจะล้มลง

ร้องเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้เท้ายิ่งทำให้เธอยืนได้ไม่มั่นคง โชคดีที่เจียงอวี้ตอบสนองเร็ว ยื่นมือไปประคองเธอเอาไว้

“ท่านประธาน!” ไป๋หลิงหลงเองก็อุทานตกใจ รีบเดินเข้าไปช่วยพยุงเอาไว้ จากนั้นรีบถ่ายพลังเข้าไปช่วยทำให้เลือดลมของฉินอี๋ไหลเวียนได้ดีขึ้น

หลังฉินอี๋ที่คล้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งตัวได้ เธอก็ออกแรงผลักทั้งสองคนแล้วลุกขึ้นยืน กล่าวถามว่า “ทำไมถึงมีกฎที่ไม่สมเหตุสมผลแบบนี้ได้?”

ไป๋หลิงหลงกล่าว “รายละเอียดเป็นอย่างไร ทางนั้นก็ไม่ได้อธิบายละเอียดเหมือนกันค่ะ”

ฉินอี๋กล่าว “เตรียมรถ รีบไปสำนักงานเลขาธิการกลาง”

“ค่ะ” ไป๋หลิงหลงรีบหยิบโทรศัพท์โทรติดต่อ หลังติดต่อเสร็จเรียบร้อย เธอก็รีบออกไปพร้อมกับฉินอี๋

เจียงอวี้อยู่ในห้องเพียงลำพัง นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ในเวลานี้ฉินอี๋เองก็ไม่มีเวลามานั่งสนใจเขาเหมือนกัน

…..

ภายในตึก พานชิ่งกับโจวหม่านเชากำลังดื่มชาคุยเล่นกันอยู่

จู่ๆ ด้านนอกพลันมีคนวิ่งขึ้นมารายงาน “ท่านประธาน ทางนั้นแจ้งมาว่าฉินอี๋ออกไปจากที่พัก ตรงไปทางสำนักงานเลขาธิการกลางแล้วครับ”

โจวหม่านเชาโบกมือเล็กน้อย หลังให้คนออกไปแล้ว เขากับพานชิ่งก็ยิ้มพลางสบตากัน จากนั้นหันหน้ามองไปทางเผิงซีที่อยู่ด้านข้าง “ดูเหมือนแกจะเดาไม่ผิด ฉินอี๋แอบเตรียมคนเอาไว้จริงๆ ด้วย พวกเราเล่นงานถูกจุดสำคัญของฉินอี๋เข้าแล้ว ฉินอี๋นั่งไม่ติดแล้ว!”

พานชิ่งหัวเราะฮ่าๆ “สะใจจริงๆ! ฉันจะดูสิว่านังแพศยานั่นยังจะอวดดียังไงอีก ไม่ยอมรับเงื่อนไขของพวกเรา เกรงว่าตอนนี้คงนึกเสียใจอย่างมากอยู่ล่ะมั้ง!” ความแค้นที่สูญเสียลูกสาวไปทำให้เขาพูดจาค่อนข้างชั่วร้าย “ถ้าเธอกลับมาขอร้องพวกเรา รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ไม่เลว ฉันชอบ!”

พานหลิงเยวี่ยที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าพ่อของตัวเองจะกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมาต่อหน้าตัวเอง

เผิงซีมองดูพานชิ่งด้วยสายตาเย็นชา

โจวหม่านเชากล่าว “ใช่ ถ้าไม่สั่งสอนเธอสักหน่อย เธอก็คงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”

เผิงซีกล่าว “คิดไม่ถึงว่าลั่วเทียนเหอจะไม่เอ่ยปากพูดอะไร ทำให้เรื่องนี้ราบลื่นถึงขนาดนี้ แต่ผมกลับค่อนข้างเป็นห่วง…ถ้ายังไม่ถึงท้ายที่สุด มันก็ยังมีตัวแปรอื่นๆ อยู่อีกมาก ของที่พวกเราเอาไปติดไว้ในเทพมหาวิญญาณของตระกูลฉินยังคงไม่อาจมองข้ามไปได้”

ความจริงแล้วเขารู้สึกชื่นชมฉินอี๋เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเริ่มชอบขึ้นมาแล้ว

แต่เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว จะเอามาปนกันไม่ได้

อย่างน้อยฉินอี๋ในตอนนี้ก็เป็นประธานหอการค้าตระกูลฉิน ตัวเขาซึ่งเป็นหลานนอกของหอการค้าตระกูลโจวด้อยกว่าในด้านสถานะอย่างเห็นได้ชัด บางทีหลังจากหอการค้าตระกูลฉินแพ้แล้ว ความคิดบางอย่างของเขาอาจจะเป็นจริงได้ง่ายขึ้น

อย่างน้อยฉินอี๋ที่เอาชนะการประมูลได้นั้นคือคนที่เขายากจะมีโอกาสเข้าไปใกล้ได้

พานชิ่งกล่าว “เรื่องนี้วางใจได้ ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งมาแล้ว สิ่งที่พวกเราเอาไปติดไว้ยังอยู่”

บรรยากาศภายในตึกครึกครื้น อบอวลไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะ

เผิงซีเดินออกมาด้านนอก ยืนอยู่ตรงริมราวกั้นแล้วทอดตามองออกไป เขาพอจะจินตนาการออกว่าจิตใจของฉินอี๋ในเวลานี้จะต้องถูกกระทบกระเทือนเป็นอย่างมาก จะต้องเจ็บปวดเป็นอย่างมากแน่นอน!

……

ภายในสำนักงานเลขาธิการกลาง ภายในห้องหยก ฉินอี๋มาพบซุนฉีซั่ง

ซุนฉีซั่งรู้ว่าเธอจะมา เขาจึงมารอเธออยู่ที่นี่

กระทั่งซุนฉีซั่งบอกเล่าเรื่องกฎการประมูลออกมาอย่างละเอียดแล้ว ฉินอี๋จึงกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวว่า “ท่านเลขาธิการคะ กฎที่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ทำไมท่านถึงไม่หยุดไว้ล่ะคะ?”

“หยุดอะไร? ไม่มีเหตุผล? ไม่มีเหตุผลตรงไหน? เธอมองว่าไม่มีเหตุผล แต่เลขาธิการเหนือใต้ออกตกกลับยกเหตุผลออกมาพูดไม่หยุด…” ซุนฉีซั่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตำนักคุนกว่างออกมา จากนั้นย้อนถามฉินอี๋ว่า “ไหนเธอลองว่ามาซิ กฎที่พวกเขาบอกว่ายุติธรรมสำหรับทุกคนมันไม่สมเหตุสมผลตรงไหน?”

ฉินอี๋กล่าวว่า “หรือท่านเลขาธิการมองไม่ออกคะว่าที่พวกเขาสี่คนพยายามยกเหตุผลมาพูดถึงขนาดนี้ เบื้องหลังจะต้องมีหอการค้าตระกูลโจวกับหอการค้าตระกูลพานคอยบอกแน่ พวกเขาทำแบบนี้เพราะจ้องจะเล่นงานหอการค้าตระกูลฉินของฉันนะคะ!”

ซุนฉีซั่งกล่าว “เธอไม่ต้องมาเตือนฉันหรอก ฉันไม่ได้ตาบอด มีใครไม่รู้บ้าง? แล้วฉันจะทำยังไงได้? พวกเขาช่วยพูดให้หอการค้าตระกูลโจวกับหอการค้าตระกูลพาน แล้วฉันช่วยใครพูดเหรอ? สิ่งที่เธอพูดมามันเอาไปใช้เป็นเหตุผลได้เหรอ?”

สีหน้าของฉินอี๋ดูแย่อย่างมาก ที่ผ่านมาเธอสุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอด น้อยครั้งนักที่จะเสียกิริยาเช่นนี้ เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูคล้ายเป็นการคร่ำครวญ “แล้วท่านเจ้าเมืองลั่วไม่ได้พูดอะไรเลยเหรอคะ?”

ซุนฉีซั่งกล่าว “ตอนอยู่ในตำหนักเขาไม่ได้พูด ฉันเองก็รู้สึกแปลกใจ เพราะถ้าเขาพูด อย่างน้อยๆ ก็พอจะซื้อเวลาให้ฉันได้บ้าง หลังจากนั้นฉันไปหาเขา ถึงได้รู้ว่าเขากับฉันมีจุดยืนในเรื่องบางเรื่อง สิ่งที่เธอสนใจคือหอการค้าตระกูลฉิน แต่สิ่งที่เขาต้องแบกรับกลับเป็นเมืองปู๋เชวี่ยทั้งเมือง จะไปโทษเขาก็ไม่ได้”

เขาถอนใจคราหนึ่ง ก่อนจะจ้องมองฉินอี๋อีกอีกครั้งแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงคร่ำเคร่งว่า “กฎที่เป็นธรรมต่อทุกคน แต่กลับทำให้เธอโกรธถึงขนาดนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

…………………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน